Tuesday 17 March 2009

แท็กหนังสือ

ไปเจอแท็กหนังสือมาจาก บล็อกคุณแม็กซ์/เมย์ และก็เอามาเล่นตามประสาพวกที่หมกมุ่นกับตัวเอง

*เล่มที่มี link คือบทรีวิวส่วนตัวค่ะ

1) Which book has been on your shelves the longest? (หนังสืออะไรที่อยู่บนชั้นหนังสือของคุณยาวนานที่สุด)
- หลายเล่มมากค่ะ ถ้านานสุดน่าเป็นพวกวรรณกรรมเยาชนที่ดอกหญ้านำมาแปล

2) What is your current read, your last read and the book you’ll read next? (กำลังอ่านอะไรในตอนนี้? เพิ่งอ่านจบไป? และจะอ่านอะไรต่อไป?)
- เพิ่งอ่าน The Touch of Twilight (Vicki Pettersson) จบ และกำลังเริ่ม Black Magic Woman (Justin Gustainis)

3) What book did everyone like and you hated? (หนังสือเรื่องอะไรทีทุกคนชอบแต่คุณเกลียด)
- New Moon (Stephenie Meyer) ถึงขั้นกรี๊ดหลังอ่านไปครึ่งเล่ม และทำให้ไม่อ่านเล่มอื่นต่อ … และไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงมีคนมาโพสต์ตอบรีวิวนี้เยอะมาก ทั้ง ๆ ที่บล็อกอื่นร้าง

4) Which book do you keep telling yourself you’ll read? (หนังสือเรื่องอะไรที่คุณพยายามบอกให้ตัวเองอ่านเสียที)
- 1984 (George Orwell) ถูก Urban fantasy ทั้งหลายแซงตลอดเวลา

5) Which book coming out in 2009 is top priority to read? (หนังสืออะไรที่ออกในปี 2009 ที่คุณให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก)
- Undone (Rachel Caine) อยากอ่านมากหลังอ่าน excerpt จบ

6) Last page: read it first or wait 'til the end? (แอบเปิดตอนจบอ่านก่อนรึเปล่า)
- ไม่ค่อยทำค่ะ พยายามถือคติอดเปรี้ยวไว้กินหวาน และกลัวว่าถ้ารู้แล้วจะทำให้อ่านไม่สนุกไม่ลุ้น ถ้าจะมีก็คืออ่านผ่าน ๆ ช่วงที่ไม่ชอบ แต่ก็ไม่ค่อยทำเหมือนกัน (ซึ่งก็แล้วแต่เล่มด้วย)

7) Acknowledgements: waste of ink and paper or interesting ? (คำอุทิศที่คนแต่งเขียนตอนต้นเล่มคิดว่าน่าสนใจ หรือเปลืองกระดาษและน้ำหมึกไปเปล่า ๆ)
- อย่างน้อยก็ทำให้เห็นโลกของคนเขียนที่มากกว่าแค่เรื่องในหนังสือ ทำให้รู้จักนักเขียน และหลายครั้งทำให้เห็นทัศนคติและมุมมองก็มี

8) Which book character would you switch places with? (มีตัวละครตัวไหนไหมที่คุณอยากมีชีวิตแบบเขา)
- ไม่มีค่ะ แต่อยากได้ความสามารถ tracing มาก คงจะดี ถ้าเดินทางได้ในฉับพลัน และไม่ต้องเสียค่าเดินทาง

9) Which Authors do you want to read that you haven't yet? (นักเขียนคนไหนที่คุณอยากอ่าน แต่ดันไม่ได้อ่านสักที)
- ตอนนี้ไม่มีมังคะ

10) Which books are still on your shelf from when you were in school. (หนังสือเรื่องอะไรที่ค้างอยู่บนชั้นตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ)
- เยอะค่ะ อยู่ครบหมด

11) Which book has been with you to the most places? (หนังสือเรื่องอะไรที่เดินทางไปกับคุณในหลายสถานที่มาก)
- ชุด Black Magician Trilogy (Trudi Canavan) เล่มสองสามทำให้อดนอนบนเครื่องบินมาแล้ว

12) Any “required reading” you hated in high school that wasn’t so bad ten years later? (หนังสืออะไรที่โดนบังคับให้อ่านสมัยเรียนหนังสือ ที่ตอนนี้กลับมาอ่านแล้วไม่ได้รู้สึกว่ามันเลวร้ายเท่าไหร่)
- ไม่ค่อยมี มีแต่กรณีที่หยิบมาดูแล้วรู้สึกว่าเลวร้ายกว่าเดิมสำหรับพวกนอกเวลาภาษาอังกฤษ มีแต่เรื่องไม่สนุก และไม่น่าสนใจ

13) Stephen King or Anne Rice (เลือกใครระหว่างสตีเฟ่น คิงกะแอน ไรซ์)
- ไม่อยากเลือกทั้งคู่ อาจจะเป็น Stephen King แต่ก็กลัวหลอน – ไม่ชอบเรื่องผีใด ๆ อย่างยิ่ง แค่ดูซีรี่ย์ The Shining ยังกลัวเลย

14) Used or brand new? (ซื้อหนังสือเก่า หรือหนังสือใหม่)
- หนังสือใหม่ค่ะ รู้สึกว่าเป็นของเราคนเดียว แต่อาจเป็นเพราะบ้านเราหาหนังสือเก่าที่สภาพดี และเป็นเล่มที่ต้องการยากด้วยก็ได้ แต่ถ้าเป็นนอกทางเลือก อยากได้ห้องสมุดให้ยืมมากกว่า เพราะจะได้ไม่ต้องเสี่ยงหาหนังสือชุดใหม่ ๆ มากนัก ชนิดว่าชอบแล้วค่อยซื้อ

15) Have you ever seen a movie you liked better than the book? (มีหนังเรื่องอะไรที่ทำออกมาแล้วดีกว่าหนังสือ)
- ไม่ค่อยดูหนัง เพราะฉะนั้นไม่ขอตอบ

16) Who is the person whose book advice you’ll always take? (คำแนะนำของเพื่อนคนไหนที่คุณเชื่อเสมอ เวลาเขาแนะนำหนังสือให้อ่าน)
- ไม่ค่อยมีค่ะ ปกติไม่ค่อยมีคนให้คุยเรื่องหนังสือมากนัก แต่รู้สึกว่าเจ้าของบล็อก urbanfantasy.wordpress.com แนวอ่านหนังสือ และแนววิจารณ์ออกมาคล้าย ๆ กัน

17) Recommend a series/ or book: (มีหนังสือเล่มไหน หรือชุดไหนที่อยากแนะนำให้อ่านรึเปล่า)
- ข้อนี้อาจจะยากที่สุด เพราะลางเนื้อชอบลางยา รสนิยมและความชอบอ่านหนังสือไม่เหมือนกัน ดังนั้นไม่กล้าแนะนำ
แต่ที่คิดว่าควรอ่าน ถึงแม้จะไม่ใช่ในฐานะความคิดเสียดสีทางการเมือง แต่เป็นการเห็นคุณค่าคนอื่นก็คือ Animal Farm (George Orwell)
กับ The Little Prince(Antoine de Saint-Exupéry)โดยเฉพาะบทที่เกี่ยวกับหมาจิ้งจอก ส่วนตัวมองเป็นคัมภีร์การมีปฎิสัมพันธ์กับคนอื่น

8 comments:

  1. อยากรู้เรื่อง Black Magic Woman (Justin Gustainis) เพราะเพิ่งไปอ่านเจอรีวิวมา (จากบลอกแห่งนึงที่เมย์จำไม่ได้แล้ว)

    แล้วก็ขอว่าด้วยสเตฟานี ไมเยอร์ ในฐานะของคนที่ (ทน) อ่านจนจบทั้งสี่เล่ม ก็อยากบอกว่า เลิกอ่านตั้งแต่นิวมูนก็ดีแล้วล่ะค่ะ เพราะมันไม่ได้มีอะไรดีขึ้นนับจากนั้นนัก (จะโดนอิฐจากแฟนทไวไลท์เขวี้ยงไหมเนี่ย)

    เมย์อ่านเล่มแรกของชอบพอสมควร (หรือชอบมากพอที่จะหยิบเอาเล่มสองมาอ่าน) ซึ่งเราน่าจะรู้ดีกว่านี้ เพราะคิดว่าเล่มแรก็จบได้อย่างสนิทแล้วล่ะ ยังงงตอนที่รู้ว่ามีภาคสอง

    น่าจะรู้ตัวนะคะว่า การเขียนเรื่องที่จบไปแล้ว ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งเป็นเรื่องที่ทำได้ดียาก (หรืออาจจะทำให้ดีไม่ได้เลยด้วยซ้ำ)

    สรุปว่า ทั้งสามเล่มที่ตามมาจากเล่มแรก เป็นการทำลายหนังสือเล่มแรกจนยับเยิน หรืออย่างน้อยโดยส่วนตัวเราเอง ก็มากพอที่จะไม่กลับไปหยิบเล่มแรกมาอ่านอีกแล้ว (เพราะโดนหลอนไปโดยสามเล่มหลัง)

    ReplyDelete
  2. เพิ่งอ่าน Black Magic Woman ไปแค่ครึ่งเล่มเองค่ะ พอมีฉากหลอน ๆ หรือฆ่าโหด ๆ มา ก็จะเปลี่ยนเป็นเล่มอื่นก่อน อ่านแบบนี้ก่อนนอนไม่ไหวจริง ๆ แต่วันนี้น่าจะอ่านจบสักที

    ตอนที่อ่าน Twilight จบ ชอบมากถึงขนาดวิ่งไปตามหา New Moon ที่เป็นปกแข็งค่ะ แล้วหลังจากนั้นก็กรี๊ดกรี๊ดไปหลายรอบ คุณเมย์เก่งมาก ๆ เลยนะคะที่อ่านจบ 4 เล่มได้
    เห็นด้วยสุด ๆ ว่าเล่มเดียวก็พอแล้วค่ะ

    ReplyDelete
  3. คนที่แนะนำเรื่อง BMW บอกว่าเรื่องนี้จะไม่ค่อยติดโรแมนติคเท่าไหร เป็นเรื่องแอ็คชั่นล้วน ๆ ค่ะ ซึ่งทำให้เรารู้สึกสนใจ เพราะบางครั้งเวลาอ่านแนว UF ก็เบื่อพล็อตโรแมนติคเหมือนกัน

    เรื่องอ่านจนจบสี่เล่มได้นีีเป็นความทุกข์มากกว่าความเก่งค่ะ เพราะอยากรู้ว่าคนแต่งจะตกต่ำไปได้ถึงไหนมากกว่านะคะที่ทำให้อ่านจนจบ ข้อเสียก็คือ มันทำลายความชอบที่เคยมีให้กับเล่มแรกไปเสียหมดเลย

    ReplyDelete
  4. BMW ให้อารมณ์แอ็คชั่นทริลเลอร์มากกว่าค่ะ ถ้าจะถามว่าเป็น UF ไม่เหมือน เพียงแต่ว่าสาเหตุที่เกิดเรื่องแต่เป็นพวกที่ใช้มนต์ดำ แทนที่จะเป็นพวกอาชญากร ฆาตกรโรคจิต หรือสายลับรัสเซีย/ ตะวันออกกลาง/ จีน/ ญี่ปุ่นใดๆ แต่อารมณ์โหดในเรื่องไม่ต่างกันเลย แล้วก็มีทั้งตำรวจ FBI แล้วก็นักสืบเอกชนเต็มไปหมด ... เป็นโรเบิร์ด ลัดลั่มภาคซุปเปอร์แนเชอรัลมังคะ :D

    ReplyDelete
  5. คิดถึง Eric Von Lustbader อีกคนค่ะ

    ReplyDelete
  6. คิดถึงโรเบิร์ต ลัดลั่มอยู่นะคะ (ไม่คิดว่าเรื่องที่อีริคมาเขียนแทนเขาจะเทียบชั้นกะเขาได้ แต่ยังไม่เคยอ่านเรื่องของอีริคที่เป็นแนวญี่ปุ่นหรอกนะคะ)

    เห็นพูดถึงเรื่อง Animal Farm แล้วอยากบอกว่า เมย์ก็ชอบเรื่องนี้มากค่ะ แต่ไม่ค่อยกล้าแนะนำให้ใครอ่านเพราะ
    1. ถูกหาว่าประสาทที่แนะนำให้คนอ่านเรื่องของสัตว์ (ที่ทำตัวเหมือนคน)
    2. ถูกหาว่าบ้าการเมืองมาก
    3. ถูกหาว่าทำให้เขาเครียดโดยไม่จำเป็น

    ReplyDelete
  7. สมัยเด็ก ๆ จะไปเอาหนังสือแอ็คชั่นะพวกนี้ของพ่อมาอ่านค่ะ
    แต่ด้วยอ่านตอนเด็กมาก ก็จะไม่ค่อยจำเรื่องหรือนักเขียนมากนัก
    แต่ที่แน่ ๆ เรื่องของอีริคแนวญี่ปุ่นเต็มบ้านเลยล่ะค่ะ (แต่เป็นแปลไทย)
    สมัยนี้ไม่ได้อ่านแล้ว เพราะหนีไปแฟนตาซีทั้งหลายแทน ... (พ่ออาจจะดีใจซื้อหนังสือมาใหม่แล้วไม่มีคนแย่ง :D)

    จริง ๆ Animal Farm ไม่อ่านเอาการเมือง แต่อ่านเอาธรรมชาติมนุษย์ก็สนุกนะคะ
    พูดถึงหนังสือน่าแนะนำให้อ่าน แล้วก็นึกออกอีกเล่มคือ Le Petit Prince ส่วนตัวมองเป็นคัมภีร์การมีปฎิสัมพันธ์กับคนอื่นเลย
    โดยเฉพาะบทของหมาจิ้งจอก (บ้าไปแล้ว)

    ReplyDelete
  8. เหมือนกันค่ะ อ่านนิยายแอ็คชั่นเพราะเอาของพ่อมาอ่าน เขาก็ชอบของอีริคนะคะ มีเยอะหลายเล่มเหมือนกัน แต่อ่านไปไม่ถึง ลูกสาวก็หนีไปอ่านอย่างอื่นเสียก่อน

    ความจริงเมย์อ่านแนวพวกนี้ตลอดนะคะ จนกระทั่งไปเจอโรแมนซ์ตอนเรียนต่อ จากนั้นก็ทิ้งกันไปเฉยเลย หันมาเป็นแฟนโรแมนซ์เต็มตัว เดี๋ยวนี้ยังพอมีอ่านบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะอ่านแต่นักเขียนที่คุ้น ๆ กันอยู่ ไม่ได้เริ่มของใครใหม่เท่าไหร

    พูดถึงเรื่อง LPP ทำให้นึกถึงเรื่อง The Life of Pi ไม่รู้เหตุผลนะคะ จะว่าเหมือนกันก็ไม่ใช่ แต่ทำให้คิดถึง LPP มากตอนอ่านเรื่องนั้น

    ReplyDelete