Thursday 14 April 2016

บุปผาสีชาด

คงจะออกแนวสวนกระแสกับชาวประชา เพราะว่าอ่านแล้วไม่ชอบ ถึงขนาดที่ว่า นั่งคิดว่าเสียเวลาอ่านอะไรอยู่เนี่ย อ่านเท่าไหร่ถึงจะเป็นจุดพีคที่คนอ่านบอกว่าสนุกเสียที

หนังสือเล่าถึงนางเอกที่พยายามแก้แค้น และมีการปูพื้นว่ามีความงดงาม เฉลียวฉลาด และเก่งรอบด้านจนถึงขั้นเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของแคว้น แต่ส่วนตัว นอกจากความงามแล้ว ไม่เห็นสิ่งอื่น ๆ โดยเฉพาะ ความเฉลียวฉลาดนะ ซึ่งพอมองว่าคุณสมบัตินี้ต้องมาพร้อมกับความเยือกเย็นจนสุขุมพอที่จะมองเห็นและเข้าใจสถานการณ์รอบด้าน ก็ไม่เห็นว่าเธอจะฉลาดตรงไหน ยิ่งเมื่อหลังถวายตัว จริง ๆ สิ่งที่เกิดก็คือใช้ความงาม และการออดอ้อนเป็นการปูทางให้ตัวเอง ส่วนนิยามความฉลาดที่พูดมา ที่อ่านเจอจะเป็นแนวว่า ทำอะไรลงไป หรือไม่ก็เกิดเหตุการณ์อย่างหนึ่งขึ้นมา แล้วก็จะมีคนมาเตือนว่าทำไม่ถูก ซึ่งเธอก็จะรับรู้ และเปลี่ยนแนวทาง ถ้ามองว่าความฉลาดคือยอมรับจุดอ่อนตัวเอง แล้วความฉลาดในแง่อดทนสุขุมล่ะ? แม้ปากจะบอกว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรกับคนใช้ แต่หลัก ๆ เป็นเร่งวันรอว่าเมื่อไหร่ฮ่องเต้จะรักตัวเองอยู่เท่านั้น โดยไม่ได้อดทนว่าเพิ่งถวายตัว ต้องเก็บไปทีละขั้นเลย

อีกอย่างคือแม้บอกว่านางเอกความเลือดเย็น อำมหิต บอกว่าทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ นอกจากการยอมถวายตัว (ซึ่งในแง่หนึ่งอาจจะดีที่ว่ามีร่มเงาให้อาศัย) ก็ไม่เห็นเลยนะ นอกเหนือจากเวลาทำโทษบ่าวไพร่ที่อาศัยความรุนแรง (โบยเป็นส่วนใหญ่) ก็เท่านั้น

แต่ก็นั่นแหละ ทุกคนทีหนทางของตัวเอง วิธีนี้อาจจะถูกต้องสำหรับทางเลือกของตัวเอกในเรื่องก็ได้ แต่อ่านไป 2 เล่มแล้วไม่รักจริง ๆ ขอโทษนะหนังสือ T_T
 

Saturday 9 April 2016

ผลาญ 4+5

-อาจสปอยส์-

เล่ม 4

เล่มนี้บ้าซื้อ e-book ก่อน เพราะรอเล่มหนังสือไม่ไหว บ้าบอจริง ๆ แต่ก็ไม่ผิดหวังนะ เพราะถ้าตัดจากเล่ม 2 ดีไม่ดี อาจจะสนุกที่สุดเลยก็ได้ ทั้งการแก้แค้น แล้วก็พัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างตัวพระ-นาง ช่วงที่ชอบมากคือช่วงแย่งเสบียงทหาร เจี่ยงหร่วนเป็นนางเอกที่ยิ่งอ่านก็ยิ่งชัดว่า ฉลาดเพราะฉลาดจริง ๆ ไม่ใช่ฉลาดเพราะคนเขียนบอกว่าฉลาด แล้วก็ไม่ใช่ซื่อ เป็นคนดีจนถูกคนอื่นหาประโยชน์ (โดนไปแล้วหนึ่งชาติ ชาตินี้ก็ไม่ควรจะซ้ำอย่างเดิมใช่ไหม) แต่ก็ขัดใจนิดนึงที่ตัวร้าย (อยู่บ้าง) ที่ทรยศนางเอกไม่ใช่คนที่อยากให้เป็น และก็รู้สึกว่าเรื่องมีน้ำหนักน้อยไป เป็นแค่การสร้างปูเรื่องให้ดูซ่อนเงื่อนมากกว่ามีผลจริง ๆ

เล่ม 5

เล่มนี้ทั้งสนุกแล้วก็ไม่สนุกไปพร้อมกัน บางทีเพราะพอรู้สึกว่าหนังสือจะจบแล้วก็เลยคาดหวังไว้ว่ามันจะต้องสนุกแบบเกินร้อย แล้วก็เน้นตัวเอกแบบจริงจัง พอช่วง 1/3 เล่มแรกไปเน้นที่อย่างอื่นก็เลยรู้สึกหงุดหงิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เหมือนเป็นฝ่ายให้ตัวร้ายกระทำอยู่นาน ส่วนการแก้แค้น รู้สึกเขียนไม่ค่อยดีให้รีบ ๆ จบ ๆ ไป จะได้เน้นที่การปูทางให้องค์ชายทั้งหลายต่อสู้กันเป็นรูปธรรมแบ่งฝ่ายมากขึ้น และการครองบัลลังค์ได้ฮ่องเต้องค์ใหม่แทน  แต่จะว่าไป ถ้าไม่ลำเอียงต้องอ่านเรื่องนางเอก ช่วงสู้กันก็สนุกนะ เพราะว่ามีตัวแปรที่มองไม่เห็น (หรือจริงๆ ควรเขียนว่าตัวพลิกกระดาน) อยู่หลายตัวพอสมควร เอาเถอะ ... ไปอ่านอีกรอบ อาจจะได้ข้อสรุปที่เปลี่ยนความรู้สึกก็ได้

ปล. ชอบคู่พี่ชาย แต่หงุดหงิดว่า คนเขียนเขียนแค่แตะ ๆ แล้วก็ไม่ได้ลงอะไรต่อลึกซึ้ง กลายเป็นว่าเรื่องของสาวใช้ยังไม่มีน้ำหนักมากกว่า (ทำอย่างนี้ได้อย่างไร) แล้วก็ขอบอกว่า สงสารตัวร้ายที่อุตส่าห์คิดการร้ายใหญ่โต แต่ดันมามีเจ้าหนี้รายใหญ่ถึง 2 คนเดียวก็หนักแล้ว นี่มาเป็นแพ็คคู่ ดูอย่างไรก็ต้องพ่ายแพ้สถานเดียว

(เพิ่ม 13.04.16)

มีหลายคนบ่นว่าจริง ๆ ผลาญเน้นการแก้แค้นแบบที่ให้นางเอกเก่งคนเดียว จนถึงขั้นไม่สมจริง แต่ส่วนตัวมองว่านี่คือเสน่ห์ของเรื่องนะ เหมือนกับที่ชอบ ชายาฯ ในแง่ที่ว่า “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” จริงจัง ก็ยังรู้สึกอยู่ดีว่านางเอกเก่ง เพราะว่าเก่งจริง ๆ ไม่ใช่เป็นเพราะคนเขียนบอกให้เก่ง แล้วคนอ่านจะต้องรับรู้และรู้สึกร่วมตาม วิธีคิด (หรือในอีกแง่หนึ่งก็คือ วิธีแก้เกม และคิดโต้กลับล่วงหน้า) ทำได้สนุก และน่าพอใจ โดยเฉพาะในเล่ม 2 ช่วงที่รับมือกับตระกูลหลี่ และเล่ม 4 เมื่อมีการสับเปลี่ยนเสบียง เจี่ยงหร่วนทั้งคิดการณ์ไกล และวางแผนอย่างแม่นยำ และเลือดเย็น ถ้าจะมองว่า ไม่ได้ฉลาดจริง แต่ว่าเก่งได้เพราะเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า การแก้สถานการณ์อาจจะไม่ได้หมดจดขนาดนี้ก็ได้ เพราะการแก้มือ (หรือให้ชัดว่าการแก้แค้น) ไม่ได้ทำแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ พอหอมปากหอมคอ แต่เป็นถึงระดับที่ถ้าไม่ให้อีกฝ่ายหมดโอกาสขาดที่ยืนในสังคม เป็นการฆ่าทางอ้อม ก็เป็นการฆ่าทางตรงเลย ยังไง ๆ ก็เป็นเรื่องจีนที่ชอบที่สุด และอ่านซ้ำได้มากที่สุดเรื่องหนึ่งอยู่ดี เพราะว่าองค์ประกอบและมิติหลายอย่างในเรื่อง ถูกจริตส่วนตัว และซึ่งเมื่อใช้คำนี้ ก็เป็นเรื่องของลางเนื้อชอบลางยาตามมา

จุดเดียวในเรื่องที่ไม่ชอบก็คือ การที่คุณเธอทำเฉยชากับคนอื่น เพราะคิดว่าจะเป็นการตัดความสัมพันธ์เพื่อช่วยคนที่รัก ไม่ได้เกิดผลดีอะไรตามมาเลย ในกรณีตระกูลเจ้า สุดท้ายยังมีเรื่องให้กลับไปต่อกันได้ (แม้ว่าจะเป็นหลังถูกครหาว่าได้ดีเป็นองค์หญิงแล้วลืมญาติมิตร) แต่สำหรับเพื่อนก็ทำให้เพาะสร้างโอกาสให้กลายเป็นตัวร้ายไปเพราะว่าเรื่องนี้ได้อีก