Friday 2 August 2019

นิยายเรื่องนี้ข้าไม่ได้เขียน

วิพากษ์แอนด์วิจารณ์ กับสปอยล์นะคะ

นักเขียนนิยายหลุดมาอยู่ในนิยายที่ตัวเองเขียนเป็นพล็อตปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือไม่ค่อยเจอพระเอกสายนอร์มอลที่ blackened ทั้งหมกมุ่น ทั้งเป็นเจ้าของ ทั้งยึดติด ช่วงเล่ม 1-2 ก็ยังรู้สึกว่าน่ารักดี เข้าใจได้ว่าเพราะเป็นหลานชายที่ถูกย่าผู้เป็นผู้นำตระกูลเกลียด จนแท้กระทั่งคนรับใช้ต่ำต้อยก็ดูถูกตัวเองได้ มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะติดกับน้องสาวที่ให้ความสำคัญและทำดีกับตัวเองนะ

ช่วง 2 เล่มนี้ดูเป็นนิยายรักสดใสหวานแหวว น้องทำดีกับพี่ชาย (แม้ว่าจะเป็นเพราะสงสารส่วนน้อย และต้องการเอาตัวรอดส่วนใหญ่) และพี่ชายเริ่มให้ความสำคัญกับน้อง แม้ว่าความสำคัญนี้จะเริ่มแปรสภาพเป็นไปการครอบครองเป็นเจ้าของ ก็ยังอยู่ที่ระดับที่รับได้อยู่

ขำที่นักเขียนเราหลุดมาอยู่ในนิยายไม่เป็นไร แต่ว่าปักธงผู้ชายทุกคนที่ควรจะไปเกาะรอบๆ นางเอก ซึ่งก็คือพี่สาวชาเขียว สวย เก่ง แต่อีคิวติดลบ อ่อยทุกผู้ ตรงข้ามน้องไม่เก่ง แต่น้องอีคิวดีเพราะว่าเฉื่อย เจอใครทะเลาะกันก็เลี่ยงไม่รู้ไม่ชี้ไป


[เล่ม 3-5]

แต่ไปๆมาๆ พออ่านเล่ม 3-5 นี่คือเปลี่ยนความคิดแล้ว พระเอกหมกมุ่นมากไปไม่น่ารักจริง แต่ไม่รำคาญเท่าตัวนางเอก คือทั้งที่รู้ว่าต้องระวังตัวกับพี่สาวชาเขียว แต่ก็เหมือนไม่เคยระวังสำเร็จเล๊ยยยย อย่างเรื่องพี่น้องคนอื่นผลักกันตกน้ำ แล้วห่วงจะวิ่งไปดูนี่ โดยไม่ได้คิดว่าจะถูกลูกหลง คือชัดมากว่า น้องไม่เข้าใจสถานะตัวเองจริงๆ น้องคะ ทุกอย่างในโลกนี้อยู่ที่การกระทำและความพยายามนะคะ น้องบอกน้องอยากมีชีวิตดี แต่ก็ไม่เคยคิดจะทำอะไรด้วยตัวเอง เอาแต่พึ่งพี่ชาย ดังนั้น การยึดติดและพึ่งพิงจะทำให้อีกฝ่ายเพิ่มดีกรีความเป็นเจ้าของมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะน้องเอง — ในฐานะคนเขียนนิยาย น้องมีความรู้ความเข้าใจล่วงหน้า และในฐานะที่เป็นคนยุคปัจจุบัน น้องลุกมามีบทบาทอย่างที่ตัวเองอยากทำได้ แม้จะมองว่าสังคมจีนยุคโบราณ ผู้หญิงไม่มีบทบาท แต่เราก็หาทางเลี่ยง และหาทางออกให้ตัวเองได้อยู่นะ ทุกอย่างที่เป็นก็เพราะแค่รักสบาย และติดจะพึ่งพี่ชายอย่างเดียว

เอาจริง จะไปว่าพี่ชายที่กลายเป็นแบบนี้มากก็ไม่ได้ เพราะว่าเจ้าตัวก็หวังให้เป็นเช่นนี้เองด้วยซ้ำ ให้พี่ชายผูกพันและยึดติดกับตัวเองแทนที่จะเป็นพี่สาวที่เป็นนางเอกจริงๆ ของเรื่อง เพราะว่าจะได้รอดตายจากการถูกพี่ชายฆ่าตามพล็อตเดิมในตอนแรก และการยึดติดพี่ชายเป็นที่พึ่งในตอนหลัง เอาจริง ในโลกนี้ไม่ได้มีอะไรที่ได้มาโดยไม่มีค่าตอบแทน และดังนั้น เมื่อหวังให้อีกฝ่ายมายึดผูกพันกับตนในสถานะที่ฝ่ายนั้นไม่ใครเลย ก็คาดเดาผลลัพธ์ได้อยู่แล้วว่าจะลงเอยเช่นนี้ และที่สำคัญ สิ่งที่ทำให้พี่ชายไม่พอใจ และผิดหวังอยู่ก็คือการที่ตัวเอกไม่ได้ไว้ใจพี่ชายมากกว่า และหากว่ามองว่าทำเพื่อให้เอาตัวรอดได้ ถ้าจะซื้อใจคนอื่นได้ก็ต้องเอาใจไปแลก ซึ่งในแง่นี้ ความไม่เชื่อใจและไม่มองคนตรงหน้าอย่างที่เป็นจริง แค่มองผ่านตัวตนที่ตัวเองสร้างในนิยายก็น่าจะเป็นข้อบกพร่องใหญ่อีกเช่นกัน

กับที่รู้สึกรำคาญมากที่สุดก็คือ คนเขียนรู้อยู่แล้วว่าจุดขายเรื่องตัวเองก็คือความละมุนละไมเวลาที่พี่ชายและน้องสาว (ที่จริงๆ ไม่มีสายเลือดเดียวกัน) คอยช่วยเหลือและดูแลกัน แต่ทำไมช่วงเล่มที่เหลือเต็มไปด้วยปัญหา และข้อขัดแย้ง? เริ่มตั้งแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องของคนในบ้านที่ทะเลาะกันจนลุกลามใหญ่โต และซ้ำร้าย ก็คือบรรยายยาวเหยียดหลายบทที่อ่านแล้วก็ปวดหัวรำคาญจนต้องเปิดผ่านไป เอาจริงส่วนตัวมองว่าคนอ่านต่างรอให้พระเอกเก่งกล้าขึ้นมาจนปกป้องน้องสาวได้ โดยเฉพาะจากการให้ร้าย และทำร้ายกันของคนในครอบครัว แต่ไม่มีภาพเหล่านี้ให้เห็นแม้แต่น้อย เป็นแค่การกำจัดแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นย่า พ่อ และแม้แต่พี่สาวไปด้วยการบรรยายสั้นๆ ที่คนหลังแทบจะไม่ถึงหนึ่งหน้ากระดาษเสียด้วยซ้ำ — รวบรัดตัดความจนไม่รู้สึกถึงความสะใจ และพอใจจากการรับกรรมของตัวละครที่ทำชั่วมาเลย ทั้งที่การฆ่าให้จบในเวลาสั้น โดยเฉพาะกรณีของพี่สาว ไม่น่าจะเป็นการแก้แค้นที่น่าพอใจ ถ้าเทียบกับให้อีกฝ่ายอยู่อย่างทรมานต่อไป เช่น เพราะพี่สาวรักษาหน้ามาก ก็น่าจะเป็นการทำลายเกียรตินั้น แล้วให้อยู่อย่างทุกข์ใจต่อไป (ว่าแล้วก็คิดถึงผลาญ)

กับกรณีพี่สาว ทั้งที่ปูให้สวยเก่งสารพัด แต่กลายเป็นว่าเพราะเก่งมากไป ก็เลยดูถูกคนอื่น และแค่ใช้คนรอบตัวเป็นเครื่องมือหาประโยชน์ที่ต้องการ อันนี้เข้าใจ แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมพอเปิดเล่ม 1-2 บุคลิกสุขุมเก็บงำความทะเยอทะยานสูงชัด แต่พอเล่ม 3 เริ่มเก็บความรู้สึกอิจฉาและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวไม่เนียนแล้ว?โดยเฉพาะการดูถูกคนอื่นโจ้งแจ้ง และใช้วิธีการที่ตื้นเขิน รู้สึกเหมือนหลุดบุคลิกไป เหมือนคนเขียนก็อยากสร้างภาพให้พี่สาวนิสัยไม่ดีร้ายกาจ แต่ขณะเดียวกันก็สร้างทางตันเพื่อจะนำไปสู่จุดจบที่เร็วขึ้นเท่านั้น

อย่างที่บอกว่าส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญคือความละมุนละไมเวลาที่พี่ชายและน้องสาวคอยช่วยเหลือและดูแลกันหายไป และภาพที่มาแทน ก็คือการไม่เข้าใจกันของพระนาง โดยเฉพาะเมื่อมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง เปิดประเด็นที่นางเอกตกน้ำเพราะถูกพี่สาวผลักจนเปิดโอกาสให้พระรองเข้ามาช่วยเหลือและใกล้ชิดสร้างสายสัมพันธ์กับนางเอกได้ ยิ่งเมื่อมีการปูเรื่องอุตส่าห์มีสาวรับใช้ที่เป็นวรยุทธ์เข้ามา แต่ก็ไม่ได้เป็นสาระสำคัญอะไรเลย นอกเหนือจากการแสดงให้เห็นข้อบกพร่องในการทำงาน และก็ยิ่งทำให้เห็นได้ว่าคนเขียนปูเรื่องไปในทิศทางความเข้าใจผิดเต็มที่ เพราะสุดท้าย ความไม่มั่นใจความรู้สึกของน้องสาว ก็ทำให้พระเอกเองก็เลือกที่จะเก็บนางเอกไว้ข้างตัวด้วยการกักขัง และเพิ่มความร้าวฉานระหว่างกันให้ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

การสูญหาย และตายจากของตัวละครในตระกูล โดยเฉพาะตัวแม่ของตัวเอก ดูไม่ใช่สิ่งจำเป็น เหมือนเป็นการสร้างภาพบอกให้คนอ่านเห็นถึงการขึ้นมามีอำนาจในจวนเต็มที่ของพี่พระเอกมากกว่า และที่สำคัญก็คือเอาการตายของแม่มาเป็นประเด็นอ่อนไหวของน้องสาวเพิ่ม ทั้งที่อันที่จริง นางเอกก็ไม่ได้ผูกพันกับแม่ถึงขั้นที่จะเสียใจได้ขนาดนั้น และยิ่งความตายทิ้งผลกระทบไว้ในใจนางเอกอย่างมากก็ยิ่งเพิ่มประเด็นในเรื่อง

เอาจริงก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเปลี่ยนโทนให้กลายเป็นรันทดโศกเศร้า อย่างพระรองที่ควรจะอยู่อย่างมีความสุข ก็กลายเป็นยึดติดกับนางเอกไปอีกคน และก็เผอิญหน้าสู้กับพี่ชายอย่างจริงจังจนเหลือทิ้งอาการบาดเจ็บเรื้อรังไว้ด้วย อันที่จริง ต้องเปลี่ยนโทนกันถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?


สปอยล์หนักที่สุด ระวัง!
.
.
.
เพราะการทะเลาะกัน ทำให้สุดท้ายร่างนางเอกที่เป็นน้องสาวตาย และก็กลับมาอยู่ในโลกเดิม แต่เพราะพี่ชายรู้แล้วว่า น้องสาวเป็นใคร และกลับมาได้ก็เลยยังรอ แม้ว่าจะผ่านไปถึง 7 ปี เฮ้ออ กลับไปด้วยร่างตัวเอกก็น่ายินดีที่สลับปัญหาความรักระหว่างพี่น้องในสายตาคนอื่นได้ แต่ทำไมต้องเข้าใจผิด พ่อแง่แม่งอนกันไปอีก? พี่ชายก็โกรธว่าทำไมทิ้งตัวเองไปนาน น้องสาวก็กลัวว่ารู้ความจริงแล้วจะโกรธบีบคอกันอีก กว่าจะรู้ใจ พูดกันรู้เรื่องก็ปาเข้าไปจะจบเล่ม  — ถ้าอ่านเล่ม 1-2 มาควรวาร์ปยาวไปที่ ช่วง 1/4 หรือ 1/5 ส่วนสุดท้ายของเล่ม 5 เลย

ดังนั้น ถ้าจะแสวงหาบรรยากาศสดใสตกหลุมรักในเล่ม 1-2 ขอบอกว่าผิดหวังรุนแรงแน่นอน การเปลี่ยนอารมณ์ในเรื่องเป็นเรื้องจริงของจริง ให้คะแนนที่ B/B- ตอนอ่านเล่ม 1-2 แต่เล่ม 3-5 ถ้าจะต้องอ่านแบบทรมานว่าเมื่อไหร่จะจบช่วงแบบนี้ก็คงไม่ใช่ ดังนั้นขอให้คะแนน D+ ช่วงกลับมาดีกันให้ B- นี่คืออารมณ์ “หัวมังกุท้ายมังกร” “คุณหลอกดาว” “อ้าว ไม่เหมือนที่คุยกันไว้” หรือแม้แต่ “เซอุสรับเครื่องสังเวยมนุษย์” ตามความจริงจัง (และระดับเว่อร์ในการรับชม)

เอาจริงเป็น Such a sloppy and shoddy let-down. มาก จบเรื่องนี้ก็คงจะจบเรื่องรักจีนโบราณแล้ว เพราะเบื่อในความไม่เท่าเทียมกันของบทบาททางสังคม (และในที่นี่บทบาทของตัวละคร) ทั้งที่ไม่ชอบนิยายอังกฤษช่วง Regency เลย แต่นี่ก็ไม่ต่างกันเลย ยิ่งแย่กว่าด้วยซ้ำ ขอไปวายเต็มตัว เพราะว่าถ้าเลือกเรื่องที่ดี ความเสมอภาค บทบาท และความสามารถของตัวเอก และพระเอกไม่ต่างกัน

เอาล่ะ ก็เหลือแต่วายจีนกับแฟนตาซีเกาหลีแล้วนะ ตอนนี้ T_T

No comments:

Post a Comment