Sunday 25 August 2019

It’s Actually Not Easy Wanting to be a Supporting Male Lead (1)

เอาจริง พิมพ์ไว้จำเอง เพราะว่าหลายโลกมากจนเริ่มง  — สปอยล์แน่นอนนน เพราะลงรายละเอียดไว้จำเองค่า  

ตัวเอก Sui Yuan เป็นตัวประกอบชายที่มีบทบาทหลักคือหลงรักนางเอก แต่ขณะเดียวกันก็ช่วยผลักดันให้ความสัมพันธ์ระหว่างนางเอกและพระเอกตัวจริงอินเลิฟรักกันชื่นมื่นอีกที

ด้วยการสนับสนุนจาก 5327 ระบบรอบรู้และทรงประสิทธิภาพ (?) การทำงานในฐานะตัวประกอบก็น่าจะราบรื่นสวยงาม — อย่างไรก็ตาม ตามแนวระบบรวน ปัญหาก็เกิดขึ้นเพราะตัวเอกชายค่า! คุณพี่พระเอกเขาก่อปัญหาแล้ว! ทั้งไม่เล่นตามบท ทั้งโคตรแหกซีน นน! ทำตามใจไม่แคร์โลก! กรี๊ดแทน Sui Yuan!


โลกแรก – จีนโบราณ 

นี่คือจุดเริ่มความรวนนั่นเอง

Sui Yuan รับบทเป็นท่านอ๋องซึนที่รักนางเอกแนวกล้าหาญ รักความยุติธรรม แต่ขณะที่กำลังจะเตรียมแสดงฉากอีเวนต์แรกเจอ เจ้าตัวที่เพิ่งเกิดใหม่จากระบบก็ตื่นตาตื่นใจกับตลาดในฉาก ช็อปแหลกลานสนุกสนานจนของเต็มไม้เต็มมือ และขณะที่กำลังทุกข์ใจว่าจะเอาของไปกองที่ไหนระหว่างต้องไปเข้าฉากร้ายใส่นางเอก ก็มีหนุ่มหล่อท่าทางใจดีเข้ามาช่วยถือของ และแม้จะใส่หัวโขนตัวเลวไปเข้าฉากร้ายกาจใส่นางเอกแล้ว แต่ความใสซื่อก่อนเข้าฉากก็เผลอไปต้องใจคุณพี่ที่เข้ามาช่วยจนได้ เวลาผ่านไป พี่พระเอกก็เหมือนจะใช้เวลาอยู่กับ Sui Yuan มากกว่านางเอกเสียอีก และที่สำคัญ จากความซื่อเล่นตามบทมากเกินไป ก็เลยทำให้พี่เขาคิดมากว่าน้องมีใจเสียด้วย และแม้จะพยายามประคองพล็อตอย่างไร สุดท้ายนางเอกที่รู้สึกตัวว่าไม่สามารถเข้ามาแทรกระหว่างสองคนนี้ได้ ก็ตัดใจแต่งงานกับพระรองอีกคนไป

เหลือกันสองคน พล็อตชิงบัลลังก์แย่งอำนาจก็ยังดำเนินอยู่ต่อไป แต่คราวนี้ น้องเล่นตามกรอบแบบมึนๆ จนคนทั้งโลกเข้าใจว่าเป็นพวกบูชารักและทุ่มเททุ่นทุนเพื่อคุณพี่พระเอกอย่างจริงใจ แม้จะจบที่เหมือนจะเข้าพล็อตได้ แต่กลายเป็นปิดโลกแรกด้วยความแค้นของพี่พระเอก ซึ่งก็เป็นตัวแสดงเหมือนกัน และเป็นนักแสดงตัวเอกรุ่นท็อปเสียด้วยย! ดังนั้นเมื่อเข้าใจว่าน้องมาลูบคมมม พี่ Zhao Xihe เขาก็เริ่มมิชชั่นว่าจะรังควานน้องเอาคืน!

ตอนที่ชอบส่วนตัว คือ ตอนแรกที่ซื้อของแล้วสำนึกว่าไม่มีทางหิ้วของไปเล่นตามบทได้ กับตอนที่เล่นเพลงส่งพระเอกไปรบ แล้วดันไปฟังระบบไม่จบความจนเล่นเพลงลาคนรักให้ทุกคนเข้าใจผิดเนี่ยแหละ


โลกที่สอง – สู้ซอมบี้วันสิ้นโลก

เปิดฉากมาที่การเป็นหนุ่มหล่อสายซอล์ฟละมุนที่ช่วยเพื่อนสาวไว้ได้ ตามหลักการแม้จะมีพลัง และนิสัยดีก็อยู่ได้แค่เฟรนด์โซนเหงาๆ เพราะสาวเจ้ารักพี่พระเอก แต่ที่นี้ พล็อตก็เริ่มเพี้ยนเพราะ Sui Yuan เล่นดีเกินไป เพื่อนสาวที่ควรจะแค่รักพระเอกก็ตกหลุมรักเจ้าตัวแทน และที่สำคัญ อีพี่ Zhao Xihe ก็โผล่มาแล้วด้วย มาตั้งแต่ต้นๆ เรื่องแทนที่จะเป็นกลางเรื่องเหมือนเดิม แต่คราวนี้ แทนที่จะทำตัวเทพและปักธงนางเอกได้ พี่แกก็มุ่งแต่วอแวน้องหรือไม่ก็จับน้องโยนไปสู้กับซอมบี้เพื่ออัพเกรดความสามารถจนพล็อตหลุด ตอนหลังแม้น้องจะรีบสู้กับซอมบี้แล้วตายหนีพระเอกไปโลกต่อ แต่พี่อีก็ดันรีบตายตาม โถ โถ โถ

ชอบตอนที่เพื่อนพระเอกบอกว่าพระเอกหายไปเพราะว่าไปตามหาอาซ้อ แล้วทุกคนมองว่าคือนางเอก แต่อีพี่ลาก Sui Yuan มาแล้วบอกว่าทุกคนเข้าใจผิด


สาม – แฟนตาซีตะวันตก

โลกนี้จำได้เบลอมาก Sui Yuan เป็นลูกครึ่งเอลฟ์กับดาร์กเอล์ฟที่ถูกรังเกียจ แต่ตามบทจะถูกนางเอกช่วยไว้ได้ แล้วก็ตกหลุมรักนางเอกตั้งแต่ตอนนั้น ความขำคืออีพี่ที่รับบทเป็นฮีโร่พังพล็อตตั้งแต่เริ่ม (ใช่ค่า ดีกรีพล็อตหลุดมันเริ่มเกินการควบคุมแล้วว) โดยมาช่วยน้องไว้แทน แล้วก็คอยตามวนอยู่รอบตัวน้อง แม้จะมีนางเอกอยู่ด้วย แต่ก็ประหนึ่งตัวประกอบจืดจาง โลกนี้อีพี่ก็แสดงอภินิหารจบกลายเป็นความรักต้องห้ามระหว่างฮีโร่แสงกับจอมมารเอลฟ์ที่มีพลังความมืดไป


สี่ – ผู้ฝึกตน/ เซียน

ระบบรีบพา Sui Yuan หนีมาโลกนี้ เพราะว่ามีตัวประกอบหลายคน มีแนวโน้มที่ถ้าอีพี่ Zhao Xihe โผล่ตามมาด้วยก็อาจจะพรางตัวได้ แต่โถ จะเหลือเหรอคะ? ตามบท Sui Yuan ต้องเป็นศิษย์เอกอนาคตไกลของเจ้าสำนัก และก็หลงรักนางเอกศิษย์น้องที่เป็นลูกศิษย์ของ sword master แต่ไม่ต้องสงสัยว่าอีเจ้ายอดเขา sword master นี่ก็คืออีพระเอก ถึงแม้แรกๆ จะดูก้ำกึ่งก็ตามที

ขำที่ปฎิสัมพันธ์ระหว่างสองคนนี้ไม่ค่อยชัด และ Sui Yuan ก็ยังไม่แน่ใจว่าอีพระเอกเล่นบทอะไร เพราะศิษย์อนาคตไกลสำนักข้างๆ หรือแม้กระทั่งฝ่ายมารก็มาป้วนเปี้ยนรอบตัวด้วยเหมือนกัน แต่ทุกอย่างประทุเพราะ Sui Yuan เอาตัวเข้าไปแลกกับศิษย์น้องจนอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมกับแบดบอยฝ่ายมารพอดี ทีนี้ พอ sword master มาเห็นก็หึงหน้ามืด อะไรคือการบอกว่าตกต่ำเข้าสู่ทางสายมาร จริงๆ มันก็แค่หึงเลือดขึ้นหน้าทำลายทุกอย่างเองนี่นา

ทุกคน แม้กระทั่งตัว Sui Yuan ก็เข้าใจว่าท่าน sword master อินเลิฟกับลูกศิษย์สาว (ตามพล็อตก็เป็นแบบนั้น) ดังนั้น เพื่อให้อารมณ์กลับมาเป็นปกติ ก็ควรให้ศิษย์น้องเสียสละตัวให้ไป แต่ที่กลับตาลปัตร คือศิษย์น้องถูกโยนออกมาแล้วบอกว่าให้เป็น Sui Yuan แทน ถูกกินไม่พอ ยังถูกตั้งข้อเสนอให้อยู่ด้วยกัน แล้วจะยอมเล่นตามพล็อตอีก

The Former Wife of Invisible Wealthy Man

ตัว Ye Sui หลุดเข้ามาเป็นตัวนางร้ายในนิยาย ตามเนื้อเรื่อง เจ้าตัวแต่งงานกับ Chen Shu อาของพระเอก เพราะว่าอยากใกล้ชิดกับคุณพี่พระเอก และก็ใกล้จะหย่ากับคุณอาเพื่อไปใกล้ชิดอินเลิฟกับคุณพระเอกให้เต็มที่!

เอาล่ะ พอหลงเข้ามา ก็กำลังหย่ากับคุณอาโคตรของโคตรหล่อพอดี แต่เผอิ๊ญ น้อง ของเรามองเห็นผีค่า คุณ! น่ากลัวมาก อยู่ไหน ยังไง ก็เห็นผีหมด แถมมาเป็นหมู่คณะเสียด้วยย!  น้องกลัวผี และกลัวผีจริงจังมากกก! จะทำอย่างไรดี! ระหว่างกำลังกรีดร้องคลุ้มคลั่งอยู่ก็ค้นพบว่ารอบๆ ตัวคุณอาไร้ซึ่งผี และที่ดีกว่านั้น ถ้าแตะตัวคุณอาแล้ว เหล่าผีก็จะหายไปเสียด้วย

และแล้ว ปฎิบัติการทำเนียนหลอกแตะตัวพระเอก (ตัวจริง) ก็เริ่มขึ้นน 

ที่สำคัญ ด้วยความกลัวผี ก็ทำให้น้องเขาเห็นคุณพี่ประหนึ่งขอนไม้ให้เกาะกลางมหาสมุทร ไม่ว่าจะอยู่ไหน ทำอะไร ก็พร้อมจะเห็นพี่เขา และพุ่งตัวเข้ามาหาด้วยความไวแสง ขนาดต้องออกไปนอกค้างนอกบ้าน ก็แอบขโมยกระดุมเสื้อพี่เขาไปเป็นเครื่องราง หรือพอพี่เขาไม่อยู่ก็กลัวผีจนต้องหนีมานอนบนเตียงในห้องคุณพี่ ดูรักและซื่อสัตย์ภักดีต่อคุณสามีเป็น loving wife ตัวอย่าง

ตัว Chen Shu ถูกออกแบบบุคลิกมาให้เป็นคนเคร่งเครียดและเย็นชาตั้งแต่ตอนแรก ดังนั้น แรกๆ พี่เขาก็พยายามเลี่ยงสัมผัสน้อง แต่ไปๆ มาๆ อาการกลัวผีน้องก็น่ารักน่าสงสาร และน่าขบขัน ก็ทำให้คุณพี่ใจอ่อนโอ๋น้องไปไม่รู้ตัว — ตอนแรกอ่านแล้วก็นึกว่าต้องลุ้นนานกว่าน้ำแข็งในใจพี่เขาจะละลาย แต่เอ๊ะ! ทำไมเข้าสมาคมพ่อบ้านใจกล้าง่ายและเร็วขนาดนี้คะ พี่? น้องทำอะไรก็ถูกต้องดีงามหมด บอกว่าร้อน ขณะหิมะตกท่วมบ้าน พี่ก็พร้อมจะเออออว่าอากาศร้อนตามน้องไป ไม่นับอาการป๋าเปย์ที่พร้อมจะซื้อแม้กระทั่งวิลล่าริมทะเลไว้เซอร์ไพร์น้องงง! หล่อมากและดีมาก ไม่มีที่ติมากค่า เฮียย

แต่เอาจริง ถ้าพี่ไม่รีบโอ๋น้อง น้องอาจจะหัวใจวายตายไปก่อนก็ได้ เพราะว่าคุณเธอเจอผีได้ทุกที่ ทุกเวลา ขึ้นลิฟต์ก็ลิฟต์ค้าง ไฟกระพริบติดๆ ดับๆ อยู่บนรถบัสกับคุณสามีเหมือนมีคนเต็มรถ แต่คุณสามีก็พูดขึ้นมาว่า ทั้งรถมีแต่เราสองคน (...) แล้วที่เหลือคืออะไร ฮืออออ // อ่านดึกๆ เงียบๆ คนเดียวก็เริ่มเย็นหลังเหมือนนะ ㅠ

ที่น่ารักมากอีกอย่างคือว่าพอเจ้าตัวเข้ามาอยู่ในร่าง Ye Sui ด้วยความที่อีคิวเต็มร้อย ทะลุร้อยก็ทำให้เป็นที่รักคนรอบข้างได้ และก็ช่วยดูจิตใจคุณพี่พระเอกเสียด้วย สองคนดูประคับประคองกันมาก และพอสนิทกันมากขึ้น ก็เริ่มมีการที่คุณสามีช่วยไล่ผีเสียด้วย ฉากที่ขำมากฉากหนึ่ง คือสองคนไปเที่ยวต่างจังหวัด แล้วพอค้างห้องโรงแรม น้องก็คิดว่าที่ใหม่ จะมีผีกลุ่มใหม่มาไหม แล้วก็มีจริงๆ เจ้าค่ะ! ระหว่างที่กำลังกลัวจิตหลุด พี่พระเอกก็เข้ามาพอดี แล้วพอมีผีทีวีที่เลียนแบบซาดาโกะไต่ออกจากจากทีวี พี่แกก็ “เหยียบ” กองผมของผีจนขยับตัวไม่ได้ จนต้องร้องให้น้องช่วยบอกให้คุณสามีเลิกเหยียบ จากที่กลัวผี ก็เลยกลายเป็นสงสารกันแทนไป

เรื่องนี้ Ye Sui เป็นดาราที่ไม่ค่อยดัง แต่เพราะข้างในเปลี่ยน และบุคลิกเปลี่ยน ไม่นับความสามารถที่มากกว่าร่างเดิมก็เลยทำให้ติดตลาดขึ้นมา และที่สำคัญ พอเจอผีไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมีการช่วยเป็นสื่อกลางให้เหล่าผีกับคนที่รักด้วย แต่ละคนก็เป็นพวก big wig ทั้งน้านนนน เมื่อได้พูดคุยกับคนที่จากไปแล้วก็ดีใจ รีบตบรางวัลอลังการน้องสิคะ

อ่านได้เรื่อยๆ เป็น rom-com แนวฟิลกู๊ด แต่ว่าถ้าอ่านติดอ่านรัวก็จะเป็นลูปวนเรื่องซ้ำไปประมาณนึง ส่วนตัวให้ C++/B -- แล้วแต่ช่วง สรุปใจความว่า “How ghosts help me discover the you and fall in love, and how you become precious to me.” บอกรักมากก อืมมม



สปอยล์ที่ก็ไม่ค่อยสปอยล์

อื่นๆ ก็คือ พระเอกดูว่าเป็นสมาชิกตระกูลใหญ่ที่ถูกคนในตระกูลเย็นชาใส่ แต่จริงๆ พี่เรารวยมากกกกกก เป็นเจ้าของค่ายบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดโดยที่คนไม่รู้ และดังนั้น พี่ก็พร้อมเปย์น้อง และผลักดันน้องเต็มที่

Friday 2 August 2019

นิยายเรื่องนี้ข้าไม่ได้เขียน

วิพากษ์แอนด์วิจารณ์ กับสปอยล์นะคะ

นักเขียนนิยายหลุดมาอยู่ในนิยายที่ตัวเองเขียนเป็นพล็อตปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือไม่ค่อยเจอพระเอกสายนอร์มอลที่ blackened ทั้งหมกมุ่น ทั้งเป็นเจ้าของ ทั้งยึดติด ช่วงเล่ม 1-2 ก็ยังรู้สึกว่าน่ารักดี เข้าใจได้ว่าเพราะเป็นหลานชายที่ถูกย่าผู้เป็นผู้นำตระกูลเกลียด จนแท้กระทั่งคนรับใช้ต่ำต้อยก็ดูถูกตัวเองได้ มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะติดกับน้องสาวที่ให้ความสำคัญและทำดีกับตัวเองนะ

ช่วง 2 เล่มนี้ดูเป็นนิยายรักสดใสหวานแหวว น้องทำดีกับพี่ชาย (แม้ว่าจะเป็นเพราะสงสารส่วนน้อย และต้องการเอาตัวรอดส่วนใหญ่) และพี่ชายเริ่มให้ความสำคัญกับน้อง แม้ว่าความสำคัญนี้จะเริ่มแปรสภาพเป็นไปการครอบครองเป็นเจ้าของ ก็ยังอยู่ที่ระดับที่รับได้อยู่

ขำที่นักเขียนเราหลุดมาอยู่ในนิยายไม่เป็นไร แต่ว่าปักธงผู้ชายทุกคนที่ควรจะไปเกาะรอบๆ นางเอก ซึ่งก็คือพี่สาวชาเขียว สวย เก่ง แต่อีคิวติดลบ อ่อยทุกผู้ ตรงข้ามน้องไม่เก่ง แต่น้องอีคิวดีเพราะว่าเฉื่อย เจอใครทะเลาะกันก็เลี่ยงไม่รู้ไม่ชี้ไป


[เล่ม 3-5]

แต่ไปๆมาๆ พออ่านเล่ม 3-5 นี่คือเปลี่ยนความคิดแล้ว พระเอกหมกมุ่นมากไปไม่น่ารักจริง แต่ไม่รำคาญเท่าตัวนางเอก คือทั้งที่รู้ว่าต้องระวังตัวกับพี่สาวชาเขียว แต่ก็เหมือนไม่เคยระวังสำเร็จเล๊ยยยย อย่างเรื่องพี่น้องคนอื่นผลักกันตกน้ำ แล้วห่วงจะวิ่งไปดูนี่ โดยไม่ได้คิดว่าจะถูกลูกหลง คือชัดมากว่า น้องไม่เข้าใจสถานะตัวเองจริงๆ น้องคะ ทุกอย่างในโลกนี้อยู่ที่การกระทำและความพยายามนะคะ น้องบอกน้องอยากมีชีวิตดี แต่ก็ไม่เคยคิดจะทำอะไรด้วยตัวเอง เอาแต่พึ่งพี่ชาย ดังนั้น การยึดติดและพึ่งพิงจะทำให้อีกฝ่ายเพิ่มดีกรีความเป็นเจ้าของมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะน้องเอง — ในฐานะคนเขียนนิยาย น้องมีความรู้ความเข้าใจล่วงหน้า และในฐานะที่เป็นคนยุคปัจจุบัน น้องลุกมามีบทบาทอย่างที่ตัวเองอยากทำได้ แม้จะมองว่าสังคมจีนยุคโบราณ ผู้หญิงไม่มีบทบาท แต่เราก็หาทางเลี่ยง และหาทางออกให้ตัวเองได้อยู่นะ ทุกอย่างที่เป็นก็เพราะแค่รักสบาย และติดจะพึ่งพี่ชายอย่างเดียว

เอาจริง จะไปว่าพี่ชายที่กลายเป็นแบบนี้มากก็ไม่ได้ เพราะว่าเจ้าตัวก็หวังให้เป็นเช่นนี้เองด้วยซ้ำ ให้พี่ชายผูกพันและยึดติดกับตัวเองแทนที่จะเป็นพี่สาวที่เป็นนางเอกจริงๆ ของเรื่อง เพราะว่าจะได้รอดตายจากการถูกพี่ชายฆ่าตามพล็อตเดิมในตอนแรก และการยึดติดพี่ชายเป็นที่พึ่งในตอนหลัง เอาจริง ในโลกนี้ไม่ได้มีอะไรที่ได้มาโดยไม่มีค่าตอบแทน และดังนั้น เมื่อหวังให้อีกฝ่ายมายึดผูกพันกับตนในสถานะที่ฝ่ายนั้นไม่ใครเลย ก็คาดเดาผลลัพธ์ได้อยู่แล้วว่าจะลงเอยเช่นนี้ และที่สำคัญ สิ่งที่ทำให้พี่ชายไม่พอใจ และผิดหวังอยู่ก็คือการที่ตัวเอกไม่ได้ไว้ใจพี่ชายมากกว่า และหากว่ามองว่าทำเพื่อให้เอาตัวรอดได้ ถ้าจะซื้อใจคนอื่นได้ก็ต้องเอาใจไปแลก ซึ่งในแง่นี้ ความไม่เชื่อใจและไม่มองคนตรงหน้าอย่างที่เป็นจริง แค่มองผ่านตัวตนที่ตัวเองสร้างในนิยายก็น่าจะเป็นข้อบกพร่องใหญ่อีกเช่นกัน

กับที่รู้สึกรำคาญมากที่สุดก็คือ คนเขียนรู้อยู่แล้วว่าจุดขายเรื่องตัวเองก็คือความละมุนละไมเวลาที่พี่ชายและน้องสาว (ที่จริงๆ ไม่มีสายเลือดเดียวกัน) คอยช่วยเหลือและดูแลกัน แต่ทำไมช่วงเล่มที่เหลือเต็มไปด้วยปัญหา และข้อขัดแย้ง? เริ่มตั้งแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องของคนในบ้านที่ทะเลาะกันจนลุกลามใหญ่โต และซ้ำร้าย ก็คือบรรยายยาวเหยียดหลายบทที่อ่านแล้วก็ปวดหัวรำคาญจนต้องเปิดผ่านไป เอาจริงส่วนตัวมองว่าคนอ่านต่างรอให้พระเอกเก่งกล้าขึ้นมาจนปกป้องน้องสาวได้ โดยเฉพาะจากการให้ร้าย และทำร้ายกันของคนในครอบครัว แต่ไม่มีภาพเหล่านี้ให้เห็นแม้แต่น้อย เป็นแค่การกำจัดแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นย่า พ่อ และแม้แต่พี่สาวไปด้วยการบรรยายสั้นๆ ที่คนหลังแทบจะไม่ถึงหนึ่งหน้ากระดาษเสียด้วยซ้ำ — รวบรัดตัดความจนไม่รู้สึกถึงความสะใจ และพอใจจากการรับกรรมของตัวละครที่ทำชั่วมาเลย ทั้งที่การฆ่าให้จบในเวลาสั้น โดยเฉพาะกรณีของพี่สาว ไม่น่าจะเป็นการแก้แค้นที่น่าพอใจ ถ้าเทียบกับให้อีกฝ่ายอยู่อย่างทรมานต่อไป เช่น เพราะพี่สาวรักษาหน้ามาก ก็น่าจะเป็นการทำลายเกียรตินั้น แล้วให้อยู่อย่างทุกข์ใจต่อไป (ว่าแล้วก็คิดถึงผลาญ)

กับกรณีพี่สาว ทั้งที่ปูให้สวยเก่งสารพัด แต่กลายเป็นว่าเพราะเก่งมากไป ก็เลยดูถูกคนอื่น และแค่ใช้คนรอบตัวเป็นเครื่องมือหาประโยชน์ที่ต้องการ อันนี้เข้าใจ แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมพอเปิดเล่ม 1-2 บุคลิกสุขุมเก็บงำความทะเยอทะยานสูงชัด แต่พอเล่ม 3 เริ่มเก็บความรู้สึกอิจฉาและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวไม่เนียนแล้ว?โดยเฉพาะการดูถูกคนอื่นโจ้งแจ้ง และใช้วิธีการที่ตื้นเขิน รู้สึกเหมือนหลุดบุคลิกไป เหมือนคนเขียนก็อยากสร้างภาพให้พี่สาวนิสัยไม่ดีร้ายกาจ แต่ขณะเดียวกันก็สร้างทางตันเพื่อจะนำไปสู่จุดจบที่เร็วขึ้นเท่านั้น

อย่างที่บอกว่าส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญคือความละมุนละไมเวลาที่พี่ชายและน้องสาวคอยช่วยเหลือและดูแลกันหายไป และภาพที่มาแทน ก็คือการไม่เข้าใจกันของพระนาง โดยเฉพาะเมื่อมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง เปิดประเด็นที่นางเอกตกน้ำเพราะถูกพี่สาวผลักจนเปิดโอกาสให้พระรองเข้ามาช่วยเหลือและใกล้ชิดสร้างสายสัมพันธ์กับนางเอกได้ ยิ่งเมื่อมีการปูเรื่องอุตส่าห์มีสาวรับใช้ที่เป็นวรยุทธ์เข้ามา แต่ก็ไม่ได้เป็นสาระสำคัญอะไรเลย นอกเหนือจากการแสดงให้เห็นข้อบกพร่องในการทำงาน และก็ยิ่งทำให้เห็นได้ว่าคนเขียนปูเรื่องไปในทิศทางความเข้าใจผิดเต็มที่ เพราะสุดท้าย ความไม่มั่นใจความรู้สึกของน้องสาว ก็ทำให้พระเอกเองก็เลือกที่จะเก็บนางเอกไว้ข้างตัวด้วยการกักขัง และเพิ่มความร้าวฉานระหว่างกันให้ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

การสูญหาย และตายจากของตัวละครในตระกูล โดยเฉพาะตัวแม่ของตัวเอก ดูไม่ใช่สิ่งจำเป็น เหมือนเป็นการสร้างภาพบอกให้คนอ่านเห็นถึงการขึ้นมามีอำนาจในจวนเต็มที่ของพี่พระเอกมากกว่า และที่สำคัญก็คือเอาการตายของแม่มาเป็นประเด็นอ่อนไหวของน้องสาวเพิ่ม ทั้งที่อันที่จริง นางเอกก็ไม่ได้ผูกพันกับแม่ถึงขั้นที่จะเสียใจได้ขนาดนั้น และยิ่งความตายทิ้งผลกระทบไว้ในใจนางเอกอย่างมากก็ยิ่งเพิ่มประเด็นในเรื่อง

เอาจริงก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเปลี่ยนโทนให้กลายเป็นรันทดโศกเศร้า อย่างพระรองที่ควรจะอยู่อย่างมีความสุข ก็กลายเป็นยึดติดกับนางเอกไปอีกคน และก็เผอิญหน้าสู้กับพี่ชายอย่างจริงจังจนเหลือทิ้งอาการบาดเจ็บเรื้อรังไว้ด้วย อันที่จริง ต้องเปลี่ยนโทนกันถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?


สปอยล์หนักที่สุด ระวัง!
.
.
.
เพราะการทะเลาะกัน ทำให้สุดท้ายร่างนางเอกที่เป็นน้องสาวตาย และก็กลับมาอยู่ในโลกเดิม แต่เพราะพี่ชายรู้แล้วว่า น้องสาวเป็นใคร และกลับมาได้ก็เลยยังรอ แม้ว่าจะผ่านไปถึง 7 ปี เฮ้ออ กลับไปด้วยร่างตัวเอกก็น่ายินดีที่สลับปัญหาความรักระหว่างพี่น้องในสายตาคนอื่นได้ แต่ทำไมต้องเข้าใจผิด พ่อแง่แม่งอนกันไปอีก? พี่ชายก็โกรธว่าทำไมทิ้งตัวเองไปนาน น้องสาวก็กลัวว่ารู้ความจริงแล้วจะโกรธบีบคอกันอีก กว่าจะรู้ใจ พูดกันรู้เรื่องก็ปาเข้าไปจะจบเล่ม  — ถ้าอ่านเล่ม 1-2 มาควรวาร์ปยาวไปที่ ช่วง 1/4 หรือ 1/5 ส่วนสุดท้ายของเล่ม 5 เลย

ดังนั้น ถ้าจะแสวงหาบรรยากาศสดใสตกหลุมรักในเล่ม 1-2 ขอบอกว่าผิดหวังรุนแรงแน่นอน การเปลี่ยนอารมณ์ในเรื่องเป็นเรื้องจริงของจริง ให้คะแนนที่ B/B- ตอนอ่านเล่ม 1-2 แต่เล่ม 3-5 ถ้าจะต้องอ่านแบบทรมานว่าเมื่อไหร่จะจบช่วงแบบนี้ก็คงไม่ใช่ ดังนั้นขอให้คะแนน D+ ช่วงกลับมาดีกันให้ B- นี่คืออารมณ์ “หัวมังกุท้ายมังกร” “คุณหลอกดาว” “อ้าว ไม่เหมือนที่คุยกันไว้” หรือแม้แต่ “เซอุสรับเครื่องสังเวยมนุษย์” ตามความจริงจัง (และระดับเว่อร์ในการรับชม)

เอาจริงเป็น Such a sloppy and shoddy let-down. มาก จบเรื่องนี้ก็คงจะจบเรื่องรักจีนโบราณแล้ว เพราะเบื่อในความไม่เท่าเทียมกันของบทบาททางสังคม (และในที่นี่บทบาทของตัวละคร) ทั้งที่ไม่ชอบนิยายอังกฤษช่วง Regency เลย แต่นี่ก็ไม่ต่างกันเลย ยิ่งแย่กว่าด้วยซ้ำ ขอไปวายเต็มตัว เพราะว่าถ้าเลือกเรื่องที่ดี ความเสมอภาค บทบาท และความสามารถของตัวเอก และพระเอกไม่ต่างกัน

เอาล่ะ ก็เหลือแต่วายจีนกับแฟนตาซีเกาหลีแล้วนะ ตอนนี้ T_T

เมื่อตัวร้ายตกหลุมรัก โดยจิ๋วอี่

ไม่ต้องห่วง ทั้งอินทั้งสปอยส์เจ้าค่า

“คนเทมแมว แมวเทมคน”

นี่คือหนึ่งในนิยายวายเรื่องแรกๆ หลังจากที่เริ่มอ่านวายเมื่อปีที่แล้วเลย ฮือออ เลยรักมากและผูกพันมากในฐานะที่เพิ่งเริ่มอ่าน แล้วก็ในฐานะคนบ้าแมวเหมือนกัน — อย่าว่าแต่ตัวเอกใจยวบเลยย ดิฉันอ่านไปก็กรีดร้องไปแล้วหันไปนัวแมวตัวเองเหมือนกันค่า

ตัวเอก กู้เหยี่ยน เป็นนักเขียนนิยายสาย bad end ที่แม้ว่าเรื่องจะสนุกอลังการมาตลอดยังไง สุดท้ายก็จบแย่อยู่ดี ดังนั้น พอเรื่องสุดท้าย เหล่าคนอ่านก็ทนไม่ไหว สาปแช่งและสาปส่งจนพระเอกหลุดไปอยู่ในนิยายที่ตัวเองแต่ง

ซึ่งไม่ว่าโลกไหนๆ ก็ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่เขาเข้าไปเป็นแค่ตัวประกอบที่ควรจะถูกลาสบอสฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยม แต่ทีนี้ เข้าไปปุ๊บ ลาสบอสโผล่ในรูปของแมวสิคะ คุณ! เข้าไปโลกแรกใหม่ๆ เริ่มแรกก็ทำเพื่อเอาตัวรอดดีอยู่ แต่ไปๆ มาๆ ในฐานะที่เขียนท่านลาสบอสอิงจากแมวตัวเองก็เผลอไปโอ๋หนักเข้าจนได้ เจอแบบนี้ มีหรือจะปักธงไม่สำเร็จ ท่านบอสรูปแมวก็ชอบให้โอ๋ กอด ลูบ เกาคาง ส่วนคนรักแมวก็ใจยวบ นัวเนียแมวไปเรื่อยๆ ไม่ลืมหูลืมตา

ดังนั้น โลกแรก ท่านอีไลผู้สูงส่ง ราชาของเหล่าเฮดีสที่อยู่บนขั้นสูงสุดของห่วงโซ่อาหารระหว่างดาวก็หลงรักมนุษย์ผมดำอ่อนแอ (?) ที่ดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ เอื่อยๆ

ต่อมา โลกสอง โลกผู้ฝึกตน และความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์และศิษย์ที่ควรจะเลวร้ายตามประสา ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะว่าศิษย์มีเชื้อสายเทาเที่ยอยู่ แต่ใช่ค่ะ คนบ้าแมวเขียนอะไรก็ต้องเป็นแมว ดังนั้น เจียงถาน ลูกผสมเทาเที่ยจึงเป็นแค่แมวก้อนขน และดังนั้น คนบ้าแมวก็ใจยวบบบบบ ไม่ต้องพูดถึง เมื่อเช็คกับระบบส่วนตัวเลยว่ามีความไปได้ที่พี่พระเอกจะตามมาอยู่ในรูปแมวเทาเที่ยด้วยเลย หลงรัก โอ๋หนัก และตามใจหนักไม่สนใคร ส่วนแมวทั้งความทรงจำที่รางเลือนจากโลกเก่าและการดูเอาใจดูแลในโลกนี้ก็ทำให้ท่านอาจารย์กลายเป็นคนสำคัญอันดับหนึ่งและอันดับเดียวในใจไปเรียบร้อย

โลกที่สาม กลายเป็นเรื่องของการตามหากันและกันไปแล้วจ๊ะ ความรักระหว่างเกมเมอร์ที่เป็นนักเวทสุดเทพ กับอาซา ระบบ AI ลาสบอสเหมือนเดิม เอาจริงโลกนี้เป็นโลกที่ชอบที่สุด เพราะว่าเข้ามาในเกมแล้วค่อนข้างเปิดกว้าง เป็นกึ่งๆ เล่นเกมผสมแฟนตาซี เมื่อมีการทำเควสเข้ามาเกี่ยวข้อง ค่างกันโลกอื่นที่เดาทางตามสูตรสำเร็จได้ และที่สำคัญด้วยความที่คุณพี่พระเอกเป็นลาสบอสเจ้าของโลกจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นน ที่น่ารักมากคือพออยู่กับตัวเอกแล้วอารมณ์ดีมากๆ ก็จะคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ทำระบบรวนจนคนหลุดออกจากเกม

ที่สำคัญอีกอย่างคือด้วยความที่เป็นตัวคุมระบบเอง ดังนั้น จะออกไอดีตัวเองใหม่มากี่ตัวก็ได้ กลายเป็นไอดีหล่นเกลื่อนกลาดเพื่อที่อยู่กับกู้เหยี่ยนที่อยู่ระหว่างทำเควสได้ ที่ขำกว่านั้น เพื่อเอาใจและตามใจเจ้าตัวก็ทำให้กลายเป็นเควสลำเอียงทั้งความง่ายทั้งของรางวัลเสียด้วย เป็นช่วงที่อ่านไปกรีดร้องไปได้เลย

โลกสุดท้าย ปรมาจารย์ฮวงจุ้ย/ ปราบวิญญาณ ส่วนตัวแล้วชอบโลกนี้น้อยสุด เพราะไม่อินกับเรื่องแนวปราบผีดูฮวงจุ้ยมาก แต่ช่วงที่เทมลาสบอสอย่างเซี่ยหลานได้ไวด้วยความเร็วชั่วกระพริบตาน่ารักที่ทุกคนรอบตัวงงและตกใจไปเลย กับช่วงสุดท้ายที่คุณพี่พระเอกสติแตกจะฆ่าล้างโลกก็อ่านลุ้นปนขำ

สุดท้ายฉากกลับที่โลกแห่งความเป็นจริงที่เฉลยทุกอย่างก็ทำให้ได้ดีมาก สมบูรณ์แบบมากจนอีพวกชอบล่าหา loopholes ยังต้องก้มกราบ ฮือ ผูกประเด็นจบได้ดีมากจริงๆ 

ความนัวเนียแบบฉันรักแมว แมวรักฉัน แมวรักฉัน ฉันรักแมว ความรู้สึก fluffy ประคับประคองดูแลห่วงใยอีกฝ่าย ทั้งรับและตอบแทนกันอย่างเห็นค่า เป็นเรื่องที่ทำให้เรื่องนี้น่ารักมากๆ แล้วก็อ่านอย่างมีความสุขมากๆ เป็นการตามใจกันไปตามใจกันมาชนิดโอ๋กันไร้ขอบเขตจริงๆ ชอบกู้เหยี่ยนที่ให้ความสำคัญกับคนรักเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกอีกฝ่ายว่า “คนรักของเขา” ตลอด และระมัดระวังไม่ให้อีกฝ่ายต้องเสียใจ โอ๋และให้ความสำคัญกันถึงขนาดที่ว่า ถ้าต้องเลือกกู้โลกกับเลือกแมวฉิวฉิว ตัวเองก็จะเลือกฝ่ายหลัง อย่างเมื่อมีเรื่องใหญ่ ยังถึงขนาดคิดว่าเรื่องกู้โลกเป็นเรื่องรอง เรื่องปลอบใจคนรักเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญที่สุด

และกับแมว ให้ค่าขนาดไหนก็คือเรียกอีกฝ่ายว่า "สมบัติล้ำค่า" ไม่ก็ "ของล้ำค่า" เสมอ และก็ประคองใจ ตามใจเพราะเห็นความสำคัญ และใส่ใจความรู้สึกอีกฝ่ายเสมอ อย่างโลกแรกก็ไม่บุกรุกโลกที่อารยธรรมด้อยกว่าดาวตัวเอง เพราะกลัวว่าตัวเอกจะเศร้าใจ แต่ขณะเดียวกันก็มีการอ้อนและงอแงเรียกร้องความสนใจอย่างเอ็นดูเป็นระยะ เช่น เปลี่ยนร่างเป็นแมวเพราะรู้ว่ากู้เหยี่ยนใจอ่อนแน่ๆ แม้ว่าบางครั้งจะทำแบบร้ายเนียน อย่างเช่น ให้กู้เหยี่ยนกอดร่างตัวเองที่เป็นมังกรแน่นๆ ตอนสู้ ไม่ใช่เพราะว่าจะได้สู้ง่าย ไม่เป็นภาระ แต่เพราะว่าอยากให้กอด ใครจะทำไม!

แต่นอกจากประเด็นความละเมียดละมุน โลกหนึ่งและสองก็มีจุดพีคกระชากใจให้ตัวเอกต้องเสียสละอย่างมากเพื่อพระเอก และในฐานะคนอ่านใจอ่อนก็อยากจะตายไปด้วยคนมาก โลกที่สาม โลกที่สี่ ความรู้สึกผูกพันคะนึงหาก็ทำให้ตายไปอีกสองรอบอยู่ดี

จึงสรุปอย่างไม่เป็นธรรม (นั่นคือลำเอียงงง!) ให้ A+++ สิบเต็มสิบ ไม่ต้องสงสัย เป็น Best Read 2019 ไปเลย (นับภาษาไทยก็แล้วกันนะ) ความรู้สึกด้านบวกสูงมาก ไม่มีพิษและอารมณ์ด้านลบมาแม้แต่น้อย (ไม่นับความขี้หึงของคุณพี่พระเอก เพราะเรารู้กันอยู่ว่าเป็นธรรมเนียมปฎิบัติกันไปแล้ว) อย่างที่ขึ้นว่า
“คนเทมแมว แมวเทมคน
คนโอ๋แมว แมวโอ๋คน
คนหลงแมว แมวหลงคน
คนบ้าแมว แมวบ้าคน” 

หรือไม่งั้นก็จะบอกว่า “A heart-warming love tale based on compassion, consideration and affection” เหรอ? ยังคิดสรุปลงตัวไม่ได้ อืม อืม “A love tale of when the cat maniac loves, and when the cat loves maniacally.” ดูจะเหมาะกว่า

ความรู้สึกคู่นี้ คิดเพลงไม่ออก แต่ถ้าเป็น กู้เหยี่ยน คิดถึงเพลง Me & You ของ Parekh & Singh ท่อนนี้ แต่บางทีแมวก็คงรู้สึกแบบเดียวกันนะ :)

“Are you worried?
That I won't come back and say
That we're in love
In there we are, woah-oh
Just me and you
We can do all the things that you like to do
All it takes
Is just me, just me, just me, me... And you
Move your hands in circles
Keep me hypnotized
All of our love
It's in black and it's in white"

จริงๆ ดีใจที่ Rose ได้ลิขสิทธิ์นะ อ่านอินกว่าการอ่าน mtl ด้วย Chrome เยอะเลย ชอบหน้าปกเล่มหนึ่งที่หลับอยู่กับแมวลายเสือมาก ถึงแม้ว่าปกที่สองจะดูไม่ใช่คู่นี้ก็ตาม (จริงๆ ควรเป็นกู้เหยี่ยนหลับ แล้วแมวร่างคนนั่งดู!) สาธุ อยากได้เรื่อง The Villain’s White Lotus Halo อีกเรื่องแล้วจะตายตาหลับบบ — แต่ก็อาจจะโลภอยากได้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน เอาล่ะ Death Progress Bar อีกเรื่องก็ดีนะคะ 555555

เจอที่เหมือนจะแปลผิดที่นึงคือตอนคุยกับที่ระบบแล้วบอกว่าช้า/ สายไปแล้ว แต่แปลออกมาว่าดึกไปแล้ว กับเจอพิมพ์ตกอีกที่เหมือนกัน