ชนิด : Urban Fantasy/ Vampire
ชุด : Vampire Babylon, Book 1
สำนักพิมพ์ : Ace; Reprint edition (January 27, 2009)
จำนวนหน้า : 368หน้า
เมื่อได้รับแจ้งว่าพ่อของเธอหายไปอย่างลึกลับ Dawn จึงไม่มีทางเลือกนอกจากกลับมาที่เมืองเพื่อเสาะหาเบาะแสเกี่ยวกับการหายไปของเขา โดยที่ต้องร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานของพ่อไขคดีสุดท้ายก่อนที่พ่อของเธอจะหายไป - ซึ่งก็คือการปรากฏตัวของดาราเด็กชื่อดังที่ตายไปแล้วกว่ายี่สิบปี – อันเป็นเบาะแสสุดท้ายที่เหลือทิ้งอยู่
หากแต่ปริศนาในตัวเพื่อนร่วมงานของพ่อก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็น Kiko ชายแคระที่มีพลังอ่านความจำจากสิ่งของ Breisi สาวร่างเล็กที่เชี่ยวชาญเครื่องมืออิเล็กโทรนิกส์ และที่สำคัญ Mr. Limpet ผู้เต็มไปด้วยความลึกลับ
ความโดดเด่นที่ชัดที่สุดของ Night Rising อยู่ที่การวางบุคลิกตัวเอกอย่าง Dawn ตั้งแต่หน้าแรกเห็นได้ชัดว่าเธอมีอาชีพสตันแมน เป็นสาวแกร่ง กร้าวที่เชื่อตัวเอง และพึ่งพาตัวเองได้ แต่เมื่ออ่านไป เธอเป็นคนที่มีความขัดแย้งและปมในใจสูง โดยเฉพาะเมื่อเธอเป็นลูกสาวของดาราดังในอดีต และถึงแม้แม่ของเธอจะตายไปแล้ว แต่เธอก็ยังถูกเปรียบเทียบอยู่ตลอดเวลา ผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตของเธอพยายามมองหาแม่หญิงสาวที่กลายเป็นตำนานมากกว่าจะเห็น Dawn จริง ๆ เธอพยายามหลีกหนีตัวเองจากเงาของแม่ และเลือกสร้างชีวิตเธอให้แกร่งกร้าว แทนที่จะทำตัวน่ารัก อ่อนหวาน และเปราะบางอย่างที่ภาพของแม่เป็น
ประกอบกับการเลี้ยงดูของพ่อที่แตกสลายไปหลังการสูญเสียผู้หญิงที่รักไป ความไม่มั่นคงทางอารมณ์ของเขาที่นาทีหนึ่งจะกอดรัดสนใจลูกสาว และอีกนาทีหนึ่งร้องไห้จมอยู่กับขวดเหล้ามีผลอย่างสูงต่อ Dawn ด้วย นอกจากเธอจะต้องกลายเป็นคนดูแลพ่อในหลาย ๆ เรื่องแล้ว ยังทำให้เธอโตเร็วเพื่อจะได้พึ่งพาตัวเองได้ และปิดกั้นตัวเองจากปัญหาด้วยการไม่รับรู้ด้วย ... Dawn เลือกที่จะใช้ความสัมพันธ์บนเตียงเป็นทางออกและวิธีระบายตัวเอง เพราะนาทีนั้น ผู้ชายที่อยู่กับเธอจะรู้ว่าแม่ที่ตายไปแล้วไม่มีทางทำอย่างที่เธอซึ่งมีเลือดเนื้อทำได้ และเธอไม่ต้องสนใจเรื่องราวอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ดำเนินอยู่
ส่วนหนึ่งที่การอธิบายความขัดแย้งของตัวละครทำได้ดีอาจเป็นเพราะใช้มุมมองบุคคลที่สาม (“she”) เป็นคนเล่าเรื่อง แทนที่จะเป็นคนแรก (“I”) อย่างเรื่องอื่นก็ไปเป็นได้ ... และแรงจูงใจในการตามหาพ่อก็เป็นความขัดแย้งที่สร้างได้ดี อย่างที่เห็นว่าพ่อเลี้ยงเธอไม่ดีนัก และเมื่อเริ่มโตเธอก็มีชีวิตของตัวเองที่ไม่ได้ติดต่อกันเท่าไหร่ ยิ่งเมื่อเธอเลือกที่จะปิดกั้นตัวเอง และไม่เชื่อใจใคร แต่เธอตามหาพ่อเพราะรู้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ และเธอไม่ต้องการตายจากกันไปในสภาพนี้ (จริง ๆ ถ้าอ่านแล้วเขียนเลย คงได้ดีกว่านี้ อ่านเรื่องอื่น ๆ ไปเยอะมาก จับประเด็นได้ไม่ชัดเหมือนตอนอ่านแล้ว)
จุดหนึ่งที่ชอบก็คือ Dawn ไม่ต้องการเป็นเหมือนแม่ เพราะไม่อยากถูกเปรียบเทียบ และนั่นก็ทำให้เธอเกลียดผู้หญิงที่เหมือนแม่ -บอบบาง อ่อนหวาน- จนกระทั่งเธอได้เจอ Jacqueline เด็กสาวที่มาจากชนบท บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ระหว่างการซ้อมดาบ ที่บางอย่างทำให้เธอรู้สึกอยากปกป้องให้ความใสซื่อนั่นคงอยู่ตลอดไป ..... แต่ความรู้สึกนั่นก็กลายเป็นหลอนเมื่อปะติดปะต่อเรื่องบางอย่างต่อไปได้
ไม่แน่ใจว่าเพราะตอนนั้นมีหนังสือที่สนใจกว่า รู้สึกว่าสนุกกว่าอ่านไหม ที่ทำให้กว่าจะรู้สึกเข้าถึง และเริ่มอ่านจริง ๆ ก็ช่วงหน้าที่ 70-80 หลังจากวางไปหลายรอบ แต่พออ่านจริง ๆ การดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็ว ฉับไวและเต็มไปด้วยฉากแอคชั่น ความลึกลับ และให้รู้สึกตื่นเต้น edgy ตลอดเรื่อง โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวกับความลึกลับของ Mr. Limpet ชายผู้มีแต่เสียงและเต็มไปด้วยอำนาจประหลาดซึ่งดูจะลึกลับยิ่งกว่าความลับของคดี (ซึ่งก็ทำให้สงสัยมากว่าตกลงเป็นตัวอะไร และที่คิดไว้จะถูกไหม)
สังคมผีดูดเลือดที่สร้างไว้และจินตนาการไว้ค่อนข้างดี นอกเหนือจากโครงสร้างที่วางไว้ซับซ้อนแล้ว แรงจูงใจของหัวหน้าผีดูดเลือดก็น่าสนใจ และสร้างผลกระทบได้สูง โดยเฉพาะประเด็นที่วางไว้และเปลี่ยนภาพที่น่าจะเป็นผู้ร้ายในตอนแรกให้กลายเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำ และน่าสงสารมากที่สุดในตอนใกล้จบ นอกจากนี้ เป็นไปได้สูงว่าจะมีความเกี่ยวพันกับครอบครัวของเธอในแง่ใดก็แง่หนึ่งในอนาคต (หลังจากถูกเปิดเผย) แต่สิ่งเหล่านี้ก็คงถูกพูดถึงในเล่มสอง รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอ กับ Mr. Limpet และนักสืบเอกชนผู้เรียกตัวเองว่านักล่าผีดูดเลือดต่อไป
ปกแข็งออกถึงเล่มสี่แล้ว แต่ปกอ่อนเล่มสองก็คงจะออกเร็ว ๆ นี้ คิดว่าซื้อ ให้คะแนน B ชอบ twist ตัวละครกับ twist พล็อต .. Edgy mystery (of selfishness?)
No comments:
Post a Comment