Tuesday 9 June 2020

아더사이드 아더월드

아더사이드 아더월드
[Other Side Other World]

สปอยล์แน่นอน เพราะจะกรีดร้องงง กับอ่าน mtl เกาหลี ไม่รับประกันความถูกต้องง



ในโลก esper & guide ที่ esper จะมีพลังพิเศษ แต่พลังที่มีจะทำให้สภาพร่างกายไม่เป็นปกติ หากไม่มี guide คอยใช้พลังของตัวเองคอยสร้างสมดุลให้

เปิดมาที่ตัวเอก Eden Prescott  มาจากสายตระกูล Han ที่ต้นเรื่องกำลังจะเข้าพิธีก้าวไปสู่การเป็นผู้ใหญ่ แต่ก่อนที่จะเริ่มพิธี หมู่บ้านของตระกูลที่เป็นหมู่บ้านปิดก็ถูกโจมตี และแม่กับผู้อาวุโสในตระกูลก็สละตัวเองเพื่อช่วยให้ Eden หนีไป

Eden มาโผล่ที่ริมทะเลสาบในเมืองชนบท และก็โชคดีว่า Hans เจ้าของร้านขายของชำมาเจอและช่วยไว้ ก่อนที่จะรับ Eden ไปเลี้ยงดูในฐานะหลาน

เหตุการณ์ดำเนินมาเรื่อยๆ โดยที่ Eden อ้างว่าตัวเองสูญเสียความทรงจำเพื่อที่จะได้ไม่ต้องบอกที่มาที่ยากจะบอกได้ให้คนอื่นรับรู้และเข้าใจ และระหว่างนี้เจ้าตัวก็พยายามเข้าเรียนวิชาประวัติศาสตร์ เพราะอยากตอบคำถามให้ตัวเองได้ว่าคนในตระกูลส่งตัวเองมาในโลกอีกมิติ หรือว่าในโลกเดียวกันแต่ต่างเวลากันแน่ เพราะว่าเจ้าตัวไม่สามารถหาร่องรอยของเมืองที่ตัวเองเคยอยู่ได้เลย

เพราะพลังที่แตกต่างกับคนอื่น และที่มาที่บอกใครไม่ได้ ทำให้ Eden มักจะไปคลุกตัวอยู่คนเดียวที่คฤหาสน์ไร้เจ้าของเสมอ และวันหนึ่ง ระหว่างที่ Eden กำลังใช้พลังพูดคุยกับวิญญาณที่อยู่กับตัวเองในสวนของคฤหาสน์ ก็เจอกับ esper ที่พลังแปรปรวน และก็ได้ให้เครื่องรางของตัวเองไปให้ชายแปลกหน้าที่เจอก่อนที่ตัวเองจะหนีออกไป

ต่อมาเมื่อ Eden ไปที่ห้องสมุดของเมือง เพื่อจะยืมหนังสือประวัติศาสตร์มาอ่าน ก็พบว่ามีคนมายืมหนังสือไปหมด และดังนั้น เมื่อเจ้าตัวไปทักท้วงอีกฝ่ายที่กวาดเอาหนังสือไป ก็เจอกับเลขาของ Bliss Moore ชนชั้นสูงและเจ้าของพลัง Esper ที่แกร่งกล้าที่สุดในจักรวรรดิ และก็ได้ปะทะคารมกับ Bliss ที่เดินตามหลังเลขามา

หลังจากนั้น เมื่อ Eden ไปทำงานพิเศษในร้านอาหาร ก็ได้เจอกับ Bliss กับเลขาที่มาเป็นแขกในร้าน และเมื่อ Eden เปลี่ยนงานไปส่งของให้กับคฤหาสน์ก็พบว่า Bliss เป็นเจ้าของใหม่ของคฤหาสน์นั่นเอง
.
.
.

เอาจริง คุณพระคุณเจ้า ย่อมาเป็นอะไรก็ไม่รู้ คือรู้ว่ามัน cliché แต่มันมีความ cliché แบบที่ชอบบ ไม่ใช่ว่าชอบธรรมดา แต่ว่าชอบมาก ถูกตกอย่างงงๆ แบบอ่านตอนเปิดไป 3 ตอน อ่านตอน free tickets ได้อีก 3 และพอเจอ daily pass อีก 2 รวมเป็น 8 ตอน ดิฉันก็ตัดสินใจปาดซื้อที่เหลือเหมือนถูกผีสิงงง

คือพล็อตมันบ้านนนน  esper กับ guide  guide กับ esper หันไปทางไหนก็มีอยู่ทั่วไป แต่องค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ ในเรื่องเนี่ยแหละที่ทำให้เรื่องนี้น่ารักและก็น่าสนใจ

พอเปิดมาที่ Eden กับพี่ Bliss ปะทะกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ มันก็เหมือนเป็น enemies turn lovers ประมาณนึง แต่มันเป็นslow build ความสัมพันธ์ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปจนไม่รู้สึกว่ารีบ หรือว่าไม่น่าเชื่อตาม เพราะว่าด้วยความที่คุณพี่ Bliss อยากหาคนมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล และพอดูว่า Eden จะพอมีความรู้อยู่ ก็เลยดึงเอา Eden มาช่วยงาน ด้วยความที่แรงงานค่าจ้างดี คุณน้องปฎิเสธไม่ลงก็เลยรีบมาทำงานให้ เพราะต้องเอาเงินไปเลี้ยงวิญญาณทั้งหลายที่อยู่ด้วย และพอมาทำงานด้วยกัน น้องก็ก่อเรื่องตั้งแต่วันแรก เนื่องจากพอรู้ว่างานเงินดี มันไม่มีอยู่จริง พอจะต้องออกแรงรากเลือกก็เลยเอาวิญญาณที่มีมาช่วย และเหล่าวิญญาณก็ก่อเรื่องทำแชนเดอร์เลียราคา 12 ล้านหล่นลงมา ดังนั้น จากการเป็นเด็กวิเคราะห์ข้อมูลไปกลับ ก็เลยต้องมาอยู่ที่คฤหาสน์ของ Bliss เป็นการถาวรในช่วงนี้ เพื่อทำงานทุกอย่างและช่วยงานทุกคนใช้หนี้

และก็เป็นการบังคับให้ Eden ต้องมีปฎิสัมพันธ์กับ Bliss กลายๆ ตั้งแต่การที่ต้องส่งข้อมูลรายงานให้ Bliss รับรู้ ตีความเอกสารร่วมกัน และด้วยความที่น้องหัวไว หาประเด็นที่ถูกซุกซ่อนไว้เจอ ก็ทำให้ Bliss ลดความระวังตัวและค่อยๆ เปิดใจกับ Eden โดยปริยาย — ชอบที่ Bliss ไม่รู้ตัวว่ากำลังหาข้ออ้างในการเข้าไปคุยกับ Eden ในห้องทำงานอยู่ และพอเดินเข้าไปทำท่าทวงข้อมูลก็เพิ่งนึกออกว่า Eden เพิ่งส่งรายงานมา ส่วนตัว Eden เองก็เริ่มจากลำบากใจที่ถูก Bliss จ้องหน้านิ่งๆ แล้วดุกลับเวลาพูดโต้ตอบกัน ไปเป็นสบายใจที่ได้นั่งอยู่ข้างๆ กัน โดยเฉพาะหลายครั้งที่ Bliss ช่วยตัวเองไว้จาก Enoch เพื่อนของBliss

เอาจริง พี่ Bliss มาพักผ่อนที่เมืองชายเขาก็เพราะว่าเจ้าตัวกำลังมีปัญหาควบคุมพลังอยู่ ด้วยความที่สถานะพลังพี่เขาเป็นขั้น S (อันที่จริง SS แบบไม่บอกใคร และมีพลังสองอย่างที่โลกรู้ว่าแค่อย่างเดียวเหมือนกัน) ก็ทำให้มีอาการเจ็บปวดทางร่างกาย ทั้งปวดหัว นอนไม่เต็มอิ่ม ไปจนถึงชักเป็นระยะๆ โดยที่มีแต่คนสนิท และหมอประจำตัวเท่านั้นที่รู้ แต่เพราะเครื่องรางประหลาดที่ได้มาตอนวันแรกที่มาถึงคฤหาสน์บรรเทาอาการเจ็บปวดได้ เจ้าตัวก็ยึดติดกับเครื่องรางที่ได้มา ถึงขั้นที่ให้หมอตัวเองเอาไปวิเคราะห์เลยด้วยซ้ำว่าคืออะไร มีพลังอะไรซ่อนอยู่ ซึ่งพอ Eden รู้ว่าเครื่องรางตัวเองช่วย Bliss ได้ก็แอบเอาเครื่องรางไปให้ Bliss เป็นระยะๆ และก็ต้องเรียกว่าแอบจริง เพราะใช้วิธีเอาไปซ่อนบ้าง ให้คนอื่นหาเจอบ้าง เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการเชื่อมโยงกับตัวเอง และไม่ให้คนรู้ว่าตัวเองมีพลัง

พอสิ้นสุดช่วงพักร้อน และ Bliss จะกลับไปที่เมืองหลวง เหมือนได้เวลาที่สองคนจะแยกจากกัน แต่เพราะ Eden ตัดสินใจไปเรียนต่อในเมือง ก็เหมือนว่าทั้งคู่จะได้เจอกันอีก

ในเมืองหลวง Eden เจอกับ Scott เพื่อนที่เพิ่งจับคู่เป็น guide กับ Enoch หลังจากที่พลังของ Enoch เสียสมดุลตอนที่ไปกับ Bliss ในชนบท และในงานเลี้ยงของตระกูล ถึงแม้ Enoch เปิดตัว Scott ในฐานะ guide ของตัวเองก็จริง แต่ก็พยายามลาก Eden เข้าไปด้วย เพราะ Enoch คิดว่ากรณีที่พลังปะทุขึ้นมา การที่จะให้พลังกลับมาสงบได้ในทันทีเกินความสามารถของ Scott และสงสัยว่า Eden ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยอาจเป็น guide ด้วยอีกคน และต้องมีพลังสูงอย่างแน่นอน

ซึ่ง Bliss ก็มาที่งานเลี้ยงด้วย และเหตุผลที่มาที่งานเลี้ยงก็เพราะจะมาเจอ Eden ซึ่งเมื่อเจอว่าน้องกำลังถูก  Enoch ลากเข้าไปในเกมการเมืองของตระกูลด้วย พอสองคนมองหน้ากัน สิ่งแรกที่ Bliss พูดกับทุกคนก็คือมารับ guide ตัวเอง และ Eden ก็พูดขึ้นมาพร้อมกับว่าตัวเองเป็น guide ของ Bliss กรี๊ดด คือว่าชอบมากที่ต่างคนมองตากันแล้วพูดขึ้นมาเวลาเดียวกันนนน

ซึ่งหลังจากนั้น Bliss พา Eden ออกจากงาน และพออยู่ในรถด้วยกัน คำแรกที่ Bliss พูดขึ้นมาก็คือ เครื่องรางของ Eden อยู่ไหน เอามาให้หมด เพราะว่ารู้แล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังก็คือ Eden แม้ว่าจะยังไม่รู้ว่า Eden ทำเครื่องรางเหล่านี้ได้อย่างไรก็ตาม ชอบบทสนทนาและการโต้ตอบกันช่วงนี้เพราะดูเป็นธรรมชาติและตรงไปตรงมา ดูเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องปรุงแต่ง

และด้วยที่ประกาศออกไปว่า Eden เป็น guide ของตัวเอง Bliss ก็ต้องทำทุกอย่างให้เหมือนจริงขึ้นมา ตั้งแต่เปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์ที่คนภายนอกเห็น รวมไปถึงการจัดหาคนมาคอยคุ้มครอง Eden ด้วย ซึ่งตั้งแต่ในงานเลี้ยง ชั้นก็กรี๊ดแล้วกรี๊ดอีก นึกว่าน้องจะบอกความจริงแล้ว แล้วก็เปล่า เมื่อไหร่จะมา คนภายนอกคิดว่า Eden เป็น guide ของ Bliss คนภายในรอบข้าง Bliss ช่วยกันปิดความจริง และ Eden ก็ปิดความจริงกับทุกคน กรี๊ดดดด ฉันอ่านไปก็โหยหวนไป

ระหว่างนี้ Eden ก็ถูกมือสังหารลอบฆ่า แต่ด้วยความที่มีคนจาก Bliss มาคอยคุ้มครอง ก็เลยไม่เป็นไร แต่ว่าทำให้ตัวบอดี้การ์ดและ Bliss สงสัยว่าทำไมตัว Eden ถึงดูคุ้นเคยกับการมีการ์ดรอบตัว ทั้งไม่รู้สึกอึดอัดตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้ว่าต้องมีคนคอยดูแล และครั้งหลังที่พอเกิดเรื่องก็วิ่งไปหลบหลังการ์ดได้อัตโนมัติ ซึ่งเป็นเรื่องที่คนธรรมดาไม่ทำ

เอาล่ะ หลังจากนั้น Bliss จะต้องไปเข้าร่วมสงคราม และด้วยความที่พลังไม่เสถียร และไม่มี guide จริง สิ่งเดียวที่จะช่วยได้คือเครื่องรางของ Eden จริงจังไม่จริงจัง คือพี่เขาเอาถุง lucky bag ทั้งหมดที่ได้มาทำเป็นถุงมือเพื่อช่วยปรับสมดุลให้ตัวเองตั้งแต่อยู่ที่คฤหาสน์แล้ว เมื่อรู้ว่า Eden เป็นเจ้าของเครื่องราง คราวนี้ก็พยายามรีดถุงเครื่องรางทั้งหลายไปให้หมด น่ารักที่  Eden ก็พยายามช่วยด้วยการไปให้คนสนิทของ Bliss ไปแอบเอาเสื้อผ้าเก่าของ Bliss มาทำถุงเครื่องราง และที่ Eden ไม่รู้ก็คือว่า Bliss รู้เรื่อง แทบยังเป็นกึ่งๆ คนเลือกเสื้อผ้าโปรดตัวเองให้ด้วยซ้ำ

เอาจริง ฉันก็กรีดลุ้นมากว่า Eden จะบอกความจริงม้ายย จะบอกความจริงม้ายยย ไปด้วยกันในฐานะ guide พี่ Bliss จะได้ปลอดภัยไง จะได้ปลอดภัยไง ซึ่งก็รอแล้วรอเล่า ไม่มีเกิดจริง ยกเว้นแม้ Bliss จะทิ้งน้องไว้ที่เมืองหลวง แต่สุดท้าย Eden ก็หาวิธีตามไปได้

พอไปรบ การใช้พลัง และโอกาสที่ควบคุมพลังไม่ได้ก็เกิดขึ้นมา และในสถานการณ์ฉุกเฉินที่หมอประจำตัว และเหล่าการ์ดของ Bliss ถกเถียงกันเพื่อหาทางเอาเครื่องรางและอะไรก็ได้ที่มีไปให้ Bliss เพื่อลดความรุนแรงและชะลอการระเบิดของพลัง ก็ทำให้ Eden ตัดสินใจเปิดเผยความจริง ซึ่งกรี๊ดว่า Eden ซ่อนพลังตัวเองไว้ได้เพราะวิญญาณที่อยู่ด้วยคอยกั้นไว้ และเมื่อเปิด การ์ดรอบตัวที่เป็น esper ก็พากันช็อคไป เหลือหมอที่เป็นคนธรรมดาที่ไม่รู้เรื่อง และระยะเทเลพอร์ตที่เป็นปัญหาก็หมดไป เพราะ Eden บอกการ์ดที่เป็นพอร์เตอร์ว่าเคยถูก guide เต็มที่เต็มเหี่ยวอย่างใจต้องการตอนใช้พลังไหม — ทั้งนี้ Eden เป็น multi guide จับคู่เข้ากับ esper คนไหนก็ได้ และพลังสูงมากอย่างที่แค่ใช้พลังไม่ต้องมีปฎิสัมพันธ์ทางร่างกายกันก็ทำให้ esper พลังเต็มเปี่ยมและสมดุลได้แล้ว (เทียบกับ Scott ที่มีพลังอยู่ที่ประมาณ 30% และการ guide ที่ได้ผลต้องทำผ่านการมี sex หนักหน่วง)

และเมื่อพอร์ตไปถึงแนวหน้าสนามรบ ขำที่ Eden เมาเทเลพอร์ตอย่างไรก็ยังเมาอยู่อย่างนั้น และเพราะเจ้าตัวเป็นคุณชายถูกเลี้ยงดูมาแบบไข่ในหิน และบังคับให้จดจำและท่องทฤษฎีทั้งหมด โดยที่ไม่เคยมีภาคปฎิบัติจริง เจ้าตัวก็รนหาวิธีช่วย และท่องท่อง และท่องออกเสียงเพื่อแก้การระเบิดพลังของ esper ว่าต้องเป็นการแลกเปลี่ยนของเหลวทางร่างกาย ได้ตั้งแต่จูบ oral sex .... วนท่องบอกตัวเองไปเรื่อยๆ จนการ์ดรอบตัวอายไปแทน

ขณะเดียวกัน Bliss กำลังจะระเบิดพลังและระเบิดตัวเอง โดยกำลังพยายามควบคุมพลังไว้สุดความสามารถเพื่อให้เหล่าทหารใต้บังคับบัญชา และชาวบ้านอพยพหนีไปก่อน และตอนที่สติลางเลือน ก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงและเห็น Eden เป็นครั้งสุดท้าย ก็คือ Eden พอร์ตมาถึงพี่เขาพอดี และสิ่งที่เจ้าตัวทำก็คือพุ่งตัวไปจูบ Bliss ซึ่งปฎิกิริยาที่พี่ Bliss มีก็คือสลบไป

คือ anti-climax มากกก ลุ้นมากว่าปฎิกิริยาที่มีจะเป็นอย่างไร คิดไปร้อยแปดอย่าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็น ส-ล-บ ฮืออ พี่ Bliss เป็นลมวูบไปแล้วววว ... ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเลย แต่ทั้งนี้เพราะว่าตัว Bliss เกิดปฎิกิริยา guide shock ด้วยความที่ร่างกายกำลังไม่เสถียรรุนแรง และค่าความเข้ากันได้ของทั้งคู่ก็สูงมากเสียด้วย ซึ่งพอลืมตาตื่น และสัมผัสพลังของ Eden พี่ก็เปลี่ยนจากหมาป่าเย็นชามาเป็นหมาบ้านขี้อ้อน คำแรกที่พูดตอนที่กอด Eden ไว้อยู่ก็คือ ขอจูบได้ไหมมม ... เอ่อ พี่คะ!

ซึ่งหลังจากนั้น อาการหมาบ้านชอบอ้อน ชอบนัวเนียก็ออกมา ด้วยความที่ไม่แน่ใจว่า ร่างกายของ Bliss จะมีปฎิกิริยากับพลังของ Eden ขนาดไหน ทีมก็เลยตัดสินใจล่าม Bliss ไว้ก่อน ซึ่งกุญแจมือแข็งแรงขนาดไหนก็ใช้ไม่ได้ ตอนที่ Bliss ทำลายหลุดมาในไม่กี่วินาทีเมื่อรู้ว่า Eden ก็ช่วย guide ลุง Hans ของตัวเองแล้วหึง หรือการสัมผัสร่างกายที่ต้องใช้หมอในทีมช่วยวัดค่าทั้งหลายเพื่อกันไม่ให้พี่ Bliss เกิดอาการ guide shock ไปอีก ขำที่พอล่าม Bliss ไว้อีกคราว แล้วให้ Eden กอด Bliss อีพี่เอามือมากอดตอบไม่ได้ ก็เลยก้มลงมาแทะหู Eden ฮือออ ....หรืออีกตอน พอปู่ตัวเองมา แล้วตัวเองต้องนั่งกับปู่ และ Eden นั่งฝั่งข้างลุง Hans พี่ Bliss ก็ใช้วิธีโน้มตัวมาข้างหน้าโต๊ะ แล้วขอให้ Eden จับมือตัวเองไว้ให้ได้สัมผัสกัน ติดตัวนัวเนียกันขนาดนี้

ชอบที่ Eden ขอโทษที่ปิดบังความจริงไว้ แต่ทุกคนเข้าใจ อย่างที่หมอพูดแทนขึ้นมาว่าถ้าไม่ซ่อนพลังไว้ ไม่มีใครคุ้มครอง ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอย่างไร และถึงแม้ Eden จะเป็น multi guide แต่ก็ไม่ได้ใช้พลังตัวเองเพื่อสร้างอำนาจอย่างที่ guide ทรงพลังหลายๆ คนทำ ถึงขั้นที่คนในทีมแซว Bliss ว่าถ้าดูแล Eden ไม่ดี ต้องระวังถูกคนอื่นแย่งไปนะ เป็นความสัมพันธ์ที่เป็นบวก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ guide ที่ลุงตัวเองเคยเจอ ที่ลุงถูก guide ตัวเองสั่งว่า Suck, swallow. หรือว่า multi guide ในเรื่องอีกคนที่ใช้พลังตัวเองเป็นสะพานอำนาจ

กับชอบอารมณ์ที่ Bliss ฟื้นขึ้นมาแล้วคุยเงียบๆ กับ Eden ในตอนกลางคืน พอ Eden เล่าเรื่องวิญญาณทั้งหลายที่คอยคุ้มครองอยู่กับตัวเองให้ฟัง แล้ว Bliss พูดออกมาว่า ตอนนี้วิญญาณทั้งหลายอยู่ด้วยข้างๆ ตัวใช่ไหม แล้วขอบคุณที่คอยดูแลคุ้มครอง Eden มาตลอด ฟังดูน่ารักปนซึ้ง จนกระทั่งมีวิญญาณที่ตื่นเต้นแล้วพูดมาว่าให้ Eden รีบๆ นอนกับ Bliss เลย Bliss จะได้เห็นวิญญาณไปด้วยได้ ไม่ได้นะคะ ...

ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มก็คือเรียบง่ายไปตามธรรมชาติ จุดหนึ่งที่ชัดว่าความสัมพันธ์ค่อยเป็นค่อยไปก็คือ เหล่าวิญญาณถาม Eden เป็นระยะๆ ว่ารู้สึกอย่างไรกับ Bliss ตั้งแต่อยู่ที่คฤหาสน์ ครั้งแรก Eden ปัดเรื่องไปว่าไม่สนใจ ก่อนจะเป็นบอกว่าไม่แน่ใจ และครั้งที่สามก็คือบอกว่าชอบอย่างมั่นใจ และการตัดสินใจเปิดเผยพลังของตัวเองก็เพราะไตร่ตรองมาแล้วว่าเพื่อเป็นการช่วย Bliss จริงๆ ส่วนสำหรับ Bliss เอง การมี Eden เข้ามาในชีวิตก็เปลี่ยนท่าทีไปเลย จากการที่รู้สึกว่าหงุดหงิดขี้โมโหก็ใจเย็นรับฟัง Eden มากขึ้น จากที่ดูถูกและไม่สนใจในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นคอยดูแลในแบบของตน โดยเฉพาะตอนหลังที่พอรับรู้พลังของ Eden แล้วบอกว่า Eden reset โลกรอบตัวเลย จากการที่ทุกอย่างหงุดหงิดน่ารำคาญทั้งแสงที่เข้าตา เสียงที่ได้ยิน กลิ่นที่รับรู้ก็กลายเป็นเรื่องปกติที่รับได้ไป — ชอบที่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ภาคบังคับที่ว่าต้องชอบเพราะอีกฝ่ายคือ guide อีกฝ่ายคือ esper เพราะกลับกัน สองคนเรียนรู้กันในฐานะคนธรรมดา และก็เปิดใจรับอีกฝ่ายเข้ามา ได้รู้จักและเข้าใจกัน ก่อนจะรับรู้สถานะว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร

ก็นั่นแหละ ตอนนี้อ่านตอนที่ 45+ อยู่ อ่านช้าเพราะว่างกอ่านเรื่องฟรีที่เปิดไปด้วย แถมยังเผลอไปติด Tropical Island อีกเรื่อง ณ ตอนนี้ให้ A+ เพราะชอบพล็อตเรียบง่าย แต่มีการลงรายละเอียดและการปูความสัมพันธ์เล่าเรื่องที่ปราณีต ก็จะพยายามไปอ่านให้ถึง 105+ ให้ได้ในเร็วไว แต่ปัญหาคือเรื่องไหนชอบ จะเขียนรีวิวเครียดจริงจังไม่บ้าบอทุกทีสิน่า!