Tuesday, 17 March 2009

The Taste of Night by Vicki Pettersson (n)

เนื่องจากเก็บกดตอนหาเล่มหนึ่งไม่ได้ ก็เลยเอามาทั้งเล่มหนึ่งสองพร้อมกัน แม้ว่าจะยังไม่ได้อ่านใด ๆ ไป ซึ่งก็กลับกลายเป็นเรื่องดี เพราะจบเล่มหนึ่งแล้วก็ต่อได้เลย



ชนิด : Urban Fantasy / Epic
ชุด : Sign of the Zodiac, Book 2
สำนักพิมพ์ : Eos (February 27, 2007)
จำนวนหน้า : 448 หน้า


หลังจากเล่มที่แล้วที่ Joanna รู้ว่าตัวเองเป็นใครแล้ว เธอได้รู้จักตัวตนของชายที่เคยทำร้ายเธอเมื่อตอนอายุ 15 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดา Shadows และเป็นคนที่เธอตามล่าเพื่อล้างแค้นมาตลอด 10 ปีด้วย ดังนั้น ซุปเปอร์ฮีโร่ของเราจึงไม่ลังเลเลยที่จะหาทางแก้แค้นและตามฆ่า Joaquin ให้ได้

หากแต่ความมุ่งมั่นของ Joanna ไม่ใช่สิ่งที่ดีนักสำหรับกลุ่ม เพราะพวกเขารู้ว่าความมุ่งมั่นที่มากเกินไปอาจย้อนกลับมาทำร้ายหญิงสาวหรือแม้แต่ส่วนรวมได้ง่าย โดยเฉพาะเห็นได้ชัดว่า เธอจะทำได้ทุกอย่าง เมื่อประกอบกับความกลัวว่า Tulpa หัวหน้าเหล่าร้ายจะใช้แผนทำให้เธอกลายเป็นพวก ก็ทำให้กลุ่มตัดสินใจที่จะสั่งให้เธอเก็บตัวอยู่ในฐานทัพของพวกตนระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ประหลาดที่คร่าชีวิตผู้คนในลาสเวกัส

หากแต่ Joanna ไม่ใช่คนที่จะยอมอยู่นิ่ง ยิ่งเมื่อเธอได้เบาะแสต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวกับ Joaquin และเหตุการณ์ที่เกิดจาก Regan สมาชิกกลุ่ม Shadows เธอจึงเลือกที่จะสู้ในแบบของเธอคนเดียว แม้ว่าจะต้องขัดคำสั่งของกลุ่มก็ตาม

หนังสือชุดนี้ดำเนินเรื่องด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เน้นที่สัญญาณที่จะเกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา แต่ในขณะเดียวกันก็เน้นถึงการเติบโตและเปลี่ยนแปลงของตัวละครด้วย ดังที่เห็นว่า หลังจากที่เธอใช้ชีวิตของเธอมาคนเดียวสิบปี และสู้กับความชั่วร้ายในแบบของเธอ ตอนนี้เป็นเวลาที่เธอมีกลุ่มเพื่อน และต้องเรียนรู้ที่จะทำตามกลุ่ม ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปรับตัว และโดยเฉพาะเมื่อกลุ่มของเธอยังระแวงและหวาดกลัวเธออยู่ เป็นความขัดแย้งที่กลุ่มต้องการให้ Joanna ทำตามข้อเสนอของส่วนร่วม แต่ขณะเดียวกัน ส่วนร่วมนั้นก็พยายามแปลกแยกเธอออกไป แม้ว่าเล่มหนึ่ง Warren จะเป็นคนที่เชื่อมั่นเกี่ยวกัน Kairos ก็ตาม แต่เล่มนี้เห็นได้ชัดว่า หลายครั้ง เขาไม่ยอมที่จะเชื่อมั่นเธออย่างที่ควรจะเป็น .... การถูกกีดกันออกมาไม่ว่าจะรูปแบบไหน ก็ทำให้ Joanna ยิ่งกล้าที่จะวางตัวโดดเดี่ยว และทำตามใจตัวเองยิ่งกว่าเดิม

ส่วนนี้อาจจะมองว่าเธอเป็นฝ่ายผิดก็ได้ แต่การอ่านส่วนตัวมีความรู้สึกว่าผิดด้วยกันทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะเมื่อ Warren ไม่ยอมฟังความคิดใด ๆ จาก Joanna เลย ขณะที่เธอมองว่าพฤติกรรมของ Shadow มีมากกว่านั้น และเขาเชื่อว่าทั้งสองฝ่าย Light และ Shadow จะแสวงหาความสมดุล แม้ว่า Joanna จะได้เงื่อนงำจาก Reagan และจากประสบการณ์ของเธอมาก็ตาม จนทำให้ตั้งรับและดำเนินการหลายอย่างช้าเกินไป อีกทั้งความคิดขาวกับดำที่แบ่งชัดเจนก็ทำให้ยึดหลักการมากเกินไป จนไม่ดูเหตุผลเบื้องหลังการกระทำ หรือผลสำเร็จที่ทำให้เกิดขึ้นได้ ... ทั้งที่ตัว Warren เอง ก็ถือชีวิตคนและเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่รอบตัวเป็นหมากในการต่อสู้โดยไม่เลือกวิธีการเช่นกัน

การเติบโตส่วนหนึ่งของ Joanna ก็คือ การเลือกที่จะละทิ้งการแก้แค้น ซึ่งในตอนเริ่มเรื่อง เห็นได้ชัดว่า เธอมุ่งมั่นจนถึงขั้นบ้าบิ่นและถึงขั้นปล่อยให้ความคิดนี้ออกมาครอบงำตัวเธอ ไม่ว่าจะเป็นยอมไว้ชีวิต Reagan เพื่อแลกกับเบาะแสที่เธอจะได้เกี่ยวกับ Joaquin และบุกไปที่บ้านของเขาจนถูกจับได้ และเกือบจะไม่รอดชีวิตหากสมาชิกในกลุ่มซุปเปอร์ฮีโร่ตามไปช่วยไม่ทัน เธอให้การแก้แค้นเป็นความสำคัญอันดับแรก ดังที่ในระหว่างการฝึกพลังของกลุ่มที่เธอทำให้ตัวเองและคนอื่นบาดเจ็บจากความเชื่อในหัวของเธอไปด้วย หากเมื่อท้ายเรื่องมาถึง ในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกัน สิ่งที่เธอเลือกอย่างไม่ลังเลก็คือช่วยเหลือคนอื่น และท้ายสุด ให้ Tekla ซุปเปอร์ฮีโร่ที่ลูกชายถูก Joaquin ฆ่าตายเป็นคนลงมือเสียเอง ซึ่งแม้ตัว Tekla เองจะเป็นคนเตือน Joanna ถึงผลร้ายของการปล่อยให้ความแค้นครอบงำ แต่กลายเป็นว่าเธอถูกครอบงำในนาทีนั้น หาก Joanna ต่างหากที่เลือกจะปล่อยวาง

จุดหนึ่งที่คนเขียนทำได้ดี ก็คือ กล้าที่จะเขียนให้ตัว Joanna ผิดพลาดและล้มเหลว จากการจมจ่ออยู่กับการแก้แค้น และการเลือกของเธอ โดยเฉพาะครั้งท้ายสุดที่ทำให้เธอถูกไล่ออกจากกลุ่ม (สปอยล์) [เมื่อเธอเป็นพาหะนำไวรัสไปสู่ฐานที่มั่นของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ และทำให้สมาชิกคนหนึ่งต้องตายไป] เพราะรู้สึกว่าการเขียนให้ตัวละครประสบความสำเร็จเป็นเรื่องง่าย แม้ว่าคนอ่านอ่านสนุก แต่ก็เป็นสูตรสำเร็จมากเกินไป สิ่งที่ดีคือ กล้าให้เธอล้มเหลว หากแต่ไม่ย่อท้อในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง และเรียนรู้ข้อบกพร่องของตัวเอง อย่างที่เธอเขียนไว้ในเล่มนี้

ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า ข้อผิดพลาดที่มากที่สุดสำหรับตัว Joanna ไม่ใช่การมุ่งมั่นล้างแค้น แต่เป็นการที่ไปช่วย Ben และลงเอยด้วยค่ำคืนร่วมกัน การที่เธอยังตัดใจไม่ได้ ทำให้เธอทำตัวลำบากยิ่งขึ้นไปอีก และสำหรับ Ben การที่รู้ว่าเธอยังไม่ตาย แต่ไม่กลับมาหาเขาก็ทำร้ายจิตใจชายหนุ่มอย่างสาหัส นอกเหนือไปจากความจริงที่ว่า เธอเปิดเผยตัวเองให้เขารับรู้ ขณะที่กลุ่มพยายามอย่างยากลำบากที่จะสร้างตัวตนให้เธอใหม่ .... ซึ่งความหน่ายส่วนตัวก็คือ ยิ่งทำให้ความเป็นไปได้ระหว่างเธอและ Hunter ช้าขึ้นด้วย

พูดถึง Hunter หลังที่ออกโรงมาในเล่มแรก ด้วยท่าทีที่ดูแปลกแยก เด็ดขาด และคล้ายจะเป็นอันตรายต่อตัว Joanna กลับกลายเป็นว่าท้ายเล่มทำให้เห็นความเป็นไปได้ที่จะเกิดมากขึ้น อย่างที่การแลกเปลี่ยนพลังทำให้ ... he was experiencing far more of me that any man ever had.( The Scent of Shadows, หน้า 411) ร้อยทั้งร้อย หลังจากนี้กลายเป็นตัวเลือกลำดับแรกแน่ ๆ และเล่มนี้ ทาง Hunter ก็ออกมามีบทบาทที่เกี่ยวกับ Joanna มากขึ้น ถึงแม้ตอนท้ายเล่ม ความเป็นไปได้ระหว่างกันจะมีอุปสรรคก็ตามที

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองว่าเล่มแรกเป็น ugly reality เล่มนี้คงเรียกได้ว่าเป็น ironic reality ดังที่เหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ต้องการให้เธอเลิกที่จะลุยคนเดียว และเชื่อในกลุ่ม แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่เชื่อในตัวของ Joanna อย่างเต็มที่ ถ้ามองว่า A heart to a heart, a trust to a trust. สิ่งเหล่านี้ก็คงเกิดได้ยาก หรือระหว่างการเผชิญหน้ากันที่ Joaquin แสดงความรังเกียจ Joanna ที่ไม่ยอมเลี้ยงลูกที่เกิดหากแต่เอาไปให้คนอื่นเลี้ยง เพราะรังเกียจพ่อของลูก หรือ Joaquin ศัตรูตลอดกาลของเธอเลือกที่จะทิ้งเบาะแสสุดท้ายของเขาให้ Joanna และที่สำคัญ สิ่งที่ดูจะเสียดสีและเล่นตลกกับเธอที่สุดก็คือลูกสาวที่เกิด (สปอยล์) [ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอรังเกียจและพยายามปฎิเสธการมีอยู่ของลูกสาวเธอมา เพราะคิดว่าเป็นลูกที่เกิดจากที่ Joaquin ข่มขืนเธอ หากกลายเป็นลูกของเธอกับ Ben] ชะตาชีวิตเล่นตลกกันเข้าไป

ทั้งนี้ก็คงเรียกได้ว่าเป็น Machiavellian reality ได้อีกอย่าง เพราะแรงจูงใจและเหตุผลในการกระทำทั้งหลายมีลึกซึ่งหลายซับหลายซ้อนกว่าที่เป็นอยู่มาก ทั้ง Regan ที่อ้างว่าช่วยเธอเพราะอยากให้เธอกลายเป็นฝ่าย Shadow และให้ตัว Joanna วาง Regan เป็นมือขวา ทั้งที่จริง ๆ แล้วเป็นอย่างอื่น หรือที่ชัดและลึกที่สุดคือตัว Tulpa ที่สาเหตุที่จริงของการสร้างไวรัสต้นเหตุไว้ทั่วเมืองไม่ใช่การทำร้ายเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่อย่างที่เข้าใจกัน หากเป็น (สปอยล์) [การกำจัดตัว Joaquin ที่มีอำนาจและเริ่มท้าทาย Tulpa มากขึ้นเรื่อย ๆ]

ความลุ่มลึกและรายละเอียดของโลก Light and Shadow ที่ Vicki Pettersson ในเล่มนี้ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเล่มนี้ที่อ่านเจอว่าเด็ก ๆ ในร้าน ไม่ใช่แค่คนที่อ่านและรู้เรื่องราวของ Light and Shadow ผ่านการ์ตูน หากความเชื่อและจินตนาการเป็นตัวสร้างพลังด้วย และที่สำคัญ เด็ก ๆ เหล่านี้ก็เป็น changeling ที่คอยช่วยเหลือซุปเปอร์ฮีโร่อีกต่างหาก ... แต่ทั้งนี้ ด้วยความที่รายละเอียดเยอะมาก ทำให้อ่านแล้วเก็บข้อมูลลำบาก อยากให้ในเวบของเธอทำ glossaries รวบศัพท์ รวมตัวละครจะดีมาก

จริง ๆ การกล้าเขียนให้ตัวละครทำผิดอาจจะดี แต่ช่วยไม่ได้ที่ทำให้ต้องคิดอยู่เนือง ๆ ว่าจะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ไหม ทำให้ได้ ฺB+/B หรือ 4.3 โดยประมาณ A snap bitch goes oh-so-snappy.

ปล. ความจำปลาทองมาก พออ่านเล่มสามไปแล้วจำเล่มสองไม่ได้ กรี๊ด!

aureole?
และทั้งนี้ สงสัยการนับสภาพ aureole มาก ๆ (สปอยล์) [ถ้านับว่าเธอฆ่า Butch, Greta และ Liam] ไปแล้ว ก็น่าจะเป็น 3 ครั้ง ทำไมในช่วงกลางเล่มสองนับได้แค่ครั้งเดียว และทั้งนี้ ถ้า Joanna ฆ่า Liam ไปแล้ว เธอก็น่าจะอยู่ในสภาพ aureole ที่ทำให้ Joaquin สัมผัสถึงตัวเธอไม่ได้ นอกจากนี้การฆ่า Ajax ด้วยอาวุธของเขาเองก็น่าจะทำให้เธออยู่ในสภาวะ aureole อีก?

No comments:

Post a Comment