Wednesday 22 June 2022

位面交易之原始世界 // The Primitive World of Planar Trading

ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอเขียนรีวิวอีกเรื่อง จะได้ครบ Top 3 สาย Infrastructure + ยุคหิน  Beast World ให้รู้แล้วรู้รอดไป ชอบการแบ่งเวลาที่เขียนดีมาก กับเชิงการเมืองสู้กับเผ่าอื่น กับชอบตัวเอกสองคนเวลาอยู่ด้วยกัน กับแปลกใจมากที่เขียนตั้งแต่ปี 2015 // ปล. แอบอ่านวนตอนเขียนรีวิว เลยลงดีเทลจัดอีกกแล้วววว



คนเขียน: 荷风渟
แนว: โลกบีสต์, ทำฟาร์ม, ก่อสร้าง, สร้างเผ่า, ทะลุมิติ, ระบบ
ความสัมพันธ์: แมวยักษ์ (?) X คนธรรมดา (?)
จำนวนตอน: 195 ตอน ( 193 ตอนหลัก  + 2 ตอนพิเศษ) 
ปี: 1995-1996

Wu Nuo เกิดมาในบ้านที่พ่อแต่งงานใหม่ ตามประสาที่พ่อสนใจแม่เลี้ยงและลูกชายคนใหม่มากกว่า และได้ตากับยายคอยเลี้ยงดู และเมื่อพ่อไม่ยอมส่งเสียให้เรียนหนังสือ พอยังไม่จบม. ต้น ไม่มีเงินเรียนหนังสือ แถมตากับยายก็ตาย ก็เลยออกจากบ้านเร่ร่อนมาทำงานในโรงงาน ก่อนจะที่ลงเอยด้วยการเป็นพ่อค้าเร่ขายของที่แหล่งท่องเที่ยวและจุดชมวิว เริ่มจากซื้อของกระจุกกระจิกมาขาย แล้วพอเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้นก็เลยเปลี่ยนเป็นขายของเสียบไม้ปิ้งย่างตอนหลังด้วยฝีมือทำอาหารที่ได้มาจากตายาย แต่เพราะเป็นรถเข็นเถื่อน ก็ต้องเข็นรถหนีเทศกิจอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งที่วิ่งหนีเทศกิจไปแล้วถูกรถชน

ลืมตาตื่นมาอีกทีก็มาอยู่ในป่าเสียแล้ว ตอนแรกก็คิดว่าฝ่ายที่มาชนเอาตัวเองมาทิ้งในป่า แต่ว่าดูจากสภาพรอบตัวก็ดูไม่น่าใช่ ขณะที่ไม่รู้จะทำอย่างไรก็เจอแมวยักษ์สีขาวหรือลูกเสือขาวอ้วนป้อมโผล่มา ด้วยความที่แมวดูรู้ภาษา พอแมวทำท่าไม่แน่ใจจะวิ่งหนีก็เลยวิ่งตามไปด้วยเสียเลย ... เพราะอย่างน้อยแมวก็ดูว่าน่าไว้ใจกว่าอยู่กลางป่าคนเดียว

แต่เมื่อเริ่มวิ่งตามแมว ก็เหมือนแมวจะใจอ่อนทำท่าให้วิ่งตามต่อไป พอวิ่งไปครึ่งทาง แล้วหมดแรง เห็นแมววิ่งหายไปแล้วก็กลับมาพร้อมผลไม้ที่คาบมาให้กินแก้เหนื่อยแล้วพาวิ่งไปถึงเผ่าตัวเอง และ Wu Nuo ที่เหนื่อยมากก็หมดแรงสลบไป 

และก็กลายเป็นว่าแมวขาวที่พา Wu Nuo กลับมาชื่อว่า Bai และเป็นบีสต์ในเผ่า Chang He ด้วยความที่ Wu Nuo ดูผิวพรรณดีผิดจากคนในเผ่า (สีผิวขาวใสของคนเมืองกับคนในเผ่าที่ผิวสีแทน) และแต่งตัวแปลกประหลาดด้วยวัสดุที่ไม่เคยเห็นมาก่อนขนาดพ่อมดใหญ่ของเผ่าหรือ Da Wu ที่เดินทางไปทั่ว และมีความรู้มากจนเป็นที่นับถือของเผ่าน้อยใหญ่รอบๆ ก็ยังไม่รู้จักก็เลยคิดเหมือน Bai ว่า Wu Nuo น่าจะมาจากเผ่าใหญ่ (หรือถึงขั้นที่เป็น super tribe) และหลงอยู่ในเผ่าจนกระทั่ง Bai ไปเจอเข้า 

ตื่นมาอีกที ก็เหมือนนอนอยู่บนเตียง (?) และคนที่คอยดูแลก็เป็นลูกศิษย์ของพ่อมดในเผ่า และก็พบว่าตัวเองฟังเข้าใจที่อีกฝ่ายพูดจริง แต่โต้ตอบกลับไปไม่ได้ และเห็นบ้านที่ทำจากก้อนหินและคนนุ่งห่มหนังสัตว์ทุกที่ ไม่นับสัตว์ที่กลายร่างเป็นคนได้ก็แตกตื่น และก็ได้ยินเสียงระบบพอดี สรุปว่าตอนนี้เกิดเหตุที่ทำให้ไปผูกติดกับระบบ Cosmic Plane Trading System และถูกส่งมาที่โลกบีสต์ระดับ SS โดยต้องทำภารกิจต่างๆ ที่ระบบกำหนด และจะได้รางวัลตอบแทน ซึ่งงานแรกก็คือ ได้สิทธิ์เป็นสมาชิกของเผ่า ซึ่งจะได้รางวัลเป็นแต้มที่ใช้แลกเปลี่ยนและเปิดฟังค์ชั่นภาษาได้ ตอนนี้จะกลับโลกเก่าได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ ก็เลยคิดจะได้รางวัลให้ได้ก่อน

เมื่อเห็นว่าคนที่ตัวเองพากลับมาท้องร้องด้วยความหิว แมวก็เลยพา Wu Nuo ไปกินข้าวที่ลานริมแม่น้ำของเผ่า มีการอธิบายถึงเผ่าว่า Chang He (ตามชื่อแม่น้ำยาวที่ขวางพื้นที่เผ่ากับป่าไว้) มีสมาชิกในเผ่าเกือบพันคน และคนที่กลายร่างเป็นบีสต์ได้มีแค่ 1/10 ของทั้งหมด แต่ถึงจะมีจำนวนน้อยก็ทรงพลังและแข็งแกร่งกว่าคนปกติมาก และก็เฉพาะบีสต์เท่านั้นที่จะมีทาสเป็นของตัวเองได้ ซึ่งทาสที่ไม่ว่าจะถูกจับมาหรือแลกมาจะมีสถานะต่ำมากในเผ่า และก็เป็นโชคดีของ Wu Nuo ที่ Bai เป็นคนพากลับมา และกะจะเลี้ยงดูในอยู่ในสถานะกึ่งคู่กึ่งเพื่อนตัวเอง และ Da Wu ก็เข้าใจว่า Wu Nuo มาจากเผ่าใหญ่ มิฉะนั้นก็จะมีรอยสัญลักษณ์ทาสป้ายอยู่ที่หน้าแล้ว ...

แต่ด้วยความที่ Bai ยังไม่แปลงร่างเป็นคน ทั้งที่ถึงเกณฑ์ต้องเป็นคนได้แล้ว ... ซึ่งถ้ายังเป็นแค่สัตว์อย่างเดียว ไม่ช้าก็จะต้องถูกขับไล่ออกจากเผ่าไป เพราะการที่ควบคุมตัวเองไม่ได้เป็นอันตรายกับเผ่า ... ก็มีเสียงแย้งอยู่ในเผ่าบ้าง เมื่อ Bai คิดจะเลี้ยง คนหน้าขาวที่หน้าตาดีแต่อ่อนแอและแปลงร่างไม่ได้ แต่ด้วยความที่ทั้ง Da Wu รับรองว่า Wu Nuo จะพาความโชคดีมาให้เผ่า ประกอบกับ Shi Hu เพื่อนสนิทของ Bai ที่เป็นนักรบแข็งแกร่งถึงขั้นเป็นผู้สมัครหัวหน้าเผ่าคนต่อไปช่วยพูด ก็ไม่มีใครกล้าแย้งในที่สุด

เมื่อกินอิ่ม Wu Nuo ก็เริ่มคิดว่าจะได้รับการยอมรับจากคนในเผ่าอย่างไรดี ซึ่งยังไงก็ควรจะเป็นคนที่มีประโยชน์ แต่จะให้ไปล่าสัตว์ก็สู้คนในเผ่าไม่ได้ จะเพาะปลูกก็เป็นคนเมืองไม่รู้วิธีอีก ก็มาถึงตัวเลือกทำอาหาร เพราะว่าด้วยความที่ต้องฝ่าฟันด้วยตัวเองในเมืองใหญ่ ฝีมือทำอาหารก็ดีกว่าใคร แต่ก็มีปัญหาเรื่องเครื่องปรุงอีก 

แต่ระหว่างที่สลดอยู่ ก็ได้สิทธิการเป็นพลเมืองเผ่ามาจาก Bai ที่วิ่งไปขอ Da Wu มาให้แล้ว เพราะว่า Bai จะเลี้ยงคนทั้งทีก็ต้องเลี้ยงให้ดีที่สุด และพอแมวกลับบ้านมาที่เคยอยู่คนเดียว เย็นเยียบมาตลอดก็เหมือนจะอบอุ่นขึ้นเมื่อมี Wu Nuo อยู่ด้วยอีกคน 

วันต่อมา เมื่อเลี้ยง Wu Nuo ด้วยน้ำแกงที่ Da Wu ต้มมาให้กับผลไม้ แมวยักษ์ Bai ก็หายไป ตอนนี้กลายเป็นสมาชิกเผ่าสมบูรณ์แล้ว เจ้าตัวก็ไม่กลัวที่จะต้องอยู่คนเดียว แต่ว่าอาหารที่กินไปน้อยจนอิ่มแบบไม่อิ่ม แถมในเผ่ายังกินอาหารแค่วันละ 2 มื้อเช้าเย็น ไม่มีแนวคิดมื้อกลางวัน ตัว Wu Nuo ที่กินวันละ 3 มื้อ ไม่นับมื้อดึกหลังปิดแผงก็อยู่ไม่ได้แน่นอน พอค้นของในตัวเจอตะขอตกปลาก็คิดจะไปตกปลามากิน

ตอนที่หักกิ่งไม้มาทำเบ็ดตกปลาและตกปลา เด็กๆ ในเผ่าที่เล่นอยู่แถวนั้นก็มามุงด้วย พอเห็นว่าตกปลาได้ก็ตื่นเต้นชื่นชมแถมพอมาขอตกปลาด้วยเบ็ดตกปลาก็ทำให้ภารกิจสอนการตกปลาลุล่วงเล่นกับเด็กๆ ทั้งที่เป็นคนและเป็นลูกสัตว์ชื่นมื่นกว่าเดิม และก็เริ่มพูดสื่อสารกับเด็กๆ เพิ่มขึ้นอีก พอบอกไปว่าถ้ามีเครื่องปรุงจะอร่อยกว่านี้อีกนะ ก็มีเด็กที่วิ่งไปเอาก่อนไขมันสัตว์และกเกลือจากบ้านมาให้

พอไปขุดหินที่มีแอ่งตรงกลางจากริมน้ำมาทำเป็นกระทะ การเจียวเอาน้ำมันแล้วได้กากมันๆ กรอบๆ ที่โรยเกลือเค็มนิดๆ ไปก็ซื้อใจเด็กๆ ทั้งกลุ่มได้แล้ว และพอปลาเริ่มสุก Bai ก็กลับมาพอดี ซึ่งก็คือเหมียวยักษ์ออกไปล่าสัตว์กลับมาเลี้ยงคนของตัวเอง กำลังจะอาละวาดคนของตัวเองไปเล่นทำอาหรให้คนอื่น ปลาส่วนแรกก็เป็นของ Bai ไป และปลาย่างก็ซื้อใจเหมียวได้จนอารมณ์ดีได้หลังกิน โดยเฉพาะเมื่อ Bai ตอนที่หิวโซ ไม่มีอะไรกิน เคยจับปลามากินก่อนหลายต่อหลายครั้งเหมือนกัน ถึงแม้จะกลิ่นเหม็นคาว และเกล็ดและก้างแทงคอ แต่ก็ดีกว่าอดตาย 

ปลาอร่อยมาก และคนหน้าขาวข้างๆ ก็เริ่มสื่อสารรู้เรื่องได้แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแมวมีความสุขมาก และเด็กๆ กว่าสิบคนที่กินปลาอร่อยมากที่ไม่เคยกินมาก่อนก็มีความสุขเหมือนกัน เมื่อกินอิ่ม และมีปลาเหลือ Wu Nuo ก็เลยย่างปลาให้เด็กๆ กลับไปบ้านด้วย โดยเฉพาะเมื่อกลัวถ้าเอาของที่บ้านออกมาถ้ากลับบ้านจะถูกตีหรือเปล่า เมื่อเกลือเป็นสิ่งหายาก ... และลูกสิงโตที่เอาเกลือชามโตมาก็ได้ปลาชิ้นใหญ่กลับไป ซึ่งลูกสิงโตหรือ Awei นี้ก็คือลูกหัวหน้าเผ่าและก็ซึ้งใจกับความภักดีต่อเพื่อนที่ Wu Nuo มีถึงขั้นที่ให้ Wu Nuo มาอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ดีแล้ว

ปลาเล็กที่เหลือ 3 ตัวถูกเอามาทอดและทำซุป พอ Bai ปลื้มมากว่าอิ่มแล้ว แต่คนหน้าขาวข้างตัวยังทำอาหารให้อีก พอจะกินก็ถูก Wu Nuo ห้ามแล้วบอกว่าจะเอาไปให้ Da Wu แต่สุดท้ายก็ต้องแบ่งให้แมวเอาแต่ใจด้วยอยู่ดี พอไปหา Da Wu แล้วตัว Wu Nuo เริ่มเข้าใจภาษาถึงขั้นที่สื่อสารได้ Da Wu ก็คิดไปว่าตัว Wu Nuo สืบเชื้อสายพ่อมดหมอผีในตัวเหมือนกัน และเมื่อคิดว่า Wu Nuo หลงมาที่เผ่า และเป็นสมาชิกเผ่าตัวเองแล้วก็ยิ่งเอ็นดู Wu Nuo ขึ้นไปอีก เมื่อคิดว่าได้คนเก่งมีความสามารถมาอยู่ที่เผ่า (ขำตอนนี้ที่ Da Wu คิดดีดลูกรางแก้วอยู่ในใจ แต่ว่าพอ Bai เห็น Da Wu ยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งสยอง เพราะตอนเล็กๆ ยิ่ง Da Wu ยิ้มใจดีเท่าไหร่ ก็ยิ่งถูกจับป้อนยาหนักเท่านั้น) ซึ่งขณะเดียวกัน ตัว Wu Nuo ที่เชี่ยวชาญการเอาตัวรอดในเมืองใหญ่ก็คิดเหมือนกันว่าต้องประจบ Da Wu ซึ่งถือเป็นผู้ทรงอิทธิพลในเผ่าไว้เยอะๆ สองฝ่ายก็ยิ่งเข้ากันได้มากขึ้นไปอีก 

พอกลับมาที่บ้าน Wu Nuo ที่หลับอยู่ก็ได้ปลาแห้งรางวัลจากระบบ ซึ่งพอแบ่งกินกับแมวเป็นของว่างมื้อดึก แมวก็ตั้งคำถามว่าปลาแห้งมาได้อย่างไร เพราะที่จำได้ ไม่เห็น Wu Nuo ทำ ... ตอนแรก Wu Nuo คิดจะโกหก แต่ก็รู้ว่าถ้าพูดปดไปครั้งนึง ก็ต้องโกหกต่อไปเรื่อยๆ แถมยังอยู่กับแมวตลอดจะหาเรื่องกลบเกลื่อนก็จะลำบากต่อไป เลยบอก Bai ไปว่าได้เป็นรางวัลจากพระเจ้า พระเจ้าพาตัวเองมาอยู่ที่โลกนี้ และต้องทำงานที่พระเจ้าสั่ง ถ้าทำสำเร็จก็จะได้รางวัล หรือไม่อย่างงั้นก็จะถูกลงโทษ

น่ารักที่แมวถามว่าถ้างั้น วันหนึ่งก็ต้องจากไปเหรอ Wu Nuo ได้ฟังก็รีบประเหลาะบอกแมวว่าถ้าวันหนึ่งต้องไป จะขอพระเจ้าให้พา Bai ไปด้วย เป็นการพูดประเหลาะประนีประนอม แต่เป็นคำสัญญาสำหรับ Bai ไป .... แมวตื่นเต้นมากว่าถ้าตัว Wu Nuo เป็นผู้ส่งสาล์นจากพระเจ้าจริง ตัวเองก็อาจจะเป็นการ์เดี้ยนบีสต์ที่คอยดูแล Wu Nuo ทำให้แมวยิ่งรับปากว่าจะไม่บอกใครรู้กันแค่สองคน

ด้วยความที่แมวล่าสัตว์มาเยอะ กินกันสองคนไม่หมด Wu Nuo ก็เลยคิดว่าจะเอาสัตว์ที่ยังไม่ตายที่มีสองตัวมาเลี้ยง ... ซึ่งแม้ในเผ่าจะเลี้ยงสัตว์ที่กินไม่หมด เพื่อเป็นเสบียงหน้าหนาว แต่นี่ก็จะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ของเผ่าต่อไป

กับพอจะทำอาหาร พอแมว Bai เห็นว่า Wu Nuo ต้องวุ่นวายก็เลยไปลากเพื่อนสนิทมาช่วย ซึ่ง Shi Hu ก็พาทาสตัวเองที่ชื่อ Lu มาด้วยอีกคนด้วย และ Wu Nao เผยแพร่วัฒนธรรมปรุงอาหารไม่พอ ก็ยังเผยแพร่การใช้ตะเกียบไปด้วย 

กับเพราะตัว Bai มาจากโลกปัจจุบันไม่คุ้นเคยกับการมีทาส พอเจอ Lu ก็ปฎิบัติตัวเป็นปกติไม่มีการกดขี่ ... ตามปกติทาสห้ามกินพร้อมนาย แต่พอให้อีกคนยืนดูอยู่เฉยๆ ก็ทำไม่ได้ ขอ Shi Hu ให้ Lu มานั่งกินพร้อมกัน

เพราะว่า Wu Nuo ถูกสั่งจากระบบให้สอนทำอาหาร และ Lu ที่คอยเป็นลูกมือก็อยากเรียนวิธีทำเพื่อไปทำอาหารเลี้ยงนายตัวเอง เสือ Shi Hu ก็เลยให้ Lu คอยอยู่ช่วย Wu Nuo ต่อ (โดยเฉพาะเมื่อห่วงว่าเพื่อนจะลำบากถ้าหน้าหนาวมาถึง) และเมื่อสองคนถางพงหญ้าต้นไม้รกตรงพื้นที่สวนหลังบ้านแมวเพื่อทำเป็นที่เลี้ยงสัตว์ที่จับมา ตอนถึงเวลาบ่าย Wu Nuo ที่เริ่มหิวก็คิดจะไปจับปลามาทำอาหารกินกับ Lu และเหล่าเด็กๆ ในเผ่าก็มา “เล่น” กับ Wu Nuo อีก จบด้วยการที่ทุกคนช่วยกันจับปลาจนมีปลามากไปกินไม่หมด พอบอกให้เอากลับบ้าน ลูกสิงโตก็บอกว่าเอากลับไปแม่ก็ไม่ทำ กลายเป็น Wu Nuo รับปากจะไปบ้านทุกคนเพื่อสอนย่างปลา แต่เพราะบ้านแรกคือบ้านลูกสิงโตลูกหัวหน้าเผ่าแม่ที่อยู่บ้านก็เลยให้ไปตามแม่ของทุกคนมาด้วยกัน จะได้ให้ Wu Nuo สอนครั้งเดียวพอ ไม่งั้นถ้าต้องตระเวนไปทุกบ้านก็คงต้องสอนถึงเช้า ... แต่เพราะ Wu Nuo สอนทุกครั้งอย่างตั้งใจ ตัวแม่ลูกสิงโตก็เลยให้ของ Wu Nuo เป็นการตอบแทน และคนอื่นๆ ก็พากันให้สัตว์หรือไม่ก็ผลไม้มาขอบคุณ Wu Nuo ด้วย

ระหว่างนั้น Bai กำลังเจอวิกฤตใหญ่หลวง เพราะระหว่างที่ล่าสัตว์อยู่กับ Shi Hu ก็เจอเผ่าคู่อริไล่ฆ่าพอดี และเมื่อวิ่งหนีเอาตัวรอดอยู่ ก็คิดถึง Wu Nuo ขึ้นมา ตัวเองไม่อยากตายแต่อยากกลับไปหา Wu Nuo ให้ได้ คิดแต่ว่าจะต้องเปลี่ยนร่างเพื่อรอดไปให้ได้ แล้วความมุ่งมั่นที่บอกตัวเองว่าต้องเปลี่ยนร่าง... ต้องเปลี่ยนร่าง... ต้องเปลี่ยนร่าง... ก็ทำให้ Bai แปลงร่างได้จริงๆ  แต่ถึงอย่างนั้นทั้งตัว Bai และ Shi Hu ก็บาดเจ็บสาหัส ถึงแม้จะฆ่าเหล่าบีสต์ที่มาโจมตีจนเกือบหมด แต่สองคนก็เจ็บหนัก และก็ไปหมดแรงอยู่ตรงเส้นทางล่าสัตว์ของเผ่า และถูกฝูงหมาป่ารุมล่าอีกต่อ ดีที่คนในเผ่ามาช่วยตอน Shi Hu กำลังจะหมดแรงสลบพอดี สองคนก็เลยถูกช่วยกลับมาที่เผ่า 

ถึงแม้แมวจะร่อแร่ แต่ด้วยยาและวิชาของ Da Wu ตัว Bai ก็ดีขึ้นกว่าเก่า และ Da Wu ก็ให้ Wu Nuo พา Bai กลับบ้าน โดยที่มีจุดหมายจะดูความสามารถทางการแพทย์ เพราะเชื่อไปแล้วว่า Wu Nuo สืบเชื้อสายพ่อมดมา .... และ Wu Nuo ที่ไม่รู้เรื่องเลยก็ไม่ทำให้ตัว Da Wu ผิดหวัง เพราะใช้สามัญสำนึกจากโลกปัจจุบันเรื่องการติดเชื้อและเชื้อโรคจากบาดแผลสกปรก ทำความสะอาดแผลให้แมวยักษ์ แล้วก็กัดฟันเป็นหนี้ระบบซื้อยามารักษาอาการไข้และแก้อักเสบให้อีกคน และเมื่อคิดว่าเมื่อเช้าแมวยังมองตัวเองตาแป๋วอยู่เลยก็ยิ่งเศร้า .... แต่ระหว่างป้อนยา แมวก็กลายร่างเป็นคน ซึ่งถ้าไม่เห็นว่าบาดแผลบนร่างกายเป็นที่เดียวกัน ก็ยากจะเชื่อ 
 
วันต่อมาลูกสิงโตก็มาเล่นกับ Wu Nuo อีก แต่เมื่อพบว่า Wu Nuo อ่อนแอมากจนถูกนกจิก ก็เลยไปตามเพื่อนและทาสในบ้านมาช่วยตัดถางต้นไม้และหญ้าในไร่ ด้วยความที่เห็นคนมาช่วย Wu Nuo ก็รู้สึกขอบคุณและตอบแทนด้วยการให้ผลไม้กินรอท้องตอนทำงาน และตุ๋นเนื้อให้ ซึ่งเหล่าทาสที่นานทีจะได้กินเนื้อสัตว์ก็ซาบซึ้งใจมาก มีทาสที่ขอเอาเนื้อกลับบ้านไปเพื่อให้คนในครอบครัวตัวเองได้กินด้วยหลายคน ... และก็กลายเป็นว่าชื่อเสียงใจกว้างของ Wu Nuo ในหมู่ทาสก็แพร่กระจายไปยิ่งกว่าไฟป่า

แต่เพราะเด็กๆ ในเผ่ามาช่วยถางที่และล้อมรั้ว (มาเล่นด้วย) ทุกวัน Bai ที่นอนรักษาตัวในบ้านก็ไม่ยอม และพอจะวิ่งไปมา Wu Nuo ก็กลัวจะมีผลข้างเคียงหลังหาย จนในที่สุด Wu Nuo ก็เลยอุ้มแมวไปมาด้วยตลอด น่าสงสารที่ Da Wu เครียดมากว่าพอแปลงร่างจะเป็นอย่างไร เมื่อไหร่จะแปลงร่างอีก แต่แมวสนใจแค่อยู่กับ Wu Nuo และกินอาหารอร่อย ไม่ยอมแปลงร่างเสียที

กับเพราะระบบให้แลกเปลี่ยนได้ จะเอาของไปแลก พอกลางคืนก็บอกแมวว่าจะไปวิหารเทพนะ เอาของไปบูชา แมวก็เชื่อ ซึ่งสิ่งที่ Wu Nuo แลกมาก็คือกางเกงในสองตัว เพราะใส่หนังสัตว์ได้ แต่ทนไม่ใส่ชั้นในไม่ได้ แต่แมว Bai ที่เบื่อไม่มีอะไรทำ นอนจ้องหน้า Wu Nuo เห็นของปรากฎในอากาศก็คิดว่าเอาไว้สวมหัว เอามาเล่นแล้วก็ข่วนเป็นรอยขาดยาว พอ Wu Nuo ออกมาจากระบบ ก็เห็นแมวทำท่าสลดทำท่าสำนึกผิดแล้วสารภาพบาปว่าทำของของ Wu Nuo พัง ถึงตัวเองจะไม่พอใจ แต่พอเห็นแมวสลดไปเลยยกโทษให้ แล้วพอบอกแมทว่าเป็นกางเกงในนะ แมวก็อยากได้บ้าง ซึ่งพอบอก Bai ว่าใส่ไม่ได้ ถ้าไม่อยู่ในร่างคน และจะให้ถ้าอยู่ในร่างคน Bai ก็กลายเป็นคนทันที ... สงสาร Da Wu มากที่ความอยากได้ของทำให้ Bai แปลงร่างกลับไปมาได้ง่ายดาย 

ด้วยความที่กลัวจะไม่มีกิน Wu Nuo ก็คิดจะปลูกมันขาวที่เหมือนมันฝรั่งผสมกับมันหวานจากโลกปัจจุบัน และก็กลายเป็นว่าระหว่างที่ไปแลกมันจากคนในเผ่า Da Wu ก็จับตามองอยู่ เพราะเคยเห็นเผ่าใหญ่ปลูกผักมาก่อน แต่ว่ากลับมาลองที่เผ่าตัวเอง
ไม่เคยสำเร็จ และก็กลายเป็นระบบสั่งให้ Wu Nuo ไปเป็นลูกศิษย์ Da Wu ด้วย และ Da Wu ก็ยอมโดยที่มีข้อแม้ว่าจะต้องสอนคนในเผ่าปลูกมันขาว ... ซึ่งตอนนี้ระบบก็สั่งงานใหม่หลังจากสั่งให้หาวิธีปลูกมันให้สำเร็จ เพิ่มเป็นช่วยเผ่าให้รอดพ้นฤดูหนาวอีกอย่าง

พอกำลังเครียดกับงานที่ต้องทำ แมวที่รู้เรื่องก็บอกว่าไม่ยาก ให้บอก Da Wu จัดประชุมเผ่าและให้ทุกคนมาช่วยกันปลูกสิ และช่วงประชุมเผ่า Da Wu ก็ประกาศว่าตัว Wu Nuo เป็นผู้สืบทอดของตัวเอง และก็เป็นเรื่องบังเอิญที่แซ่ Wu ของ Wu Nuo
พ้องกับคำนำหน้า Wu ที่เป็นธรรมเนียมเรียกนำหน้าชื่อของเหล่าพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่และผู้สืบทอดในโลกนี้ด้วย น่าเชื่อถือขึ้นมาอีก แถมแมว Bai ก็ยังแปลงเป็นคนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ Wu Nuo อีก ทั้งสีหน้าเย็นชากดดัน ทั้งรังสีแข็งแกร่งก็ยิ่งทำให้ทุกคนไว้ใจวิธีปลูกมันขาวของ Wu Nuo โดยพอตอบคำถามและข้อสงสัยทุกคนก็ถึงเวลาระหว่างแบ่งงานที่ให้ไปหามันเพื่อทำพันธุ์ให้ได้มากที่สุด ทีมล่าไปจับสัตว์แลกมัน ทีมเก็บไปขุดมัน คนที่เหลือในเผ่า ถ้าแข็งแรงไปถางดินทำไร่ หรือไม่ก็เตรียมปุ๋ยและจัดการเพาะหัวมัน มีหน้าที่แบ่งกันชัดเจน ... ก่อนจบประชุมก็มีอุ้งเท้ายกมาถามคำถามเหมือนกัน เพราะว่า Wei ลูกสิงโตของหัวหน้าเผ่าที่ถือว่าตัวเองเป็นเพื่อนเล่นของ Wu Nuo และเหล่าเพื่อนในกลุ่มก็อยากมีส่วนร่วมเช่นกัน

สรุปว่าภารกิจใหญ่ยักษ์กำลังจะเสร็จ ก็เจองานต่อมา โดยระบบให้พิมพ์เขียวแปลนเตาเผามาแล้วออกคำสั่งให้เผาอิฐสร้างบ้านให้คนในเผ่าอีก วุ่นวายและใจร้ายจริงๆ และเพราะคิดว่าจะต้องเอาของไปขายในงานชุมนุมแลกเปลี่ยนของระหว่างเผ่าก็เลยคิดว่าจะทำเครื่องประดับที่เผ่ามาได้ไปขายด้วย ... และก็ระดับพ่อค้ามาเอง ก็สร้างเรื่องให้ของที่ขายไปด้วย กลายเป็นจี้ศักดิ์สิทธิ์ที่ใครๆ ก็อยากได้ ถึงขั้นเปิดประมูลได้ราคาสูงจนไม่อยากจะบอกเลยว่ามันทำมาจากดิน

และนี่ก็เลยทำให้เผ่าได้ทาสกลับมาไปเยอะมาก ซึ่งพอเลี้ยงทาสด้วยปลา ที่ให้ไปจับมาเอง และจับอาบน้ำ เหล่าทาสก็คิดไปถึงขั้นว่าจะถูกจับกินตอนหน้าหนาว และหมอผีเผ่าอื่นก็คิดว่าเผ่า Changhe เสื่อมต่ำลงถึงขั้นที่กินมนุษย์ด้วยกันแล้ว ... และก็ทำให้ตัว Wu Nuo ได้ของที่น่าสนใจอย่างถ่านหิน แร่เหล็กมาจากคนเผ่าอื่นเหมือนกัน

และการสร้างความเจริญให้เผ่าจนกลายเป็นเผ่าใหญ่แบบ Super Tribe ก็กลายเป็นจริง 
.
.
.
จริงๆ ชอบเรื่องนี้มากอยู่อย่าง เพราะว่าพ่อแม่ Bai ตายระหว่างสู้กับเผ่าอื่นตอนที่ Bai ยังเด็ก ตามปกติแล้ว  บ้านและทรัพย์สินใดๆ ก็จะตกเป็นของคนในเผ่าที่พร้อม Bai ไปเลี้ยง แต่ด้วยความที่ตอนเด็กๆ Bai อ่อนแอมาก ก็ไม่มีใครอยากรับไปดูแล มีแต่ Da Wu ที่คอยป้อนยาดูแล พอ Bai ดีขึ้น และโตขึ้นหน่อยก็ไม่ยอมไปอยู่กับใคร สุดท้ายในเผ่า (หัวหน้าเผ่าและ Da Wu เป็นหลัก) เลยลงความเห็นให้บ้านและของอื่นๆ เป็นของ Bai เองต่อไป และเพราะอย่างนั้น Bai ก็เลยยิ่งทรนงไม่ยอมให้ใครมาเลี้ยงดูตัวเอง ระวังตัวมาก หาอาหารเลี้ยงตัวเองคนเดียว แม้ว่าจะต้องอดอยากหิวโซ หรือกินผลไม้มีพิษเข้าไปเพราะความไม่รู้ก็บ่อย ขนาดเคยคิดว่าไม่เคยต้องการพ่อแม่ที่แข็งแกร่ง ถ้าอ่อนแอแต่ว่ายังอยู่กับตัวเองได้ก็ยังจะดีกว่า อิจฉาลูกสัตว์ที่อ้อนพ่อแม่ได้มาตลอด พอเจอ Wu Nuo สิ่งแรกที่คิดก็คือคิดว่าถ้าตัว Wu Nuo อยู่ในป่า เพราะไม่มีใครต้องการ ตัวเองก็จะรับ Wu Nuo มาดูแล และอยู่กับสองคน พออยู่กับ Wu Nuo แมว Bai ก็พร้อมจะอ้อน งอแง และเอาแต่ใจอย่างที่ไม่เคยทำกับคนอื่นด้วย เพราะว่า Wu Nuo เท่านั้นที่เป็นของตัวเองคนเดียว และพอแมวถูกเลี้ยงมาด้วยอาหารของ Wu Nuo กลายเป็นแมวลิ้นเรื่องมากไปอีก

กับอีกอย่างหนึ่ง เหตุผลที่แมวอยากสร้างเผ่าให้กลายเป็นเผ่ามหาอำนาจใหญ่ยักษ์ก็เพราะ Wu Nuo บอกว่าเผ่าของตัว (ประเทศจีน) เป็นเผ่าใหญ่และมีคนหลักพันล้าน แมวที่ฟังก็คิดว่าถ้า Wu Nuo กลับไปเผ่าตัวเองไม่ได้แล้ว ก็จะสร้างเผ่าให้ใหญ่เหมือนเผ่าเดิมของ Wu Nuo ให้

ส่วนตัว Wu Nuo ก็ไม่ต่างกัน ด้วยความที่ไม่มีใครมาตั้งแต่เด็ก พอแม่ตาย ตายายตายแล้วพ่อไม่สนใจ ก็ต้องออกมาใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในเมืองใหญ่ ดูแลตัวเอง มีแค่ตัวเอง พอมาเจอ Bai ตั้งแต่วันแรกที่เจอ Bai และ Bai ช่วยไว้ก็เหมือนเติมเต็มกันและกันเหมือนกัน Bai เป็นทุกอย่าง ทั้งคู่ชีวิต ทั้งคนในครอบครัว ทั้งคนรัก ทั้งเพื่อน และก็พร้อมจะเสียสละ และหาสิ่งที่สุดให้ Bai เหมือนกัน ความโอ๋แมวตัวเองของ Wu Nuo ชัดมากที่มีอยู่วันหนึ่ง หัวหน้าเผ่า Da Wu และ Shi Hu มากินข้างด้วยที่บ้าน ถึงอาหารจะเสร็จ แต่ Bai ยังไม่กลับ ทุกคนก็ต้องรอ พอแมวมาแล้ว Wu Nuo ก็บอกให้ทุกคนยกอาหารออกไป กับช่วยกันจัดสำรับ แต่ว่าเหมียว Bai มีหน้าที่แค่ไปล้างมือ แล้วมานั่งลงกินข้าว ตอนที่แปลงร่างได้ใหม่ๆ แล้วกินอาหารเยอะกว่าปกติ จนกินปลาแห้งและเนื้อเค็มที่ Wu Nuo ทำไว้หมด และพออีกคนมาเปิดโหลดูแล้วผิดหวัง แมวก็แอบย่องสลดและสำนึกผิดอยู่ในเงามืดจน Wu Nao ก็ต้องไปปลอบแมวกลับมาด้วย

ด้วยความที่ Bai เป็นทุกอย่าง มีอะไร Wu Nuo ก็ให้แมวได้หมด โดยเฉพาะตอนที่กัดฟันแลกแต้มเพื่อเอาของเอาเคล็ดวิชาให้แมว พอคิดว่ากำลังปวดใจและแพงมาก แต่เห็นแมวทำท่าตื่นเต้นดีใจทุกครั้งก็รู้สึกว่าคุ้มค่าและสมราคา และแมวที่ได้ของและวิชาไปก็ไม่ต่างกัน พอกำลังนอนง่วงๆ กำลังจะหลับ หรือหลับอยู่ และ Wu Nuo บอกว่าได้โน่นมานะ ได้นี่มานะ แมวก็จะรีบลุกขึ้นมาดูของอย่างดีใจ ถึงขั้นที่ว่าถ้าเป็นร่างแมวอยู่ก็จะกลับมาเป็นร่างคนทันที 

แต่เอาจริง แมวเป็นสัตว์เหวี่ยงเอาแต่ใจมาก ชนิดที่เพื่อนสนิทอย่าง Shi Hu บอกว่าเป็น insidious and cunning cub ตลอดเวลา ตอนอยู่ในร่างแมวก็หยิ่งๆ เชิดๆ กับทุกคนรอบตัว และตอนเป็นคนก็ยิ่งร้ายกว่าเดิม เพราะสีหน้าเย็นชาไม่สนใจโลกประกอบกับออร่าบีสต์ระดับสูงก็สยบทุกคนได้แล้ว อย่างตอนที่เดินทางไปกับ Wu Nao สองคน ทั้งที่มาจากเผ่าขนาดกลาง (เทียบกับเผ่าใหญ่/เผ่าหลักไม่ได้) ตอนไปถึงเผ่าใหญ่อย่าง Dahu เหมียวก็อาศัยอาการเชิดหน้าบลัฟว่าตัวเองเป็นเผ่าใหญ่อีก ... ก่อนหน้านั้น Wu Nao ได้รางวัลเป็นรองเท้าคุณภาพดีจากระบบ สีดำสวยงามเดินด้ายทอง แมวเห็นก็อยากได้บ้างอย่างมาก ถึงขั้นที่ทำเสียงซื่อจริงใจใส่ Wu Nao ว่าถ้าเป็นไปได้ จะขอรองเท้าแบบนี้จากพระเจ้ามาใส่บ้างได้ไหม Wu Nao ที่ตามใจแมว และไม่อยากให้แมวผิดหวังก็กัดฟันไปแลกรองเท้าจากระบบมาให้แมว ที่รีบกลายร่างเป็นคนแล้วใส่อย่างดีใจ และตื่นเต้น ซึ่งเมื่อดูชุดและรองเท้า ทุกคนก็คิดไปเองแล้วว่า Wu Nuo กับ Bai มาจาก Super Tribe คนต้อนรับพาเข้าบ้านที่ดีที่สุด ซึ่งแมวก็ไม่ได้ดูตื่นเต้นดีใจ (บ้านดินชื้นดีสู้บ้านอิฐตัวเองไม่ได้) พาถึงเวลาทำอาหาร Wu Nao ก็ทำอาหารอร่อยมาก จนหัวหน้าฝ่ายต้อนรับคนเดิมได้กลิ่นอาหารแล้วตามมา และพอนั่งลงกินด้วย ทั้งการใช้ตะเกียบไม่ใช่มือ และอาหารอร่อยที่ไม่เคยได้กินก็ยิ่งส่งผลให้เชื่อขึ้นไปอีก 

ไม่นับวีรกรรมแมวอื่นๆ ที่พอเดินเข้าไปในพื้นที่เผ่าแล้วทำท่าขยะแขยงกับถนนสกปรกของเผ่า (ผิดกับที่ Changhe ที่ทุกคนห้ามขับถ่ายหรือทิ้งขยะตามถนน และมีคนทำความสะอาดดูแลตลอดเวลา) หรือเหรียญที่ใช้ค้าขายแลกเปลี่ยนที่พอเอามาให้คนในเผ่า Dahu ดูแล้วทำท่าใจกว้างบอกว่าเก็บไว้เผื่อเอาไปใช้ที่เผ่า Changhe ตอนที่เดินทางไปหาได้ และตัวอักษรที่มีเป็นหมื่นๆ ตัว ก็กำราบเผ่าอื่นได้แล้ว 

แต่ Bai ก็มีวิกฤตกดดันในแบบตัวเองเหมือนกัน เพราะว่า Wu Nao หน้าตาดี ดูใจเย็น แถมยังทำอาหารอร่อย ไปไหนเด็กๆ ลูกสัตว์ก็วิ่งเข้ามาหา และ Wu Nao ที่แพ้พวกขนฟูก็อดไม่ได้ที่จะลูบตัวเด็กๆ อย่างตอนที่อยู่ในเผ่า Dahu และมีเด็กที่ตกใจจนกลายร่างเป็นกระต่ายวิ่งเข้ามา ตัว Bai ก็กรีดร้องในใจว่าจบกัน! เพราะนาทีต่อมาก็เห็น Wu Nao อุ้มลูกกระต่ายไว้แล้ว แถมยังเอาพายไส้เนื้ออาหารว่างสุดโปรดของแมวออกมาเลี้ยงเด็กอีก 

ความบลัฟเข้าคู่กันได้ของพ่อค้าเร่และแมวหน้าหยิ่งยังมีอีกก่อนหน้านั้น ตอนที่จะเดินทางไปงานแลกของกับเผ่าอื่นครั้งแรก สองคนบังเอิญไปเจอเหมืองเกลือเข้าพอดี และด้วยความที่เกลือมีสีชมพูเข้ม Wu Nuo ก็แต่งเรื่องเพิ่มมูลค่าให้เกลือตัวเองอีก บอกว่านี่คือเกลือที่ได้มาจากเทพเจ้าบีสต์ที่สละเลือดตัวเองมาให้ ทุกคนในเผ่าที่ได้ฟังก็เชื่อมาก และฮึกเหิมมากว่าพวกตัวเองเป็นเผ่าที่ถูกเลือก และเผ่าอื่นที่ได้ฟังเรื่องก็เชื่อด้วยเหมือนกันว่า Changhe เป็นเผ่าที่พระเจ้าเลือก .. เกลือขายได้ราคา และมีแบรนด์ การตลาดเก่งกันจริงๆ  ไม่นับว่าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ Wu Nuo ในฐานะผู้สืบทอดของ Da Wu ตัว Wu Nuo ก็เลือกวันที่ทำพิธีกรรมของเผ่า และเอาของที่มาบูชาเทพเจ้าบีสต์แลกกับของจากระบบ ของที่หายไปและของใหม่ที่ออกมาก็ทำให้ทุกคนเชื่อแล้วว่าตัว Wu Nuo แข็งแกร่ง

แต่จริงๆ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตสองคนก็คือ Da Wu ด้วยเหมือนกัน เป็นญาติผู้ใหญ่ให้กับทั้ง Bai และ Wu Nuo จริงๆ เพราะเอาจริง ตอนที่ Bai ยังเด็กและไม่สบายก็ได้ Da Wu ป้อนยามาตลอดด้วย (จนทำให้กลายเป็นแมวยักษ์ที่ดูแกร่งและเก่งกล้ามาก แต่มีจุดอ่อนคือแพ้ยาต้ม Da Wu ได้กลิ่นทีไรก็อยากจะสิ่งหนีไปให้ไกลทุกที ไหนจะกลัว Da Wu อีก) และสำหรับ Wu Nuo ก็เหมือนมีผู้ใหญ่ที่คอยดูแล ให้คำปรึกษา ถึงขั้นให้ท้าย ... น่ารักที่มีอะไรก็แบ่งส่วนอาหารที่ทำไปให้ Da Wu ก่อน โดยเฉพาะ Da Wu ฟันไม่ดี และไม่อยากอาหารก็ได้ Wu Nao ต้มน้ำแกงปลาไปให้ หรือพอมีข้าวก็เอามาต้มเป็นข้าวต้มให้ด้วย และหลังจากมีแต้มจากระบบมากพอและระดับการค้าสูงพอก็แลกเคล็ดวิชามาให้ Da Wu ด้วย ถึงขึ้นที่จากตอนแรกที่ Da Wu เริ่มแก่ตัว แต่ไม่ยอมตายเพราะเป็นห่วงเผ่ากลายเป็นแข็งแรงและอ่อนวัยลงเรื่อยๆ ... ถึงขั้นที่ตอนทำพิธีในเผ่าตอนเผ่ากลายเป็นเผ่าใหญ่ ตัว Da Wu เต้นทำพิธีจน Wu Nao คิดว่าดูเด็กกว่าตัวเองอีก 

กับอีกอย่างที่รู้สึกน่ารักมากๆ ก็คือเรื่องการให้ทาสกลายเป็นสมาชิกในเผ่าสมบูรณ์ เพราะตัว Wu Nuo มาจากสังคมปัจจุบันที่คนเสมอภาค และไม่เห็นด้วยกับการที่ทาสจะทำงานหนัก แล้วนายอยู่สบาย ก็เลยออกระบบให้ทาสที่มีความสามารถและขยันขันแข็งสามารถเลื่อนสถานะเป็นสมาชิกเผ่าและลบรอบทาสที่หน้าได้ โดยมี Da Wu ที่เชื่อ Wu Nuo และเชื่อในการพัฒนาคนที่จะนำไปสู่การพัฒนาเผ่าสนับสนุนเต็มที่ และทาสกลุ่มแรกที่ได้สถานะสมาชิกเผ่าก็รวมถึง Lu ด้วย .. ซึ่งตอนหลัง ก็ถึงขั้นที่ Wu Nao ดึงมาเป็นผู้จัดการร้านของของชำของตัวเองแล้ว

กลับมีทาสอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นทาสสงคราม 50 คนจากเผ่า Dahu ตัว Wu Nuo กับ Bai ไปซื้อตัวทาสสงครามเหล่านี้ และทั้งเผ่า Dahu เองก็เข้าใจว่าสองคนมาจากเผ่า Super Tribe (อาศัยการบลัฟเนียนๆ ที่ไม่บอกอะไร ไม่ปฎิเสธ แต่ให้คิดไปเอง) และเพราะสองคนจะเดินทางต่อ ก็เลยเอาไม้มาขุดเป็นเรือให้ทาส 50 นี้กลับไปที่เผ่าก่อนเองให้ได้ .... และเรื่องทาส 50 คนนี้ก็เป็นช่วงที่ลุ้นมากๆ เหมือนกัน เพราะว่าการพายเรือทวนน้ำไปตามเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนในช่วงก่อนหน้าหนาวกำลังจะมาถึง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าทาสจะมีว่ายน้ำและต่อสู้ในน้ำแต่ก็ไม่เคยมีใครรู้จักเรือมาก่อน เป็นเรื่องยากและท้าทายที่ต้องอาศัยกำลังใจจริงๆ และเหล่าทาสก็กัดฟันสู้กับทั้งสัตว์ป่า ทั้งเผ่ากินคน ทั้งเส้นทางเดินเรือจนไปถึงเผ่า Changhe ได้จริงๆ ... ถึงแม้จะส่วนหนึ่งจะเป็นเพราะ Wu Nao ห่วงเหล่าทาสจนทำทุกอย่างที่ทำได้ ทั้งทำพิธีกรรมอวยพรก่อนเดินทาง (ที่อย่าว่าแต่เป็นผู้รับคำอวยพรเลย เหล่าทาสไม่เคยแม้จะเป็นส่วนหนึ่งหรือได้เห็นพิธีกรรมมาก่อน เป็นตลกร้ายที่บอกว่าสถานะทาสจะอยู่ในพิธีกรรมได้ก็ต่อเมื่อเป็นเครื่องสังเวย/บูชายัญเท่านั้น) ทั้งเตรียมเสื้อผ้า อาหาร ยา รวมไปถึงยาพิษและยาชาด้วยซ้ำ แต่กำลังใจของพวกทาสยิ่งใหญ่จริงๆ ตอนที่จะไปถึงหน้าหนาวมาแล้ว ถึงขึ้นที่พยายามพายเรือทวนน้ำท่ามกลางหิมะตก จนไปถึงวันที่น้ำเป็นน้ำแข็งจนต้องทิ้งเรือและเดินเท้าด้วย .. และก็น่าสงสารมากว่า เหล่าทาสคิดว่า Changhe เป็น Super Tribe คนจะรู้จักและหาเผ่าเจอได้ง่าย แต่ตอนที่ถามไประหว่างทางก็ไม่เจอใครเลย จนคิดว่าตัวเองมาผิด หรือไม่ก็ยังไปไม่ถึง ตอนที่หน่วยหน้าเดินไปจนเจอกำแพงน้ำแข็งเผ่าก็ถูกน้ำแข็งกัดในชุดที่ไม่เหมาะกับสภาพกลางหิมะเลย

ถึงจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง แต่หัวหน้าทาสที่พกจดหมายจาก Wu Nao ก็ทำให้คนในเผ่ารู้ว่าเหล่าทาส 50 คนเป็นคนของ Wu Nao และจะต้องต้อนรับให้ดี พอไปพาทาสที่รออยู่ที่เรือที่เหลือมา ทั้ง 50 คนก็รู้แล้วว่าพวกตัวถูกหลอกมา และ Changhe ไม่ใช่ Super Tribe แต่อย่างใด แต่ว่าถ้าอยู่ในเผ่าที่ไม่ใช่ Super Tribe แต่ได้เป็นพลเมืองเผ่าจากสถานะทาสเดิมก็ถือว่าดีมากแล้ว ไม่นับว่าพวกตัวจะได้หอนอนสะอาดสะอ้านที่มีฟูกให้ และมีเสื้อผ้าให้เปลี่ยน กับอาหารที่มีเนื้อสัตว์อย่างที่ไม่เคยได้กิน .... และในที่ประชุมเผ่า เหล่าทาสทั้งหมดก็กลายเป็นพลเมืองของเผ่าจริงๆ และเมื่อได้รับ “เงิน” ที่อยู่ในรูปเหรียญดินเผาตามสถานะหัวหน้าทีม รองหัวหน้าทีม และลูกทีม ถึงจะไม่รู้ว่ามีค่าอย่างไร แต่เมื่อคนรอบตัวดูตื่นเต้นแกมอิจฉาก็คิดว่าเป็นสิ่งที่มีราคาแน่นอน (และก็รู้ค่าเงินมหาศาลที่ตัวเองได้รับในเวลาต่อมา) และที่น่ารักก็คือ เมื่อหมดฤดูหนาว ทั้ง 50 คนก็เป็นสมาชิกหลักทีมเรือที่จะไปแลกเปลี่ยนค้าขายกับเผ่าอื่น และก็ช่วยใช้ประสบการณ์เดินเรือของพวกตัวมาแก้ไขเรือลำต่อๆ ไปของเผ่าด้วย ... และที่สำคัญ เมื่อเดินทางไปค้ากับเผ่าตัวเองก็เอาเงินที่ได้เป็นรางวัลซื้อครอบครัวตัวเองมาอยู่ด้วยที่เผ่า Changhe ใครที่ไม่มีครอบครัวก็เอาเงินช่วยเพื่อนในทีมไปแทน และจากสถานะทาสก็กลายเป็นนักรบที่มีเกียรติและน่าภูมิใจไปแล้ว

มีเรื่องขำที่กลายเป็นว่าตัว Wu Nuo กับ Bai อยากให้สมาชิกในทีมเรือเป็นบีสต์ด้วย เพราะความสามารถต่อสู้จะดีกว่าคนที่แปลงร่างไม่ได้ แต่กลายเป็นบีสต์ทุกตัวมีอาการเมาเรือหมด จนคนที่เข้าทีมได้ก็เหมือนทาสสงครามเดิมคือเป็นแค่คนอย่างเดียว ... ขนาดลูกชายคนโตหัวหน้าเผ่าที่กระเหี้ยนกระหือรือว่าจะเป็นคนนำทีมไปเจรจาค้าขายยังเมาเรือจนต้องสละให้น้องชายตัวเองที่เป็นคนไปแทน

กับอีกอย่างที่ทัศนคติดีมากก็คือหัวหน้าเผ่า หลายเรื่องจะเจอว่าเป็นพวกหวงอำนาจ ไม่ยอมสละตำแหน่งให้ใคร แต่ว่าเรื่องนี้หัวหน้าเผ่าลงจากอำนาจให้ Bai ขึ้นมาเร็วมาก และถึงแม้จะมีส่วนช่วยงานเผ่า แต่ตอนที่ต้องกลับมาดูแลเผ่าช่วงที่ Bai เดินทางออกไปกับ Wu Nuo ก็นั่งรอให้สองคนกลับมาไวๆ จะได้ไม่ต้องรับภาระหนักเหมือนเดิม ... อย่าง Da Wu
 ก็เป็นที่คิดว่าถ้าให้ Wu Nuo คอยจัดการงานในเผ่า ตัวเองก็จะได้มีเวลาพักบ้าง ไม่มีใครหวงอำนาจ (ภาระ) เลยแม้แต่คนเดียว

ชอบการแบ่งเวลาที่เขียนดีมาก เพราะหลายเรื่องจะเล่าเรื่องเริ่มสร้างเผ่านาน แล้วพอเผ่าเจริญแล้วก็จะมีช่วงที่เร่งๆ ชนิด 1-2 บทก่อนจบ แต่เรื่องนี้ปูมาก่อนนานมาก เพราะอยากให้เห็นว่าหลังจากนั้น ช่วงที่เริ่มยิ่งใหญ่ เผ่า Changhe กลายเป็น super tribe และกลายเป็นเมืองได้อย่างไร เลยชอบที่ได้อ่านด้วยความเร็วปกติ แทนที่จะต้องเร่งจบด้วย กับชอบเชิงการเมืองตอนสู้กับเผ่าอื่นมากเหมือนกัน ทุกอย่างงัดมาใช้หมดจริงๆ และแมว (พร้อมด้วยทีมงานอันประกอบด้วยคนเลี้ยงแมวอย่าง Wu Nuo และ Da Wu และสมาชิกอื่นๆ) ก็ร้ายใช้สมองน่ากลัวมาก ความเป็นเสือมีปีกของแมวสยบได้ทุกอย่างทุกคนจริงๆ 
 
อยากจะสรุปเรื่องว่า "การพึ่งพากันและกันระหว่างเหมียวยักษ์เอาแต่ใจ กับพ่อค้าเร่ (?) หมอผีประจำเผ่าที่เหมือนญาติผู้ใหญ่ และลูกชายไดโนเสาร์ ที่มีความเข้าใจผิดตีความไปเอง และระบบหน้าเลือดเป็นองค์ประกอบ" มาก ก็อย่างที่รู้กันว่าให้ A++  นั่นเอง เสียดายคนเขียนหายไปแล้ว ไม่งั้นก็พร้อมจะตามไปทุกเรื่องเหมือนกันนะคะ 



ปล.
1.
ชอบความแข็งแกร่งของแมวมาก อย่างเวลาสัตว์อพยพจะไม่มีใครกล้าสู้กับไดโนเสาร์ตัวใหญ่ ถ้าจะสู้ก็ต้องมีทีมล่าสัตว์ขนาดใหญ่ และก็ไม่รับประกันว่าจะไม่ถูกฆ่าตาย แต่แมวตะปบที ไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ก็ขาดใจตายได้แล้ว ซึ่งก็เป็นประโยชน์มากทั้งในแง่ที่กำจัดภัยคุกคามได้ และแง่หาอาหารให้เผ่าได้อย่างรวดเร็ว แต่ว่าในแง่หนึ่ง แมวก็ใช้พลังงานเปลืองมากเช่นกัน ช่วงที่แมวแปลงร่างใหม่ๆ และต้องใช้พลังเต็มที่เพราะยังเก็บพลังไม่เป็น แป๊บๆ ก็ต้องลงมาล่าอะไรกินแล้ว และกินถึงขั้นที่กินวัวกินกวางไปเกือบสิบตัว และจับตัวสุดท้ายไปกินกับ Wu Nuo โดยให้อีกฝ่ายทำอาหารอร่อยๆ ให้เพื่อปิดมื้ออาหารก็บ่อย

ตอนที่ขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่า แมวต้องรักษาภาพพจน์ก็เลยอยู่ในร่างลูกแมวอีกไม่ได้ หน้านิ่งอยู่กับคนในเผ่า แต่จริงๆ ในใจกำลังสลดว่าเป็นแมวไปอ้อน Wu Nuo ไม่ได้


2.
ระบบเรื่องนี้เลวร้ายไม่เป็นมิตรมาก เวลาเปิดระดับ เปิดฟังค์ชั่นทั้งหลายก็จะคิดค่าเปิดมหาศาลโดยที่ไม่มีการเตือนกันล่วงหน้าด้วย แต้มที่มีอยู่น้อยนิดก็หายไปเพราะการเปิดเนี่ยแหละ เปิดได้ แต่ทำอะไรไม่ได้ ต้องเริ่มเก็บสะสมแต้มอย่างเลือดตากระเด็นไปใหม่อีกรอบ แถมถ้าจะมีการกู้ยืมแต้มอะไรใดๆ จากระบบ ดอกเบี้ยก็แพงมาก โหดมากอีก แถมยังเป็นรายวัน ทุกอย่างเก็บเงิน ทุกอย่างเป็นเงิน จะแลกของออกจากค่าของแล้วก็ยังมีค่าแลกตามราคาของอีก แล้วก็ถ้าจะถามอะไร ก็จะตอบมาอย่างเย็นชา ว่าระดับไม่พอด้วย 


3.
ตอนแรกที่ระบบบอกว่าให้เลี้ยงดูไข่ไดโนเสาร์ที่ได้มาจนโตเป็นเวลา 15 ปี คิดว่าเป็นสัตว์เลี้ยง แต่กลายเป็นลูกชายไดโนเสาร์ไปแล้ว น่ารักที่ Kara ชอบกินแยมผลไม้มาก และก็จะขโมยแยมในครัวตลอด จะทำอะไรก็ขอรางวัลตอบแทนเป็นแยมหนึ่งช้อนพูนๆ โตๆ จน Wu Nuo กับ Bai ก็ไม่เข้าใจว่าความบ้าหมกมุ่นกับแยมมาจากไหน แล้วด้วยความที่เป็นสายพันธุ์โตช้า พอเข้าเรียน เรียนจบก็ยังไม่โตสักที อยู่ในร่างเด็กต่อไป ขณะที่เพื่อนโตหมด และออกไปทำงานทั้งในเผ่านอกเผ่าแล้ว พอสลดอยู่ในบ้านว่าไม่มีอะไรทำ ก็เลยถูก Wu Nuo กับ Bai ลากมาเป็นเลขาช่วยทำงาน แต่เพราะอยู่กับพ่อทั้งสองคนไม่ต้องเสียเงินค่าบ้านค่าอาหาร พอเก็บเงินได้มากพอ ก็ไปหาโรงงานจ้างคนมากะทำแยมกินเองให้หนำใจ แต่ว่าสุดท้ายทำมาเยอะมากไป กินเท่าไหร่ก็กินไม่หมด เลยฝากพ่อไปขายในร้านค้า กลายเป็นว่าเพราะ Kara เรื่องมาก กะทำแยมผลไม้กินเอง ต้องของดี รสชาติอร่อย สุดท้ายก็กลายเป็นของฮิตที่ใครมาก็ต้องซื้อไปกิน

กับมีประเด็นที่จริงๆ แล้ว Kara เป็นไข่ไดโนเสาร์ที่อยู่ในเผ่าอื่นมาก่อน และเพราะเลือดและการมีตัวไดโนเสาร์นี้จะทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าของเผ่า เผ่าพันธุ์ของ Kara ก็ถูกล่าและทุกข์ทรมานจากเผ่าที่รู้เรื่องจนเหลือแค่ไข่ของ Kara ใบเดียว ที่เหลือสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว แต่เพราะมีไดโนเสาร์บินไปลักเอาไข่ Kara มา พอมาอยู่ในเผ่า Kara ในช่วงแรกก็เหมือนสัตว์เลี้ยงรู้ประสาของหัวหน้าเผ่าที่ใครๆ ก็เอ็นดูเพราะฉลาด รู้ความ พอได้ร่างคนมาก็กลายเป็นลูกชายคนเดียวของหัวหน้าเผ่าไป อยู่และเติบโตอย่างสบายใจ และเล่นมีความสุขตลอดเวลาวัยเด็กที่ยาวนานไปแทน


4.
ชอบเรื่องคุณเพื่อน Shi Hu กับ Lu ด้วย .... คู่นี้ก็เหมือนไปด้วยกันเรื่อยๆ ดี เพราะ Shi Hu ช่วย Lu มาจากนายทาสเดิมในเผ่าอื่น และพอ Lu ช่วยเลี้ยงลูกให้ในตอนหลังก็เหมือนอยู่ด้วยกันไปเลย 


5.
อื่นๆ นึกไม่ออกแล้ว นึกออกก็คงเขียนไม่จบ
.
.
นึกออกล่ะ แมวที่ตื่นเต้นได้ดื่มเหล้าน่ารักดี 


________________________________________

ทวิตเตอร์ : @mgk993  #mereadingg

Tuesday 21 June 2022

全球第一食物供应商 // No. 1 Food Supplier in The World

อ่านเพราะพล็อตวันสิ้นโลกและการปลูกผัก และแรงค์เรื่องเถอะ  ก็ยังสาย infra กันต่อไปไหมคะ


คนเขียน: 达夫子

แนว: วันสิ้นโลก, ปลูกผัก, ระบบ, พลังวิเศษ

ความสัมพันธ์: นักล่า X “คนปลูกผัก”

จำนวนตอน: 138 ตอน (ยังไม่จบ)

ปี: 2022


Mo Yao ผู้ชอบเล่นเกมปลูกผักรู้สึกตัวอีกทีก็ตื่นมาอยู่ในวันสิ้นโลกแล้ว และอยู่ในส่วนห้องพยาบาลของฐาน หลังจากถูก Jiang Yixi ช่วยไว้และพากลับมา ความหิวโหยจากสภาพร่างกายที่ขาดอาหารจนถึงขั้นทุโภชนาการกับการไม่รู้จักโลกที่ต่างไปจากตัวทำให้ Mo Yao รู้สึกสิ้นหวังมาก โดยเฉพาะเมื่อตัวเองไม่มีอะไร ไม่รู้จักใครเลย ไม่เข้าใจอะไรเลย และเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่มีพลังพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น พอครบ 7 วันที่กักตัว Mo Yao ที่เข้าไปในฐานได้ก็ไม่รู้จะอยู่อย่างไร แต่เพราะเจ้าหน้าที่ที่ทำเอกสารให้ Mo Yao เห็นว่าคนที่ช่วยและพา Mo Yao เข้ามาที่ฐานคือ Jiang Yixi ก็เลยออกปากให้ไปอยู่ที่ตึกพักตึกเดียวกัน


ซึ่งพอมาถึงตึกก็กลายเป็นว่าจะเข้าพักได้ ก็ต้องใช้แต้มเช่ารายเดือน แต่ตัวเองไม่มีแต้มใดๆ เลย ... จนกระทั่งคิดว่าจะขอยืมแต้มฐานจาก Jiang Yixi และจะรออยู่หน้าตึกจนกว่าอีกคนจะกลับมา .... และเมื่อเจอกัน ก็ขอได้เงินยืม 50 แต้มมาจาก Jiang Yixi จริงๆ ซึ่งแม้แต้ม 50 แต้มเป็นเงินก้อนใหญ่สำหรับ Mo Yao แต่ว่าเป็นเศษเงินสำหรับอีกคน เพราะ Jiang Yixi เป็นนักล่าระดับเอสที่มีจำนวนน้อยมากในฐาน และทั้งความสามารถและบุคลิกก็ทำให้เป็นที่ยกย่อง นับถือรวมไปถึงขั้นเกรงใจจากคนในฐานด้วย ถือได้ว่าเป็นนักล่าอันดับหนึ่งด้วยซ้ำ ทุกคนเรียกว่าหัวหน้า Jiang เป็นทั้งชื่อและฉายาไปพร้อมกัน และเพราะเจ้าหน้าที่ดูแลตึกเห็นว่า Mo Yao รู้จัก Jiang Yixi ก็เลยให้ Mo Yao เช่าห้องที่อยู่ติดกับ Jiang Yixi และทั้งสองคนก็กลายเป็นเพื่อนบ้านกัน


ระหว่างนี้ Mo Yao พยายามตั้งหลักปรับตัวเข้ากับชีวิตในหลังวันสิ้นโลก และหารายได้เลี้ยงชีพ 50 แต้มที่ได้มาจ่ายค่าห้องซึ่งแม้จะขนาดเล็กที่สุดก็กินไป 10 แต้ม/เดือนแล้ว ไม่นับว่าต้องซื้อของใช้อย่างฟูก ผ้าปู เครื่องครัว ของใช้จำเป็น และอาหารอีก เงิน 50 แต้มก็หายไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็กลายเป็นไปทำงานเก็บหัวไชเท้ารายวันได้มาวันละ 10 แต้ม .... แต่ว่าขณะเดียวกัน คืนแรกที่ขดตัวนอนหลับบนเตียงที่ยังไร้ฟูก ก็กลายเป็นว่าได้ยินเสียงระบบขึ้นมา และก็เปิดหน้าอินเทอร์เฟซเกมปลูกผักเหมือนที่เคยเล่นได้ โดยที่ค่าสูงสุดจากการที่เคยเป็นอันดับหนึ่งในเกมหายไปแล้ว และทุกอย่างถูกรีเซ็ตใหม่ที่ 0 และ 1 แต่อย่างน้อยก็ได้เมล็ดผักกาดมา ที่เจ้าตัวลงมือปลูกที่ระเบียงในคืนนั้นเลย และก็เลยทำให้ Mo Yao มุมานะที่จะปลูกผักจากระบบ (เกม) ให้ได้ เพื่อที่จะได้กินผักรสชาติอร่อยที่ผิดจากผักที่ทั้งรสชาติและหน้าตาแปลกประหลาดแต่ราคาแพงในฐาน และเพื่อจะได้เร่งไปถึงระดับ 5 แล้วเปิดส่วนหน้าเทรดกับระบบได้


จริงๆ ควรจะเป็นต่างคนต่างอยู่ และไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ให้ Jiang Yixi ช่วย Mo Yao มาแล้วจบกันไป แต่เพราะการเป็นเพื่อนบ้านกัน ชั่วโมงการทำงานที่ออกไปนอกบ้านพร้อมกันก็ทำให้สองคนเจอกัน และ Mo Yao ก็ทัก Jiang Yixi อย่างกระตือรือล้นและสำนึกบุญคุณทุกครั้ง ซึ่งถ้ามีเด็กหน้าตาน่าเอ็นดู เชื่อฟัง และว่าง่ายมาให้ความเคารพตัวเอง ก็ไม่แปลกอะไรที่ Jiang Yixi จะเอ็นดูและใจอ่อนกับ Mo Yao ทุกครั้งที่เจอ โดยเฉพาะเมื่อ Mo Yao มองตัวเองอย่างพึ่งพาและเชื่อใจด้วย และหลังจากนั้น มีคนเข้ามาหาเรื่องและคุกคาม Mo Yao ตัว Jiang Yixi ที่อยู่ห้องติดกันก็เลยยื่นมือมาช่วย และ Mo Yao ที่สำนึกบุญคุณ แต่ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร ก็เลยใช้วิธีเอาผักกาดที่ตัวเองปลูกไปให้ Jiang Yixi และก็ตามมาด้วยการที่ Jiang Yixi ดึงอีกคนเข้าไปปฎิบัติหน้าที่กับทีมตัวเองนอกฐานต่อมา


และด้วยพื้นที่เพาะปลูกที่ใหญ่ชึ้นเรื่อยๆ ก็เลยทำให้ Mo Yao ไปขอเช่าที่ฐานเพื่อปลูกแปลงพืชผักของตัวเอง .... แต่เพราะผลผลิตที่คุณภาพดีกว่าพืชผักที่ปลูกในฐานก็ทำให้มีคนมาเห็น โดยเฉพาะตอนที่ปลูกต้นแอปเปิ้ลแล้วกลิ่นหอมของผลแอปเปิ้ลตอนสุกเรียกคนมาด้วย ทำให้ถึงแม้จะอยากปกปิดความสามารถตัวเองก็ปิดไม่ได้ พอหลังขายแอปเปิ้ลให้คนที่มามุง ก็กลายเป็นทุกคนเชื่อว่า Mo Yao มีพลังในฐานะ planter และทำให้ผักออกมารสชาติอร่อยและคุณภาพดีแล้ว เป็นเรื่องลือถึนักปลูกคนใหม่ที่มีในฐานไป


และเมื่อชื่อเสียงเริ่มกลายเป็นภัย และสถาบันวิจัยเริ่มสนใจในตัว Mo Yao ขึ้นมา Jiang Yixi ก็เลยตัดสินใจให้ Mo Yao คืนห้องพักที่เช่าไป แล้วย้ายไปอยู่กับตัวเองในเขตบ้านเดี่ยวที่มีความเป็นส่วนตัว เพื่อความปลอดภัยของ Mo Yao เอง

.

.

.

เอาจริงมันดูเป็นชีวิตสบาย แต่ไม่สบายเพราะระบบเอาแต่ใจออกคำสั่งที่ต้องทำตามเพื่อแต้มอัพเกรดเป็นระยะๆ อย่างที่กำลังเอื่อยๆ เฉื่อยๆ อยู่ ระบบก็สั่งมาว่าให้รีบปลูกทันหวานที่ได้มาในเวลา 1 ชั่วโมง และ Mo Yao ก็ต้องทำตามอย่างเดียว


ทั้งนี้ คำอธิบายผักของระบบเพี้ยนมาก ออกไปทางพรรณนาอารมณ์ผักผลไม้ทุกครั้ง อย่าง แครอทยักษ์ที่มีเป้าหมายจะเอาชนะใจ (ท้อง) ของมนุษย์ และกลายเป็นผักที่เป็นที่นิยมที่สุดน่ารักดี ข้าวสาลีถูกบรรยายว่าถูกมนุษย์ทอดทิ้ง โดยที่เวลาผ่านไปเนิ่นนานก็ยังมีความหวังและรอคอยที่จะเจอญาติพี่น้องตัวเองอีก อันนี้ก็น่าสงสาร ส่วนมันหวานกลายพันธุ์ เคยเป็นมันหวานน่ารักน่าเอ็นดู แต่เจอคนโรคจิตทำให้กลายพันธุ์ไป ล่าสุดไปได้กระหล่ำจากฐานอื่นมาก็บอกว่าเป็นกระหล่ำที่ความหยิ่งทะนงหายไปเมื่ออยู่ต่อหน้าระบบ กลายเป็นแค่ของคุณภาพด้อย (และพอจ่ายเงินอัพเกรดก็เปลี่ยนชื่อจาก “กระหล่ำคุณภาพต่ำ” เป็น “กระหล่ำแสนอร่อย” ตั้งชื่อกันง่ายไปไหม?)


แต่เอาจริงว่าอ่านโปรยตอนแรกคิดว่าคุณพี่พระเอกจะเป็นพวกเย็นชา แต่อ่านจริง นี่คือใจดีด้วยตั้งแต่เจอแรกๆ เลย เหมือนเจ้าของกับกระต่ายขาวขี้ตื่น/หนูแฮมเวลาเห็นอาหาร ไหนคือ gāo gāo lěng lěng ไม่เห็นจะมีเลยย... แล้วทุกคนที่รู้จัก Jiang Yixi ก็ยังตกใจถึงขั้นช็อค ทำไมเวลาอยู่กับ Mo Yao พูดจาใจดี อดทน อ่อนโยนขนาดนั้น อืม อืม อืม .... ไหนบอกว่าเป็นภูเขาน้ำแข็งพันปีไม่มีวันละลาย นี่มันละลายแล้วชัดๆ ไม่ใช่เหรออ มีอะไรก็ยิ้ม (ไม่ว่ายิ้มออกมาหรือยิ้มในใจ) เอ็นดู ดูแลกันไม่มีตกหล่น ขนาดออกไปปฎิบัติภารกิจและถุงนอนไม่พอ ก็ให้ Mo Yao ใช้ถุงนอนตัวเอง และแทนที่จะให้ยืมถุงนอนไปนอนกับเตนท์พวกเจ้าหน้าที่โลจิกติกส์ก็มาให้มานอนที่เตนท์ตัวเองอีก ออกนอกหน้าขนาดนี้ แต่ว่า Mo Yao ที่แสนจะซื่อก็ไม่เคยคิดอะไรเลย แม้จะมีข่าวลือในหมู่ฮันเตอร์จนถึงขนาดเพื่อนในกลุ่มโลจิกติกส์ตื่นเต้นมาถาม Mo Yao ตัว Mo Yao เองก็ตำหนิและดุเพื่อนไปหลายหนว่าไม่มีอะไรกัน เอามาพูดแบบนี้จะทำให้ชื่อเสียง Jiang Yixi เสียหายนะ ... Jiang Yixi บุคลิกเย็นชาน่าเคารพ จนทำให้ Mo Yao ไม่เคยระแคะระคายอะไรจริงๆ พี่เขาพามาอยู่ด้วยที่บ้านก็ไม่เคยคิด ซื่อเกินไปแล้ววว ใสเกินไปแล้วว กระต่ายน้อยยย!!


แต่ตั้งแต่ต้นจนจบ คุณพี่ Jiang Yixi ก็มองว่าตัว Mo Yao เป็นกระต่ายน้อยใสซื่อจริงๆ ดูไร้เดียงสา ไม่มีพิษภัย และขี้อาย ทำอะไรเด๋อๆ ออกไป แล้วพอรู้สึกตัวว่า Jiang Yixi มองดูอยู่ ก็จะหน้าแดงหูแดงแล้วพยายามทำเป็นหน้านิ่งเสมอ หรือถ้าเจอใครแปลกหน้า สถานการณ์ไม่แน่ใจก็จะแอบอยู่หลังคุณพี่ (หรือคนอื่น) อยู่เสมอ


กับอีกอย่างนึกว่าจะถูกคนในฐานกลั่นแกล้งเย็นชาใส่ แต่ว่าไม่เลย ด้วยความที่น่ารักน่าเอ็นดู ทัศนคติดีไปไหนใครก็รัก ช่วงแรกที่ไม่มีรายได้แล้วไปหางานทำด้วยการดึงไชเท้ารายวัน หัวหน้าก็รักและเอ็นดูเป็นพิเศษ ไปปฎิบัติภารกิจนอกฐานกับทีม คนในทีมก็คอยเอ็นดู นี่คือเหมือนเป็นกระต่ายเลี้ยงของทุกคนแล้วนะ ช่วยกันเลี้ยงมาก เวลามีปัญหาอะไร ทำหน้าตกใจ คนที่เห็นก็พร้อมยื่นมือมาช่วย .... แต่คือว่าทุกคนที่เจอไม่มีใครระดับรากหญ้าเลย Jiang Yixi คนเดียวก็แทบจะเหลือเฟือแล้ว ไม่นับเหล่าหัวหน้าหน่วยทั้งหลายอีก น่ารักมากที่พอถึงเวลาเก็บเกี่ยว หัวหน้าหน่วยโลจิกติกส์สองสามคนก็มาช่วยเก็บอย่างแข็งขัน ใช้พลังตัวเองเก็บเกี่ยวเร็วมากจนเห็นเป็น afterimages ได้ แล้วยิ่งพอชัดว่ามีความสามารถเพาะปลูก ทุกคนก็ยิ่งช่วยกันดูแล เพราะว่าคนที่มีความสามารถปลูกพืชได้แบบนี้มีอยู่น้อยมาก น้อยกว่าพวกนักล่าอีก อย่างตอนที่ออกไปนอกฐานแล้วรถถูกสัตว์ประหลาดโจมตี คนในทีมที่เป็นฝ่ายสนับสนุนกันให้ Mo Yao มาอยู่ตรงกลางเลย ถ้าจะเกิดอะไรอย่างน้อยก็ต้องให้ Mo Yao รอดไปให้ได้


มีประเด็นที่กลัวตอนแรก ก็คือถ้าปลูกผักในแปลงผักที่เช่าไว้จะถูกใครมาขโมยไปไหม แต่กลายเป็นระบบความปลอดภัยดีมาก ในแง่ที่ว่าไม่มีใครบุกรุกเข้ามา และทุกคนก็จะเข้ามาถามอย่างสุภาพว่าเมื่อไหร่จะไปตั้งแผงผักอีก ... กับทุกคนที่เลี้ยงกระต่ายพยายามใช้ความสนิทสนมเพิ่มโควต้าผักตัวเองน่ารักดีที่พยายามหาวิธีการมาหว่านล้อมอย่างหน้าตาย ทุกคนเถียงกันว่าตัวเองสนิทที่สุด ฉะนั้นต้องได้ผักกว่าใครนะ


ปล. น่ารักดีที่ตอนที่ถูกช่วยมาที่ฐานใหม่ๆ Jiang Yixi ส่ง nutrition tube ไปให้ผ่านทางหมอ เพราะสงสารว่าดูทุโภชนาการเหลือเกิน แล้วจากสภาพผอมแกร็นไม่มีอาหารกินก็กลายเป็น raised to be white and tender แล้ว (ถึงแม้ส่วนหนึ่งจะเลี้ยงตัวเอง แต่ส่วนหนึ่งคุณพี่พระเอกเราก็ช่วยเลี้ยงเหมือนกัน .. ถ้าไม่มีพระเอก ถูกจับไปไหนนานแล้ว TT) แต่ขำที่บอกว่าในฐานนี้ไม่มีใครขาวจั๋วะเหมือน Mo Yao อีกแล้ว ชนิดที่ใช้คำว่า doesn’t exist เลย


แต่ไม่ชอบ 2 ประเด็น คือพวกผู้บริหารในฐานคาดหวังและกดดันให้ทำเพื่อฐานไปหน่อย หน่วย logistics ก็มาบอกว่าให้ผลิตผักให้เพิ่มและให้ส่งหน่วยเป็นจำนวนเจาะจง ซึ่งจะมาคาดหวังอะไรกับเด็กอายุ 18-19 ปี โดยที่คนอื่นในฐานก็ยังอยู่เรื่อยๆ ต่อไปเหรอคะ? ไหนจะสถาบันวิจัยที่บอกให้เอาตัวอย่างพืชผักที่เก็บเกี่ยวได้แต่ละครั้งให้ตัวเองไปทำการทดลองอีก ตัวเอกยอมมากไปแล้ว กับอย่างที่สอง เอาจริงไม่ชอบนิสัยตัวเอกหน่อยๆ เพราะไม่ชอบแนวนิสัย ignorant ไม่รู้ไม่สนใจอะไรเลย ถ้าอยู่เรื่อยๆ แบบนี้แล้วไม่มีพระเอกที่ OP มาหนุนหลังนี้ไม่รอดไปนานแล้วนะ พื้นหลังบอกว่าทำงานแล้ว แต่นิสัยไม่ค่อยรับผิดชอบไม่เหมือนผู้ใหญ่อย่างที่สร้างภาพให้เป็นมาก่อนเท่าไหร่เลย


ตอนนี้อ่านไปถึง 80+ แต่ขัดใจเป็นระยะๆ เลยว่าจะไปหาตัวเอกที่นิสัยเข้าทางกันแทนดีกว่า

Monday 6 June 2022

带着百度穿越原始// Take Baidu through the Primitive

 ก็ infrastructure ยุคหินตามประสา ยังอยู่ใน Infra 200 Challenge ไงคะ ... จริงๆ ไม่ได้กะรีวิว แต่เพราะตอนอ่าน อ่านไปพิมพ์หวีดในเวิร์ดไปด้วย รู้ตัวอีกก็มีจะครบร่างแล้ว ก็ถือว่าเขียนไว้ก่อนลืมแล้วกัน



คนเขียน: 海梦梨
แนว: โลกยุคหิน, infrastructure, clan-building, ระบบ, ทะลุมิติ
ความสัมพันธ์: ลูกหัวหน้าเผ่า X คนน่ารังเกียจในเผ่า (?)
จำนวนตอน: 116 ตอน ( 115 ตอนหลัก + 1 ตอนพิเศษ)
ปี: 2021

ลิ้งนิยาย

Bai Ye ทะลุมาอยู่ในร่างคนที่ถูกเผ่ารังเกียจ เพราะเจ้าของร่างเดิมมีพ่อที่เป็นนักรบเลี้ยง ไม่ต้องทำอะไรเอง แต่พอพ่อตายเพราะปกป้องหัวหน้าเผ่าแล้วหัวหน้าเผ่าให้หมั้นกับลูกชายตัวเองที่ไม่มีชื่อ แต่ถูกเรียกว่า Young Patriarch ก็เลยยิ่งถูกคนในเผ่าไม่ชอบยิ่งกว่าเดิม เพราะเป็นทั้งลูกชายหัวหน้าเผ่า และเป็นทั้งนักรบเก่งกาจที่มีพลังจิตสูง ทำให้ทุกคนมองว่าตัว Bai Ye ไม่คู่ควร และเมื่อเข้ามาอยู่ในร่างก็เกิดเรื่อง เพราะถูกกล่าวหาว่าวางยาพิษจะฆ่านักบวชเผ่า ทั้งที่ตัวเองเป็นคนหาทางแก้พิษให้นักบวชแท้ๆ ขณะที่กำลังจะถูกคนในเผ่าฆ่า ลูกศิษย์ที่รับใช้นักบวชก็เลยตัดสินใจให้เอาไปขังไว้ก่อน

และนักบวชฟื้นมา สิ่งแรกก็คือเรียกทุกคนมาชุมนุมกันแล้วบอกว่า Bai Ye ไม่ได้วางยา แต่เป็นคนที่ช่วยตัวเองด้วยซ้ำ และเพราะตัว Bai Ye เป็นคนเดียวที่มีสติหาทางออก ก็เลยชื่นชมเจ้าตัว แล้วบอกว่าให้มาเป็นเด็กรับใช้และลูกศิษย์นักบวชเพิ่มอีกคน ซึ่งการได้คำชมและการได้ตำแหน่งก็เลยทำให้ท่าทีที่คนในเผ่ามีต่อ Bai Ye ค่อยๆ เปลี่ยนไป และมีอะไรก็คอยออกปากช่วย Bai Ye ทุกอย่าง ... ซึ่งความน่ากลัวที่สุดของนักบวชเผ่าก็คือเห็นก็รู้ว่าไม่ใช่เจ้าของร่างเดิมแล้ว ยิ่งใช้การทำนายที่บอกว่าตัว Bai Ye จะเป็นคนช่วยเผ่าให้พ้นภัยก็ยิ่งให้การสนับสนุน Bai Ye
เรื่องให้ทำงานเพื่อแลกของเป็นเรื่องปกติแนวระบบอยู่แล้ว แต่ว่าเรื่องนี้ต่างจากเรื่องอื่นด้วยที่ระบบจะต้องใช้พลังงานในการทำงาน และทุกวัน Bai Ye ก็จะต้องหาอาหารเพื่อแลกเป็นแต้มค่าพลังงานให้ระบบด้วย ทำให้ตอนแรกที่อาหารหาได้ลำบาก เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะไหนจะต้องกินเอง ไหนจะต้องเลี้ยงระบบ ... และหลังๆ ก็มีการใช้อาหารเป็นของแลกเปลี่ยนให้ได้ของที่ตัวเองต้องการเป็นระยะๆ เหมือนกัน แต่เพราะต้องทำงานที่ระบบมอบหมายให้เพื่อแลกแต้มซื้อของในร้าน และได้ของรางวัลก็เลยเป็นการคิดโน่นทำนี่สร้างความเจริญกับเผ่ามากขึ้นเรื่อยๆ อยู่ไปเรื่อยๆ ก็ได้รับความเคารพนับถือและเชื่อใจจนสถานะเป็นรองแค่นักบวชกับหัวหน้าเผ่าแล้ว
.
.
.

ชอบความรักเรื่อยๆ เอื่อยๆ กับ Young Patriarch ลูกชายหัวหน้าเผ่า เพราะว่ามองอีกคนยังเด็ก แต่ต้องมารับผิดชอบทำหน้าที่ดูแลทุกคน ก็เลยคอยดูแลกับให้คำปรึกษา ตอนนี้เหมือนเป็นคู่หูกันสร้างโน่นทำนี่ มีอะไร Young Patriarch ก็ออกหน้าให้ก่อน และเพราะสร้างความฝันและความหวังที่ว่าจะไม่มีใครอดตายหน้าหนาวได้ โดยเฉพาะเมื่อแม่ของ Young Patriarch ก็ตายเพราะหน้าหนาว และเอาตัวเองไปทดลองกินอาหารแปลกๆ ที่ค้นพบเพื่อให้ทุกคนมีอาหารกินเพิ่ม Young Patriarch ก็เริ่มสบายใจที่ได้อยู่ด้วย และเริ่มยิ้มผ่อนคลายขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่บอกว่าเห็น Bai Ye แล้วเหมือนกดปุ่มเร่งให้เดินมาหาน่ารักมาก โดยเฉพาะเมื่อสองคนนี้เริ่มต้นที่ความเข้าใจกัน เพราะตอนแรก Young Patriarch ก็บอกเองว่าพอถูกจับให้หมั้นกับ Bai Ye ก็คิดว่าทำตามหน้าที่ แต่พออยู่กันไปเรื่อยๆ ก็ทำเพราะอยากอยู่ด้วยกัน
ตอนที่สร้างงานเครื่องปั้นได้ แล้วนักบวชตื่นเต้นมาก ทุกคนก้มกราบกับพื้นว่าเป็นเพราะ Beast God แต่ Young Patriarch ก้มกราบไปทาง Bai Ye บอกว่าไม่ใช่ Beast God แต่เป็น Bai Ye น่ารักดี สุดท้าย Bai Ye ก็ต้องก้มด้วย แต่พอหมอบกราบกันสองคน เจ้าตัวเองก็อดคิดว่าเหมือนอย่างกับคำนับฟ้าดินตอนแต่งงาน กับอีกตอนที่ Bai Ye ออกไปหาต้นไม้ในป่าคนเดียวแล้วกลับมาไม่ได้ เพราะเจอสัตว์ยักษ์สองตัวสู้กัน และหนีไปอยู่บนต้นไม้ ลงจากต้นไม้ไม่ได้เพราะสู้กันเป็นค่อนวันไม่จบเสียที ตัว Young Patriarch ก็ออกมาตามหาเหมือนกัน

สร้างของหลายอย่าง Young Patriarch ก็ไม่ใช่แค่ดูรูปแพลนอย่างเดียว แต่ถามหลักการและโครงสร้างด้วย Bai Ye ตอบแบบอ่านคำอธิบายให้ แต่ก็เลยทำให้ทุกอย่างที่สร้างใช้งานได้ดี เพราะก่อนสร้าง Young Patriarch เข้าใจหมดแล้ว แล้วก็มีพลังจิตและกำลังมากพอที่จะทำงานให้ดีด้วย ตอนแรก Bai Ye เข้าใจว่าทุกคนที่มีพลังจิตพิเศษจะเหมือน Young Patriarch แต่ไปๆ มาๆ ก็เริ่มรู้ว่าตัว Young Patriarch เก่งผิดทุกคนไปไกลมาก เพราะพลังเยอะ และความสามารถควบคุมพลังก็เลยหน้าใครไปมาก ... น่ารักที่ตอนนึง Bai Ye ระบุว่าจะให้พี่ชาย Young Patriarch มาช่วย เพราะเหตุผลว่าแข็งแรง Young Patriarch ได้ฟังก็หมวดคิ้วทันทีแล้วบอกว่าตัวเองแข็งแรงกว่านะ แต่ว่าพอบอกว่าต้องเก็บ Young Patriarch ไว้ทำงานลงรายละเอียดก็หายหงุดหงิดไป

ชอบอีกอย่างที่ Bai Ye เป็นแนวมอบหมายงาน พอมีอะไรก็หาคนที่ทำให้แล้วให้ทำไป เพราะรู้ว่าตัวเองต้องทำอย่างอื่นอีกเยอะ กลายเป็นมีหัวหน้าทีมก่อสร้าง หัวหน้าทีมเพาะปลูก หัวหน้าทีมค้าขาย หัวหน้าทีมเย็บเสื้อผ้า หัวหน้าทีมงานไม้ และอื่นๆ สารพัด .... โดยเฉพาะที่การทำงานเป็นสเกลใหญ่ถึงขั้นที่มีการตั้งโรงงานหลากหลาย ตั้งแต่ทำกระดาษ ทอผ้า เผาอิฐ และทาสหรือเผ่าอื่นที่ขอมาอยู่ด้วยก็ไม่เคยพอ เพราะต้องการแรงงานมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกัน

ระบบมีหน้าที่อีกอย่างคือบอกให้ Bai Ye เก็บมือเก็บไม้เวลาอยู่กับ Young Patriarch ห้ามทำอะไรเด็ดขาด เพราะ Young Patriarch (และ Bai Ye ) ยังถือว่า “อายุไม่ถึง” อยู่ แต่ตามมาตรฐานในโลกบีสต์ เอาจริง อายุขนาดนี้ก็มีคู่นอน หรือแต่งงาน มีลูกได้แล้ว กับตอนสร้างบ้าน Young Patriarch นิ่งมาก ไม่คิดจะมีบ้านตัวเอง อาศัยอยู่ในถ้ำต่อไป ต่างกับ Bai Ye ที่กะรตือรือล้นสร้างบ้านตัวเอง ซึ่งก็คือว่าหน้าหนาวก็มาอยู่บ้านกับ Bai Ye ตามธรรมเนียมที่ว่าคู่หมั้นกันต้องอยู่ด้วยกันในหน้าหนาว เพราะหน้าหนาวห้ามใครอยู่คนเดียว (เกิดเป็นอะไรไปอย่างน้อยก็มีคนรู้เห็นและคอยช่วย) ย้อนไปกลับคิด ตอนที่สร้างบ้าน Bai Ye ตัว Young Patriarch ก็บอกแล้วว่าให้สร้างห้องอยู่ได้อย่างน้อยสองคนนะ

แต่เพราะเป็นสังคมดั้งเดิม Young Patriarch ไม่เข้าใจว่าชอบ Bai Ye คิดว่าตัวเองไม่สบาย เพราะอยู่กับ Bai Ye แล้วหัวใจเต้นแรงตลอดเวลา วิ่งไปหานักบวชแล้วบอกว่าตัวเองป่วยหรือเปล่า พอรู้ว่าเป็นความชอบ แล้วตอนสารภาพรักกันบอกว่าอยู่ด้วยแล้วตื่นเต้นว่าตอนฆ่าสัตว์ยักษ์อีก เป็นการเปรียบเทียบที่จริงใจและตรงยุคในดีนะ

ตอนหน้าหนาวที่อยู่ด้วยกันสองคนแล้วไม่มีอะไร เลยสอนนับเลขกับหนังสือ Young Patriarch น่ารักดี ครั้งนึงพอทำถูกหมด Bai Ye ก็บอกว่าจะให้รางวัลเป็นปลาแห้งกระปุกนึง แล้ว Young Patriarch ก็ถามว่าเอาไปแบ่งกับ “แฟน” ได้ไหมคุณครู แอบ role play คุณครูนักเรียนกันตั้งใจมาก มีสอบปลายภาคอีก แต่พอสอบเสร็จแล้วจะให้รางวัลเป็นบาร์บีคิวก็บอกว่าคุณครูให้แฟนออกมาได้แล้ว แหม แหม อีกคนก็บอกว่าไม่มีปัญหาแล้วเปลี่ยนบทกลับมาเป็นคุณแฟนทันที แหม แหม เหมือนกัน ความหวานคือได้นั่งกอดกัน ป้อนกัน แล้ว Bai Ye ก็บอกว่ากลุ้มมากว่าตอนนี้ไม่มีของแล้วจะให้รางวัลได้อย่างไร อีกคนก็บอกว่าไม่เป็นไร ถึงไม่มีรางวัลก็จะตั้งใจเรียนนะ ไม่ต้องเป็นห่วง แล้ว Bai Ye ก็ตอบกลับไปว่า ไม่ได้ แฟนตัวเองเรียนเหนื่อย ยังไงก็ต้องมีรางวัลให้ ... สรุปว่าระบบที่เห็นทั้งหมดเหมือนตาจะบอดแล้ว อยากให้หน้าหนาวผ่านไปไวๆ ทนสองคนนี้ไม่ไหวแล้ว

แต่หลังๆ พอเริ่มเรียนสูงขึ้น พ้นความรู้ประถมมา มาเป็นมัธยมก็เริ่มเครียดแล้ว เพราะว่า Young Patriarch ถามคำถามยากตลอดเวลา กลายเป็นสอนเรื่อยๆ ไม่ได้ ต้องเตรียมตัวสอนอย่างจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ อ่านหนังสือคู่มือครูอย่างเดียวไม่พอ หาวิธีสอนประกอบเพิ่มก็ไม่พอ ต้องดูวีดีโอเตรียมสอนไปด้วยเหมือนกัน ยิ่งนานๆ ไปนี่คือเหมือนเรียนไปด้วยกัน เพราะพยายามทำไม่ยอมเปิดวิธีคิดเลขแก้โจทย์ดูก่อนด้วย

แต่การไม่มีอะไรทำแล้วสอนหนังสือกันตอนหน้าหนาวเป็นกิจกรรมที่ควรส่งเสริมมาก เพราะพอพ้นหน้าหนาว Young Patriarch มีความรู้ถึงขั้นจากประถมไปจนจบมหาลัยแล้ว ถึงขั้นที่ Bai Ye ไม่รู้ว่าคุณแฟนเก่งเรื่องอะไร จบสาขาไหน เพราะเอาหนังสือวิชาการทั้งหลายให้อ่านเยอะมาก (น่ารักที่นักเรียนบอกว่าอยากให้คุณครู Bai Ye สอนต่อมากๆ เลยนะ แต่คุณครูหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมสอนต่อแล้ว เตรียมตัวสอนเหนื่อยมาก ยิ่งเวลากลัวว่าจะตอบคำถามคุณนักเรียน Young Patriarch ไม่ได้) และ Young Patriarch ก็กลายเป็นคนเดียวที่อ่านพิมพ์เขียว/แปลนก่อสร้าง Bai Ye ออก และก็กลายเป็นครูสอนหนังสือกับ Bai Ye เหมือนกัน ... Young Patriarch สอนเลข แล้ว Bai Ye สอนภาษาจีน โดยมีนักเรียนที่ตั้งใจที่สุดคือนักบวชที่ตั้งเรียนทุกคาบไม่เคยขาด เป็นนักเรียนตัวอย่างที่กระตุ้นให้ทั้งเผ่าตั้งใจเรียนหนังสือ และไม่นับว่ามีการเรียนครูไปสอนพิเศษนอกเวลาบ่อยๆ ด้วย

น่ารักที่พอหลังหน้าหนาวเข้าพิธีกันเป็นคู่อยู่ด้วยกันจริงจังแล้ว Young Patriarch กลายเป็นพวกติด Bai Ye มากก Bai Ye ไปไหน อีกสักพัก Young Patriarch ก็โผล่ไปหาตลอด พอสักพักถึงขั้นที่ทีมก่อสร้างที่ Young Patriarch เป็นคนคุม (หลุดออกมาจากหัวหน้าทีมล่าสัตว์ก็เพราะต้องมาช่วยก่อสร้างเนี่ยแหละ) ก็ตั้งรองหัวหน้าทีมมา เพราะหัวหน้าทีมตัวเองหนีไปหา Bai Ye วันละหลายๆ ครั้ง

ติดใจอีกอย่าง เวลาที่มีอาหารใหม่ หรือผลิตภัณฑ์อะไรใหม่ พอ Bai Ye สาธิตกลางลานเผ่า แล้ว Young Patriarch ก็เป็นผู้ช่วย เหมือนเป็นทีมเซลสองคนช่วยกันขายของบนเวทีกลางงานแฟร์ กับมีชั้นโชว์ของอย่างก้อนเหล็ก ถ่านหิน กลางลานเผ่าให้คนในเผ่าเห็นเพื่อช่วยหาเวลาออกไปข้างนอกอีก ... เพราะอย่างตอนแรกที่ได้มันมาจากระบบ Bai Ye ก็ตื่นเต้นมาก แล้วพอ Young Patriarch บอกว่าต้นไม้นี่สำคัญมากเลยเหรอ ตัวเองเจอหลังเขามาตลอดไม่เคยรู้เลย ตัว Bai Ye ก็ลาก Young Patriarch ไปขุดมันทันที แล้วพอคนในเผ่ารู้ก็ไปช่วยกันขุดกลับมา แล้วก็ช่วยกันเอาไปปลูก

แต่จริงๆ Bai Ye ก็เป็นคนกำหนดกระแสในเผ่าตั้งแต่ปรุงรสเนื้อก่อนเอาไปย่างแล้ว ซึ่งคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็คือทีมนักล่าที่มีพลังจิต โดยเฉพาะ Young Patriarch ที่รับรู้รสไวกว่าคนปกติมาก แต่ก่อนหน้าถึงจะรสชาติแย่แต่ก็ต้องจำใจกิน หรือว่าตอนที่ได้มันเทศมา แล้วย่างให้ Young Patriarch กินก็มีคนได้กลิ่นว่าอาหารอะไร หอมมากเช่นกัน

ชอบที่เอาทุกคนในเผ่ามารวมกัน และเห็นประโยชน์ของตัวเองด้วย พวกคนอ่อนแอกับคนพิการในเผ่าที่ได้รับมอบหมายให้ไปทำไร่มีความสุขและดีใจที่ตัวเองทำงานได้มาก เพราะว่าไม่ต้องละอายที่ต้องรอคนอื่นหาอาหารมาให้ แต่ตอนนี้ตัวเองทำงานและหาอาหารกินได้เองแล้ว และเพราะ Bai Ye สอนให้ทุกคนให้ใช้กับดักล่าสัตว์ แม้แต่คนอ่อนแอที่สุด ผู้หญิงหรือเด็กๆ ก็ดักสัตว์มาเป็นอาหารได้ และขนาดทีมล่าสัตว์ก็ยังดักสัตว์ด้วย ยิ่งบวกกับพวกที่ล่ามาได้ อาหารก็ยิ่งเยอะไปใหญ่ กับน่ารักที่เอาคนชายขอบอย่าง Mu ที่ชอบงานไม้มาก จนถูกพ่อแม่ตัวเองทอดทิ้งจนมาอยู่กับเผ่านี้มาทำงานไม้ละเอียด และกลายเป็นช่างไม้คนสำคัญของเผ่าที่ทุกคนนับถือ และมีคนมาสมัครเป็นลูกศิษย์หลังจากนั้น

พออยู่ด้วยกัน เจริญมากๆ เพราะมีทั้งเผาหม้อจานชามมาใช้ มีอาหารแปรรูปจากมันมาเป็นวุ้นเส้น มีข้าวมาหุง และมีแป้งมาแปรรูปเป็นอาหารหลากหลากทั้งเกี๊ยว ซาละเปา และอื่นๆ ได้เกลือที่ได้จากน้ำทะเลมา ทำเกวียนที่เอาไว้บรรทุกของ และก็ถึงขั้นที่สุดท้ายสร้างตลาดขึ้นมาในเผ่าให้เผ่าอื่นมาซื้อของแลกเปลี่ยน เอาของมาแลกเกลือไม่แปลก แต่ที่แปลกและน่ารักก็คือส่งเสริมให้คนในเผ่าค้าขาย และตลาดในเผ่าก็มีพื้นที่ขายอาหารที่คนในเผ่ามาตั้งแผงขายอาหาร ทำเอาคนเผ่าอื่นมาแล้วไม่ยอมกลับเผ่าตัวเองเพราะติดใจอาหาร ถึงขั้นที่ต้องเปิดโรงแรมขึ้นมารองรับพวกที่ติดใจอาหาร และขนาดคนที่ไม่มีเงินก็ยังใช้วิธีออกไปล่าสัตว์มาเพื่อแลกเงินไปกินอาหารในตลาด ... ซึ่งธนบัตรที่แพงที่สุดก็เป็นรูปหน้านักบวชด้วย และกิจการตลาดก็เจริญมากถึงขั้นที่ทีมล่าสัตว์ในเผ่าต้องหยุดล่าสัตว์เพราะมีสัตว์เอามาแลกเยอะมากจนกินไม่ทันแล้ว

ตอนที่จะมีเผ่าเร่ร่อนภายนอกมาโจมตี ขำที่ทุกคนตื่นเต้นมาก บอกว่าไม่มีอะไรทำ อาหารก็มีให้กินเหลือล้น อยากทำสงครามสู้กับคนอื่นมาก โดยเฉพาะหัวหน้าเผ่า .... แต่สงสารที่พอจบเรื่องแล้ว จะไปช่วยเผ่าอื่น นักบวชก็บอกว่าให้คนอื่นไป เพราะหัวหน้าเผ่าเป็นแค่ตัวออกหน้า ที่นิ่งขรึมดูฉลาดก็เพราะนักบวชสั่งไว้ ตัวจริงให้ใครรู้ไม่ได้ (และที่ได้เป็นหัวหน้าเผ่าก็เพราะนักบวชทำนายว่าจะมีลูกฉลาดมาก และเก่งมากเนี่ยแหละ และที่ดูขรึมมาก ฉลาดมาก ก็เพราะดูลูกชายตัวเองมาแล้วเลียนแบบด้วย) อีกรอบนึงถูกเผ่าเกลือโจมตีเหมือนกัน ซึ่งก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเตรียมรับมืออย่างดี ตั้งแต่เปิด shield ที่ได้จากระบบคลุมรอบเผ่าเพื่อรับการโจมตี สร้างกำแพงรอบเผ่า ทั้งกำแพงรอบใน รอบนอก (ถึงขั้นที่หยุดงานก่อสร้าง/ผลิตในเผ่าก่อน แล้วให้ทุกคนที่ว่างเร่งมาช่วยกันสร้างกำแพงเมือง) และฝึกอบรมทั้งหน่วยลาดตระเวน ทั้งนักรบอย่างเข้มข้นและจริงจัง

ชอบตอนใกล้จบที่ทั้งเผ่าเตรียมตัวรับมือกับหน้าหนาวที่กำลังจะมา อารมณ์ Ice Age ที่จะหนาวอย่างน้อยก็เป็นปี แล้วด้วยอุณหภูมิ ลบร้อย+องศา ทั้งเตรียมอาหาร เครื่องหนาว เชื้อเพลิง น่ารักที่พยายามทำอาหารให้เก็บได้นานๆ ทั้งบะหมี่ บิสกิต แล้วก็ตุนแหลกถึงขึ้นที่ให้สร้างโกดังเพิ่ม ขุดถ้ำเพิ่ม ทำกระป๋องเหล็กเก็บอาหารเพื่อให้ถนอมอาหารแล้วเก็บได้นานๆ พอทุกที่เต็มแล้ว ก็ตั้งกระปุกโน่นนี่นั่นให้เต็มแต่ละลานอีก ตอนนี้ลานกลางเผ่าเหลือรอดอยู่ที่เดียว ที่เป็นลานโล่งที่ไม่มีอาหาร หรือกองฟืนกองถ่านมาสุม

แต่ว่าสงสารเผ่าที่อยู่ที่ทุ่งหญ้ามาก ปกติหน้าหนาวจะใช้วิธีขุดถ้ำใต้ดินแล้วหลบน้ำ แต่ปีนี้เพราะอากาศหนาวกว่าปกติ ฟืนที่เก็บไว้ก็ร่อยหรอ และน้ำแข็งก็จับตัวหนาจนออกไปไม่ได้ กว่า Bai Ye กับYoung Patriarch จะมาถึงทั้งเผ่าเกือบสองพันชีวิตก็ตายหมดเหลือแต่เด็กยี่สิบกว่าคน พอหัวหน้าเผ่าเห็นมีคนมาช่วยเด็กก็ตายตาหลับ ฮือ ชอบหัวหน้าเผ่านะ

สุดท้ายก็รวมมาได้เกือบทั้งภาคเหนือ พื้นที่ตอนเหนือ ตอนที่มีคนจากทางใต้มาแล้ว นักบวชจ้องอ่านจดหมายอยู่นาน แล้วหันไปบอกลูกศิษย์ว่าตัวหนังสือน่าเกลียดนะ อ่านก็ยาก สู้ของเราไม่ได้นี่ ... แอบใจร้ายนะคะ

ภัยธรรมชาติเยอะมาก น้ำแข็ง ดินถล่ม แผ่นดินไหว และเป็นเรื่องที่เขียนมาดีมาก มาก และมาก แต่มาตายตอนจบ ตายจริงๆ เพราะอยู่ดีๆ เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และคนในเผ่าตายเกือบหมด รวมไปถึงหัวหน้าเผ่า และลูกน้องที่ไว้ใจหลายๆ คนด้วย อ่านแล้วโกรธมาก ตอนที่บอกว่าขุดช่วยขึ้นมาจากดินแล้วตายแล้ว แล้วระบุชื่อทีละคนๆ เนี่ย เพราะถ้าจะเกิดวิกฤตฤดูหนาวเป็นทิศทางเรื่องใหญ่ กับภูเขาถล่มแล้วแล้วรอดมาด้วยกันได้ตลอด แต่มาตายเกือบทั้งเผ่าแบบนี้ทำร้ายความพยายามที่สร้างสั่งสมมาในเรื่องเลย เสียดาย ถ้าไม่ใช่เป็นแบบนี้จะให้ A+ อีกเรื่องชิงอันดับสี่แนวสร้างเผ่ายุคหิน ตอนนี้ให้เป็น B- แทนแล้วนะ ความคิดบวกช่วยเหลือกันฟันฝ่าปัญหาไปด้วยกันในเรื่องหายไปไหน?? อ่านแล้วโกรธกับเสียใจมาก อย่างตอนหัวหน้าเผ่าตาย แต่น้องชาย Bai Ye ที่มีบทน้อยกว่ารอด และมีความสำคัญตอนบทสุดท้าย ถ้าเขียนให้ฝ่าฝันไปด้วยกันได้ จะดีมาก 3 ตอนหลังคืออะไร อยากจะลบทิ้งมาก

แต่ก็เป็นเรื่องที่ reader-friendly มาก ไม่ได้ติดตอน VIP ใดๆ เลย ตอนแรกถึงกับงงมากว่าอ่านตั้งนาน ทำไมไม่ถึงให้ซื้อตอนสักที และก็แต่ละตอนไม่ยาวส่วนมากไม่เกิน 3000 คำ ไม่เคยเจอมาก่อน ถึงขนาดที่อ่านแป๊บๆ ก็ครึ่งเรื่องแล้ว เทียบกับเรื่องที่บางทีตอนละ 10000 คำคนละเรื่องเลย ซึ่ง ความ reader-friendly ทำให้อยากอุดหนุนเรื่องนี้ แต่ไม่รู้จะทำยังไง ไม่ได้ปิดตอนให้ซื้อด้วย .... แต่ว่าพอเจอตอนจบตบหน้า คือดีใจมากที่ตอนนั้นไม่เหลือ nutrient solution ใดๆ เลย ทำร้ายกันมาก

ปล.

1.
อยู่ด้วยกันไป ก็ไม่คิดปิดเรื่องระบบให้ Young Patriarch รู้เหมือนกัน ตอนแรกที่ตัวเองมีความสามารถมิติเก็บของ (แลกเปลี่ยนกับระบบมา) Young Patriarch ก็รู้ ได้ของแล้วออกมาจากระบบ Young Patriarch ก็รู้ เอาหนังสือและคู่มือเรียนมาสอน Young Patriarch ก็เห็น ยิ่งไปกว่านั้น อยู่ด้วยกันไป พอ Young Patriarch เริ่มรู้หนังสือ ก็มีการเอา Baidu ให้ Young Patriarch เสิร์ชแล้ว (โดยเฉพาะเวลาที่ตัวเองอธิบายอะไรไม่ได้) ไม่นับรวมการที่บีบคอระบบเอามิติเก็บของให้ Young Patriarch ด้วย

กับความยาวในการใช้ Baidu ก็เพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปเหมือนกัน ตอนที่นั่งอ่านนิยายหรือได้ดูละคร มีความสุขมาก

กับตลกที่อยู่ด้วยกันไปนานๆ คนที่เป็นคนทำกับข้าวกลายเป็น Young Patriarch ไป ส่วน Bai Ye มีหน้าที่แค่เตรียมเครื่องปรุง ล้างผัก ตอนหน้าหนาวที่ Young Patriarch ลุกขึ้นมาเติมฟืนใต้เตียงเตา ต้มน้ำอุ่น และดูแลความเรียบร้อยตรงหน้าต่างที่อากาศหนาวพัดเข้ามาได้น่ารักมาก ตื่นขึ้นมาทำโน่นทำนี่จนกว่าจะไปนอนก็ค่อนคืน ถึงขั้นที่วันต่อมา Bai Ye ตื่นมายังแปลกใจที่ Young Patriarch ยังไม่ตื่น ทั้งที่ปกติตื่นก่อนตัวเองเสมอ แต่พอเห็นสภาพบ้านก็รู้ว่าทำไมอีกคนถึงยังหลับต่อ

ชอบที่คนที่มีพลังจิตใช้พลังจิตห่อหุ้มร่างกายตัวเองกันอากาศหนาวได้ และช่วงที่อากาศหนาวลงไปเรื่อยๆ และหิมะเริ่มท่วมสูงก็เหลือแต่พวกนักรบที่มีพลังที่ยังคงออกไปตรวจตราดูแลในเผ่าได้ และเพราะ Young Patriarch อยากออกไปดูเผ่าอื่น ตัว Bai Ye ก็ยื่นคำขาดว่าห้ามไปคนเดียว ถ้าจะไปก็ต้องไปด้วยกัน ไม่งั้นถ้าเห็นว่าหนีไป ก็จะออกไปตามให้ได้ พอหาทางแก้ปัญหา สุดท้ายระบบก็บอกว่า ถ้าเป็นคู่กันจริงๆ ก็จะแบ่งปันพลังจิตของ Young Patriarch มาใช้ด้วยกันได้ ซึ่งหลังจากนั้นถูก Young Patriarch กินไม่เลิกยันเช้าจน Bai Ye หมดแรงไปก่อนแล้วโกรธเหมือนกัน (อีกตอนนึงที่ต้องแยกกัน เพราะ Young Patriarch ต้องไปคุมก่องสร้างขุดคลอง ก็จับกิน Bai Ye ไม่เลิก จน Bai Ye บอกให้ไปเร็วๆ ไม่เศร้าที่ต้องแยกจากกันด้วย)

2.
ชอบตอนที่สองคนออกไปตอนเริ่มหนาวจัดเพื่อช่วยเผ่าอื่น ซึ่งเพราะอยู่กันสองคน Bai Ye ก็ถึงกับแลกคะแนนเอารถ RV ออกมาขับกับ Young Patriarch เลย ตอนออกไปจากเผ่าหนาวมาก ทรมานมาก มีเลื่อนก็ต้องสู้กับลม กับอากาศหนาวอีก แต่พ้นสายตาคนอื่นแล้วเอาแต้มไปแลกรถมานี่คือหรูหราขึ้นมามาก โดยเฉพาะที่รถเป็นระบบสแกนลายนิ้วมือเปิดประตู และขับเคลื่อนได้เอง ข้างในรถก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายแหล่ ตั้งแต่ไมโครเวฟและกาต้มน้ำในห้องครัว ฝักบัว และชักโครกในห้องน้ำ และเตียงในห้องนอน และที่สำคัญก็มีฮีตเตอร์ที่อุ่นสบายสุดๆ อีก ขึ้นรถมาก็ชีวิตดีมาก ตอนที่ขุดน้ำแข็งบนพื้นหาเผ่าทุ่งหญ้า แล้ว Bai Ye บอกว่าอยากกินอะไร จะไปทำให้กิน แล้วสองคนกินหม้อไฟกัน ชีวิตดูสุขสบายเกินใครมาก

กับเพราะหน้าหนาวออกไปข้างนอก ถูกสัตว์ยักษ์ที่หิวโหยโจมตีรถ ตอนแรก Young Patriarch จะออกไปสู้คนเดียว Bai Ye ก็เป็นห่วง กลายเป็นใช้รถล่อให้งูยักษ์ชนต้นไม้เอง แล้วสองคนช่วยกันซ้ำ .... ตลกที่ทำให้ได้แหล่งเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น และก็ทำให้ Bai Ye ตื่นเต้นดีใจทุกครั้งที่เจอสัตว์ยักษ์ระหว่างทางหลังจากนั้น

แต่แน่ว่า นอกจากสองคนนี้ คนอื่นมองไม่เห็นว่าเป็นรถ ใครมองก็จะเห็นว่าเป็นกล่องไม้ที่มีล้อเลื่อนแทน

3.
ชอบหัวหน้าทีมเย็บเสื้อผ้า เพราะว่าคนที่สุดท้ายแล้วมีพรสวรรค์และชอบเสื้อผ้ามากก็คือลูกสาวของหัวหน้าเผ่าน้ำที่ช่วยทั้ง
เผ่ามาได้ และมารวมอยู่ด้วยกัน ซึ่งตอนแรกก็พยายามเลี่ยงไม่อยากใช้แรงงานเด็ก แต่กลายเป็นว่าน้องหนูตามรังควาน Bai Ye ของานทำเช้ายันเย็น และพ่อก็มาช่วยขอร้องอ้อนวอนด้วย จนต้องยอมมอบตำแหน่งให้ไป และกลายเป็นว่าหลังจากนั้นก็มาตามตื้อ Bai Ye วันละหลายๆ หนต่อ ให้เอาแบบเสื้อผ้าแปลกๆ ให้ตัวเองดูอีก จนถึงขั้น Young Patriarch ที่ควรจะนิ่งๆ เฉยๆ เริ่มจะโมโหหวง Bai Ye แล้ว

4.
ตอนที่ช่วยเผ่าน้ำที่เหลือรอดมา แล้วคนในเผ่าที่เพิ่งเจอเรื่องเลวร้ายมา อยู่ในสภาพหดหู่ แล้ว Bai Ye คิดว่าไม่อยากให้เป็นแบบนี้ แล้วใช้การเล่าเรื่องช่วยชีวิตมาเป็นพลังบวกมาก โดยเฉพาะที่ทุกคนลืมเศร้าแล้วตั้งใจฟังเรื่องเล่า กลายเป็นช่วงเล่าเรื่องกลายเป็นกิจกรรมยอมฮิตสำหรับทุกคนในเผ่าไป

5.
ชอบที่ Bai Ye กับ Young Patriarch หาวิธีช่วยกันฝึกนักรบพลังจิตในเผ่า ที่เพราะเวลาเตรียมดิน พลังจิตของ Young Patriarch ที่พลิกหน้าดิน พรวนดินทำให้ดินดีเหมาะกับการปลูกต้นไม้ให้งอกงาม เหล่านักรบก็เลยมีการฝึกพิเศษที่ต้องไปช่วยกันเตรียมดินด้วย เป็นการอบรมที่ได้ประโยชน์สองต่อเสียจริง ยิ่งช่วงหลังๆ ที่พออากาศหนาวแล้วการแผ่พลังให้ตัวเองไม่หนาวก็เป็นการฝึกพิเศษอีกอย่างด้วย ... กับพอเผ่าเริ่มมีคนมาก ก็มีการคัดคนมาเป็นหน่วยลาดตะเวนพิเศษในเผ่า ที่จะมีชุดเครื่องแบบพิเศษเป็นชุดดำที่ห้ามคนนอกหน่วยเลียนแบบอีก

6.
ตอนที่มีพวกเผ่าอื่นมาบุกรุกเผ่าครั้งแรก ตลกที่ Bai Ye บอกว่าทำไมทุกคนไม่คิดวางแผนดีๆ อย่าให้แต่กำลังจะไปสู้ ก็เลยมีการให้นักบวช คนอ่อนแอและเด็กไปหลบบนภูเขาแทนที่จะอยู่กันในถ้ำรวม และก็หาวิธีรับมือกับพลังจิตของหัวหน้าเผ่าอีกเผ่าด้วย นักบวชก็เลยให้ผงสมุนไพรที่เก็บมานานกับ Young Patriarch ไป คราวนี้พอสาดไป อีกฝ่ายก็ใช้พลังจิตไม่ได้ และเรียกสัตว์ยักษ์ที่ทำสัญญาด้วยมาช่วยไม่ได้ ทำให้สู้ง่ายขึ้นเยอะ

แต่หลังจากนั้น นักบวชและคนอื่นในกลุ่มก็เริ่มวางแผนเป็นตามกันไปเหมือนกัน โดยเฉพาะนักบวชที่คิดหลายตลบน่ากลัวจน Bai Ye ยังตกใจ .... และยิ่งการสู้กับเผ่าเกลือที่ Bai Ye กัดฟันเปิดระบบแลกเปลี่ยนเพื่อแลกยาและอุปกรณ์สารพัดมาก็ยิ่งมีแต้มต่อเหนือเผ่าที่สู้ด้วยไปอีกไกล

7.

นักบวชเป็นฝ่ายเข้าข้าง Bai Ye อย่างออกหน้าตั้งแต่ต้นจบจน ตอนที่หัวหน้าเผ่าบาดเจ็บสาหัสมา พอไล่คนในเผ่าที่มามุงออกไป อยู่กันสองคน สิ่งแรกที่นักบวชพูดกับ Bai Ye ก็คือว่า นี่เป็นโอกาสดีที่หาได้ยากนะ ถ้าช่วยพ่อไว้ได้ ก็จะได้ความภักดีจาก Young Patriarch มาครองแน่ๆ โอกาสดีชนิดหนึ่งในล้านแบบนี้ให้หลุดมือไปไม่ได้ แถมตอนที่ Bai Ye ขอให้นักบวชถอนหมั้นกับ Young Patriarch ให้ อีกคนก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องอีก อีกครั้งก็ไม่ตกลงให้ซึ่งๆ หน้าด้วย

แต่เอาจริง ตัว Young Patriarch ก็ไม่เคยยอมถอนหมั้นตั้งแต่ต้นเหมือนกัน

8.
นอกจาก Mu ที่เป็นช่างไม้มือวางอันดับหนึ่งแล้ว ก็ชอบหัวหน้าทีมค้าขายเหมือนกัน กลายเป็นหัวหน้าทีมเพราะว่า Bai Ye
มองว่า ฉลาดแล้วก็ไหวพริบดี แถมยังเจรจาเข้าหาคนเก่ง ก่อนจะเปิดตลาด เดินทางเอาของไปแลกกับเผ่าเกลือก็ผูกมิตรคนเผ่าอื่นมาได้แล้ว

9.
เผ่าหินที่เอาถ่านหินมาให้แบบงงๆ น่ารักดี เพราะลูกชายหัวหน้าเผ่า บอกว่าชอบหินนี้ที่ดำเหมือนกับตัวเอง และคุณพี่ก็ชื่อ Hei Shi ไปด้วยอีก สุดท้ายเผ่านี้ก็มาอยู่ด้วย ตอนที่ทนหนาวมากไม่ไหวอีกเหมือนกัน

10.
ตัวร้ายสองคนที่อิจฉาและคิดร้ายกับ Bai Ye ตั้งแต่เป็นร่างเดิมเป็นรูปแบบเดียวกันมากไปหน่อย โดยเฉพาะ เพราะว่าเกลียดและอิลฉาถึงขั้นที่ทรยศเผ่าตัวเอง เพื่อให้คนนอกเผ่ากำจัด Bai Ye ให้ ... สุดโต่งมาก และเหมือนเป็นการกำจัดคนที่ต่อต้าน Bai Ye ในเผ่าไปมากกว่า

11.
มีประเด็นสัตว์ที่เกิดจากพลังจิตของ Young Patriarch แต่ทำไมมีโผล่มาแค่ตอนเดียวแล้วก็หายไป ทั้งทีีเอามาเขียนเป็นประเด็นต่อก็ได้อยู่ ถ้าไม่จะแตะ ก็ไม่น่ายกมาเลย .. กับตอนจบที่กลับโลกปัจจุบันแล้วลาออกจากงาน เพราะไม่อยากเหนื่อยตายเหมือนก่อนหน้าก็ทำให้คิดว่าแล้วจะอยู่ต่ออย่างไร? 

12.
คนเขียนมีเรื่องแนว farming ในเกมด้วย ตอนแรกคิดว่าจะไปอ่านต่อทันที แต่พอเจอตอนจบแบบนี้ ฉันก็เลยแน่นิ่งไปต่อไม่รอด


________________________________________
ทวิตเตอร์ : @mgk993 #mereadingg