Saturday 15 September 2018

สามีข้า ไม่น่ารักขนาดนั้น

เริ่มอ่าน “สามีข้า ไม่น่ารักขนาดนั้น” มาตั้งแต่ช่วงกลางๆ ของภาคหนึ่ง ช่วงแรกที่อ่านรู้สึกถึงกลิ่นอายของเวยเวยและกลอรี่ที่ผสมผสานกัน รู้สึกว่านิยายอิงเรื่องแรกเพราะ “อี้ฟาน” ตัวเอกเป็นผู้หญิงชอบเล่นเกมและมีตัวละครในเกมเป็นผู้หญิงแกร่งที่ติดทำเนียบผู้เล่นเหมือนกัน และพระเอกก็เป็นตัวสำคัญในเกมที่เข้ามาหานางเอกก่อน โดยที่ตัวจริงของพระเอกก็เป็นเจ้าของเกมเหมือนอย่างในหนังสือด้วย กับรู้สึกว่าอิงเรื่องหลังตรงตัวเอกใช้ร่มที่พลิกแพลงได้เป็นอาวุธ

แต่นั่นก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นและจุดจบของความคล้ายคลึงและแรงบันดาลใจที่ได้มาด้วย เพราะยิ่งเขียนไป เรื่องนี้ก็มีเอกลักษณ์ของตัวเอง จุดเด่นในเรื่องอยู่ที่ความสมจริงในเกม ซึ่งในแง่หนึ่งการให้ความสำคัญกับเควสและการบรรยายประสบการณ์ความรู้สึกจากการผจญภัย ก็ทำให้เรื่องมีมิติ เพราะพอเข้าไปในเกม เหล่าผู้เล่นก็จะสวมบทบาทเป็นตัวละครในเกมเต็มที่ ทำให้ตัวละครทั้งหลายต่างก็มีชีวิตจิตใจและโลดเล่นไปตามโลกเกมอย่างจริงจังเป็นอีกบุคลิกหนึ่งจนไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ในเกมแต่เป็นโลกคู่ขนานอีกโลกที่ผู้เล่นให้ความสำคัญและเห็นค่าของโลกในเกม ซึ่งในฐานะเรื่องแนว MMORPG สิ่งนี้ก็ช่วยให้ “สามีข้า ไม่น่ารักขนาดนั้น” มีสีสันมากกว่าแค่การตีมอนสเตอร์เพื่อเก็บเลเวล และการทำเควสเพื่อให้จบไปอย่างผิวเผิน

สำหรับช่วงกลางและช่วงท้ายของภาคสองที่เกิดสงครามระหว่างกิลด์ขึ้น มุมมองและบทบาทของตัวละครเปลี่ยนจากการทำเพื่อตัวเองไปทำเพื่อกลุ่มและหมู่คณะ รวมถึงจุดเน้นก็เป็นที่ตัวกิลด์ด้วย และก็สนุกที่ดูการสู้ด้วยยุทธศาสตร์การวางแผนผ่านการสั่งการฉับไวเฉียบขาดของนางเอก เป็นการมองในมุมกว้างที่ทำให้เห็นภาครวม และจุดนี้ก็ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างของภาคสอง นอกเหนือไปจากการเติบโตของตัวละครที่รู้จักมองออกไปข้างหน้า แทนที่จะย้อนมาสนใจแค่ตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบนิสัยหาประโยชน์ให้ตัวเองของนางเอกในช่วงแรกแล้ว จะเห็นพัฒนาการก้าวกระโดดเชิงบวกที่น่าสนใจ

ความโดดเด่นงดงามของเรื่องอีกอย่าง อยู่ที่พระเอกในเกม ย้ำว่าพระเอกในเกมจริงๆ เพราะนางเอกไปเจอ “หลานหวาง” พระเอกที่เป็นบอสลับมังกรจากการรับเควส (จากภาคหนึ่งที่ตั้งชื่อว่า “พานพบสามีในดันเจี้ยน”) และเมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกและความผูกพันของทั้งคู่ก็เด่นชัดและแนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ ชอบความรู้สึกที่ทะนุถนอมคอยดูแลซึ่งกันและกัน อย่างเมื่อเวลาไปต่อสู้ อีกคนก็จะคอยเฝ้าระวังให้อีกฝ่าย และยอมที่จะเจ็บตัวแทนเพื่อให้คนที่รักปลอดภัย

ส่วนตัวเองมองว่า พระเอกของเรื่องเหมือนมีสามตัวก็คือ “หลานหวาง” บอสลับที่พระเอกเอาตัวเองมาเป็น AI  "เฟิงเสิน" พระเอกที่เป็นผู้เล่นในเกม และ "เทียนเหวินหลง" พระเอกที่เป็นคนจริงๆ แม้ว่าตัวละครสามตัวนี้จะเป็นตัวเดียวกัน แต่เพราะหลานหวางเริ่มมาอยู่กับนางเอกในฐานะสัตว์เลี้ยง และไม่ต้องห่วงศักดิ์ศรีและหน้าตาของตัวเอง ก็ทำให้เผยความรู้สึกของตัวเอง และแสดงออกมาอย่างเต็มที่ ผิดกับพระเอกในเวอร์ชั่นอื่นๆ ที่ยังต้องเข้ามาหานางเอกอย่างไว้ตัว (ทำอย่างไรก็ไม่รักเฟิงเสินนะ รู้สึกพี่แกโดดเด่นเกินไป หรือคุณพี่เทียนเหวินหลงก็ดูมาดเยอะ) แต่ตรงนี้ก็ยังหาจุดสรุปไม่ได้ เพราะระหว่างที่เขียนรีวิวเรื่องยังไม่จบ และไม่แน่ใจทิศทางที่จะเป็นทางออกสุดท้าย ... แต่อย่างไรก็ตาม อย่างที่เพื่อนของอี้ฟานมองเอาไว้ว่าหลานหวางเป็นแค่ตัวละครในเกม (ซึ่งในแง่หนึ่งก็ใช่ แม้จะเป็นอีกภาคของเฟิงเสิน/เทียนเหวินหลงก็ตาม) ถ้าเกิดหลานหวางหายไป ถูกลดบทบาท หรือกลายมาเป็นเฟิงเสิน/เทียนเหวินหลงก็อดเสียใจไม่ได้อยู่ดี ถึงตัวละครเดียวกันแต่บทบาทที่ต่างกันไปก็ทำให้เป็นอีกบุคลิกต่างตัวตนแล้วนะ

สรุป ชอบเรื่องนี้ในฐานะเกม MMORPG ที่ผสมปนกับความรักหวานชื่นจากอี้ฟานสาวใจแข็งที่ถูกหลอมละลายด้วยสามีแห่งชาติอย่างหลานหวางนี่แหละ ... ใจหายเหมือนกันที่เรื่องจะจบลงแล้ว



ปล. สุดท้ายนี้ อยากจะเถียงชื่อเรื่องสุดใจ “สามีข้า ไม่น่ารักขนาดนั้น” ตั้งมาแบบนี้ไม่ได้ สามีในเรื่องน่ารักจะตายไป ทั้งทุ่มทุน ทุ่มเทใส่ใจ จริงๆ ชอบชื่อ “พานพบสามีในดันเจี้ยน” ช่วงที่ทดลองเปลี่ยนชื่อเรื่องด้วยซ้ำไป รู้สึกว่าตรงนี้ชื่อตรง แม้ว่าจะกับภาคหนึ่ง ไม่ได้ลงมาถึงภาคสองที่เน้นการทำสงครามและการเติบโตของตัวละครก็ตาม



No comments:

Post a Comment