Saturday 29 December 2018

The Novel’s Extra

สถานะปัจจุบัน Web Novel 207 ตอน

ความดีงามในสามโลกวันนี้! ตอนแรกก่ำกึ่งว่าจะอ่านดีไหม แต่ว่าหลังๆ พวกนิยายแอคชั่น/ แฟนตาซี/ ออนไลน์ที่สนุกมาจากฝั่งเกาหลีหมดเลยก็เลยลองอ่าน อืมมม เป็นไงล่ะ 3 วัน 190 ตอน! อีกนิดนึงร่างกายคงไปไม่รอดเพราะการขาดนอน ดีนะ ไม่ได้เป็นแบบ Overgeared/ LMS ที่มา 700+ ตอน แต่ก็ไม่รู้ว่าดีไม่ดีอันที่จริง เพราะว่าอยากอ่านต่อแล้วววว แต่ก็ขี้เกียจไปอ่าน MTL ด้วย 5555 ก็รอกัน day by day ไปเนอะ

ก็สปอยล์ตามประสา เพราะว่าไม่ได้เขียนรีวิว แต่เป็นการกรี๊ดกร๊าดให้ตัวเองได้ระบาย มีอะไรนึกออกจะเขียนลงไปให้หมดค่า!

เอาล่ะ แนว writer/ transmigration ก็มาอีกเรื่องหนึ่ง และก็เพราะ Kim Hajin ตัวเอกเจออาการ writer’s block หยุดเขียนนิยายไป ก็เลยถูกจับส่งไปอยู่ในนิยายของตัวเอง ซึ่งตามเรื่องจะพูดถึง Kim Suho คุณพี่พระเอ๊กพระเอกที่เก่ง OP และดีทุกอย่าง ทั้งหน้าตา นิสัย เป็นอันดับหนึ่งของ hero cadet ในสถาบัน hero ต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ และ Shin Jonghak เพื่อนร่วมชั้นผู้คงตำแหน่งลำดับที่สองและคู่แข่งตลอดกาลของพี่เขา

จริงๆ แล้ว Hajin ของเราถูกส่งมาอยู่ในร่างของตัวประกอบจืดจาง (อันดับที่ 938 เลยนะ) และก็ควรจะจืดจางต่อไป แต่เพราะ Hajin ไม่มีความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม และมีความมุ่งมั่นที่จะต้องอยู่รอดให้ได้ พี่เขาก็เลยต้องอัพเกรดตัวเองขึ้นมาผ่าน notebook ที่ได้มาจากโลกเดิม ซึ่งยิ่งประกอบกับความรู้เต็มหัวในฐานะคนเขียนที่รู้เหตุการณ์ทั้งหลายอยู่แล้วไปๆ มาๆ ก็เลยเป็นการเปิดช่องทางให้พี่แกโกงเพิ่มความสามารถตัวเองได้เรื่อยๆ และดังนั้นจากสถานะตัวประกอบจืดจางที่คอยเฝ้าดูเหล่าตัวเอกอยู่วงนอกก็เริ่มมีความสำคัญและโดดเด่นขึ้นมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นวงใน และเป็นที่จับตามองของทุกคน ... และในแง่หนึ่งก็เป็นตัวแปรและจุดเปลี่ยนเนื้อหาในเรื่องไป

ถ้าจะเล่าเรื่องแบบย่อก็จะได้แบบนี้ ช่วงแรกเปิดมาก็เลยเป็นฟีลโรงเรียนเวทมนต์ เอ๊ยย ฟีลโรงเรียนฮีโร่ที่มี Suho เป็นศูนย์กลางจักรวาล ไม่ว่าจะทำอะไรพี่แกทำได้ดีหมด หล่อ ฉลาด เป็นตัวเอก และมีเพื่อนเยอะ ขณะที่ Hajin ไม่มีอะไรเลย ค่า stat น้อยจนดูไร้ความสามารถ แถมยังตกเป็นเป้าการนินทาของคนในสถาบันด้วยการเปลี่ยนอาวุธคู่มือจากดาบมาเป็นปืนซึ่งเป็นอาวุธอ่อนด้อยในโลกฮีโร่เสียอีก แต่ก็นั่นแหละ ทองแท้ไม่กลัวไฟ เอ๊ยย สถานะนักเขียนและการโกงอยู่กับตัว พี่แกไม่สนใจอะไรใคร ไม่คบใคร และพยายามเพิ่มศักยภาพตัวเองผ่านทุกอย่างทุกทาง ชีวิตมีแค่การเรียนกับฝึกฝนสลับกันไปมาอย่างนี้

แต่ระหว่างนั้น เพื่อให้ได้ SP – story point ค่าความสำคัญในเรื่อง พี่แกก็เลยต้องไปวนเวียนรอบๆ เหล่าตัวเอก และสร้างคุณค่าตัวเองขึ้นมาด้วย ซึ่งชอบความมุ่งมั่นตั้งเป้าหมายและจริงจังที่จะบรรลุเป้าหมายของพี่แกมาก ไม่ท้อ ไม่ถอย ไม่หนีเลยสักครั้ง กับเพราะเจ้าตัวเชี่ยวชาญเข้าใจความเป็นไปและเนื้อหาในเรื่องก็ทำให้พยายามมองต่างมุมเพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่ในมือ และโอกาสไม่ว่าที่อยู่ตรงหน้าและกำลังจะเกิดได้ดีที่สุด ก็นะ ถ้าจะให้จำกัดความ Hajin ก็คือ scheming

จริงๆ ตอนที่อ่านเรื่อง เข้าใจว่าคุณพี่ Hajin จะสร้าง brand value ของตัวเองมาแข่งกับคุณพระเอก เพราะว่าหลายอย่างควรจะเป็นสิ่งที่พระเอกทำ แต่ก็กลายเป็นสิ่งที่ Hajin ทำ/ ได้รับไปแทน อย่างเช่น การผูกพันและสร้างความสัมพันธ์กับ agent และในช่วงแรกที่เล่าถึงพระเอกก็ดูแปลกแยกจากตัวเองด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นว่าการก้าวออกไปหาของ Suho ทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนรักกัน และมีความเชื่อมั่นและผูกพันกันสูงมาก อย่างเช่นที่ Suho เชื่อเสมอว่า ถ้าไม่ปิดบังความสามารถของตัวเองไว้ ตัว Hajin น่าจะเก่งพอ หรือแม้กระทั่งสูงกว่าตัวเองด้วยซ้ำ/ พอสู้กันก็กล้าที่จะปล่อยให้ Hajin ระวังหลังไว้โดยไม่กลัวว่า Hajin จะมาทำร้ายตัวเอง และส่วน Hajin เอง ทั้งในฐานะเพื่อนและคนเขียน (ที่ต้องการให้เรื่องจบได้) ก็วิ่งออกไปขวางหน้าตัวร้ายเพื่อช่วย Suho เหมือนกัน และก็ถึงกับเตรียมทุกอย่างไว้เพื่อปูทางให้ Suho เป็นพระเอกของเรื่องได้จริงๆ

อย่างตอนที่ 169 ขณะอยู่ใน Tower ก็ถึงขั้นทำงานหนักรากเลือด มีการบอกว่า Here, I wanted to see a different ending with Kim Suho. This was the best ending I came up with during my three years of planning.

หรืออย่างตอนที่ได้เจอหลังจากหายกันไปเกือบ 4 ปี คำทักทายกันสั้นมาก แต่ที่เหลือ คือการชี้แนะและให้หนทาง ที่พีคคือพี่แกถึงขั้นเก็บ Stigma Crystal ให้ Suho เอาไปอัพเลเวลตัวเองด้วย

ถ้าจะพูดจากใจจริง สองคนสนิทและเชื่อใจกันมากถึงขั้นที่อีกนิดก็สามารถจะจินตนาการให้เป็นนิยายวายไปได้เลยนะเนี่ย ตอนแรกนึกว่าคิดไปเองคนเดียว แต่นักอ่านหลายคนก็พูดเหมือนกันหมด ถึงขั้นที่มีคนบอกว่าเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันดูเป็น quality / intimate time ยิ่งกว่าอยู่กับสาวๆ คนอื่นอีก ล่าสุดที่อ่านตอนที่ 193 reaction ของ Suho ตอนที่ได้ Stigma Crystal จาก Hajin ยิ่งดูน่าสงสัย

Suddenly, Kim Suho’s expression became somewhat strange. Even his cheeks appeared rosy, perhaps due to the hot spring.
“W-Why are you looking at me like that?”
“Huh? Oh… It’s just that… I’m really grateful, but why are you doing all this for me? Did you know I’d come here? How come your explanation is so detailed? I’m moved.”

ในแง่หนึ่งเพราะพระเอกเป็นคนดี ถึงขั้นที่เรียกได้ว่า ดีมากกก righteous ได้คำนี้คำเดียวจริงๆ ก็คิดว่าจะเกลียดพระเอกนะ แต่เป็นครั้งแรกที่อ่านเรื่องแล้วชอบพระเอกแนวพระเอกได้จริงๆ ความดีงามพ่อพระทั้งหลายทั้งปวงมารวมตัวอยู่ที่พี่หมด แต่อืม เอาจริงๆ ถึงแม้หนังสือจะมีหลายมุมมอง แต่ส่วนที่เป็น Suho นี่น้อยจนอยากร้องไห้ นิยายชอบเกริ่นถึงอดีต และความลับที่เปิดเผยใครไม่ได้ของพี่แก แต่ก็นะ ได้แต่เกริ่นมาเป็นสิบรอบ ไม่ได้แตะไม่ได้เล่าเสียที เฮ้อ เฮ้อ ...

ทีนี้ ด้วยความที่ตัว Hajin ต้องไปวนเวียนรอบเหล่าตัวเอกในระยะแรกๆ เพื่อสร้างค่า SP โดยเฉพาะเมื่อไม่รู้จัก/ สนิทกันก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นมาเหมือนกัน เพราะว่าในเหล่านางเอกทั้งหลาย มีตัวละครสองตัวที่เป็นที่นิยมของหนุ่มๆ คือ  Chae Nayun คุณหนูบ้าพลัง และ Rachel เจ้าหญิงจากราชวงศ์อังกฤษ ตามเรื่องเดิม จริงๆ แล้วตัวละครสองตัวนี้จะมีเรื่องถึงชีวิตบ่อยมาก เพราะว่าจะได้เป็นอีเวนท์ให้พระเอกในเรื่องอย่าง Suho เข้าไปช่วยแล้วปักธงสาวๆ ให้ได้ แต่ทีนี้ เพราะว่าเข้าไปในเกม เกิด element ใหม่ที่นักเขียนที่เข้ามาช่วยแก้เรื่อง (co-author ตามคำนิยาย) บอกว่าสถานการณ์ง่ายไปไม่ตื่นเต้น ก็เลยเพิ่มความโหดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นความสามารถของเหล่าตัวร้าย และการเร่งเรื่องในนิยาย และ Suho ก็ยังเก่งไม่พอสู้ด้วยซ้ำ ดังนั้น ก็เลยทำให้พี่ Hajin ต้องมาออกโรงเอง เพื่อไม่ให้ตัวละครเหล่านี้ต้องตายไปก่อน เป็นความห่วงใยตัวละครในฐานะนักเขียนและคนดำเนินเรื่อง แต่ทีนี้ พอทำไปเรื่อยๆ หลายๆ ครั้ง ก็เลยทำให้ทั้ง Chae Nayun และ Rachel สองคนนี้เกิดการมโนเข้าใจผิดไปว่าอี Hajin ชอบตัวเอง ซึ่งก็ขำมากที่ Hajin ไม่รู้เรื่องอะไรเลย คิดแต่เพียงว่าตัวเองรู้เนื้อหาของเรื่อง และพยายามป้องกันเหตุก็เท่านั้นเอง

ตอนแรกไม่คิดว่าจะชอบเรื่องนี้มากขนาดนี้ แต่เพราะ Novel’s Extra เล่าถึงชีวิตของตัวละครที่อยู่ในโลกจริง (ของเหล่าตัวละคร) ก็เลยทำให้ดูสมจริงกว่าเรื่องของโลก MMORPG หลายเรื่อง และที่สำคัญ เพราะอยู่นอกเกมก็เลยมี variables ที่คาดเดาไม่ได้มากกว่า ต่างจากการเป็นเนื้อเรื่องวนของโลก MMORPG (ได้รับ quest/ เจอ event – แก้ปัญหา – ได้ค่าประสบการณ์/ ของ/ คน) หรือแนว action อย่าง Reincarnator ที่เน้นแค่การต่อสู้ เป็นการ  clear stage ที่ฝ่าฟันให้สำเร็จไปแต่ละชั้น

กับชอบการเน้นอารมณ์ในเรื่อง นอกเหนือไปจากการสร้างความผูกพัน และมิตรภาพกับตัวละครรอบตัว ก็คือตอนแรกที่เข้ามาในเรื่อง สิ่งเดียวที่ Hajin ทำก็คือเร่งให้ตัวเองเก่ง กับพยายามคุมเรื่องให้ได้อย่างที่ควรจะเป็น สองอย่างนี้ก็ทำให้ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น และก็ทำให้เจ้าตัวอยู่ในสภาพกดดัน และไร้เพื่อน จนเหมือนว่าการมาอยู่ต่างโลกเป็นความทรมานที่ต้องดิ้นรนทุกลมหายใจเพื่อจบเรื่องและกลับไปอย่างโลกเดิมให้ได้ แต่อย่างที่บอกว่า 'No man is an island' พี่แกก็ค่อยๆ สร้างรู้จัก สร้างสัมพันธ์ และผูกพันกับตัวละครในเรื่องขึ้นมา จากที่เคยเป็นหมาป่าโดดเดี่ยวก็เรียนรู้ที่จะมีสังคม และห่วงใยคนอื่น ชอบที่พอเปลี่ยนเนื้อเรื่องและได้แม่มดอย่าง Evandel ที่มาเกิดใหม่ ก็เลี้ยงและให้ความรักน้องหนูอย่างดี ในแง่ที่สุดท้ายแล้วตัวเด็กที่เลี้ยงกลายเป็นแหล่งพลังงานและ pillar support ของ Hajin เลยด้วยซ้ำ

แต่เพราะเน้นอารมณ์ก็เลยกลายเป็น plot change อีกนั่นแหละ เหตุหนึ่งที่ Hajin กดดันมากก็คือการที่ต้องฆ่าพี่ชายที่อยู่ในสภาพโคม่าของ Nayun เพราะว่าอีกฝ่ายกลายเป็น evil seed ไป แล้วความรู้สึกผิดตัวนี้ก็เป็นตัวเร่งให้เจ้าตัวออกจากโรงเรียน Hero ไปเป็นทหารรับจ้างกับกลุ่ม Chameleon Troupe กลายเป็นเป็น step 2 ของเรื่อง เปิดศักราช Hunter x Hunter theme กันไป ซึ่งเอาจริง ตอนแรกเปิดมาความรู้สึกของ Hajin ที่มีต่อกลุ่มก็คือพวกนี้ชั่วร้าย แต่แล้วพออยู่ด้วยไป เหมือนว่าสมาชิกหลักอย่าง Boss/ Jain และ Cheok Jungyeong ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เห็น แต่แค่มีนิสัยกันไปคนละอย่างเท่านั้น ... อย่างที่อยากจะบอกว่าเฉพาะคนประหลาดเท่านั้นที่อยู่ด้วยกันได้ และด้วยความสุดโต่งคนละแบบก็ทำให้เรื่องอลหม่านได้ในเชิงไร้สาระเป็นระยะๆ เช่นกัน

นอกเหนือจากเรื่องฆ่าพี่ชายแล้ว อีกอย่างที่ดูดราม่าไม่ต่างกัน ก็คือเรื่องที่จริงๆ แล้วตอนที่มาอยู่ในโลกนี้ Hajin ไม่ได้เข้ามาในฐานะตัวเองตั้งแต่เริ่ม แต่ว่าเป็นตัวละครประกอบชื่อ Kim Chundong ที่ถึงแม้ผ่านการ synchronize ในบทต้นและตามระยะเวลที่ผ่านไป ชื่อและหน้าตาของ Hajin มาแทนที่ Chundong ได้ แต่พื้นเพและความเป็นมาของ Chundong ก็กลายเป็นเรื่องชีวิตของ Hajin ด้วยเหมือนกัน ซึ่งกลายเป็นว่า Chundong เป็นเด็กกำพร้าเพราะพ่อแม่ถูกร่างแหเมื่อเจ้านายถูกปู่ของ Nayun เก็บ และตัวกลุ่ม Chameleon Troupe ก็เป็นผู้ที่ลงมือสังหารโหด โดยเฉพาะด้วยฝีมือของ Boss ... และที่สำคัญ เหตุผลที่ Hajin รอดมาได้ก็คือ Boss ใจอ่อนและเอาตัว Hajin ที่เพิ่งคลอดไปให้สถานเลี้ยงเด็ก — ตอนนี้ก็เหมือนเป็นระเบิดเวลาที่รอการปะทุเหมือนกัน โดยเฉพาะในแง่ความสัมพันธ์ระหว่าง Hajin กับ Boss แต่ไปๆ มาๆ ก็คือ Hajin ไม่สนใจอดีต ในแง่ที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองจริงๆ และก็อยากที่จะลืมอดีตและเดินไปสู่อนาคตเหมือนกัน

ตอนนี้เหมือนเดินเรื่อง step 3 ช่วงเปลี่ยนเนื่อเรื่องอีกรอบ เพราะเหล่าตัวเอก (ที่รวม Hajin) ต่างเข้าไปใน Tower เพื่ออัพเลเวล (สำหรับคนอื่นอาจไม่ชัด ดูเป็นการแสวงหาโอกาสเฉยๆ แต่ Hajin รู้ชัดมาก – ก็พี่เขาเป็นคนเขียน) และโดยเฉพาะสำหรับ Hajin ก็เพื่อเปลี่ยนแปลงเนื้อหาตอนจบ อืม ความเด่นตอนนี้ก็เป็น theme RPG แล้ว ถึงแม้แต่ละชั้นจะมีเป้าหมายต่างกัน และสภาพแวดล้อมบวกเลื่อนไขต่างกัน แต่ดูจุดประสงค์หลัก หรือให้พูดว่าย่อ ก็คือ การเพิ่มค่า stat และเก็บของ เอาจริงเข้าหอคอยมาแรกๆ ก็สนุกดี แต่ตอนนี้ก็เริ่มเบื่อนิดหน่อย เพราะเหมือนเป็นลูปเกมที่ยิ่งเห็นได้ชัดว่า Hajin ที่รู้เรื่องทุกอย่างได้เปรียบขนาดไหน และพยายามสร้างข้อได้เปรียบให้ตัวเองอย่างไร หรือบางทีอาจจะเป็นช่วงที่สร้างความสนิทสนมระหว่างเจ้าตัวกับตัวสมาชิกหลักในกลุ่มที่เข้ามาพร้อมกันด้วย (โดยเฉพาะ Boss)

เอาจริง love interest ที่เป็นไปได้ มีอยู่ 3 ตัว
1. Chae Nayun
ส่วนตัวแล้ว ไม่ชอบคนนี้ที่สุด ไม่ชอบนิสัยและทัศนคติมาก เพราะเป็นเหมือน Amazon / Barrarian Warrior ใช้กำลังไม่ใช้สมอง และชอบมองว่าทุกอย่างหมุนรอบตัวเอง ด้วยความที่เป็นคุณหนู ปู่มีอิทธิพลมากยิ่งทำให้นิสัยเสีย คือก็รู้ว่าชีวิตตัวเองเศร้า แม่ถูก djinn ฆ่า พี่ชายก็โคม่า แต่ขอร้องล่ะ ลองหันไปดูชีวิตคนอื่นบ้าง ทุกคนก็ suffer กันคนละแบบสองแบบไหม? เอามาเป็นประเด็นดราม่าอยู่ได้ ชีวิตตัวเองที่เหลือก็ดีเกินจะดีแล้ว ทำให้ตัวเองทุกข์ และคนอื่นลำบากใจด้วยทำไม
ชอบมีช่วงเวลาบังเอิญเจอกับ Hajin จนช่วงแรก+กลางเครียดมากว่าคนเขียนจะให้สองคนนี้ลงเอยกันไหม แต่เหมือนจะเอามาให้เจอกันเพื่อสร้างความดราม่าในช่วงกลางเรื่องอย่างเดียว สาธุ! ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อ แต่ขอร้องล่ะ เกลียดยัยนี่!

2. Rachel
ตอนแรกชอบคนนี้สุดนะ (ถ้าไม่นับ Yoo Yeonha ที่สุดท้ายอยู่ในรูปพันธมิตรมากกกว่า) อืมม ก็นะ คำว่าชอบก็คือ ship โฮะโฮะ ชอบที่ practical แล้วก็ contained ดี อย่างที่หนังสือบอกว่า precocious ก็ได้เหมือนกัน จากตอนแรกที่ถูก Hajin  แย่งที่หนึ่งในด้านวิชาการไป แต่เพราะถูกช่วยไว้เสมอ ก็ทำให้ Rachel ลดการ์ดลง (แม้จะย้ายไปเป็นการ์ดอีกอย่าง เพราะเหตุผลฉุกเฉินที่ Hajin ใช้เพื่อเป็นข้ออ้างที่อยู่รอบๆ ตัว Rachel เพื่อคุ้มครอง ก็คือ I’m your fan! 555555555) เทียบกับคนแรก คนนี้ Hajin ดูดีใจและมีความสุขที่ได้เจอเสมอ คือว่าพอเห็น Rachel นี่ก็คือยิ้มทุกครั้งได้เลย จริงๆ ชอ เคมีระหว่างคู่นี้มาก อยากจะ ship มาก แต่สุดท้ายคิดว่าความต่างในเชิงความสามารถและปรสบการณ์ชีวิตด้านมืดและด้านสว่างมีมากเกินไป ก็คือคงเป็นเพื่อนอย่างเดียว แม้ว่า Rachel จะมีความชื่นชมตัว Hajin อยู่ด้วย — อ้อ มีเพิ่มอีกอย่างที่ Rachel เป็นแม่ของลูก 555555 เป็นเจ้าของเลือดที่ Hajin ใช้เพื่อเลี้ยง seed แม่มดอันที่จริง ดังนั้น Evandel ก็มีต้นแบบมาจาก Rachel แล้วก็เคยเรียก Rachel  ว่าแม่ด้วยย

อืม ชอบความรู้สึกรับผิดชอบ/ ห่วงใยคนอื่นที่ Rachel มีมาก แม้จะเป็นเจ้าหญิง แต่ทางนี้ไม่เคยเย่อหยิ่งหรือโอ้อวดเลย ถ่อมตัวและมุ่งมั่นจริงจังกับสิ่งที่ตัวเองแบกรับ ไม่ว่าจะความคาดหวังที่คนมีต่อตัวเองในฐานะเจ้าหญิง / การอุทิศตัวให้ประเทศ และ กิลด์ประเทศอังกฤษก็มีเต็มที่ ตอนที่น่ารักมากก็คืออย่างตอนที่ Hajin เอาอาหารให้ และบอกให้ Rachel ย่างเนื้อกวางกินเพิ่ม แต่เจ้าตัวบอกว่าต้องเก็บไว้ให้สมาชิกกิลด์คนอื่นด้วย

3. Boss
ตอนแรกเปิดเรื่องมาดูโหด เป็น dark character ขั้นเทพ แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นเพราะพลังตัวเองทำให้ไม่มีชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น ก็เลยต้องโตอย่างกระพร่องกระแพร่ง นอกเหลือจาก combat grade/ ability นี่ เจ๊เค้าติดลบมากถึงขั้นที่อยู่เองไม่ได้ กลายเป็น Hajin ต้องมาคอยดูแลเรื่อยๆ อย่างที่บอก Hajin ว่าไม่ต้องการพักผ่อน อาทิตย์นึงนอน 5 ชั่วโมงพอ แต่พอ Hajin ทำเตียงให้ก็ทำเป็นเฉยๆ ไม่สนใจ แล้วแอบกระโดดขึ้นเตียง จนถึงขั้นไปซื้อชุดนอนมาเพื่อให้นอนสบายกว่าเดิม แล้วก็มีความเป็นเด็กอย่างแปลก ๆ เช่น ตื่นเต้นได้เอาหัวหมีมาคลุมหัวเป็น helmet

แต่ในแง่หนึ่งก็รู้สึกว่า Hajin เป็นตัวของตัวเองที่สุดเวลาอยู่กับ Boss และที่แปลกใจก็คือ ความรู้สึกที่เจ้าตัวมีต่อ Boss ก็คือ [Longing] [Responsibility] [Affection] [Sadness Towards Your Past] [Trust] [Desire to Look After You] อืม เห็นแล้วก็คิดมากตาม Boss ไปด้วยก็รู่ว่าสงสารเพราะเป็นคนเขียนชีวิตออกมาให้รันทดเอง แต่ความรู้สึกหลายอย่างอย่าง  [Longing] [Affection] มันมาจากไหน? อย่างตอนที่ Boss ใช้พลังหมด ตอนที่ไปอาหารให้  ก็คือ ขึ้นว่า [Lv.3 Porridge Filled with Kim Hajin’s Care] มาแรงแซงโค้งคนอื่นไปจริงๆ มีการป้อนอาหารที่พี่ Hajin ยังคิดว่าไม่เคยทำให้แม้แต่กับ Evandel เลย
และสำหรับ Boss เหมือนก็ติด  Hajin พอสมควร เช่นสุดท้ายที่วิธีดูแลก็ต่างจากคนอื่น และก็กลัว Hajin จะเห็นตัวเองในโหมดโหดฆ่าเลือดสาดด้วย

มีความรู้สึกว่า คน ship คู่นี้เยอะมาก และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็หมายความว่าคนเขียนจับคู่คู่ตัวเอกในเรื่องกับ older women ตลอดเลยนะ ดูจากคู่ Suho สิ

ก็อ่านต่อไปเนาะ ให้ B+ เพราะไม่ชอบความดราม่าอยู่บ้าง มันก็คือ Magic School + Hunter X Hunter + MMORPG

Sunday 9 December 2018

ยอดพธูโจรสลัด

มีสปอยส์ และกัดจิกลากไส้
เขียนเพื่อระบายความเคืองงง  เชื่อถือไม่ได้

ขอยืนยันว่า 1. นิยายรักจีนจากอรุณพล็อตพัง และ 2. Second male lead syndrome มาอีกแล้วววว!

เรื่องนี้เหมือนหนึ่งในบรรดาพล็อตมาตรฐานที่ท่านอ๋อง/แม่ทัพถูกบังคับสมรสพระราชทานแต่งงานกับคุณหนู หมั้นหมายกันไว้ และพอไปรบสี่ปีกลับมาก็พาหญิงที่รักกลับมาด้วย  สูตรสำเร็จเนอะ แต่ทีนี้ สิ่งที่ทำให้สับสนงุงงงไปอีกก็คือ ทั้งนางเอก พระเอก และพระรองต่างมีตัวตนที่สอง นางเอกเหมือนเป็นคุณหนูในห้องหอ แต่ก็มีตัวตนคุณชายมากอิทธิพล พระเอกเป็นท่านแม่ทัพ แต่ก็เป็นเจ้าสำนักลึกลับ ส่วนพระรองเหมือนเป็นเพื่อน/ลูกไล่นางเอกภาคคุณชาย แต่ก็เป็นอ๋องอีกแคว้นด้วย

ทีนี้ ปัญหาชีวิตก็คือตัวพระนาง แย่ที่สุดที่จะรักกันหรือจะชังกันก็ไม่รู้ใจตัวเองสักที แล้วก็เวิ่นเว้อ เงอะงะ ไม่รู้ทางไป โดยเฉพาะพระเอกที่รัก แต่พฤติกรรมเหมือนไม่รัก และไม่ให้ค่า ทำร้ายนางเอกสารพัด ส่วนตัวนางเอก คนเขียนปูทางมาว่า เก่งอย่างโน้น ฉลาดอย่างนี้ แต่ถึงเวลาไม่ได้ใช้ความฉลาดให้เป็นประโยชน์เลย มีแต่พฤติกรรมนอกลู่นอกทางไม่ใช้สมอง บอกว่าเก่งวิทยายุทธ์ โน่น นี่ นั่น แต่ถึงเวลาจริง ใช้อะไรไม่ได้เลย แถมยังบรรยายว่านางลำบากเพราะเป็นกุลสตรีในห้องหออีก อ้าววว แล้วจะบรรยายว่าเรียนวิทยายุทธ์ ตัวเบาสารพัดเพื่ออะไรคะ?

แล้วพล็อตจับแต่งก็มึนงงยุ่งขี้นเพราะอีก second identities อีกด้วย จะมารักกันก็ไม่รักกันง่ายๆ อีก แต่ต้องทำให้ยาก ใช่ไม่ใช่ยากธรรมดา แต่เป็นโง่งมงาย ถ้านางเอกเก่งจริง จะไม่มีทางรู้ได้เลยหรือว่าท่านเจ้าสำนักที่ตัวเองพัวพันด้วยเป็นใคร? ถึงจะใส่หน้ากาก แต่ความสูงเอย บุคลิกลักษณะ และน้ำเสียงมันเปลี่ยนกันไม่ได้ไม่ใช่หรือ? ไม่ใช่อารมณ์ Superman ที่พอใส่แว่นเปลี่ยนชุดก็กลายเป็นบุคคลอีกคนไปนะ
เรื่องย่อหลังปก ทำให้ดูเหมือนมีอะไรเยอะ แต่เอาเข้าจริง มันไม่ได้เยอะเพราะว่ามีเนื้อหาความซับซ้อนเลย มีความรู้สึกว่าคนเขียนผูกพล็อตให้วุ่นวายเกินกว่าเหตุมากกว่า

ความพีคที่อยากด่า
1. ให้นางเอกที่ยังไม่หายดี ใช้ปราณตัวเองช่วยผู้หญิงอีกคน จนนางเอกเดรนสลบไป 5 วัน 5 คืน มาดราม่าว่าคิดว่าเสียนางเอกไป อืมม ดีเนอะ แล้วตอนนั้นไม่คิดว่าอาการหนัก ผลที่จ่ายเพื่อรักษาก็ต้องหนัก? นางเอกอ่อนแอหลังจากนั้น ก็ไม่มองว่าเป็นความผิดตัวเอง/ ทำให้นางเอกต้องเสียสละ ที่สำคัญก่อนหน้านั้น ก่อนที่นางเอกจะหลงมาอยู่กับพระเอกภาคเจ้าสำนัก พี่แกในฐานะท่านอ๋องก็ทำลายวรยุทธ์นางเอกไปด้วยนะ?

2. มีคนจัดฉากว่านางเอกทำร้าย+ลักพาตัวผู้หญิงอีกคน แต่พระเอกก็เชื่อ ไม่ใช่เพราะไม่เชื่อใจนางเอก แต่เพราะพระรองกับนางเอกสนิทสนมกัน? What the FUCKING logic?

3.  จริงๆ อยากจะบอกว่าไม่สำคัญที่เป้าหมายจะเป็นอย่างไร แต่วิธีการก็สำคัญ แล้วทำไมยังกลับไปอยู่กับพระเอกอีกคะ? พระรองนี่ดีโคตรจะดี? เหมือนสูตรนิยายน้ำเน่านิด ที่เพราะเค้ารักฉัน ที่ผ่านมา เค้ารักฉัน ดังนั้นไม่เป็นไร? แล้วที่ประกาศตัดญาติไม่เผาผีกันก่อนหน้านี้คืออะไร? มันไม่สำคัญที่สุดท้ายแล้วเค้าคิดอย่างไร แต่ทางนั้นปฎิบัติต่อเราอย่างไรด้วยไหม? หนูคะ การที่ปูทางให้หนูฉลาดมาตลอดไม่มีผลในการประมวลผลในหัวหนูเลยเหรอคะ? ก็กลับไปเนอะ ความรักชนะทุกสิ่ง รวมถึงเหตุผลด้วยค่ะ

ความดราม่าพล็อตพังตามแบบอรุณยังมีสม่ำเสมอ เอาจริงๆ ตั้งข้อสังเกต ว่าพอเป็นเรื่องจีนย้อนยุค อรุญเลือกเรื่องมาไม่ดีเลย มีความดราม่าเวิ่นเว้อวกวนแบบที่ไม่ควรจะมีเต็มไปหมด ส่วนตัวถึงกับคิดว่าถ้าเจอแนวนี้ ปูภาพให้นางเอกฉลาดมาก ก็กลายเป็นยิ่งโง่มาก ให้พระเอกเฉียบแหลมชัดเจนก็กลายเป็นยิ่งพะวักพะวงสองใจ และดังนั้นเจอแบบไร้สมองไม่ต้องคิดแบบมากกว่ารักเล่มบางยังจะเคืองน้อยกว่า

แต่กลับกัน ถ้าเป็น เรื่องวาย Rose เลือกเรื่องออกมาได้ค่อนข้างดีกว่านะ // แอบอวย เพราะกำลังจะแปล Thrive In Catastrophe 55555 อ่านจบสามร้อยรอบก็จะซื้่ออออ!

ปล. (บอกกับตัวเอง) เพิ่งเห็นว่าเอา Wallbanger มาแปลด้วย ไม่น่าเชื่อว่าไม่ได้อ่านแนว chicklit มานานมากแล้ว ตั้งแต่ 2012 แล้วละมั้งงง เหมือนกระแสนี้สาบสูญไปแล้วชอบกล หรือว่าเป็นแค่กับฉันคะ?

กับมีแปลงานของ Rachel Gibson เยอะมาก คิดถึงตอนอ่าน Rescue Me แล้วแพ้ภัยตัวเอง ท่าทางชาตินี้คงไม่ใช่แนว realistic contem เนอะ /ร้องไห้ความสวนทางชาวบ้านดีไหม? หรือดีใจกับความไร้ความจริงในชีวิตดี?