Monday 16 September 2019

เรียกข้าว่าคุณหนูอันดับหนึ่ง โดย เชียนซานฉาเค่อ

//1. สปอยล์ไม่ต้องสงสัย — เป็นบันทึกการอ่านนะคะ//

// 2. อ่าน e-book 3 เล่มแรก ที่เหลือเป็น mtl จากจีน ไม่แน่ใจเรื่องความเหมือน/ต่างจากฉบับภาษาไทย//

เอาจริง เรื่องนี้ก็เหมือนเรื่องกลับมาแก้แค้นของเชียนซานฉาเค่อแบบผลาญ แล้วก็นางพญาท้ารบ แนวทางมาเหมือนกันทั้งสามเล่ม แต่ก็นะคะ พวกที่ชอบสายนางเอกเก่งกลับมาแก้แค้นอย่างอีฉันก็ยังงมงายอ่านต่อไป

ส่วนตัว เล่มนี้เป็นส่วนผสมของผลาญ แล้วก็นางพญาท้ารบ ในแง่ที่ว่าเอาการแก้แค้นเฉียบไวของเรื่องแรก มาผสมกับขั้นตอนการดำเนินเรื่องที่ไปเป็นทีละขั้นตอนอย่างมีเหตุผลมากขึ้นของเรื่องหลัง แต่จุดที่ต่างกันก็คือ แทนที่ตัวคนรักที่นางเอกถูกหลอกใช้จะเป็นแบบองค์ชายที่จะขึ้นครองบัลลังค์ เปลี่ยนเป็นจอหงวนคงแก่เรียนที่รักและแต่งงานกันที่ต่างจังหวัด ก็เลยทำให้แนวทางแก้แค้นของนางเอกและแนวทางเดินเกมทางการเมืองของพระเอกแยกออกเป็นคนละส่วนกันต่างจากสองเรื่องแรก 

ดังนั้น เซวียฟังเฟย ที่ถูกองค์หญิงที่กลายเป็นคนรักของสามีเก่าสร้างเรื่องให้เสื่อมเสีย และฆ่าตายโดยทำให้เป็นเหมือนกับการฆ่าตัวตายเอง ก็ได้กลับมาอยู่ในร่างของ เจียงหลี คุณหนูรองของมหาอำมาตย์ ที่ถูกส่งมาทิ้งอยู่ที่อารามแม่ชี ด้วยข้อหาทำร้ายแม่เลี้ยงและลูกในท้องของแม่เลี้ยง และการเริ่มต้นแก้แค้นทั้งสามีเก่า กับการประมือกับแม่เลี้ยงหน้าเนื้อใจเสือก็เริ่มขึ้น

เรื่องนี้พระเอกไม่ได้รักนางเอกชัดเจนหรือว่าเร็วเหมือนในผลาญ แต่เป็นเหมือนนางพญาท้ารบที่เริ่มจากความไม่ไว้ใจถึงขั้นระแวงของพระเอก ก่อนที่จะค่อยๆ แปรเปลี่ยนมาเป็นความเข้าใจ และรู้ใจกัน — ความสัมพันธ์เป็นไปในเชิงที่เจียงหลีต้องพึ่งพา จีเหิง ที่เป็นผู้มีอำนาจและอิทธิพลแม้กระทั่งกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ในว่าจะในเรื่องของการปกป้องดูแล หรือแม้กระทั่งการให้ความช่วยเหลือ และส่วนของจีเหิงเอง การยอมให้ความช่วยเหลือก็เกิดขึ้นเพราะเจ้าตัวสนใจกับความบันเทิงที่เกิดจากพฤติกรรมและแรงจูงใจจะแก้แค้นที่คาดเดาไม่ได้และดูเหมือนจะไม่มีที่มาที่ไปของ ‘คุณหนูรองเจียง’

หลักๆ แล้ว ในส่วนของการแก้แค้นเรื่องนี้ทำได้สนุกเหมือนเดิม แม้ว่าจะดูเหมือนอ้อมโลก เพราะว่าศัตรูเป็นถึงองค์หญิงที่ดูจะมีฐานะสูงเกินไปต่อกรด้วยไหว แต่ด้วยความใจเย็น คอยหาวิธีการและวางแผนการของเจียงหลีก็ทำให้เรื่องราวเหล่านี้สนุกและคาดเดาไม่ได้ กับขณะเดียวกันก็มีการปะทะคารมและสู้ด้วยแผนการกับแม่เลี้ยงเป็นระยะๆ ระหว่างทางเช่นเดียวกัน ซึ่งก็เป็นไปตามเงื่อนไขไม่ต่างจากสองเรื่องแรก ไม่ว่าจะเป็นวางยาสร้างเรื่องฉาวชู้สาว ไล่ปีศาจและความอัปมงคล ฯลฯ และแม้ว่าการแก้ปัญหาจะไม่ต่างจากเดิม แต่รายละเอียดเล็กน้อยที่แผกออกไปก็ยังทำให้ยังสนุกและน่าตื่นเต้นเหมือนเดิม

ความรักเรื่องนี้ไม่ค่อยเด่นชัดเท่าไหร่ อย่างที่ช่วงแรกเน้นการแก้แค้นกับสามีชั่วและชู้รักเป็นหลัก พอแก้แค้นได้จบก็เหมือนตัวนางเอกจะเนือยลงไป กลับมาเป็นคุณหนูลูกขุนนางธรรมดา และที่ยิ่งกว่านั้นก็คือช่วงที่พระเอกมองว่าจบการแก้แค้นได้แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างสองคนก็ควรจะจบสิ้นด้วยเหมือนกัน เพราะจีเหิงไม่ต้องให้ความช่วยเหลือนางเอกแล้ว และก็อยากที่จะทุ่มความใส่ใจไปที่การแก้แค้นส่วนตัวของตัวเองมากกว่าที่จะต้องติดต่อยุ่งเกี่ยวกับเจียงหลี กว่าที่จะมีเรื่องที่ทำให้เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ก็นาน และถึงแม้ว่าจะเข้าใจได้ ตัวจีเหิงก็มอง เจียงหลี/เซวียฟังเฟย ในฐานะผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ควรจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองและการรบของตัวเองอีกต่างหาก — ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ทำให้ขัดใจมาก มีความรู้สึกว่าตัวนางเอกมีความรู้ความเข้าใจบ้านเมืองและมีสมองที่คิดแผนการและรู้เท่าทัน ก็ควรจะเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์มากกว่าเก็บนางเอกเอาไว้บนหิ้ง แล้วตัวเองออกไปจัดการกับปัญหาคนเดียวโดยไม่ยอมให้นางเอกมีส่วนรู้เห็น อย่างที่หายไปแล้วปล่อยให้นางเอกต้องรอ

เมื่อในแง่นี้ทิศทางเรื่องหลังการแก้แค้นเปลี่ยนไปให้ตัวเจียงหลีกลับมาเป็นคุณหนูในห้องหอที่ถูกตระกูลกำหนดทิศทางให้เดิน ก็เลยมีเรื่องอย่างการวางตัวในตระกูล และการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับลูกชายบ้านอื่นเข้ามา — ก็การแก้ปัญหาก็เป็นการช่วยเหลือจากฝ่ายชายแทนที่จะเป็นการใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองอย่างที่เคยเป็น (พระเอกมาช่วยก็ดี แต่บางครั้งก็อยากให้นางเอกหาทางขวนขวายด้วยตัวเองก่อน แทนที่จะอยู่เฉยๆ ให้พระเอกมาช่วย)

นอกจากนี้ ที่รู้สึกพล็อตไม่นิ่งก็มีอีก 2 ประเด็น คือ หนังสือวางตัวให้ตัวจีเหิงมีอำนาจและมีอิทธิพลมาก และภาพที่เห็นก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่พอครึ่งหลัง ทำไมดูพระเอกไม่มีกำลังคนของตัวเองเลย พวกที่เคยรายล้อมรับใช้เป็นมือสังหารในเงามืดอย่างที่เคยมีไปไหนหมด? ทั้งในส่วนของการสู้ที่หางโจว และก็การรบสุดท้าย โดยเฉพาะเมื่อเปิดประเด็นให้มีเรื่องในอดีตของครอบครัวจีเหิงเข้ามา

กับตัว (คนที่เหมือนจะเป็น) พระรองแต่กลายมาเป็นตัวร้ายสุดท้ายก็ดูไม่มีแรงจูงใจขนาดนั้น ส่วนตัวถ้าจะเขียนบุคลิกนิสัยออกมาให้ดีตอนแรก และเปลี่ยนเป็นตัวร้ายอย่างที่เป็น ดูสงสารตัวละครและไม่สมจริงกว่าที่ควรจะเป็น

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ติดใจในแง่ที่คิดต่อเองมีอยู่ว่า เรื่องผลาญก็ดี นางพญาท้ารบก็ดี เป็นเรื่องที่นางเอกสามารถย้อนเวลากลับมาในอดีตได้ และสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดและเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้เต็มที่ แต่เรียกข้าว่าคุณหนูอันดับหนึ่งเป็นการดำเนินเรื่องต่อจากจุดที่เกิดเหตุ และดังนั้นแม้ว่าจะมีการพยายามแก้ไขสถานการณ์อย่างไรก็ทำได้ไม่เต็มร้อย ส่วนตัว สงสารตัวละครหลายตัวที่ถูกทำร้ายเพราะแผนการขององค์หญิงมาก โดยเฉพาะน้องชายนางเอก เพราะว่าแม้ว่าจะมีชีวิตอยู่ แต่ก็ต้องเสียขา และเดินไม่ได้ไป (ถ้าเป็นไปได้ อยากแก้ประเด็นนี้มาก ก็รู้ว่าคนเขียนอยากบอกว่า สิ่งที่ดีที่สุดก็คือมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกแง่หนึ่ง ตัวละครนี้ก็ควรจะได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ — อยากให้กลับมาเดินได้มากเลย ฮือ)

ถ้าจะให้เปรียบเทียบ 3 เรื่อง ถ้าดูเฉพาะส่วนของการแก้แค้นอย่างเดียว ชอบเรื่องนี้ที่สุด เพราะชอบการแก้ไขปัญหาอย่างแนบเนียบค่อยเป็นค่อยไป และความสัมพันธ์ที่แม้จะไม่ใช่ความรักเชิงชู้สาวชัดเจน แต่กลมเกลียวอยู่ด้วยกัน และการตามใจในแบบของจีเหิง ซึ่งถ้าจะพูดกันตามจริง การให้ความช่วยเหลือและคอยดูแลใส่ใจแบบนี้ ดูพึ่งพาได้กว่าการเอ่ยคำรัก และการฝากใจอีก — อย่างไรก็ตาม เรื่องค่อนข้างนิ่งไปหลังจากนั้น ด้วยประเด็นการกลับสู่สภาพคุณหนูในห้องหอที่อยู่ไปเรียบเรื่อย และการเดินเกมของจีเหิงที่เอาอดีตมาเป็นประเด็น (เทียบกับหมู่ขุนนางใหญ่ และราชวงศ์มีปัญหาอย่างนี้หมด ทำไมจึงกลายมาเป็นประเด็นที่เป็นเรื่องหนักหนาในตอนหลัง?)

ก็เลยกลายเป็นในภาพรวม สุดท้ายแล้วก็ยังชอบผลาญที่สุดอยู่ดี 

Thursday 5 September 2019

บันทึกเรื่องแนววันสิ้นโลก+ซอมบี้ที่อ่าน

อาจสปอยล์

//พีคสุดชอบสุดที่สี่เรื่องแรก//

อันดับหนึ่ง 
Dangerous Survival in the Apocalypse (รีวิวไปแล้ว) 

ชอบ Shen Shian ตัวเอกที่เก่งเกินสามโลก OP เกินเหตุเพราะ space dimension ใหญ่ยักษ์ไม่มีขอบเขต และเจ้าตัวเหมือนจะทำได้ทุกอย่าง แต่ว่ามีน้ำใจและช่วยเหลือคนอื่น ใครมาอยู่กับ Shian คือชีวิตดีมากรุนแรง ถึงขั้นนั่งรถไปจิบสมูทตี้กินองุ่นบ้างเชอรรี่บ้างไปด้วยแล้ว ชอบที่เน้นสู้กับซอมบี้ แล้วก็เน้นการสู้กับใจคนไปพร้อมกัน ต่างจากเรื่องอื่นนิดหน่อยที่ไม่ได้เป็นการอยู่กับที่ แต่ว่าตะลุยฝ่าไปที่เมืองหลวง แล้วไปตั้งเบสที่นั่น ซึ่งระหว่างนี้ก็เก็บพรรคพวกไปได้ทีละคนสองคน

พระเอกก็มาตั้งแต่ต้น แต่ว่าอยู่ในรูปตั้งแต่ลูกหมา และเด็ก ซึ่งป่านนี้ (ตอนที่ 155) ก็ยังไม่โต แต่ว่าชอบความผูกพันและตายแทนจริงจัง เป็นเรื่องแนวนี้ที่ชอบที่สุด

The Reborn Otaku’s Code of Practice for the Apocalypse (รีวิวไปแล้ว)

Luo Xun กลับมาเกิดใหม่ จุดเด่นอยู่ที่เจ้าตัวไม่มีพลังพิเศษ แต่ว่าใช้ประสบการณ์จากชาติก่อนกับสติปัญญาวางแผนและรับมือกับเหตุการณ์ตรงหน้าจนถึงขั้นเป็นหัวหน้าทีมของกลุ่มได้ ตามชื่อเรื่องก็เลยมีสองขา เน้นทั้งการเก็บของและสร้างฐาน ปลูกผักกับเลี้ยงสัตว์ไปด้วย ซึ่งรู้สึกว่าการสร้างบ้านเสริมความแข็งแรงให้ทนทั้งคนทั้งซอมบี้ในเรื่องอื่นไม่ค่อยทำ ลงรายละเอียดปลูกผัก และสร้างบ้านจะทุกขั้นตอนถึงขั้นหลับตาหลอนตามจริงๆ

ชอบความสัมพันธ์ส่งเสริมกันของตัวเอกกับพี่พระเอก เพราะพี่เขาเก่งจริงแต่ว่าประนีประนอมคุยกันรู้ใจมาก //ตอนจบจบดีมากด้วย ชอบความรู้สึกต่อเนื่องแล้วก็โทนบวกที่ให้เห็นความหวัง

Dominion’s End The Region ทีมสังหาร vs อวสานโลก

เรื่องนี้ก้ำกึ่งว่าจะเป็นวายไหม เพราะว่าตัวเอกกลับมาเกิดใหม่เป็นผู้ชายจริง แต่ว่าเป็นผู้หญิงมาก่อน คนเขียนก็คือ Yu Wo เจ้าแม่สายแฟนตาซี ก็เลยทำให้เรื่องเยอะไปกว่าแนววันสิ้นโลก+ซอมบี้ส่วนใหญ่ กับรายละเอียดแน่น จินตนาการสูง ตัวเอกเก่งเทพมาก และก็หน้าตาดีมาก ตามประสาตัวเอกของ Yu Wo และทีมก็ดีเหมือนกัน เพราะคุณพี่ชายมีเพื่อนที่เป็นทหารรับจ้างในสังกัดอยู่ ดูจากทรงคิดจะครองโลกก็ยังได้

แต่ปัญหาชีวิตก็คือ คนเขียนก็ยังเขียนไม่จบ Enter พิมพ์มาได้ 4 เล่มก็ยังค้างตายกันอยู่ และที่สำคัญเพราะปูพื้นค่อนข้างแน่น มาหลายเล่มแล้วก็ยังไม่ถึงไหน

Thrive in Catastrophe (รีวิวไปแล้ว)

ชอบการคิดนอกกรอบของตัวเอก แล้วก็ความกล้าที่จะดีขึ้นเพื่อคนที่ชอบนะ จุดเด่นก็คือเป็นสังคมวันสิ้นโลกอยู่แล้ว ก็เลยเริ่มเรื่องไปเชิง futuristic/ post-apocalypse ได้เลย แล้วก็ออกไปเชิงทหารแล้วก็การต่อสู้ของกองทัพมากกว่าจะเป็นคนธรรมดาอย่างเรื่องอื่น แต่ว่าส่วนตัวจุดเปลี่ยนที่ถูกลักพาตัวน่าเบื่อไปหน่อย กับไม่ชอบที่ตัวเอกยอมให้คนอื่นมากำหนดตัวเองเป็นช่วงๆ

//ช่วงนี้กลางๆ ค่ะ //

After Brushing Face At The Apocalypse’s Boss For 363 Days

ต่างจากเรื่องอื่น เพราะพระเอกเป็น AI ในเกม และตัวเอกก็หลงรักพระเอกที่เป็น last boss ในเกมก่อนที่จะหลุดไปในโลกเกม/โลก apocalypse ของพระเอก เรื่องนี้ก้ำกึ่งเป็นทั้งสายเกมแล้วก็สายวันสิ้นโลก+ซอมบี้ไปพร้อมกัน น่ารักที่ตอนตัวเอกเข้าไปในเกม สิ่งแรกที่ทำทุกวันคือไปหาพระเอกที่ใน setting ได้แค่ยืนเฉยๆ แต่หารู้ไม่ว่าพี่เขาก็น้ำหยดลงหิน อินน้องไปด้วยเหมือนกัน น้องคุยบ้าง กอดบ้าง โดยที่เพิ่มค่าอินเลิฟพี่เขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และดังนั้น เมื่อหลุดจากเล่นเกมมาอยู่ในโลกเกมจริงๆ ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพี่เขาก็ตามล่าหาน้อง และเคยช่วยเนียนบ้างไม่เนียนบ้างไป ถึงขั้นทำเสื้อบอกว่ารักบอสให้ตัวเอกใส่ก็มี กับเป็น last boss ทำตัวร้ายไปจับคนในฐานมา ไม่ใช่อะไรแค่ช่วงนี้น้องไม่เอาช็อคโกแลตมาให้ ก็เลยข่มขู่เอาลูกสาวพ่อครัวมาเพื่อให้ทำช็อตโกแลตและใส่กล่องให้เป๊ะแบบที่น้องให้มา –  คือว่าของเดิมเหลือกล่องสุดท้ายไม่กล้ากิน เป็นการใช้อำนาจตัวร้ายแบบจะร้ายดีไหมคะ

ความ ultimate คือถามน้องตอนที่เจอกันจริงๆ ว่าอยากให้โลกนี้เป็นอย่างไรก็จะให้เป็นตามนั้น จุดจบของโลกขึ้นอยู่กับน้องต้องการ กี๊ซซซซซ

Number One Zombie Wife

ตัวเอกหลุดมาในนิยายที่ตัวเองเขียน ในเรื่องเป็นซอมบี้เพราะถูกฉีดไวรัสเข้าไป แล้วก็เป็นศัตรูกับพระเอกมาก่อน โดยเฉพาะเมื่อเป็น zombie king ช่วงแรก ๆ เหมือนจะเข้าไปเพื่อฆ่าพระเอก แต่เพราะพระเอกหน้าเหมือนเพื่อนสนิทตัวเองก็เลยฆ่าไม่ลง เปลี่ยนแผนเป็นให้สนิทกันจนฆ่าไม่ลงแทน ช่วงแรกพล็อตไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ รู้สึกว่า loopholes เยอะ แต่ว่าช่วง 100+ สนุกอยู่เหมือนกัน เป็นเรื่องอ่านเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยรู้สึกพีคเท่าไหร่ แต่ว่าเวลาพระเอกอ้อนตัวเอกกับเวลาหึงน่ารัก+น่าขำเป็นระยะๆ

Apocalypse Rebirth: Chief, Don’t Move!

เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ไม่วาย และเหมือนจะเป็นเรื่องแรกแนวนี้ที่อ่านนานมาแล้ว 5555 ตัวเอกย้อนกลับมาเหมือนกัน และก็เป็นอารมณ์พยายาม reunite กับครอบครัวเดิม เอาจริงอ่านไม่ไกล เพราะเรื่องนี้ตอนนั้น raw อ่านยาก

Counterattack of a White Lotus that was Reborn into an Apocalypse

สลับกับเรื่องอื่นเพราะว่าตัวเอกเป็นพระเอก ใช่ค่า seme protag! จากที่ควรจะเป็นแค่ตัวประกอบร้ายๆ เพราะหลุดมาในนิยายที่เพิ่งอ่านก็เลยพยายามหนีจากสถานะมือที่สามของลูกพี่ลูกน้องที่มีแฟนอยู่แล้ว เรื่องนี้ตอนนี้งงโพกับงงพระเอกมาก แต่สุดท้ายแล้วพี่แกนั่นเองที่เป็นที่เป็นพระเอกและตัวเอกควบกันไป ส่วนนายเอกก็คือแฟนของลูกพี่ลูกน้องนั่นเอง กว่าจะเข้าใจก็ผ่านไปหลายบทโข

จริงนายเอกเอาพระเอกมาอยู่ด้วย เพราะว่าอีนางกลับชาติมาเกิดใหม่ (reincanator VS transmigrator นั่นเองง) และก็กะจะแก้แค้นเต็มที่ แต่เพราะพระเอกเด๋อดูโง่แบบงงๆ ก็เลยปักธงนายเอกไปไม่รู้ตัว น่ารักที่พระเอกพยายามพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น และมองโลกในแง่ดี แต่พอนานๆ ไป เหมือนคนเขียนชอบเพิ่มตัวละครใหม่แล้วก็ทิ้งไปตามรายทาง กับหลังๆ ส่วนตัวว่านายเอกดูนิ่งไปนิดนึง สมเป็น tag cold interest มาก

Back to the Apocalypse

ตัวเอกกลับมาเกิดใหม่อีกเช่นกัน กลับมาทั้งพลังพิเศษ ทั้งมิติเก็บของ และด้วยความที่ชาติที่แล้ว ทำให้คนรักตาย ชาตินี้ก็เลยจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนรักที่เป็นหัวหน้าแกงค์ ซึ่งเอาจริงก็เป็นเรื่องที่ loopholes เยอะมาก และเขียนแต่สักว่าเป็นแนวสิ้นโลกซอมบี้ ตามสูตรแต่ไม่มีเสน่ห์ดึงดูดเท่าไหร่ จุดเด่นก็คือ ตัวเอกพลังเยอะ และเป็นลูกนักการเมืองก็เลยใช้อิทธิพล ความรวย และพลังสลับกันไป ส่วนตัวให้ไม่ผ่าน โดยเฉพาะไม่ชอบนิสัยตัวเอกมาก ๆ มีความรู้สึกว่าเห็นแก่ตัว แล้วก็มองโลกแคบ ไม่นับ loopholes และการขาดเสน่ห์

My Cherry Will Explode in the Apocalypse

ตัวเอกกลับมาเกิดใหม่ เรื่องนี่คล้ายๆ กับ Back to the Apocalypse เพราะตั้งเป้าชีวิตว่าจะปกป้องคนรักให้ได้ แต่น่ารักกว่าเรื่องบน เพราะตัวเอกนิสัยค่อนข้างซอฟท์กว่า และคุณพี่พระเอกเป็นตำรวจ (อย่างน้อยก็สายนอกเครื่องแบบจ๊ะ) จุดเด่น คือพลังวิเศษของตัวเอกที่มีมิติพิเศษ และปลูกผักได้ ซึ่งคุณผักก็ทำให้ทั้งเป็นอาหารรสชาติดีมีคุณค่า และเป็นอาวุธสู้ซอมบี้ ปัฐหาอย่างเดียวที่สงสัย คือทำไมพี่พระเอกอินเลิฟเร็วมาก

Rebirth of MC

พระเอกเกิดมาใหม่อีกเรื่องแล้วค่ะ คราวนี้ เอาจริงชื่อก็บอกอยู่แล้วเนอะ จุดเด่นคือการสู้กับซอมบี้ไม่ได้ใช้พลังพิเศษ แต่ใช้วิชาปราบปีศาจค่า ดังนั้นการทำไม้ท้อมาปลุกเสกเพื่อฆ่าซอมบี้ และการสร้างเขตอาคมก็เป็นเรื่องปกติเรื่องนี้ คุณพี่พระเอกเป็นทหารและแม่นปืนมาก ความขำก็คือ หมอดูบอกว่าพระเอกต้องหาคนที่จะแก้ดวง/ คนรักคือตัวเอกให้เจอ แล้วอีพี่พระเอกก็ใช้วิธีออกหมายจับ! ว๊อทมากก ตัวเอกหนีสุดหล้าฟ้าเขียว แต่สุดท้ายก็กลับมาเจอกัน อยู่ด้วยกันไปพักหนึ่งกว่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร โถ
เพื่อนสมัยเด็กพระเอกก็ได้รับสืบทอดวิชาสร้างของอาคมมาจากบรรพบุรุษเช่นกัน เอาให้พอออ!

อ่านเพิ่มที่นึกออก (29/03/21)

  • Undead (2019)
  • 2013  (2019) (dropped)
  • The Earth is Online  (2019) (dropped)
  • End of World’s Businessman  (2019)
  • Show Love System (2019?)

  • The Rebirth of the Last Days and Return to [Fang] Hao  (2021)
คนเขียน The Reborn Otaku’s Code of Practice for the Apocalypse โลกเดียวกัน แต่พอเว่อร์กว่า แล้วก็ OP กว่า ชอบในแง่คนรักอยู่ด้วยกันสองคน แต่ยังขัดใจเรื่องอยู่เป็นทีม แต่รวมๆ ก็เหมือนอ่านเรื่องต่อ แต่ก็ชอบอยู่นะ

  • The Invasion Day (2021)
เปลี่ยนจากสู้กับซอมบี้เป็นสู้กับเอเลี่ยน แต่ฟีลวันสิ้นโลกเหมือนกัน  

  • Rebirth in the days of farming in the last days  (2021) (dropped) 

อ่านจีนจากชื่อ 重生在末世种田的日子 คนเขียน The Reborn Otaku’s Code of Practice for the Apocalypse  อีกเหมือนกัน ไม่สนุกเลย

กลุ่มนี้รออ่าน
  • Apocalyptic Rebirth: Earth’s Vast Changes
  • Boss’s Death Guide
  • Fierce Silk Flower
  • The End of The World’s Reborn Cannon Fodder Counter-attacks
  • Quick Transmigration: Rescuing the Blackened Male Lead
  • The End of The World’s Reborn Cannon Fodder Counter-attacks



Sunday 1 September 2019

Stone Age Husband Raising Journal

แนวยุคหิน + beast world 

อาจจะสปอยล์ 

ใน Beast world ยุคก่อนประวัติศาสตร์ หนุ่มน้อย Xiong Ye ผู้มีร่างสัตว์เป็นหมี รักกันกับ Shi Li ที่เป็นสิงโต ทั้งสองตกลงจะแต่งงานกัน แต่ทว่า...

อี Shi Li ดันกลับร่างมาเกิดใหม่ แล้วก็ตั้งใจที่จะอยู่กับผู้หญิงในเผ่าคนอื่นแทน Xiong Ye ที่แสนจะรักมั่นคง!!!

Xiong Ye ใสซื่ออกหักใจสลาย และอีคนในเผ่าหมีก็แสนจะทึ่มบื้อไม่ได้รับรู้ความเจ็บปวดของหมีน้อยเล๊ยย ยกเว้นแต่คนเดียวก็คือ Zhou Ji ที่เห็นใจหมีใจสลาย และส่งอาหารอร่อยแบบที่ Xiong Ye ไม่เคยได้กินมาปลอบใจ

หลังจากนั้น ตัว Zhou Ji เป็นคนอ่อนแอของเผ่าก็ถูกไล่จากจากถ้ำตัวเอง และเพราะความสงสารประกอบกับเหงานิดๆ หมีก็เลยรับเอาคนอ่อนแอมาอยู่ด้วยในถ้ำ กลายเป็นจุดเริ่มของความสัมพันธ์มิตรภาพขึ้นมา

แต่ทีนี้ Zhou Ji ไม่ได้เป็นแค่คนอ่อนแอไร้กำลังตามที่ฉากหน้าเห็น อันที่จริง เจ้าตัวกลับมาเกิดใหม่หลังจากอยู่ในยุควันสิ้นโลกและสู้รบกับซอมบี้มานานแสนนาน เมื่อได้มาอยู่ในโลกก่อนประวัติศาสตร์ที่น้ำบริสุทธิ์ อากาศสะอาด ผักและผลไม้ยังไม่กลายพันธุ์ เจ้าตัวก็ตั้งใจว่าชีวิตนี้จะขี้เกียจให้มันสุดไป เพราะว่าชาติที่แล้วเหนื่อยโฮกไม่เคยได้พักมามากแล้ว เมื่อพลังสายไม้จากชาติที่แล้วติดตัวมา ก็คิดว่าจะกินผักเขียวให้หนำใจ — โดยที่ไม่ได้รู้เล๊ยว่าในสายตาของคนภายนอกจะดูว่าเจ้าตัวสิ้นไร้ไม้ตอกไม่มีเนื้อสัตว์ให้กินขนาดไหน

ฉะนั้น ความสัมพันธ์อยู่ร่วมกันของหมีกับ “คนอ่อนแอ” ก็เริ่มขึ้นไปอย่างดูแลถนอมใจกัน หมีน้อยล่าเนื้อสัตว์มาให้ และคนในบ้านก็ทำอาหารอร่อยแบบที่ชาตินี้ไม่เคยได้กินมาเลี้ยงหมี 

ที่สำคัญก็คือว่าเอาจริง Zhou Ji เป็นคนเก่ง และมีความสามารถรอบด้านมาก แต่ตอนแรกด้วยความที่ยังไม่เข้าใจภาษาพูดของคนในโลกนี้ และไม่คิดว่าจะยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น ก็เลยไม่ได้สนใจอะไรใคร แต่ตัว Xiong Ye นั้นตรงกันข้าม เจ้าตัวเป็นที่รักของคนในเผ่า มีน้ำใจ และเอื้อเฟื้อกับทุกคน ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ตัว Zhou Ji ก็เลยมีความเกี่ยวข้องและผูกพันกับคนในเผ่าไปด้วย แต่ทว่าจะไปบอกให้ในเผ่าทำโน่นทำนี่เองก็ดูจะไร้น้ำหนัก สุดท้ายคนเจ้าเล่ห์อย่าง Zhou Ji ก็เลยใช้วิธีสร้างสถานการณ์โชว์ความสามารถ และอ้างว่าตัวเองสื่อสารกับ beast god ได้ กลายเป็นที่เคารพบูชาของคนในเผ่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งก็ตามมาด้วยการสร้างความยิ่งใหญ่และความก้าวหน้าของเผ่าหมี จากเผ่าระดับเล็กที่ดูจะไร้อารยธรรมก็เริ่มดูอลังการขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เลี้ยงไดโนเสาร์เป็นอาหาร ปลูกผัก ไปจนถึงทำเครื่องปั่นดินเผา แหตกปลา และทุกอย่างอลังการเท่าที่จะคิดมาได้ และก็มีคนมาขออยู่ด้วยจนกระทั่งกลายเป็นเผ่าขนาดใหญ่ไปในที่สุด

เรื่องนี้ตอนแรกอ่านแบบไม่คิดอะไร เพราะไม่ชอบแนวยุคหินอยู่แล้ว ดูว่าความรู้สึกทางจิตใจมันแล้ง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก Banished to Another World) แต่อ่านไปอ่านมา น่ารักกกกกว่าที่คิดไปเยอะมากจนติดหนึบ เพราะตัวละครหลักอย่าง Xiong Ye เป็นตัวละครที่น่ารักมาก ๆ อยากจะใช้คำว่า clean character เพราะทัศนคติดีมาก เอื้อเฟื้อช่วยเหลือคนอื่นไม่พอ ยังเป็นคนที่ขยันใฝ่หาความก้าวหน้าอีก จนตัวเองเก่งขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตัวชอบตัวละคนที่ขยันขันแข็งทำงานอยู่แล้วก็เลยถูกใจมากไป กับอีกอย่างก็คือชอบอารมณ์ clan-building ที่สร้างเผ่าชายขอบที่แทบจะไม่มีอะไรเลยให้กลายเป็นเผ่าที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรได้ ขำมากตอนที่ทั้งคู่กับคนในเผ่าเดินทางไปที่เผ่าใหญ่ และกลายเป็นว่าเผ่าหมีมีหมดทุกอย่าง นี่คือช่วงตบเกรียนโชว์เหนือจริงๆ เผ่าอื่นเครื่องดินเผาใช้ได้แค่หัวหน้าเผ่ากับผู้อาวุโสเผ่า แต่อะไรนะ เผ่าหมีมีใช้กันทุกคนตามจำนวนคนค่ะ คุณ!  ไม่มีใครเลี้ยงไดโนเสาร์ได้ แต่เผ่าหมีก็เลี้ยงมาแล้วว! ที่สำคัญ เผ่าอื่นมีนักรบระดับ beast master ได้สักคนก็เทพแล้ว แต่ให้มาดูภายหลัง มานับเร็วว่าเผ่านี้เก็บตก beast master มาได้กี่คน เกลื่อนตลาดจนดูเป็นของโหลไปเลย โฮะโฮะ

ตัว Zhou Ji ในเรื่องจะดูเหนือยๆ อืด ๆ เพราะนิสัยเจ้าตัว แต่เพราะว่าอยากกินของอร่อย และอยากอยู่สบาย ก็เลยพัฒนาคุณภาพตัวเองและหมีคู่ชีวิตอย่างจริงจัง และก็เลยกลายเป็นผู้กำหนดเทรนให้คนในเผ่าทำตามด้วย ชอบที่ทุกครั้งเวลาได้อะไรใหม่ๆ มาก็จะทำอาหารเลี้ยงหมี แต่หลังๆ คนในเผ่ารู้แกว เวลาได้กลิ่นอาหารอะไรใหม่ๆ ก็จะมาเนียนๆ ขอชิมขอกินไปด้วย มากันตั้งแต่นักบวชประจำเผ่า หัวหน้าเผ่า พี่ชายหมี น้องชายหมี และเพื่อนร่วมรบ กลับเวลาออกไปรอนแรมนอกเผ่า ก็จะคอยหาพืชแปลกๆ เพื่อเอาไปเพาะพันธุ์ที่เผ่าให้ตัวเองมีกินด้วย  ซึ่งพอนานๆ ไป คำสั่งหยุดเดินทางเพื่อเก็บพืชของ Zhou Ji ก็กลายเป็นคำสั่งศักดิ์สิทธิ์เพราะทุกคนลุ้นมากว่าจะได้อาหารใหม่รสชาติใหม่อะไรมากิน และถึงขั้นว่ามีนักรบเผ่าอื่นมาสวามิภักดิ์เพราะติดใจอาหารก็มี

ในแง่หนึ่ง การทำอาหารให้ก็กลายเป็นการแสดงออกถึงความรักของ Zhou Ji ที่มีต่อ Xiong Ye ไป และเพราะว่ารู้ว่าเผ่าหมีอยู่ในระดับเผ่าเล็กและไร้กำลัง ก็เลยทำให้เจ้าตัวพยายามปั้นหมีให้แข็งแกร่งไม่ให้เผ่าหมีถูกเผ่าใหญ่ๆ ข้างนอกกลืนไปได้ ช่วงกลางๆ ส่วนตัวรู้สึกว่า Zhou Ji ดูเฉยชาไปนิดนึง ดูเป็น cold love interest แต่พอช่วงหลังๆ ที่ Zhou Ji สารภาพความจริงกับ Xiong Ye ว่าตัวเองเป็นใครก็เริ่มร้อนแรงขึ้นมาเรื่อยๆ


ให้สรุปเรื่องนี้จะบอกว่า “หมีเลี้ยงแมมมอธ แมมมอธเลี้ยงหมี” จบดีด้วยการเปิดกว้างให้คิดต่อ และตอนพิเศษก็น่ารักน่าเอ็นดูแบบเจ้าเล่ห์ ถ้าไม่ติดช่วงวนลูปล่าสัตว์ทำอาหารในส่วนกลางจะดีกว่านี้มาก แต่ก็ให้ A-/B+ ได้อยู่ดี (คะแนนเฟ้อตามอารมณ์มาก แต่ตอนตบเกรียนคือขำจนไม่ไหวแล้ววว)
.
.
.
.
.
สปอยล์แบบไม่ไหวแล้ววววว อย่าอ่านนน!

เพราะความสามารถฝึกวิชาล้นเหลือก็เลยทำให้ตัว Zhou Ji กลายเป็น beast master ได้ตั้งแต่ไก่โห่ โดยที่มีใครรู้ และที่สำคัญเจ้าตัวก็แปลงร่างได้เสียด้วย แต่ไม่ใช่สัตว์เล็กๆ จิ๊บๆ กิ๊บๆ น่ารักน่าเอ็นดูแบบกระต่าย กระรอก เพราะเป็นแมมมอธค่าาา พ่อแม่พี่น้องง! คือในเรื่องช้างคือตัวใหญ่แล้ว แต่ตัว Zhou Ji นั้นไซร้เป็นช้างแมมมอธยักษ์ เมื่อคิดว่าขนาดตัวสัมพันธ์กับพลังกำลังก็คิดดูเลยว่าจะเก่งโหดขนาดไหนนนน แต่ว่าปัญหาคือเจ้าตัวใช้พลังไม่ได้ เพราะว่าติดปัญหาทางสภาพจิตใจมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ถ้าเห็นเลือด หรือถูกกระตุ้นขึ้นมาก็จะคลั่งรุนแรง อาละวาดทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า — และไม่แน่ใจว่าจะน่ารักหรือน่ากลัวดีว่าในเรื่องที่ตัว Zhou Ji สติหลุดฆ่าไม่เหลือแต่ละครั้งก็มาจากการที่ Xiong Ye เจ็บตัวทุกครั้งเสียด้วย

เอาจริงรู้สึกว่าไม่ควรรู้โพคู่นี้เลยยยย กรี๊ดดด ไม่พูดต่อล่ะ