Saturday 20 May 2023

打完这仗就回家结婚 //After This Battle, Go Home and Get Married

เขียนมาเพื่อเก็บความรู้สึกอีกแล้วว! 



คนเขียน: 寒菽

แนว: ดวงดาว หลังสงคราม ฟลัฟ

ความสัมพันธ์: ทหาร (ลูกหมาเด็ก) X ทหาร (อาจารย์ภูเขาน้ำแข็งซื่อ)

Arthur X Yan Xueshan

จำนวนตอน: 55 ตอน 

ปี: 2022


หลังสงครามจบ Yan Xueshan ตั้งใจว่าจะลาออกจากการเป็นทหาร แล้วกลับไปที่ดาวบ้านเกิดของพ่อบุญธรรมตัวเองที่ตายไปก่อนหน้าในสงครามเพื่อทำฟาร์มให้ความฝันของพ่อบุญธรรมเป็นจริง ชีวิตควรจะเรียบง่ายปลูกผักทำสวนไปวันๆ แต่ความตั้งใจที่จะแต่งงานแล้วใช้ชีวิตปกติกลับไม่ปกติขึ้นมา เพราะว่า Arthur คู่หูบังคับเมชในระหว่างสงครามกลับมาวุ่นวายรอบตัวๆ ตัวเอง 


ช่วงที่นัดบอดหาคนที่เข้าใจได้มาแต่งงานด้วย Arthur ก็บอกว่าถ้าต้องการคนที่ดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถ ฐานะ หน้าตา หน้าที่การงาน หรือว่าความก้าวหน้า ตัวเองเหนือกว่าคู่นัดบอดทุกคนของ Xueshan และดังนั้น Xueshan ก็ควรจะแต่งงานกับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อก่อนจบสงคราม อีกฝ่ายช่วยทำให้ความต้องการของตัวเองเป็นจริงแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ตัวเองจะต้องตอบแทนตัว Xueshan บ้าง


และ Xueshan ที่คิดทุกอย่างตามหลักตรรกะ ก็รู้สึกว่าคำพูดของ Arthur ก็สมเหตุผลดี ไม่ว่าทั้งในสถานะคนที่เหมาะสมที่สุด และการตอบแทนตัวเอง ... แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่ามีอะไรที่แปลกไปอยู่เหมือนกัน

.

.

.

นั่นก็เพราะจริงๆ แล้ว ถึงแม้ตัว Arthur จะอ้างทุกอย่างด้วยหน้าตาชอบธรรม และพูดจาดีเป็นหลักการ แต่จริงๆ จุดหมายเดียวของตัวเองก็คือให้ Xueshan มาเป็นของตัวเอง เพราะว่าเป็นลูกหมาเด็กที่แอบชอบอีกคนตั้งแต่เจอกันครั้งแรก แล้วก็ทุกอย่างให้ได้อยู่ด้วยกัน ตั้งแต่ที่รู้ว่าคู่หูของ Xueshan เพิ่งตาย ตัวเองก็รีบลงชื่อสมัครเป็นคู่หูคนใหม่ของ Xueshan ต่อมา และด้วยความที่อายุห่างกัน และไม่รู้จะหาทางเข้าใกล้ยังไงให้มีสถานะพิเศษ ก็เลยเค้นสมองเพื่อเรียกอีกฝ่ายว่า “อาจารย์” แล้วสร้างความสัมพันธ์เฉพาะขึ้นมา 


ซึ่งตัว Xueshan ที่ไม่คิดอะไรมาก ก็คิดแต่ว่าตัวลูกหมาเด็กอยากแค่แสวงหาความก้าวหน้า อยากเก่งขึ้น อยากแข็งแกร่งขึ้น สองคนก็ฝึกอยู่ด้วยกันเรื่อยๆ นอกเหนือไปจากการที่คู่หูจะอาศัยอยู่ในห้องพักเดียวกันเพื่อสร้างความสนิทสนมและรู้ใจเข้าใจกันในการรบ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสองคนก็รู้จักและรู้ใจกันเพิ่มมากจริงๆ เป็นคนที่คอยระวังหลังให้กัน อย่างที่บอกว่าในสนามรบ ตัว Xueshan ช่วยชีวิต Arthur ไว้ก็หลายครั้ง และ Arthur เองก็ช่วยชีวิต Xueshan ไว้ไม่ต่างกัน ไม่นับในเชิงสภาพอารมณ์ที่สองคนช่วยประคองกันจากความกดดันและความตึงเครียดในสภาวะสงคราม และการสูญเสียคนรอบตัวทั้งเพื่อน คนรู้จัก และคนร่วมงานไป เป็น double salvation ที่สองคนช่วยดึงกันและกันขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาอยู่ในสนามรบที่ช่วยกันจนรอดมาได้ทั้งคู่ (ถึงหนังสือจะพูดถึงหลังจากสงครามไปก็เถอะ) รู้จักและรู้ใจกันจนกลายเป็นคู่หูที่ค่าความเข้าใจสูงที่สุด กลายเป็นคู่เมชอันดับหนึ่งไป มี Arthur เป็นคนขับหุ่น melee ออกไปลุยระยะประชิด และ Xueshan บังคับหุ่น Spiner คอยคุ้มกันระยะไกลจากข้างหลัง ชอบเวลาอยู่ด้วยกันและเข้าใจกันและเข้าขากันมาก 


และที่มีอะไรแปลกๆ อย่างที่ Xueshan คิดก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะความปรารถนาก่อนทำวันสงครามขั้นเด็ดขาดก็คือ ลูกหมาโวยวายว่าถ้าพรุ่งนี้ต้องตาย ก็ไม่อยกตายแบบบริสุทธิ์ไม่เคยนอนกับใคร  แล้วก็ถาม Xueshan ว่าช่วยให้ความปรารถนาตัวเองเป็นจริงได้ไหม ซึ่งก็เพราะคิดว่าพรุ่งนี้เสี่ยงสูงมาก ถ้าจะต้องตายจริงๆ ก็อยากจะกอด Xueshan ที่ตัวเองแอบชอบมาตลอดสักครั้ง เป็นการพูดแบบส่งเดช เพราะไม่คิดว่าตัวอีกคนยอมตามใจทำตาม แต่ปรากฎว่า Xueshan ยอมให้จริงๆ  


ชอบอีกอย่างที่พอลาออกมาเป็นพลเรือนก็คิดว่าตัวเองเป็นแค่คนธรรมดา แต่ว่าวิธีคิดก็ยังเป็นทหารอยู่ดี อย่างวันที่ไปนัดบอดกินข้าวกับชายหนุ่มอีกคน แล้วมีลูกหมาเด็กตามไปหวงก้างด้วย (ซึ่งตอนนั้นยังไม่เสนอตัวเป็นคู่แต่งงาน แต่ไปในฐานะคู่หูและลูกศิษย์ที่ต้องไปช่วยกรองคน) ตอนกินข้าวเสร็จ ก็มีเสียงเตือนภัยดังขึ้นมา เพราะว่าสลัดอวกาศบุกโจมตีดาว ... ความพีคก็คือลูกหมาเด็กบอกว่ามีปืนใหญ่ยิงยานอวกาศอยู่ในกระเป๋าตัวเองแล้วก็เอาออกมาประกอบให้ Xueshan อย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าตัวก็รับมาแล้วเล็งยิงยานของพวกสลัดอวกาศอย่างรวดเร็วไม่ลังเลเหมือนกัน ด้วยความเชี่ยวชาญมากด้วย และยานสลัดอวกาศก็ระเบิดกลายเป็นจุณไป ... ซึ่งผู้ชายที่มานัดบอดก็ได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ ทำอะไรไม่ถูก จนในที่สุดก็หนีกลับบ้านไปก่อน แล้วส่งข้อความหา Xueshan ว่าอีกฝ่ายเป็นคนดี แต่เราคงเข้ากันไม่ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าก็มีลูกหมาระริกระรี้อยู่ข้างๆ ตอนอ่านข้อความ ที่ผ่านมาก็คือทำตัวเชื่อฟังว่าง่าย แต่พออยู่กันสองคนกับคู่นัดบอด Xueshan ก็ไปแยกเขี้ยวข่มขู่ทางโน้นไประยะๆ ไม่นับตอนไปตักอาหารที่ทำตัวบลัฟอีกคนแล้วตักแต่ของที่ Xueshan มาให้ตลอด


หรือถึง Xueshan จะคิดว่าตัวเองธรรมดา แต่เอาจริงผลงานที่ได้ก็ไม่ธรรมดาเลย ถ้าไม่ใช่ เพราะไม่อยากอยู่ในตำแหน่งสั่งการ ควบคุม วางแผน ก็ขึ้นมาได้นานแล้ว แต่ว่าถึงกระนั้น ความดีความชอบที่ช่วยประเทศเอาไว้ (ช่วยให้ชนะสงคราม) ก็ทำให้ได้เหรียญตราขั้นสูงสุดไป .. น่ารักที่ไม่เห็นค่าใดๆ นอกจากว่าเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความเป็นทหารผ่านศึกที่จะทำให้ได้ส่วนลดเท่านั้น อย่างจะขึ้นยานเมล์ บอกว่าไม่มีเงิน แต่ว่ามีตราใช้ได้ไหม เพราะรู้ว่าทหารผ่านศึกจะได้บริการและสวัสดิการของรัฐฟรีหลายอย่าง ... แต่คือ คุ้ยเหรียญออกมา การเป็นเหรียญตราขั้นสูงสุดขั้นสูงสุดที่ต้องทำคุณงามความดีอย่างสูงสุดไว้ก็ทำให้ทุกคนยืนตรงแสดงความเคารพได้แล้ว ขำความหน้านิ่งที่เห็นประโยชน์แค่ “บัตรลด” จริงๆ 


หลายครั้งอาจจะรู้สึกว่าตัว Xueshan ประหยัดจนถึงขั้นงก ... แต่ส่วนตัว สิ่งที่หล่อหลอมเจ้าตัวมาก็ทำให้เป็นแบบนี้ ไม่ได้เรียกว่างก แต่เรียกว่ารู้ค่า และเห็นค่าของเงิน เพราะว่าพ่อแม่ตัวเองตายไปตอน 5 ขวบระหว่างถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตี และก็อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาตลอด ด้วยความที่หน้าตาน่ารักก็มีคนอยากเอาไปเลี้ยงเยอะ แต่เพราะประสาทบกพร่องจากการถูกโจมตีตอนโน้นก็ทำให้แสดงความรู้สึกไม่ได้ กลายเป็นสินค้าบกพร่องที่ไม่มีใครอยากรับไปเลี้ยง มีพ่อบุญธรรมรับไปเลี้ยงภายหลังจริง แต่ด้วยความที่ทางโน้นฐานะไม่ดี ก็ทำให้ไม่มีเงินมาก บ้านที่อยู่ก็เล็กแคบไม่มีอะไรเลย อย่างพ่อบุญธรรมพาไปดูลูกหมา ถามว่าอยากได้ไหม ยังต้องทำหน้านิ่งแล้วบอกว่าไม่อยากได้ เพราะรู้ว่าการเลี้ยงสัตว์เป็นความฟุ่มเฟือยอย่างยิ่ง และพอตัวเองอายุ 18 ปี พ่อบุญธรรมที่ไปรบตาย เรื่องที่เคยคุยกันว่าจะเข้ามหาลัยก็ต้องจบไป กลายเป็นเลือกที่จะสมัครเข้ากองทัพเลี้ยงตัวเอง และเพราะไม่มีเส้นสาย เป็นแค่คนธรรมดาก็ถูกส่งไปที่แนวหน้าที่โอกาสตายสูงมาก แต่ด้วยความที่หน่วยก้านดี ก็เลยถูกเสนอชื่อให้กลับมาเรียนวิทยาลัยทหารต่อมา 


ชอบมากก ให้ A++ อีกเรื่อง ไม่คิดว่าคุกกี้แต่คุกกี้มาก ชอบความสัมพันธ์ของคู่หูเมช sniper+melee ไม่ค่อยเจอลูกหมาเด็กแสน scheming กับคนเลี้ยงงานจีนเท่าไหร่ น่ารักมากดีมาก เสียดายเป็นเรื่องสั้น แค่ 55 ตอน มีอีกก็อยากอ่านอีก ทั้งที่พล็อตไม่มีอะไร แต่อ่านแล้วฉ่ำมาก ชอบความรู้สึกเรียบง่าย โดยเฉพาะที่อีกคนเป็นภูเขาน้ำแข็งบกพร่องทางอารมณ์ แต่ก็สมบูรณ์ได้เพราะมีอีกคนขึ้นมา ส่วนลูกหมาเด็กก็คิดเหมือนกันว่าที่ตัวเองเป็นแบบนี้ได้ ก็เพราะอีกคน 


กับชอบที่เน้นความเรียบง่ายแต่มีความหมายพิเศษเพราะผ่านสงครามมาจนชีวิตเรียบง่ายกลายเป็นความสุขได้ เป็นเรื่องที่หวานเพราะให้ค่าอารมณ์และความสัมพันธ์ ความต้องการเรียบง่าย โดยเฉพาะการที่ตัวเอกจะลาออกจากกองทัพแล้วไปทำฟาร์มเพื่อสานฝันของพ่อบุญธรรมที่ตายไปในสงคราม ความหวานของเรื่องนี้ไม่ใช่หวานเพราะการให้ดอกไม้ พาไปกินข้าวมื้อหรู หรือว่าทำตามใจ แต่ว่าเป็นการให้ค่าความหมายชีวิต และให้ค่าคนที่อยู่ด้วยกัน .... โดยเฉพาะเมื่อ Xueshan ประสาทรับความรู้สึกบกพร่อง และประสบการณ์ชีวิตก็ทำให้ยากเปิดใจรับใครเข้ามา แต่ว่าพออยู่กับ Arthur แล้ว และสถานะระหว่างทั้งสองคนเปลี่ยนไป ตัว Xueshan ก็รู้สึกว่าจะต้องพยายามเปิดใจมากขึ้น เพื่อให้เกียรติและเป็นธรรมกับ Arthur ที่มาเป็นคู่แต่งงานตัวเองด้วย ซึ่งสุดท้าย Xueshan ก็รู้ว่ามีครอบครัวอีกครั้งแล้ว มีคนในครอบครัว มีคนที่รักและใส่ใจตัวเองขึ้นมา และตัวเองก็ถูกรักจริงๆ ชอบมากๆ 

Yan Xueshan felt it carefully.

I think I am loved.


แล้วก็มีก่อนหน้าที่รู้สึกว่าพอมีอีกคนอยู่ด้วยไปๆ มาๆ มันก็ดี

I really like this moment, I like Arthur being beside me, like being embraced by the sun.


เพราะก่อนหน้านั้นไม่เชื่อว่าจะมีใครสักคนรักตัวเองได้ ตอนที่พ่อแม่ตายไปตอน 5 ขวบ ฟื้นขึ้นมาคนเดียวในโรงพยาบาล พอพยาบาลบอกว่าพ่อแม่ตายไปแล้ว ตัวเองที่ประสาทบกพร่องก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกเสียใจ เพราะมันนิ่งไปเฉยๆ ยิ่งพออยู่คนเดียวในสถานเลี้ยงเด็ก ไม่มีใครรับไปเลี้ยงก็คิดว่าต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้ มีจุดเปลี่ยนมีครอบครัวขึ้นมาตอนที่พ่อเลี้ยงรับไปเลี้ยง คิดวาดฝันโน่นนี่ไว้ด้วยกัน แต่พอพ่อลี้ยงตาย ทุกอย่างก็กลายเป็นศูนย์ใหม่ เลยคิดว่าตัวเองต้องอยู่คนเดียว ต้องชินกับการอยู่คนเดียว และไม่มีใครรักตัวเอง .. แต่เมชคู่หูคนนึงก็เคยบอกไว้ว่า I bet there will be someone in the future who loves you to the core. ซึ่งต่อมาก็ได้เจอกับ Arthur จริงๆ 




กับช่วงที่ถ่ายทอดการแข่งเมชของเหล่าทหารชั้นหัวกะทิ ก็มีตัดภาพไปเป็นช่วงความงามของชีวิตหลายอย่าง เช่นเห็นภาพ Xueshan กับ Arthur เดินอยู่ในสวนของ Xueshan ด้วยกัน เปลี่ยนจากเครื่องแบบทหาร และชุดเมชมาสเตอร์เรียบกริบเป็นเป็นเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวและหมวกฟาง เปลี่ยนจากการกระโดดเข้าห้องเครื่องเมชทหารแบบไร้ฝุ่นไปเป็นมุดเข้าเมชการเกษตรร่างสัตว์แล้วทำฟาร์ม (แต่ก็ต้องย้ำนอกเรื่องว่าฝีมือสองคนนี้ให้ขับเมชอะไรก็ดูอลังการได้หมด) ให้ Arthur กับเมชอีกคนที่บ้าคนรักพอๆ กันช่วยกันทำอาหาร เพื่อเลี้ยงเด็กกำพร้าจากสงคราม ซึ่งน่ารักมากกว่าทำอาหารเลี้ยงเด็ก กระตุ้นให้คนดูช่วยกันช่วยเหลือเด็กๆ ก็จริง แต่สองคนนี้ก็ทะเลาะกันตลอด เพราะแข่งกันอวดว่าคนรักตัวเองรักตัวเองมากกว่าคนรักอีกฝ่าย จากที่คุยกันธรรมดาก็รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะก่อนหน้าที่สองคนเพิ่งแข่งเมชกันอยู่แล้วเอื่อยมาก ไม่มีไฟต่อสู้เลย แต่พอช่วงทำครัวคือไฟลุกท่วมจะฆ่าอีกฝ่ายแล้ว


เอาจริง ชีวิตขมมาก แต่ช่วงที่เขียนคือเติบโตผ่านมาแล้ว และกลายเป็นตัวเองแบบที่ดีขึ้น เอาจริงเรื่องมันขำนะ บ้าๆ บอๆ แต่พอมาเขียนแบบนี้เรื่องเลยดูจริงจังซีเรียสขึ้นมาเลย ขอย้ำว่าจริงๆ มันขำมาก และน่ารักมาก และสะท้อนมุมมองชีวิตมาก ชอบจนคิดว่าจะไปอ่านเรื่องอื่นคนเขียนแล้วด้วย 


ปล. 

1. 

ชอบความบ้าเมชตัวเอกมาก ขนาดเมชทำฟาร์มก็ยังบังคับจนโหดขึ้นมาได้ นิสัยบ้าเมชแล้วเลือกไม่ได้ น่ารักดี มีความบ้าเมชคือส่งข้อความไปหาอีกคนแล้วบอกว่ามีเรื่องด่วนมาก ซึ่งด่วนมากในที่นี้ คือบังคับเมชทำฟาร์มแล้วสนุกมาก ตื่นเต้นจนต้องโทรไประบาย อีกคนฟังก็เหนื่อยใจว่าว่าแล้วไม่มีหรอกจะเป็นเรื่องอื่น มีแต่เมชล้วนๆ เถอะนะ แต่ก็ตามใจซื้อเมชฟาร์มเกือบ 10 ตัวไปให้อีกคนเล่นคืนนั้นเลย แล้วก็ตื่นเต้นมากว่าเมชการเกษตรรูปร่างสัตว์มีที่มาที่ไปและประโยชน์หลากหลายมากนะ อย่างเมชแมลงป่องก็เกิดในพื้นที่ทะเลทราย หางใช้ดิ่งลงไปในทรายเพื่อหาแหล่งน้ำได้นะ 



บอกว่าไม่ชอบอะไร ไม่มีความรู้อะไร แต่จริงๆ สิ่งหนึ่งที่ชอบมากก็คือหุ่นรบนั่นเอง ชอบตอนที่จะไปแข่งแมตช์การกุศลกับเหล่าทหารเมชมาสเตอร์ แล้วเมชที่มีให้เลือกทุกตัวเป็น melee mech หมด ทุกคนที่ในเหตุการณ์อยู่เห็น Xueshan ตัดสินใจไม่ได้ก็คิดว่าให้ sniper mech มาบังคับหุ่น melee mech ไม่ได้หรอก เลือกไม่ได้เพราะบังคับไม่ได้ใช่ไหม มีแต่พระเอกคนเดียวที่รู้ว่าเลือกยากเพราะเลือกไม่ได้  อยากเลือกทุกตัวต่างหาก เพราะจริงๆ Xueshan เก่ง melee พอๆ กับ sniper เลย แต่เลือกเป็น sniper mech ก็เพราะความชอบส่วนตัว (ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าตอนเด็กๆ พ่อบุญธรรมเคยสอนให้ยิงปืนแล้วชมว่าตัวเองทำได้ดี ก็เลยมีความรู้สึกกับปืน sniper เป็นพิเศษ) เพราะถ้าเป็น sniper mech กระสุนหมดแต่ทำไมรอดมาได้ตลอดทุกครั้ง ก็เพราะว่าใช้อาวุธ melee สู้ต่อได้ อย่างเมชที่ใช้งานในสนามรบนอกจากจะเป็น sniper mech ก็ยังมีดาบคู่ไว้ด้วย แต่เป็นความลับที่คนทั่วไปไม่รู้ เป็นความลับทางทหารระดับสูงไม่เปิดเผย และคนที่เจอในสนามรบก็ไมมีใครรอดมาเล่าเลย 


Xueshan บ้า sniper และต้องนอนกอดปืนตัวเองหลับทุกคืนให้อุ่นใจ ขำมากที่ตลอดมาทุกคืนพระเอกอิจฉาปืนสไนเปอร์มาก ถึงขั้นที่เคยคิดว่าชาติหน้าอยากจะเกิดไปเป็นปืนนะ ให้ Xueshan นอนกอดทุกวัน นี่คือเป็นลูกหมาเด็กแอบรักหมกมุ่นขั้นสูงสุดมากจริงๆ นะ แต่ก็น่ารักดีดีนะ


ชอบตอนที่ไปใช้เมชอีกตัวที่ชื่อ Ares แข่ง แล้วเป็นซีรี่ย์เดียวกับ Artemis เมชของตัวเอง ตอนเริ่มก็พูดในใจว่า ขอโทษนะ  ขอเล่นกับพี่ชาย Artemis แค่หนเดียวนะ อย่าว่ากัน น่ารักดีที่รักเมชตัวเองมาก ขนาดตอนที่คิดว่าลาออกมาแล้วก็จะดัดแปลงหุ่นทำฟาร์มให้เหมือนเมชตัวเองให้ได้ เพราะคิดถึง


แต่ว่าเพราะเจ้าตัวชอบความสันโดษ เป็นส่วนตัวสุง ถึงแม้จะเป็นทหารเมชมือปืนอันดับหนึ่งก็ไม่เคยออกสื่อ ให้สัมภาษณ์ใดๆ ผิดกับ Arthur ที่ต้องทำเพื่อประชาสัมพันธ์กองทัพ จนถึงขั้นที่มีคนคิดไปเลยด้วยว่าคนขับ Artemis ไม่ใช่คนจริง หรือบางคนก็ลือกันไปต่างๆ นานา ถึงตัวตนที่แท้จริงร้อยแปด ทำให้วันที่เปิดเผยตัวเพราะจะลงแข่งการกุศลแล้วแนะนำตัวสั้นๆ ว่าเป็นคนขับ Artemis ทำให้มีคนคิดว่าเป็นเอไอด้วยซ้ำ แต่เพราะว่า Arthur มายุ่มย่ามวุ่นวายอยู่ใกล้ๆ ก็เริ่มมีคนที่จำประวัติการให้สัมภาษณ์ของเจ้าตัวได้ออกมากรีดว่า Arthur เคยให้สัมภาษณ์ว่าชอบคนผมดำ ตาดำ ท่าทางนิ่งเฉยเย็นชา แต่ว่าใจดี นี่มัน Xueshan ชัดๆ เลยนี่นา ถึงขั้นที่ทุกคนออกมากรีดร้องกันเลยยย ... แล้วก็เพราะการออกมาเปิดตัวทำให้เพื่อนนักศึกษามหาลัยที่ Xueshan ไปลงเรียนการเกษตรรู้ว่าเพื่อนร่วมชั้นโข่งที่เป็นทหารปลดเกษียณ (ตามคำแนะนำตัวของ Xueshan) จริงๆ เป็นใครและยิ่งใหญ่สำคัญขนาดไหน


แต่คือที่ชอบมากอีกอย่างก็คือ ตอนที่ Xueshan แนะนำตัวเองแค่บอกว่าเป็นคนควบคุม Artemis ไม่ได้บอกชื่อ แต่ว่าทุกคนรู้ชื่อเพราะ Arthur มาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ แล้วเรียกชื่อ ซึ่งเพราะตัว Xueshan หน้าตาดีมาก ก็มีนักข่าวมาถามว่ามีคนรักหรือยัง แล้วถึงแม้จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เจ้าตัวที่พูดแบบนั้นไปก็พูดออกมาตรงๆ ว่ามีคนรักแล้วคือ Arthur แต่สงสัยมากว่าทำไมอีกคนยังไม่ขอแต่งงงานเสียที ซึ่ง Arthur ได้ฟังก็สติหลุดไปเลย เพราะว่าทำแหวนมานานแล้ว แต่ไม่กล้ารุกไปมากกว่านั้น รู้สึกว่าต้องให้เวลากับอีกคนกว่านี้หรือเปล่า สถานะคนรักควรกินช่วงเวลาหนึ่งไหม ... พอบอกอย่างนั้นมาก็คือ Arthur ออฟไลน์ไปเลย เพราะว่าจากกองทัพต้องไปหาตัว Xueshan เพื่อขอแต่งงานตอนนั้นเท่านั้น น่านักที่หลังจากนั้นสองคนก็ไปจดทะเบียนกัน แล้วทิ้งให้คนทั้งกาแลคซี่สงสัยว่าสรุป Arthur ขอ Xueshan แต่งงานสำเร็จไหม .... และคำตอบก็คือ Arthur ไม่พูดเล่าอะไร แต่ยกมือมาโชว์แหวนตลอดเวลาเท่านั้นเองง


แต่ขำมากที่ Xueshan มีภาพสวยมากกับการทำไร่หลังเกษียณ ความฝันที่วาดไว้ก็คือจะปลูกพืชได้ผลผลิตมาเยอะๆ แต่ความเป็นจริงก็คือ ได้เงินมาน้อยมากก น้อยชนิดที่ขนาดเจ้าตัวเป็นคนหวังน้อยยังตกใจ ความเป็นจริงทำร้ายจิตใจมาก ตอนนี้อย่าว่าแต่คิดว่าจะมีเงินไปบริจาคสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจากสงคราม แต่จะเลี้ยงตัวเองก็ยังไม่รอด ค่าปุ๋ย ค่าหุ่น ค่าเมล็ดพันธุ์ก็ติดลบแล้ว 



2.

กับลูกหมาเด็กเหมือนใสซื่อ แต่จริงๆ ร้ายลึกทำทุกอย่างเพื่อเข้าถึงตัวคนเลี้ยงเหมือนกัน ตาซื่อใสแป๋วหลอกอ้อนคนเลี้ยงมาสารพัดรูปแบบตั้งแต่วันแรกมาวันนี้ นี่คือถึงกับสร้างเบสทหารในดาวที่ตัวเอกไปอยู่ อ้างเหตุผลเป็นฐานสู้กับพวกสลัดอวกาศ (ซึ่งจริง) แต่ความจริงคืออยากอยู่ใกล้ๆ กัน พอ Xueshan ลงเรียนเกษตรในมหาลัย ก็ทำเรื่องไปเป็นอาจารย์พิเศษและพูดให้กำลังใจเด็กปีหนึ่ง ซึ่งก็เหมือนเดิมว่าทำเพราะว่าไปหาสุดที่รักตัวเอง ... และเพราะกลัวว่าอยู่ในหอพักมหาลัยเป็นหอรวมต้องไปอยู่กับคนอื่น นี่ก็ใช้อำนาจตัวเองสร้างบ้านพิเศษให้เหมือนกัน แล้วที่น่ารักก็คือบอกตัวเอกว่า Xueshan ได้บ้านพักมาในฐานะอาจารย์พิเศษ แต่ว่าต้องอยู่ที่กองทัพ ขอให้ช่วยอยู่และดูแลบ้านได้ไหม เวลามาก็มากดกริ่งหน้าประตู พอ Xueshan ถามว่ามีกุญแจอยู่เป็นเจ้าของบ้านไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ไขเข้ามา ก็บอกว่าตอนนี้ให้ Xueshan อยู่ เป็นพื้นที่ของ Xueshan นะ มีอะไรก็ต้องขออนุญาตสิ จะไปรบกวนพื้นที่ส่วนตัวไม่ได้หรอกนะ 


แต่กว่าจะเป็น Arthur ได้ทุกวันนี้ก็ลำบากเหมือนกัน เหตุผลที่เข้ามาเป็นทหารก็คือเกลียดพ่อ อยากประชดพ่อ และอยากแก้แค้นให้พี่สาวที่ไปเป็นทหารแล้วตายด้วย และพอเข้าสนามรบก็คิดแต่ว่าจะไปข้างหน้า บุกไปอย่างเดียว ดีที่เจอกับ Xueshan ก็เลยมีคนประคองดูหลังแล้วรอดมาได้ และเพราะความชอบ Xueshan ก็เลยมุ่งมั่นอยากให้ตัวเองเก่งขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนกัน ชอบที่ทุกคนบอกว่า Arthur สดใสเหมือนดวงอาทิตย์ มีพลังมากๆ แต่ตัวเองคิดว่า Arthur thought others think I'm sunny, but how would they know that my light is actually given by you.

 

ตอนที่พยายามจีบ Xueshan ก็เหนื่อยมากเหมือนกัน แต่ไม่เคยถอดใจ ทำทุกอย่างทุกทางที่ทำได้ จนถึงขั้นที่ว่าชวนคุยหาเรื่องพูดด้วยก่อนนอน จนในที่สุดผ่านไป 3 ปีก็ทำให้ Xueshan ติดกับการคุยกันก่อนนอนด้วย บางทีที่เงียบกำลังจะนอนไป อีกคนก็ถามว่าวันนี้ไม่มีอะไรเล่าให้ฟังเหรอ? 

กับตอนที่ Xueshan ไปเรียนแล้วตัวเองทำงานอยู่ในฐานทัพ ก็พยายามสร้างนิสัยให้อีกคนคิดถึงตัวเองก่อนอื่นเหมือนกัน ถึงขั้นบอกว่าถ้าไม่รู้จะเล่าอะไร ก็ให้ Xueshan ถ่ายรูปสิ่งที่เจอในแต่ละวันมาให้ก็ได้ แล้วก็ได้ผลจริงๆ เพราะ Xueshan ที่จริงจังก็คิดว่าควรจะตอบแทนกลับ/ ทุ่มเทเพื่อคู่หมั้นแล้วก็ถ่ายโน่น นี่ นั่นที่เจอระหว่างเดินอยู่ในมหาลัยไปให้


แต่ชอบอย่างที่ตัว Arthur ชอบทำกับข้าว และชอบทำให้ Xueshan กิน ซึ่งเวลาเห็นอีกคนกินก็มีความสุขตามได้ทุกครั้ง เพราะปกติ Xueshan ที่กินเพื่ออยู่ ก็จะกินอาหารเหลวพออิ่มตลอด หรือว่าพอมาอยู่เองที่ฟาร์มก็จะกินมันต้มกับไข่ต้มจิ้มกับเกลือกับนม ซึ่งขนาด Arthur มาเห็นก็ยังกินไม่ลง ... แล้วพอทำอาหารก็รู้ว่า Xueshan ชอบอาหารรสหวานนำมาก มีหมูเปรี้ยวหวาน หรือจานหวานนำก็จะตักอยู่เสมอ ขนมรสหวานก็ชอบ ซึ่งเจ้าตัวก็ทำบัวลอยส่าเหล้าให้อีกคนกิน แต่ก็ไม่คิดว่า Xueshan ที่ไม่ดื่มเลย ไปงานเลี้ยงไหนก็ปฎิเสธเหล่าผู้นำทั้งหลายเสมอด้วยเหตุผลว่าเป็นมือยิงจะคออ่อนมากจนเมาเพราะขนมขึ้นมา


3.

จริงๆ ปกน่ารักมากนะ ชอบจิบิแนวนี้ แล้วก็ชอบพล็อตด้วย แต่กว่าจะได้อ่านก็เก็บไว้นานมาก เพราะว่าเรื่องมันสั้นไป อะไรก็ตามที่ต่ำกว่า 100 (หรือ 120) ตอน ถือเป็นเรื่องสั้น ปกติไม่ชอบอ่าน เพราะรู้สึกการปูพื้น/ต่ออารมณ์มักไม่ค่อยดี แต่เรื่องนี้ยกเว้นสมบูรณ์แบบในตัวเองดีมาก แม้จะขมนิดๆ


คำว่าขมฟังดูน่ากลัว แต่ก็เป็นเพราะความเป็นจริงของชีวิตในช่วงสงครามของทั้งคู่ และของทุกคน... เศร้าแต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในแง่ที่ว่าจะทำอย่างไรถึงจะผ่านพ้นมันไปได้ และอยู่อย่างมีความสุขหลังจากนั้นให้ได้ และดีใจว่าทั้งสองคนทำได้ โดยเฉพาะตอนหลังที่ตัวเอกเปิดใจให้ค่าอีกคนขึ้นมา



4.

ที่ผ่านมาเจ้าตัวดีใจที่ได้รับเลือกให้เป็นคนบังคับ Artemis ในสนามรบ ไม่ได้รู้เลยว่าจริงๆ เมชตัวนี้เกิดได้จากแรงบันดาลใจที่นักวิจัยเห็น Xueshan สู้ในสนามรบแล้วเอาข้อมูลมาใช้สร้างเลย ... อย่างที่นักวิจัยบอกว่าถ้าไม่มี Xueshan หุ่นตัวนี้ก็ไม่มีจิตวิญญาณ มีแค่ Xueshan คนเดียวที่บังคับได้ ส่วนเมชของ Arthur ชื่อ Candle Dragon สรุปว่าเป็นตำนวนดวงจันทร์จากกรีกกับตำนานดวงอาทิตย์จากฝั่งจีนที่เวลามาอยู่ด้วยกันทำให้เมชทั้งสองตัวทำงานได้เกินร้อย เป็น 1+1 มากกว่า 2 น่ารักที่ตอน Arthur ดีใจที่ตัวเอกกลับไปขับเมชแล้วบินรอบเมช Xueshan จนถึงขั้นที่ทางโน้นถามว่ามาบินวนรอบกันทำไม ก็เพราะดีใจ

Why are you flying around me?

I'm happy.



5. 

ในเรื่องตอนที่ Xueshan เข้าไปเรียนในมหาลัย มีเด็กนิสัยไม่ดี ชอบดูถูกคนอื่น มองว่าตัวเองเข้าแผนกเมชได้ และเก่งกว่าฉลาดกว่าเด็กในภาคการเกษตร และทำเรื่องวุ่นวายก่อกวน Xueshan ถึงขั้นที่พ่อแม่มาพูดก็ไม่ฟัง ชอบมากที่สุดท้าย Xueshan บอกว่าเป็นเด็กก็ดีที่เป็นเด็ก และก็ดีที่มีพ่อแม่อยู่ทำให้ทำอะไรตามใจเกเรได้ แล้วเล่าเรื่องตัวเองที่พ่อแม่ตาย และต่อมาพ่อบุญธรรมก็ตายให้ฟัง ... เด็กๆ รอบตัวฟังแล้วก็เงียบไป แล้วหลังจากนั้น ทุกคนก็เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนกันหมด แอบเศร้า แต่น่ารัก 


6.

แต่ตอนจบ ชอบที่ตัว Xueshan กลับเข้ามาประจำการอีก และก็รับตำแหน่ง/ยศทางทหารอย่างที่ตัวเองควรจะเป็น และสองคนวางแผนขับเมชไปสำรวจและตรวจตราพื้นที่ในอวกาศด้วยกัน ... ที่น่ารักและมีเบื้องหลังก็คือ พ่อของ Arthur ซึ่งเป็นประธานาธิบดี สั่ง Arthur ว่ายังไงก็ต้องดึง Xueshan ให้กลับมารับราชการทหารให้ได้ และถ้า Xueshan จะแต่งงาน Arthur ที่ชอบ Xueshan มาตลอดก็ควรจะเป็นคนแต่ง เพราะ Xueshan เป็นเมชสไนเปอร์อันดับหนึ่ง ต้องห้ามสูญเสียทรัพยากรที่แสนมีค่าไปโดยเด็ดขาด อะไรที่เกี่ยวกับ Xueshan และการดึง Xueshan กลับมา (รวมถึงการแต่งงาน) จะได้รับการอนุมัติทันที โดยไม่ต้องขออนุญาต ถือเป็นภารกิจระดับ A ที่ตัวเองในฐานะประธานาธิบดีสั่งลูกชาย (สั่งทั้งในฐานะประธานาธิบดีและฐานะพ่อเลย) ก็เพี้ยนดี และตอนที่ Arthur ทำเรื่องขอเป็นคู่หูกับ Xueshan สู้กับคนจำนวนมาก ก็เป็นตัวพ่อที่ช่วยด้วยเหมือนกัน 


7.

น่ารักปนขำที่บอกว่าตอนแข่งการกุศล คนดูต้องทั่วทั้งอวกาศแน่ และเพื่อกันระบบล่มเพราะคนแห่มาดูกันมาก ก็มีเจ้าหน้าที่เทคนิค 5,000 คนที่ทำหน้าที่ระหว่างนั้น กับชอบที่จริงๆ เป็นนโยบายของทหารที่จะให้คนผ่อนคลายจากหลังสงคราม ในแง่ตัดให้เห็นความสวยงามของชีวิต (ทั้งจากที่สองคนเดินอยู๋ในไร่และทำสวนด้วยกัน และการทำอาหารเลี้ยงเด็กกำพร้า) รวมไปถึงการโน้มน้าวให้โจรสลัดอวกาศที่ต้องกลายเป็นโจรสลัดกลับมาเป็นพลเรือนด้วย ไม่ว่าจะเป็นทั้งการลดหย่อนโทษให้ และการให้พื้นที่ทำกินใหม่ที่ดาวตัวเอง 



8. 
กับตลกมากที่ตัว Xueshan ไปเรียนมหาลัยสาขาการเกษตร ก็เพราะสุดท้ายความสามารถทางการเกษตรแย่มาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับลุงไร่ข้างๆ ที่ทำเป็นอาชีพมานาน ตอนแรกไปเรียน ด้วยความที่มหาลัยนี้ดังด้านเมชมากกว่า ทุกคนก็เข้าใจว่า Xueshan ไปเรียนสาขาเมชเหรอ แต่พอรู้ว่าไปเรียนเกษตรแทนก็โล่งไป ทุกคนคิดในใจว่าใครจะสอนได้ ตรงอุทานเงียบๆ ทุกคนว่า Who deserves to teach you!! ขำมาก เพราะว่าสุดท้ายแล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ขนาด Xueshan ขับเมชสัตว์เก่าคร่ำคร่าขุดดินพรวนดินรดน้ำก็ยังบังคับลื่นไหลต่อเนื่องมาก .. ถึงขั้นที่ท่าที่ใช้ ทั้งจังหวะ ทั้งความถูกต้องแม่นยิ่งกว่าอาจารย์ที่สอนภาคหุ่นยนต์แล้ว


Tuesday 14 February 2023

信息素说我们不可能 // The Pheromones Say We Have No Chance

ตามประสา ... พิมพ์ยาวมากทุกสิ่งที่นึกออก เพราะอยากเก็บความรู้สึกหลังอ่านอีกแล้ว




คนเขียน: 毛球球
แนว: รักวัยเรียน, มัธยม, ABO, ตัวเอกร่าเริง, เบาสมอง, fluff
ความสัมพันธ์: ศัตรู (???) A X O // Xiao Yan X Luo Zhiyu
จำนวนตอน: 79 ตอนหลัก + 9 ตอนพิเศษ
ปี: 2020


Luo Zhiyu กับ Xiao Yan เป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะครอบครัวของทั้งสองคนทำงานในอุตสาหกรรมบันเทิงเหมือนกัน และก็เป็นคู่แข่งกันกลายๆ พอมาถึงรุ่นลูก ความรู้สึกเป็นศัตรูกันก็ยังสูง โดยเฉพาะ Luo Zhiyu กับ Xiao Yan ที่ทะเลาะและสู้กันได้ทันทีที่เจอหน้ากัน ทั้งที่สองคนก็อยู่กันคนละโรงเรียน

เรื่องเริ่มที่ Luo Zhiyu กับ Xiao Yan สู้กันเหมือนปกติ แต่ก็เกิด การแสดงสภาพ ABO ก็เกิดขึ้นระหว่างสู้กันพอดี สองคนถูกส่งไปโรงพยาบาล โดยที่ Luo Zhiyu กลายเป็นโอเมก้า และ Xiao Yan เป็นอัลฟ่า และค่าความเข้ากันได้ของทั้งสองคนก็อยู่ที่ 0 ซึ่งเป็นอัตราต่ำมากชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่เคยต่ำที่สุดก็แค่ 20 ... เรื่องนี้ และเรื่องที่ Luo Zhiyu เอาไม้กวาดวิ่งไล่ฟาด Xiao Yan ไปทั่วจนกลายเป็นคลิปดังทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นที่รู้จักไป

เปิดเรื่องมา Luo Zhiyu กำลังจะเป็นนักเรียนชั้นปีที่ 1 (ม.4) ของโรงเรียนมัธยมปลายที่หนึ่งที่มีชื่อเสียง และในฐานะที่ทำคะแนนได้สูงที่สุด ก็จะต้องเป็นคนพูดหน้าแถวต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนพอดี .... จริงๆ แล้วก็ควรจะพูดอย่างเรียบร้อย มีหลักการ และที่สำคัญ ถ่อมตน แต่การเจอคนที่ไม่ชอบหน้าที่สุดอย่าง Xiao Yan ขึ้นมากระทันหันก่อนพูด ก็ทำให้กลายเป็นสุนทรพจน์โอ้อวดว่าที่มาอยู่ที่โรงเรียนได้ก็เพราะคะแนนสูงมากของตัวเอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ Luo Zhiyu ในฐานะเด็กคะแนนสอบเข้าดีอันดับหนึ่งก็ถูกดึงเข้าไปในกลุ่มแชทของโรงเรียนที่มีทั้งครูใหญ่ ผู้อำนวยการ และรุ่นพี่ปีสองที่คะแนนสอบดีมากเหมือนกัน และการพูดคุยกับรุ่นพี่ที่ดูน่าเชื่อถือเป็นผู้ใหญ่ก็ดำเนินไปอย่างปกติ โดยที่ Luo Zhiyu รู้สึกว่ารุ่นพี่เป็นผู้ใหญ่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับตัวและการใช้ชีวิตในโรงเรียนได้ดี และรุ่นพี่ก็เอ็นดูตัวเองในฐานะเด็กเรียนเก่งเหมือนกัน .... แต่พอเจอกันจริงก็กลายเป็นคุณรุ่นพี่ก็คือ Xiao Yan นั่นเอง เปิดศักราชการทะเลาะวิวาทต่อคนทั้งโรงเรียนแบบไม่สนใจใครหน้าไหนครั้งแรกในโรงเรียนขึ้นมา

ต่อมาเพราะเด็กปีหนึ่งต้องมีการฝึกทหาร ท่ามกลางอากาศร้อนและการฝึกทหาร Xiao Yan ก็เอาน้ำโซดาและแตงโมเย็นฉ่ำมากินเพื่อเย้ย Luo Zhiyu ที่กำลังฝึกทหารด้วย Luo Zhiyu ที่แค้นใจมาก็อ้างเหตุผลว่าตัวเองเพิ่งแสดงสภาพมาหยกๆ และเป็นโอเมก้าบอบบางที่ตากแดดร้อนแรงไม่ไหวแล้ว เพื่อจะเลิกแถวไปหาเรื่อง Xiao Yan กลับ พอครูฝึกใจอ่อนปล่อยแถวทั้งหมดก็เห็นคนที่อ้างตัวว่าเป็นโอเมก้าบอบบางอ่อนแอเอาไม้กวาดวิ่งไล่ฟาด Xiao Yan อย่างบ้าระห่ำไปทั่วเหมือนกัน

ทั้งสองเรื่องกลายเป็นคนทั้งโรงเรียนเริ่มรู้แล้วว่าสองคนไม่ถูกกัน และเห็นหน้ากันไม่ได้ต้องทะเลาะลงไม้ลงมือทุกครั้งไป อันที่จริงสองคนเจอหน้ากันไม่ได้เลย ถึง Xiao Yan เหมือนจะเป็นพวกเย็นชา และหน้านิ่งไม่สนใจใคร แต่สิ่งที่ทำอย่างไม่เคยเหนื่อยหน่ายก็คือการหาเรื่องยั่วโมโหอีกคนตลอดเวลา และ Luo Zhiyu ก็ต้องเดือดดาลเต้นตามไปทุกครั้ง ไม่ว่าจะเจอกันในโรงอาหารแล้ว Luo Zhiyu เอาส้มที่เป็นผลไม้ตอนอาหารกลางวันปาหัว Xiao Yan และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน ดังทั้งในฐานะนักเรียนเรียนดี และก็ในฐานะคู่กัดที่ทั้งโรงเรียนสนใจ ถึงขั้นมีโพสต์กระทู้พูดคุยถึงทั้งคู่เป็นระยะๆ

วีรกรรมก็มีตั้งแต่ที่ Xiao Yan เป็นผู้ช่วยครูมาตรวจหอรุ่นน้องเพื่อจับหาอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและของที่ไม่มีในหอ ซึ่งห้องของ Luo Zhiyu และเพื่อนโอเมก้าก็มีหม้อต้มที่เข้าข่ายถูกยึดพอดี พอ Xiao Yan เดินมาเจอกำลังจะหักคะแนน เจ้าตัวก็แบล็คเมลกลับว่ารู้นะว่ามีตู้เย็น เพราะไม่งั้นโซดากับแตงโมที่เอาไปกินเย้ยไม่มีทางเย็นได้ ขู่จะฟ้องกันไปมา จนสุดท้ายสองคนก็เลยตกลงจะปิดปากทั้งคู่ไม่รายงานเรื่องของผิดระเบียบของอีกฝ่าย แต่ว่าสุดท้ายก็ถูกอาจารย์เดินมาได้ยินจนได้ ถูกหักคะแนนคู่ด้วยกัน

หรือ Luo Zhiyu ที่กำลังจะถูกหักคะแนนใส่ชุดเครื่องแบบของ Xiao Yan อยู่ พอครูมาก็รีบรายงานเสียงดังมั่นใจว่าผมชื่อ Xiao Yan อาจารย์หักคะแนนไปได้อย่างที่อยากหักเลย ผมรู้ว่าทำผิดไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยว่าครูประทับใจกับเด็กที่ตั้งใจยอมรับผิดมาก กว่าจะมารู้ทีหลังว่าจริงๆ เป็นใคร Luo Zhiyu ก็รายงานชื่อของ Xiao Yan และหักคะแนนของคู่แค้นตัวเองไปได้สำเร็จแล้ว

นอกจากนี้ยังมี Luo Zhiyu เอาส้มไปปาหัว Xiao Yan แล้ววิ่งหนีไปทางที่คนไม่ค่อยเดินเพื่อหนีการแก้แค้นของ Xiao Yan แต่กลายเป็นรีบชิ่งหนีไม่ดูทางจนตกท่อ แล้วเพราะไม่อยากให้ชุดเครื่องแบบที่ยืมมาของอีกคนเสียหายก็เลยเอาตัวเข้าแลก กลายเป็นข้อเท้าแพลง มือก็เป็นแผลต้องพันผ้าพันแผลทั้งตัว .... แต่เพราะต้องได้ลายเซ็นของคณะกรรมการนักเรียนก็เลยกระโดดขาเดียวข้ามตึกไปหาพวก Xiao Yan เพื่อให้เซ็นชื่อให้ ซึ่งไปถึงก็ไม่เจอใคร เพราะตัว Xiao Yan มาดักรอที่ห้องเพื่อแก้แค้นกลับพอดี และพอทุกคนเห็น Luo Zhiyu บาดเจ็บพันผ้าพันแผลรุงรัง ก็คิดไปว่าทางตัว Xiao Yan แก้แค้นรุนแรงมาก แต่เพราะการกระโดดขาเดียวขึ้นตึกของ Luo Zhiyu ทำให้ตัวเองไม่มีแรงกระโดดกลับหอ ก็เลยถึงขั้นที่สุดท้าย Xiao Yan ‘ใจดี’ ยอมไปส่งอีกคนที่หอ .. ซึ่งก็มีเจตนาแฝงโดยเอา Luo Zhiyu ขึ้นหลังแล้วเดินไปทั่วทุกที่อ้อมเท่าที่อ้อมได้ เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าตัวเองเป็นคนดี
.
.
.
จริงๆ ความเป็นศัตรูก็ควรจะอยู่ตลอดไป แต่ว่าเพราะทั้งคู่คะแนนดีมาก ก็ทำให้ต้องมาทำงานให้โรงเรียนด้วยกันเป็นระยะๆ ทั้งที่สมัครใจและที่อาจารย์สั่งมา ก็เลยส่งผลให้สองคนได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน และเริ่มที่จะลดความเป็นศัตรูกันไปทีละนิดละหน่อยเหมือนกัน โดยเฉพาะฝ่าย Luo Zhiyu ที่ต้องพึ่งพา Xiao Yan ในฐานะรุ่นพี่ที่ให้คำแนะนำและความช่วยเหลือได้ กว่าจะรู้ตัวก็เชื่อมั่นและไว้ใจ Xiao Yan ไปเต็มที่แล้ว และส่วน Xiao Yan ที่เห็นเด็กแสบว่าง่ายและเชื่อฟังก็อดจะเอ็นดูไปไม่ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อสังคมบอกว่าสองคนไม่มีทางเป็นไปได้ ก็ยิ่งทำให้ทั้ง Luo Zhiyu กับ Xiao Yan ไม่เคยระวังตัวเวลาอยู่ด้วยกันเลย และทำทุกอย่างผิดจากความรู้ขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการปฎิบัติตัวต่อกันที่โอเมก้าและอัลฟ่าพึงมี

เพราะจริงๆ น่ารักและน่าขันมากที่ Luo Zhiyu เป็นโอเมก้าแต่ว่าสามัญสำนึกความเป็นโอเมก้าและควรจะเป็นไม่มีเลย นี่คือยิ่งมองว่าสองคนความเข้ากันได้เป็นศูนย์ก็ยิ่งระวังตัว (จากที่ไม่มีเลย) ตอนทำแบบฝึกหัดเกี่ยวกับสุขศึกษาความรู้พื้นฐานโอเมก้าคือทำผิดทุกข้อ ขำมากที่ในแบบฝึกหัดสมมติชื่อ XiaoHong XiaoLan มาเป็นโอเมก้ากับอัลฟ่าทุกครั้ง แล้วพอเริ่มคำถามแต่ละข้อ ก็คือเช่น XiaoHong เป็นโอเมก้าที่ยังไม่มีพันธะ ส่วน XiaoLan เป็นอัลฟ่า ค่ำแล้ว XiaoLan ชวน XiaoHong ไปเที่ยวเล่น XiaoHong ควรทำอย่างไร? แบบฝึกหัดถามโดยอยากให้ตอบปฎิเสธว่าเพราะเป็น อมก ต้องระวังตัว หาก Luo Zhiyu ก็เขียนคำตอบไปว่า ผิด เพราะต้องทำการบ้านให้เสร็จเรียบร้อยก่อนถึงจะไปเล่นได้ ... โฟกัสผิดจุดมาก แต่ที่ตอบไปอย่างนั้นก็เพราะมองเรื่องตัวเองกับ Xiao Yan เป็นหลักใช้ตอบตลอดกาล

หรือว่าเพราะตัวเองทำชุดเครื่องแบบที่มี 2 ชุดเสียหายตั้งแต่ต้น และถ้าไม่ใส่เครื่องแบบก็จะถูกหักคะแนน... Luo Zhiyu ที่คิดได้ว่า Xiao Yan ยังมีเครื่องแบบปีหนึ่งอยู่ (เพราะฝ่ายนั้นเพิ่งใส่มาเดินไปเดินมา) ก็ดั้นด้นไปขอยืมชุดจากอีกคน โดยที่เพราะว่าเร่งด่วน ถ้าไม่ใส่คะแนนถูกหักหายแน่ ก็เลยเอามาใส่เลย ไม่ได้สนใจว่าต้องซักก่อนเพื่อลบกลิ่นฟีโรโมนของอีกคนไป .... ซึ่งการกระทำแบบนี้ก็ถือว่าผิดมากที่ให้ฟีโรโมนของอัลฟ่ามารมตัวเอง และพอต่อมาเจอคำถามนี้ในแบบฝึกหักก็ตอบไปไม่ลังเลว่าทำแบบนี้ถูกแล้วด้วยเหตุผลแสนมั่นใจว่าจะได้ไม่ถูกครูหักคะแนน .... และที่ร้ายกว่านั้น ตอนเอาไปคืนก็เอาไปคืนโดยไม่ซักให้ก่อนอีก ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Xiao Yan ได้กลิ่นฟีโรโมนของ Luo Zhiyu จากชุดเครื่องแบบไปแน่นอน

ซึ่งตัว Xiao Yan ก็ไม่ต่างกัน เอาผ้านวมตัวเองไปให้อีกคน เอาผ้าเช็ดหน้าตัวเองไปให้อีกคน .... เดิมทีก็รู้สึกว่าควรระวัง แต่พอ Luo Zhiyu ไม่ระวัง และค่าความเข้ากันระหว่างกันก็น้อยก็รู้สึกว่าไม่ต้องกังวลอะไร ใช้ของอีกฝ่ายเป็นเรื่องปกติเหมือนกัน ได้กลิ่นฟีโรโมนจากอีกฝ่ายเป็นเรื่องปกติและถูกกลิ่นฟีโรโมนจากอีกฝ่ายรมตัวเองเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่การกระทำแบบนี้ไม่ดีและไม่ควร

สรุปได้ก็คือว่าสิ่งที่ไม่ควรทำในหนังสือเรียนก็คือสิ่งที่เอาไปทำด้วยกันตลอดค่ะ เวลาอยู่ด้วยกัน ทำอะไรที่ไม่ควรทำแล้วอีประโยคที่ถามกันว่า ให้อัลฟ่าอื่นทำแบบนี้ได้ไหม หรือว่าจะให้อัลฟ่าทำแบบนี้ไหม ฟังแต่ไกล ไม่คิดอะไร ก็คือฟังว่าเขารักกัน อีกคนเป็นคนพิเศษที่ยอมให้คนเดียว ... ซึ่งจริงๆ พูดไปก็ถูกว่าเขาก็รักกันจริง ในแง่ที่ว่าเชื่อใจกันสูงมาก ถึงแม้ Xiao Yan จะเป็นอัลฟ่า แต่ Luo Zhiyu ก็ไม่เคยมองอีกฝ่ายเป็นอัลฟ่าเลย มองว่าเป็นแค่ Xiao Yan ที่เป็นคู่กัดตั้งแต่เด็กตัวเองมาตลอด ถึงแม้ตอนนี้จะพ่วงตำแหน่งรุ่นพี่ที่เชื่อถือได้มาด้วยก็เถอะ และช่วงหลังๆ ที่ความรู้สึกสองคนเริ่มเปลี่ยน ก็เตือนว่าอย่าเชื่อใจอัลฟ่าคนไหน ไม่ว่าจะดูน่าสงสารขนาดไหนมาก็ตาม เพราะตอนนั้น Xiao Yan กำลังอยู่ในช่วง susceptible period ของอัลฟ่าอยู่ (ภาษาไทย ศัพท์ ABO แปลเป๊ะๆ ว่าอะไร “ช่วงอ่อนไหว” เหรอ? อยากแปลเองว่าช่วงหงุดหงิดงุ่นง่านของอัลฟ่ามากกว่า) จริงๆ ควรจะให้ Luo Zhiyu กลับบ้านไปก่อน แต่ว่าพอเจอแล้วอยู่ด้วยกันก็ไม่อยากให้อีกคนกลับไป แล้วตัวเองอยู่คนเดียวอยู่ดี และตัว Luo Zhiyu ก็ไม่ยอมกลับด้วย เพราะมองว่าตอนตัวเองอยู่ในช่วง heat อีกฝ่ายยังคอยดูแลอยู่เป็นเพื่อนกันเลย จะให้ทิ้งกันไปได้อย่างไร .... สรุปให้ว่าสองคนเป็นความรู้สึกกึ่มๆ giddy in love ที่ไม่ได้คิดอะไร แค่คิดว่าอยากอยู่ด้วยกัน ยังไม่อยากกลับบ้าน ในแง่ที่ว่าต้องแยกจากกัน

เอาจริง ตอนแรกที่อ่านไม่คิดอะไรเลย แค่อยากอ่านอะไรง่ายๆ สบายๆ ไม่ต้องคิดมาก แต่ว่าผลลัพธ์ดีกว่าที่คิดเยอะมาก เพราะก็แอบขำนะ คำถามแรกที่อยากรู้คือสงสัยมากว่าจะรักกันได้อย่างไร และรักกันตอนไหนได้เนี่ยยย พูดดีๆ โดยไม่ทะเลาะกันไม่เคยได้เลย ขนาดไม่อยู่ด้วยกันยังคิดหาวิธีหาเรื่องอีกฝ่ายตลอด แต่อ่านไปเรื่อยๆ เรื่อง flow เนียนกว่าที่คิดมาก เพราะว่าตัว Xiao Yan รู้ใจตัวเองเร็ว ขณะที่คนที่เด็กกว่า และไม่คิดอะไรไกลตัวยังคิดว่าสนุกและสบายใจกับการอยู่ด้วยกันแค่นั้นเลย .... แต่เพราะการที่ทำท่าสบายใจอยู่ด้วยกันนี่แหละ ที่ทำให้ Xiao Yan ตัดสินใจได้เร็ว เนื่องจากตอนแรกกลัวว่าถ้ากระโตกกระตากมากไป “ดวงดาว” ที่ไล่คว้าก็จะหนีหลุดมือไป แต่พอเห็นว่า Luo Zhiyu มีท่าทีเหมือนกันกับตัวเอง ก็เลยตัดสินใจรุก (ที่แปลว่า “เค้นความจริง”) จาก Luo Zhiyu และก็กลายเป็นแฟนกันอย่างรวดเร็ว (โดยที่ทั้งโลก (หรืออย่างน้อยก็ทั้งโรงเรียน ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนสนิท) ก็ยังเข้าใจว่าสองคนนี้ยังต่อยตีกันอยู่เลย)

ชอบเรื่องนี้อยู่อย่างที่ไม่มีปัญหาชีวิตวุ่นวาย ไม่ต้องคิดมากอย่างหลายเรื่อง (โดยเฉพาะความสัมพันธ์ในครอบครัว ทั้งไม่เข้าใจกัน หรือว่าไม่มีคนสนใจ) เป็นเด็กอย่างที่ควรจะเป็นนะ ถึงแม้หลายอย่างจะคิดง่าย แต่ก็สะท้อนภาพวัยเด็กได้ดี กับชอบอีกอย่างที่ไม่ได้เน้นความเป็น ABO ที่ฟีโรโมนต้องมากำหนดทุกอย่าง .. เพราะการที่สองคนมีค่าความเข้ากันได้ที่ 0 ทำให้ทั้งคู่ต้องดิ้นรนกับความสัมพันธ์มากกว่าปกติด้วยซ้ำ อย่างตอนแรกที่เริ่มรู้สึกว่าชอบอีกอย่างก็ต่างเริ่มคิดด้วยซ้ำว่าจะรักกันได้ไหม ด้วยค่าความเข้ากันถือได้ว่าติดลบ และจะต้องเลิกรากันเพราะค่าความสัมพันธ์ตัวนี้ไหม ทั้งคู่ต่างตั้งคำถามและหาความเป็นไปได้ในใจก่อนหน้ามาเยอะมาก และเมื่อมาคบกันจริงก็ทำให้ทั้งสองคน โดยเฉพาะ Xiao Yan พยายามอย่างมากเพื่อจะเพิ่มค่าเข้ากันให้ได้ และให้ได้อยู่ด้วยกันได้ตลอดไป การฝืนกระแสสังคมที่ไม่ยอมให้ค่าฟีโรโมนมากำหนดความรู้สึกของตัวเองและความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่าย ทำให้การให้คุณค่าตัวตนอีกฝ่ายยิ่งเด่นขึ้นมา รักกันเพราะเนื้อในของอีกฝ่ายจริงๆ .... ชอบตอนที่สุดท้ายไปตรวจค่า และค่าความเข้ากันได้ของทั้งสองคนก็สูงมากชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน

กับจริงๆ เรื่องแนววัยเรียนส่วนใหญ่จะมีเรื่องของสังคมในโรงเรียนและเพื่อนในกลุ่มในห้องมาเกี่ยวข้องด้วย จนหลายครั้งก็เน้นที่เพื่อนมากไป แต่เรื่องนี้ให้น้ำหนักระหว่างสองคนดีมาก จนรู้สึกว่าอ่านสนุกและอ่านลื่นกว่าปกติด้วยซ้ำ เมื่อช่วงเวลาระหว่างทั้งคู่มีมากเพื่อนสนิทของทั้งคู่มาเสริมเพื่อดำเนินเรื่องบ้างเล็กน้อยแค่นั้น .... อาจะเป็นเพราะสองคนตัวติดกันอยู่ด้วยกันสองคนด้วย ทั้งทำกิจกรรมของโรงเรียนด้วยกัน หรือถ้ามีเวลาว่าง ตัว Luo Zhiyu ก็จะไปอยู่ที่ห้องเรียน Xiao Yan และถ้าใครเลิกก่อนก็จะไปรออีกฝ่ายเลิกเรียน

แต่ว่าก็แอบสงสารที่ไม่มีใครในโรงเรียนเชื่อเลยว่าทั้งสองคนรักกัน ทำไมไม่มีใครเชื่อว่าเค้ารักกันนนเลยคะ?? อย่างในโรงเรียนจะมีเส้นทางเดินกลับหอที่ไร้คน และคู่รักก็จะไปพลอดรักกันอยู่แถวนี้ ทำให้ครูมาซุ่มจับเป็นระยะๆ วันนึงสองคนนี้ถูกจับได้ ครูที่จับรีบไปบอกพวกครูใหญ่ว่าเจอพวกแอบรักกัน แต่ครูใหญ่ก็บอกว่าสองคนนี้ไม่ได้มาสวีทหวานกัน แต่ว่ามานัดต่อยตีนะ ถึงขั้นที่พวกครูทั้งหลายไม่สนใจตัว Luo Zhiyu ที่พยายามสารภาพผิด (เพราะดีใจที่ในที่สุดก็ถูกมองว่ารักกันเสียที) เลยแต่กลับไล่สองคนกลับไปห้องตัวเอง และให้รักกันดีๆ ด้วยซ้ำ
อย่างที่พอเป็นแฟนกัน สองคนอยากใช้เวลามากขึ้น ตัว Xiao Yan ก็มารอโอเมก้าตัวเองใต้หอ Luo Zhiyu เป็นประจำเพื่อเดินไปกินข้าวไปเรียนด้วยกัน ส่วน Luo Zhiyu ถ้าไม่มีอะไรทำในห้องก็ขึ้นไปสิงอยู่ที่ห้องเรียน Xiao Yan จนรู้จักเพื่อนในห้อง Xiao Yan ทุกคนเหมือนเป็นห้องเรียนตัวเองเหมือนกัน (ถึงขั้นที่เพื่อนๆ Xiao Yan มองว่าเป็นเรื่องปกติที่ Luo Zhiyu มาอยู่ด้วย) ... แต่ว่าก็ไม่มีใครที่เอะใจเลยว่าเป็นแฟนกันกำลังสวีทอยู่ด้วยกัน ครูก็ไม่เคยห้าม เพราะดีใจด้วยซ้ำที่สองคนนี้เข้ากันได้บ้าง และเพราะอยู่คนละชั้น Luo Zhiyu ที่ติดแฟนอยากอยู่ด้วยกัน เรียนห้องเดียวกัน ก็ถอนหายใจเฮือกให้เพื่อนสนิทฟังว่ารักทางไกลลำบากมาก ทำให้คนฟังคิดไปไกลว่าต้องอยู่คนละโรงเรียน คนละเมือง ไม่ได้คิดไปเลยว่าคำว่า ‘รักทางไกล’ ที่พูดก็คือเพราะต้องกระโดดข้ามไปคนละชั้นตึกกัน และถึง Luo Zhiyu จะไปหา Xiao Yan บ่อยก็ไม่เคยคิดเลยว่าหมายถึงตัว Xiao Yan

อันที่จริง ความเชื่อใจต่ออดีตและค่าความเข้ากันไม่ได้ของทั้งคู่ในหมู่อาจารย์มีถึงขั้นที่สองคนต้องไปเป็นตัวแทนโรงเรียนเพื่อแข่งขันภาษาอังกฤษค้างคืน แต่ว่าห้องไม่พอ ครูก็จับสองคนนี้อยู่ห้องเดียวกัน ทั้งที่ตามจริงอัลฟ่าและโอเมก้าไม่ควรจะอยู่ห้องเดียวกันด้วยซ้ำไป

ซึ่งพอ Xiao Yan เข้ามหาลัยไปก่อน ตัว Luo Zhiyu ที่ไปขลุกกับแฟนเสมอก็ชอบสังคมมหาลัยและเพื่อนของ Xiao Yan มาก บอกว่ามหาลัย U ดีจริงๆ รู้ว่าพวกเราเป็นของจริง เพราะไม่เคยมีใครรู้ว่าสองคนเคยทะเลาะกันมาก่อน หรือรู้ว่าความเข้ากันต่ำ พอแนะนำว่าเป็นแฟนก็คือยอมรับว่าเป็นแฟนจริงๆ ซึ่งเมื่อเปิดตัวแล้ว ตัว Luo Zhiyu ก็ถึงขั้นไปนั่งเรียนวิชาทั่วไปเก็บคะแนนแทน Xiao Yan ที่ติดงานของคณะกรรมการนักเรียนด้วยซ้ำ ซึ่งก็มีเรื่องขำมากที่พอไปนั่งเรียน ก็สนุกกับการปลอมตัวเป็นเด็กมหาลัย ถึงขั้นที่ยกมือตอบคำถามอย่างกระตือรือล้นเพื่อเพิ่มคะแนนพิเศษให้คุณแฟนสม่ำเสมอ ถึงขั้นที่อาจารย์ชอบและจำหน้าได้ ..... พอปีต่อมา ตัว Luo Zhiyu เข้ามหาลัยเดียวกันไปแล้ว ก็ต้องเรียนวิชานี้บ้าง และก็กลายเป็นอาจารย์คนเดิมเสียด้วย กลายเป็น Xiao Yan ต้องมานั่งเรียนแทน เพื่อไม่ให้อาจารย์จับได้จนความแตก คนที่รู้เรื่องก็ไปโพสต์ในกระทู้มหาลัยว่าคู่รักคู่นี้สวีทหวานกันอีกแล้ว มานั่งเรียนแทนแฟนเลยนะ แล้วก็มีคนที่รู้จริงมาบอกว่า ไม่ใช่ว่าสวีทอยากอวดหวานหรอกนะ แต่ว่าทำรถคว่ำไปแล้วต้องมาซ่อมเก็บงานต่างหาก ขำมากๆ

หรืออีกครั้งก็คือ Xiao Yan จัดงานประชุมคณะกรรมการนักเรียนใหม่เมื่อมีเด็กปี 1 เข้ามาร่วม และตัวเองในฐานะรองประธานก็จะต้องโผล่มาให้น้องๆ เห็นหน้าด้วย และก็ลาก Luo Zhiyu มาอยู่ด้วยกัน และเพราะตัว Luo Zhiyu หาที่ที่สัญญาณเนทดีก็เลยไปนั่งอยู่ท่ามกลางหมู่เด็กใหม่ ทำให้ทุกคนเข้าใจว่ามาเป็นคณะกรรมการนักเรียนเหมือนกัน ถูกจับให้นั่งฟังเรื่องรักระหว่าง Xiao Yan และคนรักโอเมก้าอยู่นาน โดยที่ไม่กล้าบอกว่าเป็นตัวเอง จนกระทั่ง Xiao Yan ตาม Luo Zhiyu กลับบ้านและบอกว่ากลับไปที่บ้านสำญญาณเนทดีแน่นอน ก็เลยทำให้ทุกคนรู้ว่านั่งนินทาเจ้าตัวไปเยอะขนาดไหน .....

แต่จริงๆ ไม่ว่าอยู่ที่โรงเรียนหรือว่าอยู่ที่มหาลัย ด้วยความที่ทั้งคู่หน้าตาดี ฐานะทางบ้านดี และผลการเรียนดีก็ทำให้กลายเป็นคนดังอยู่เสมอ ขนาดอยู่มหาลัยเรื่องความรักของสองคนก็ถูกคนอื่นเอามาโพสต์ถึงเป็นระยะๆ อีกแล้ว กับเอาจริงสองคนก็มีคนมาชอบเยอะตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ตอนอยู่โรงเรียน ตัว Xiao Yan คนไม่กล้ายุ่งเพราะแอบแนวนิ่ง เย็นชา ไม่ค่อยสนใจใคร พอเข้ามหาลัย ด้วยความที่ติดแฟนและแฟนติดก็เลยมีแฟนที่เป็นนักเรียนม.ปลายมาอยู่ด้วยถึงขั้นไปเรียนแทนกัน ไหนจะเรื่องหมั้นที่มีคนรู้อีกก็ยิ่งไม่มีใครมากล้ายุ่ง .. ส่วนตัว Luo Zhiyu จริงๆ ก็เป็นโอเมก้าหน้าตาสวยงามน่ารัก แต่เพราะพฤติกรรมโหดที่เอาไม้กวาดไล่ฟาดคู่แค้น และความดิบโหดเถื่อนที่แสดงออกเวลาอยู่กับ Xiao Yan ก็เลยไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบจริงๆ เหมือนกัน ยิ่งพอสนิทกับ Xiao Yan ก็ยิ่งเหมือนจะอยู่กันสองคน (แม้ว่าคนอื่นจะคิดว่าเพราะหาเรื่องกันอยู่ก็ตาม) ถึงขั้นมีคนตั้งกระทู้หาคนช่วยปลอบที่ผิดหวังอกหักจาก Luo Zhiyu ก็มี

จริงๆ ส่วนตัวรู้สึกว่ารักวัยเรียนช่วง ม.ปลาย มันไปต่อไกลไม่ค่อยได้ เพราะยังเด็กมาก ยังไม่เจอการเปลี่ยนแปลง และหลายอย่างในชีวิต แต่จริงๆ มาอ่านก็รู้สึกถึงวัยเด็กที่ทำอะไรก็ทำได้ ยังรู้สึกชีวิตมีแค่การเรียนและขอบเขตที่กำหนดก็มีแค่โรงเรียนและครอบครัวแค่นั้น แต่ว่าเพราะแบบนี้ก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองไปอีกแบบนะ It’s good to be young. มาก อย่างไรก็ตาม ก็ชอบเรื่องนี้มากอยู่ดี กำลังคิดว่าจะอ่านเรื่องอื่นของคนเขียนต่อด้วย ก็ได้ A+ ไปไม่ต้องสงสัย Love those giddy feelings of being smitten with the loved one. Love those giddy feelings of wanting to be together (and never go home tonight).

ปล.
1. สุดท้ายแล้วค่าความเข้ากันได้ของสองคนก็สูงมาก สูงชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน และก็เพราะความสูงมากเกินมาตรฐานก็ทำให้เครื่องตรวจปกติจับไม่ได้ (สองคนที่มีค่าเข้ากันที่ 0 ถึงขั้นที่กลายเป็นหวัข้อวิจัยและถูกจับตรวจหลายรอบจนถึงตรวจเลือด ซึ่งเป็นการตรวจปกติของคนที่จะแต่งงานกันด้วยซ้ำ และสองคนก็ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล ท่ามกลางคู่รักอัลฟ่าโอเมก้าในช่วงที่ยังเป็นคู่อาฆาตแค้นกันอยู่) ทำให้คืนแรกที่อยู่ด้วยกัน Xiao Yan ก็เผลอสร้างพันธะถาวรกับ Xiao Yan แล้ว ซึ่งเจ้าตัวที่รู้ว่าทำอะไรไปก็รีบไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบทฤษฎีความเข้ากันที่ได้ยินมาใหม่ ทำให้สุดท้ายพอ Luo Zhiyu สอบเข้ามหาลัยเสร็จก็ต้องไปตรวจค่าความเข้ากันได้กับ Xiao Yan ต่อ กลายเป็นเครียดทั้งเรื่องสอบเรื่องค่าความเข้ากัน (ซึ่งเพราะรู้ว่าตัวเองทำได้ดีก็กลัวอย่างหลังมากกว่าเสียอีก)

และเหตุผลที่ตอน Luo Zhiyu ตอนในช่วงฮีทกินยากกดไปแล้วไม่ได้ผล ก็เพราะว่ามีอัลฟ่าที่ความเข้ากันสูงมากอยู่ใกล้ๆ ถึงขั้นที่ต้องให้ Xiao Yan กัดสร้างพันธะชั่วคราวเพื่อกดอาการ และตอนที่ Xiao Yan อยู่ในช่วงอ่อนไหวก็ต้องกัด Luo Zhiyu เหมือนกัน


2. ชอบที่ความรักทำให้ก้าวหน้า เพราะว่าพอเป็นแฟนกันอยู่ด้วยกัน ตัว Luo Zhiyu ก็คุ้นเคยกับการอยู่กับ Xiao Yan ตลอดเวลา ถึงขั้นที่กลัวด้วยซ้ำว่าโรงเรียนที่ไม่มีอีกคนจะทำอย่างไร พอ Xiao Yan เข้าไปมหาลัยแล้ว สิ่งที่คิดในใจและบอก Xiao Yan เสมอในปีนั้นก็คือ ให้รอกันก่อน ตัวเองกำลังจะตามไปนะ ความรักเป็นแรงจูงใจให้ขยันเรียนและสอบได้คะแนนดีเพิ่มขึ้นมาจากเดิม อย่างตอนที่ Xiao Yan เข้ามหาลัยไปแล้ว ตัว Luo Zhiyu ก็ใช้เวลาที่ไม่ต้องไปโรงเรียนไปอยู่กับ Xiao Yan ที่ห้องที่ Xiao Yan อยู่เหมือนกัน สองคนใช้เวลาอยู่ด้วยกัน โดยที่ Luo Zhiyu เอาปากกามาทำแบบฝึกหัดในสมุดแบบฝึกหัด และ Xiao Yan ที่พ้นความเป็นเด็กมัธยมแล้วก็เอาคอมพิวเตอร์มาพิมพ์รายงานอยู่ใกล้ๆ กันเหมือนกัน ต่างคนต่างทำงานของตัวเอง แต่เงยหน้ามาก็เจอกัน และถึงจะทำงานตัวเอง ก็รู้ว่ามีอีกฝ่ายอยู่ข้างๆ
อย่างตอนจบชื่อตอนก็บอกว่า “Someone is waiting.” เพราะบอกว่าแรงจูงใจในการก้าวหน้า เติบโตของ Luo Zhiyu ก็คือ Xiao Yan กลายเป็นว่าคำพูดของ Xiao Yan กับ Luo Zhiyu ที่ทะเลาะกันตอนต้นหน้าโรงเรียนเป็นจริงจริงๆ "The excellent you deserve to know the excellent me." คนที่ดีเลิศสองคนเหมาะสมกันมาก


3. เพราะงานที่โรงเรียนยุ่งมาก ตัวสองคนก็แทบจะไม่ได้กลับบ้านเลย ยิ่งช่วงที่เป็นแฟนกันก็อยู่ห่างกันไม่ได้อีก .... โดยที่ทั้งสองครอบครัวรู้ว่าลูกตัวเองมีแฟนแล้ว แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าคบกันเอง ทั้งที่หลายอย่างก็ชี้ไปว่าสองคนนี้น่าจะเป็นแฟนกัน แต่ว่าด้วยประวัติศาสตร์ที่ทะเลาะกันมาตลอดก็ไม่มีใครคิดไปในทางนั้น กลับคิดว่าจะเรื่องที่ลูกตัวเองมีแฟนไปข่มอีกบ้านด้วยซ้ำ ....

"Our Xiao Yan also has a boyfriend." Xiao Yu also thought about his own affairs, "It seems that it has been a while."
"This can also compete?" Boss Luo was secretly dissatisfied, so he said, "Oh, what does that have to do with us?"

จนกระทั่งตอนที่ Luo Zhiyu จบการศึกษาและต้องไปพูดให้รุ่นน้องทั้งโรงเรียนฟัง เจ้าตัวก็แหวกแนวว่าไม่อยากพูดเรื่องเรียนดี หรือการสอบอย่างที่ครูๆ อยากให้พูด แต่อยากจะพูดเรื่องที่นักเรียนอยากฟัง แล้วก็เล่าเรื่องของตัวเองกับ Xiao Yan ไป ขำมากที่ครูทุกคนก็นิ่งกันไปหมด อย่างที่เคยคิดว่าสองคนไปรออีกฝ่ายที่ห้องก็เพราะจะไปหาเรื่องกัน ยิ่งไปกว่านั้นการที่ Xiao Yan ที่จบเข้ามหาลัยไปแล้วใส่ชุดนักเรียนกลับมาที่โรงเรียนเกินสม่ำเสมอจนครูรู้แกวและยามหน้าประตูปล่อยให้เข้ามาเป็นปกติก็กลายเป็นว่าแค่มาหาแฟนตัวเอง (ซึ่งขำมากที่ Xiao Yan ก็บอกครูว่าไม่ต้องห่วง หลังจากนี้จะไม่กลับมาแล้ว เพราะ Luo Zhiyu เรียนจบแล้ว) และครูก็กระอักเลือดมากที่ย้อนกลับไปคิดว่าทั้งที่เข้มงวดมากแต่ก็ปล่อยให้ “ปลา” สองตัวเล็ดรอดการตรวจจับไปได้ ทั้งๆ ที่ปลาสองตัวนั้นก็สารภาพมาเองด้วยซ้ำ ตอนที่เอาใบวัดค่าความเข้ากันได้สูงมาก ชนิด 99.99 ที่สามารถสูงไปได้อีกก็ทำให้ไปทั้งแตกตื่นโรงเรียน

ซึ่งความแตกตื่นไปทั้งโรงเรียนก็มีรุ่นน้องที่สนิทกับพี่สาวของ Luo Zhiyu เอาไปรายงานคุณพี่ด้วย ทำให้เป็นคนแรกในบ้าน (และคนแรกของทั้งสองตระกูล) ที่รู้ว่าสองคนรักกัน ... ซึ่งตอนนั้นสองบ้านก็ออกงานเลี้ยงอยู่ด้วยกันพอดี และคำถามที่ถามบ้าน Xiao Yan ไปก็คือว่าสำเนาทะเบียนบ้านยังอยู่หรือเปล่า? เพราะตอนที่สองคนรู้ค่าความเข้ากันได้ ก็คิดจะเอาใบทะเทียนบ้านไปจดทะเบียนหมั้นกันไว้ก่อนรอจบค่อยแต่งแล้ว .... ซึ่ง Luo Zhiyu เผลอหลุดปากไปก่อนหน้านี้ พี่สาวก็เลยเป็นคนเก็บสำเนาทะเบียนบ้านไว้กับตัว แต่คือของอีกบ้าน ถูก Xiao Yan ฉกไว้เตรียมหมั้นก่อนแต่งด้วยกันนานแล้ว


4. กลิ่นฟีโรโมนของ Xiao Yan เป็นกลิ่นส้ม ซึ่งผันแปรไปตามสภาพจิตใจของเจ้าตัวว่าจะเป็นส้มหวานหรือว่าส้มเปรี้ยว และ Luo Zhiyu ก็เดาอารมณ์คุณแฟนได้จากกลิ่นฟีโรโมนส้มเหมือนกัน ... พอเป็นแฟนกัน หลังๆ ตัว Xiao Yan ก็ตั้งชื่อในแชตว่า “ส้ม” ด้วย มีอยู่วันนึงที่ทางบ้าน Luo Zhiyu คาดคั้นถึงแฟนของ Luo Zhiyu มากๆ เจ้าตัวก็บอกว่าจะส่งรูปแฟนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จมาให้ แล้วก็ส่งรูปกองส้มที่เพิ่งล้างยังมีหยดน้ำกลิ้งอยู่มาให้ทุกคนในแชตครอบครัว
ส่วนฟีโรโมนของ Luo Zhiyu เป็นกลิ่นลูกท้อ หรือว่าจะเรียกแบบฝรั่งว่ากลิ่นพีชดี ยิ่งอินเลิฟอยู่ด้วยกัน ตัว Xiao Yan ก็ยิ่งรู้สึกว่าว่าท้อ/พีชหวานไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่กลับมาที่หอหรือห้องเรียนหลังจากที่ไปหา Luo Zhiyu มา เพื่อนก็จะถาม Xiao Yan เสมอว่าถูก Luo Zhiyu เอาโซดารสพีชสาดมาอีกแล้วเหรอ ซึ่งพอสวีทกันก็เป็นเพราะฟีโรโมนโอเมก้าตัวเองล้วนๆ ไม่ใช่เพราะถูกโซดารสพีชสาดมาอย่างที่เคยโดนวันที่ไปกินแตงโมเย้ย Luo Zhiyu ตอนฝึกทหารแรกเข้าเรียนเลย

และเพราะคนในบ้านเรียก Luo Zhiyu ว่า TaoTao (ท้อ) ตัว Xiao Yan ที่แอบได้ยินก็เรียก Luo Zhiyu ว่า TaoTao เหมือนกัน ทั้งที่ตอนแรกก็เรียกเพราะกึ่งๆ ล้อคำในที่คนในครอบครัวเรียก แต่นานๆ ไปชื่อนี้ก็กลายเป็นชื่อเรียกเพราะ Xiao Yan โอ๋แฟนไปแทน


5. 

ที่ข้อมือของ Xiao Yan มีรอยแผลเป็นจากการถูก Luo Zhiyu กัดอยู่ เพราะ Luo Zhiyu ในวัยสามขวบถูกพี่สาวสั่งให้ไปกัดลูกชายบ้านศัตรู พอเริ่มดีกัน ตัว Luo Zhiyu เองก็จะรู้สึกผิดเสมอที่ไปทำร้ายอีกฝ่าย แต่ก็รู้สึกว่าเหมือนแผลเป็นเป็นรอยกลีบดอกท้อ และพอเป็นแฟนกัน ตัว Xiao Yan ก็มองว่าเป็นแผลแทนใจของ TaoTao สุดที่รัก ... ที่พอมีอะไรมา ก็จะย้อนกลับไปว่าพี่สาวนั่นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องทั้งปวง หลีกหนีความผิดไปไม่ได้เลย


6.
ขำมากที่ตอน Xiao Yan อยู่ปีสอง (ในความหมายว่า ม.5) คนในห้องทำแบบทดสอบสุขศึกษาเรื่องความรู้พื้นฐานกัน และพวกอัลฟ่าก็เจอคำถามข้อแรกว่า ถ้าเริ่มเย็น มีโอเมก้าที่ยังไม่มีพันธะมาชวนไปเที่ยวเล่น โดยที่ไม่มีจะประสงค์ชัดเจนและชวนแค่คุณออกไป โดยที่คำชวนก็ดูไม่ชัดเจน ควรจะทำอย่างไร?

ก. ออกไปเล่นสนุกสนานด้วยกัน
ข. ปฎิเสธไปอย่างเข้มงวด
ค. ตกลงอย่างไม่เป็นเต็มใจ

ขณะที่ Xiao Yan กำลังจะเอาปากกามาวง ข. อย่างมั่นใจ ก็ได้ยินเสียงเคาะกระจกห้อง แล้ว Luo Zhiyu ก็โผล่มาทำเสียงออดอ้อนว่า พี่ ออกมาเล่นด้วยกันไหม .... คิดว่าอย่างไรล่ะคะ เพราะแน่อยู่แล้วว่าคุณพี่ก็ต้องออกไปตามน้องชวน พี่ แล้วกลับมาพร้อมกลิ่นพีชติดตัว คือความเป็นจริงสวนทางกับภาคทฤษฎีมาก... และที่ขำอีกทอดหลังจากนั้นก็คือ เหล่าอัลฟ่าในห้องยกเว้น Xiao Yan คนเดียวถูกครูที่สอนเรียกออกมากราดด่าหน้าชั้นเรียนทั้งห้อง เพราะว่าทำข้อสอบผิดกันหมดโดยที่ Xiao Yan ได้คะแนนเต็มอยู่คนเดียว
  
คือครูเริ่มด่ากราดตั้งแต่ข้อแรก ว่ามันเป็นความรู้ทั่วไป และความรู้ทั่วไปก็คือ ถึงครูไม่เคยบอก ไม่มีใครเคยสอนก็ควรจะรู้ว่าจะตอบอย่างไร
  
“The first question is general knowledge. Do you know what general knowledge is?” Mr. Xu takes a sip of tea to tamp down his anger, “General knowledge means, even if I don’t spell it out for you, you should still know how to answer it.”

ซึ่งพอ Xiao Yan คิดถึงความจริงที่ว่าถึงตัวเองจะตอบถูก แต่ว่าในเชิงปฎิบัติก็ยังออกไปหา Luo Zhiyu อยู่ดี ก็เลยลุกไปรวมแถวกับเหล่าอัลฟ่าที่กำลังถูกครูด่าหน้าห้องด้วย เพื่อนก็ปลื้มว่า Xiao Yan คนเรียนดีไม่ทิ้งกัน ครูก็ซึ้งใจว่า Xiao Yan มีจิตวิญญาณรักเพื่อนพ้อง มีสำนึกหมู่คณะ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าพี่เขากำลังรู้สึกผิดในใจอย่างไร


7. ส่วนอันนี้ขอลงเต็มๆ ว่าตัว Luo Zhiyu ตอบคำถามผิดทุกข้อ แบบไม่ควรผิดจริงๆ

1. Xiaohong is an unmarked Omega, Xiaolan is an Alpha, Xiaohong and Xiaolan are just classmates, Xiaohong and Xiaolan hook up every now and then, to express their friendship at that time. (√)

2. Xiaolan is in a bad mood today. In order to comfort Xiaolan, Xiaohong touched Xiaolan's head and gave Xiaolan a big hug. (√)

3. Xiaolan fed Xiaohong with her own hands. Xiaohong accepted the feeding and looked forward to the next feeding with satisfaction. (√)

4. Xiaohong lost her school uniform. In order not to lose her credits, Xiaohong borrowed Xiaolan's and wisely protected her grades. (√)

5. Xiaohong thought that Xiaolan's pheromone smelled good, so she praised his pheromone many times in front of Xiaolan. (√)

6. When Xiaolan was on duty, she found that Xiaohong had violated the school rules. Regardless of Xiaohong's pleading, Xiaohong's credits were severely deducted. (x)

7. Xiaolan is an Alpha. One day he found that Xiaohong's clothes were not neatly dressed, so he helped Xiaohong tidy her clothes. (√)

There is no difficulty. The questions are based on daily life and can be judged by common sense alone. Luo Zhiyu selected the first few questions, opened the answer booklet attached to the textbook, and checked the answers.
All wrong.
Luo Zhiyu: "? Is this answer wrong?"



ส่วนของคุณพี่
Workbook Part II Situational Judgment Questions

Please combine the knowledge learned in this course to judge whether the following behaviors are right or wrong, and tick or cross the brackets.

[City No. 1 Middle School Physiological and Health Class Final Test, Alpha version]
The first question is multiple choice.

The first small question (general knowledge question): It is getting late, and an unmarked Omega invites you to go out to play. He has no clear purpose and only invites you. His words are evasive and even a bit provocative. , what should you do at this time?

a. Go out happily together
b. Reject him sternly
c. Reluctantly agree to him

Xiao Yan pulled out the cap of the pen. Just as the pen nib stopped on the paper, there was a light knocking sound from the window beside him——

The second graders are all taking exams, the corridor is quiet, Luo Zhiyu hides by the wall, tiptoeing, his voice is very soft: "Come out and play, brother."

________________________________________

ทวิตเตอร์ : @mgk993 #mereadingg