Monday, 5 November 2018

ความรู้สึกกับสำนักพิมพ์นิยายจีนย้อนยุครวมๆ จากการอ่านนิยาย

(((เขียนตั้งแต่เดือน 5 แล้วก็ลืมไปเลย โถโถ)))
*เล่มที่มี link อาจมีสปอยล์ตามประสา

ห้องสมุด
ถึงแม้จะมีประเด็นเยอะ แต่ถ้าถามก็ต้องบอกว่าเมื่อก่อนถูกใจนิยายของห้องสมุดที่สุดนะ เพราะว่าชอบตัวเองผู้หญิงที่เก่งแล้วก็ทันคน เจ้าคิดเจ้าแค้นเอาชนะด้วยก็ได้ ซึ่งจุดนี้หลายๆ เรื่องก็ตอบโจทย์นี้ได้เกือบเต็ม ยิ่งพอเป็นแนวแฟนตาซีเทพเซียนก็ยิ่งถูกใจไปกันใหญ่ (ส่วนหนึ่งก็คงเพราะห้องสมุดได้งานจิ่วลู่เฟยเซียงหลายเรื่องด้วย) คือส่วนใหญ่ถ้าลองอ่านแล้วชอบ ก็ไม่ค่อยผิดหวังเท่าไหร่ กับจุดที่ไม่แน่ใจว่าดีหรือไม่ดีก็คือว่ามี e-book ไม่ต้องรอหนังสือมาส่ง อยากได้ก็ได้อ่านทันที (ย้ำคำว่าทันที! ตีสองตีสามก็ซื้อได้ 555)โดยเฉพาะกับผลาญที่มีหนังสือและ e-book .. เวรกรรม

แต่หลังๆ รู้สึกแนวหนังสือดรอปไปนิดนึง อย่าง ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ นี่ ขัดใจมากกกๆๆๆๆๆ ความเรียบๆ เอื่อยๆ นี่ นึกว่าอ่าน biography/ autobiography มากกว่าอ่านนิยาย / กับเพราะติดภาพว่าต้องเอานางเอกแรงมา บางทีก็ได้แรงแบบไม่รู้เรื่อง อย่างช่างร้ายเหลือ แสนพยศมาด้วยเหมือนกัน อ่านตัวอย่างแล้วก็วิ่งหนีไป

ส่วนนิยายที่ออกมาเป็นเวบ กับเล่ม e-book อืมม บางเรื่องก็อ่านอังกฤษไปอยู่ อย่าง Cultivation Chat Group กับ Doomed to be Cannon Fodder (แต่เรื่องหลังก็อดซื้ออีมาด้วยไม่ได้อยู่ดี 5555 อยากอ่านภาษาไทยเทียบด้วย)

ชอบ
1. เจาเหยา 
บุคลิกและทัศนคตินางเอกก็ชนะเลิศแล้ว ชอบตรรกะที่มาที่ไปของนางเอกมาก และชอบที่พอรู้ตัวว่ารักพระเอกก็ไม่แสดงออกไปตรงๆ กลับไปเช่นกัน ถ้าตัดความวุ่นวายหลายอย่างเล่ม 2 ไปก็ถือเป็นเรื่องที่ชอบที่สุดเช่นกัน – เสียดายที่ตอนนั้นพรีไม่ทันก็เลยซื้อ e-book แล้วก็เก็บหนังสือตามก็ยังไม่ได้เก็บ พูดแล้วก็ลืมไปเลย // อ้อๆ ไม่ต้องพูดถึงการไปอ่าน MTL จีนจนจบ เพราะไม่อยากรอนะ

2. ผลาญ (บล็อกเล่ม 4-5)
ไม่ต้องพูดมาก ความพีคคือพระเอกสายสปอยล์ ที่ขนาด นางพญาท้ารบ จะเป็นแบบผลาญแบบ sophisticated ก็ยังสู้ไม่ได้ // แม้จะสปอยล์เหมือนกัน แต่ระหว่างปากจัดหลงตัวเองกับโอ๋และอ้อน ใครจะไม่เลือกอย่างหลัง? // แต่ความเสียใจอยู่ที่เล่ม 5 เนี่ยแหละ

3. ของรักของข้า 
แม้ว่าจะไม่สุดตอนจบก็เถอะ – ตัดต่อให้คิดเองอีกแล้ว // ความขมกระอักแบบจิ่วลู่เฟยเซียงมาตอนจบ แต่คราวนี้ก็เป็นเพราะพระเอกทำตัวเอง จริงๆ พล็อตนี้ทำให้อึ้งไปนิด เพราะไม่ค่อยเจอพระเอกจิ่วลู่เฟยเซียงที่ไม่ได้โอ๋หรือรักนางเอกตั้งแต่ตอนแรกๆ เท่าไหร่ (แม้บางเล่มจะเป็นแบบแอบๆ ก็เถอะ)

4. ปีศาจราตรี 
นี่ก็เหมือนกัน ครึ่งหลังกับครึ่งหน้าเหมือนคนละเรื่องกัน – แต่ก็ชอบอยู่ดี // ขัดใจอยู่อย่างที่ไม่ชอบกรอบราชสำนัก ผิดโผจิ่วลู่เฟยเซียงที่เป็นสายเทพเซียนหลุดโลกด้วยเหมือนกัน กับจริงๆ พล็อตบางอย่างอลังการ แต่ถึงเวลาอ้าว ใช้ไม่ได้ //ตรรกะก็ยังงงง ๆ เหมือนเป็นเล่มเล็กที่อ่านเล่นๆ ไม่ต้องคิดมากก็แล้วเนอะ // ความมึนๆ ที่ซื้อ e-book หลังเห็นหนังสือ 3 วิเหมือนกัน

5. เต้าหู้ไซซี 
คนอาจเกลียดเยอะ แต่ว่าส่วนตัวมองว่าสมจริงนะ ถ้าไม่อ่านแล้วคาดหวังว่าจะต้องความรักสวยงามตายแทนกันได้แบบนิยายรักจ๋า เรื่องนี้ผ่านมาก เป็นเรื่องที่สะท้อนความเป็นจริงแบบไม่ดราม่านะ ท่านอ๋องได้กับหญิงสาวชาวบ้าน เอาเค้ามาเป็นเป็นอนุ แล้วเลี้ยงดูนี่ก็ถือว่าใจดีแล้ว ยิ่งสมัยก่อนที่ความรักไม่ใช่ element ที่แต่งงาน/อยู่ด้วยกันด้วยแล้ว

อื่นๆ อย่างชุดโฉมงามฯ (เพชรยอดคทากับเพชรยอดขุนพล จริงๆ แล้ว) กับปฐพีไร้พ่าย ล่าหัวใจมังกรก็โอเค แต่ไม่ถึงกับกรี๊ดดด แม่ว่าจะเป็นอ่านซ้ำไปมาได้ เอ๊ะ หรือว่าชอบ? อ้อ ขอเล่าขานตำนานรักด้วย ฮือฮือ หงุดหงิดเพราะเป็นเรื่องสั้นเข้าถึงตัวละครยากไม่พอ ยังจะขมตับไตพังอีก นอกจากเรื่องแรกแล้ว ขอตายยยย

แจ่มใส
เพราะแจ่มใสเป็นสำนักพิมพ์แรกที่เริ่มเจาะตลาดนิยายรักจีนก็เลยเป็นสำนักพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุด แล้วก็มีออกมาหลายโทน หลายหัวจากที่เริ่มเป็นแนวเล่มเดียวจบที่รักกันง่าย ไม่ได้อะไรให้ต้องคิด ที่นางเอกโก๊ะ มองโลกในแง่ดี สู้ชีวิต และมีพระเอกมาตามรักตั้งแต่ต้น กับนางเอกซนเซี้ยวเล่นแผลงๆ ดูซ่าแต่แอบไม่ได้สาระ ก็เริ่มมีพล็อตที่จริงจังมามากขึ้น ดังนั้นก็เลยขึ้นอยู่กับว่าจับได้เรื่องไหน – ในแง่ที่ว่าจะอ่านเรื่องไหนเอารสไหนด้วยมากกว่า แปลกที่เรื่องที่ดังๆ ของแจ่มใสจะเป็นเรื่องที่ไม่ชอบ และเรื่องไหนชอบมาก ก็จะไม่ดัง (โถ) แต่รวมๆ ข้อดีของแจ่มใสที่ชอบมากคือสำนวนการแปลมีมาตรฐานสูง และสละสลวย อ่านแล้วไม่ค่อยขัดใจ คือว่ากล้าหยิบหนังสือไปจ่ายเงินโดยไม่ต้องคิดมากความ

ชอบ/ ติดใจ
1. กรงขังบุปผา 
ตอบโจทย์สองอย่าง สูตรลูกศิษย์อาจารย์ที่เป็นความคลุมเครือแล้วค่อยๆ มาชัดเจนขึ้น กับชอบที่เรื่องนี้รักด้วยสมองตรองด้วยปัญญาดี – สำหรับสองคนหน้าที่มาก่อนความรัก แต่พอได้ทำหน้าที่แล้วก็ทำตามความต้องการตนเองได้  - ที่มาประโยคสอนใจไว้เตือนตัวเอง “ถ้าอยากทำสิ่งที่ชอบก็ต้องทำในสิ่งที่ไม่ชอบก่อน” // เป็นเรื่องที่ชอบที่สุดในแนวเล่มเดียวจบด้วยซ้ำ แต่เสียดายที่ไม่ดัง ก็รู้ว่ามันไม่หวาน ไม่ดูหวือหวา ฮือฮือ // กับเสียดายที่ตอบจบหลุดโทนไปนิด

2. กลีบบัวกลางใจ 
อันนี้ก็เหมือนกัน ความรักเนิบนาบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่รักแรกพบ (โดยเฉพาะสำหรับพระเอก) ความรู้สึกที่มีคนให้ปรึกษา คนที่วางใจให้พึ่งพิง กว่าจะรู้ตัวว่าเวลามีปัญหา เวลามีความสุขอยากเจอใคร อยากเห็นใครที่สุด ก็ตอบมาแล้ว // ขัดใจจุดเดียวที่นางเอกอ่อนให้บ้านเดิมเยอะ กับจัดการปัญหาญาติๆ ท่านอ๋องเบาไปหน่อย แต่ก็นะ ในสถานะแบบนั้นได้แบบนี้ก็ดีพอแล้ว // ในแง่นี้ พระเอกก็เป็น salvation ช่วยนางเอกจากสภาพ trapped เหมือนกัน อืมมม คนนึง socially trapped อีกคนก็ mentally trapped สินะ //เสียดายที่เล่มอื่นในชุดไม่เป็นแบบเดียวกัน – ในแง่ตรรกะ

3. ชายาสะท้านแผ่นดิน (7 I 8 I 10 I พิเศษ )
ใช่ค่ะ ชอบเรื่องนี้ ใครจะทำไม! 5555 เป็นเรื่องแรกที่ทำให้ได้เกิดกระบวนการ MTL เลยมั้งจะว่าไป แต่เสียดายที่เล่มหลังๆ ค่อยข้างหนืด และตรรกะเบากว่าเล่มแรก (ที่ตรรกะเบาอยู่แล้ว) ชอบความมุ่งมั่นรักเชื่อใจกันของพระเอกนางเอกมาก อย่างที่สำหรับพี่แก นางเอกจะร้ายอย่างไรก็ดีอยู่ดี ความปกป้อง นับถือกันไร้ขอบเขต (อยากจะพูดว่าไร้ก้นบึ้ง) และความ OP ของกันและกัน ทั้งที่เป็นแนวนางร้ายเกิดใหม่เป็นสวะ แต่ในแง่นี้ก็รู้สึกว่าดีกรีความเหวี่ยงของนางเอกน้อยกว่าหลายเล่ม เสียดายที่แจ่มรวมเล่มพิเศษมาในชุด แทนที่จะบอกว่าเป็นเล่มพิเศษ ทำให้ตอนอ่านเล่มหลังๆ คำนวนฉาก+ progress เรื่องผิดไปหน่อย

4. อาจารย์หญิง
55555 เรื่องนี้อ่านหลังเดือน 5 ใครที่อ่านรีวิวแบบจริงจังไปก็คงรู้ว่าอินเรื่องนี้มากขนาดไหน ก็เรียกเค้าว่า in-love-with tag เถิดนะคะ  ชอบบุคลิกตัวละครทั้งคู่ แล้วก็ปฎิสัมพันธ์ระหว่างกันมาก เรื่องนี้ตัวเราไม่สมบูรณ์แบบ แต่เราดีขึ้น สมบูรณ์ขึ้นได้เมื่ออยู่กับอีกคนนะ แล้วอารมณ์ตลกร้ายก็ดีมากก // ตอนอ่านจบๆ ร่ำ ๆ จะไปตามอ่านงานคนเขียนเรื่องอื่นแล้ว หรือว่าควรทำดีเนี่ยย?

5. หงส์ขังรัก
ถ้าไม่พูดถึงเรื่องนี้ก็คงไม่ได้ ความพีคอยู่ที่พระเอกสายเอาแต่ใจ หรือว่าคำนี้เบาไปคะ? นั่นแหละ ความร้ายแบบที่ทำทุกอย่างให้ได้ใจผู้หญิงมาครองนี่ทำให้ชนะเลิศไปจริงๆ แต่ว่าส่วนตัว สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้ตกไปก็คือตัวนางเอก ไม่ชอบวิธีการที่มีกับน้องชายตัวเอกนะ รู้สึกว่าน้องอำมหิต+บิดเบี้ยวก็จริง แต่ในแง่นึง ก็ดูแลนางเอกดี ฉะนั้นแล้ว ความรู้สึกตอบแทนจะมีบ้างไม่ได้เชียวหรือ? ทำไมถึงดูดายให้ถูกฆ่า/ทำร้ายได้ลง ทั้งที่ตัวละครบางตัวไม่ได้ดีกับนางเอก แต่นางเอกก็ยังให้อภัยและช่วยได้ อันนี้อารมณ์เสียจริงๆ นะ สงสารที่ตอนหลังกลับมา แต่ไม่ได้มาล้างแค้น แต่มาเพื่อตั้งคำถาม ฮือ น้องเค้าให้ใจไปผิดคนแล้ว TT ที่สำคัญ แล้วอีพระเอกที่ร้ายบิดเบือนเลือดเย็นล่ะ? แค่ไม่เห็นชัดๆ ก็เลยไม่คิดไปถึงขนาดนั้นเหรอ พวกหน้าเนื้อใจเสืออันตรายกว่า เลวร้ายกว่าอีกนะ กับอีกอย่าง พอออกมาจากเมืองหลวงได้ นางเอกชีวิตเอื่อยไปหน่อย ก็เข้าใจว่าที่ผ่านมามันเครียด แต่ดูนางหายใจทิ้งไปวันๆ มาก

6. แค้นพรางใจ
อืมม เรื่องนี้ชอบ แต่ไม่มีหนังสือ  เหมือนยืม TK Park มาอ่าน // พล็อตดูสับสนก็จริง แต่ก็อดชอบไม่ได้อยู่ดี ในความอึนไร้สติก็มีความสนุกซ่อนอยู่ไง ชอบความฉลาดสามารถของนางเอก แม้ว่าจะเสียใจขัดใจที่นางเอกหลอกพระเอก อืมม ตอนจบก็เหมือนจะดี แต่ก็แอบค้างอยู่ดีนะ ตัดใจได้มันก็ดี แต่คนอื่นจะยอมให้จบจริงหรือ?

7. ตำนานรักเหนือภพ
จะเหลืออะไร ก็แนวเทพเซียนนี่คะ? สนุกตอนแรก แต่ไม่สนุกตรงดราม่า นี่ก็คือการที่ตัวเอกบัวขาวเทิร์นดาร์กเรื่องหนึ่งสินะ มีความรู้สึกว่านางเอกทุ่มเทความรักให้ผิดคน เอาจริง อาจารย์เหมือน father figure มากกว่าไหม? นางเอกมีคนรักและห่วงใยตั้งมาก ไม่น่าไปจับความรู้สึกตกค้างไว้กับอาจารย์เลย คือจับได้ แต่ต้องไม่ใช่เพื่อมาประชดประชันและทำร้ายตัวเองอย่างนี้เลย สงสารเจ้าสำนักข่าว (ที่จริงๆ ควรเป็นพระเอกตัวจริง) จอมมาร และศิษย์พี่ร่วมสำนักตัวร้าย และก็ชอบสามคนนี้มากกว่าด้วย // รู้สึกว่าจบแนวนี้ได้เพราะเป็นการตัดใจหักจากอาจารย์ แต่ว่าขัดใจที่การตัดสินใจเกิดจากการประชดแบบอืดๆ แม้ว่าจะชอบที่บอกว่าอาจารย์ไม่มีคุณสมบัติมาตายพร้อมตัวเองก็เถอะ //ไม่ชอบภาคพิเศษนะ คิดว่าจบแบบนี้ดีแล้ว

8. ราชินีตัวร้าย
ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งที่พล็อตก็โหล และเป็นการดำเนินเรื่องตามสเต็ป แต่ก็ยังชอบเรื่องนี้ พล็อต forced marriage ดูน่ารันทด จนกระทั่งนางเอกเป็นพวกหน้าระรื่นไม่สนใจหน้าไหนเนี่ยแหละ

9. ท่านหญิงสลับรัก
นี่ก็ forced marriage เหมือนกัน แต่ว่าการที่นางเอกมาแนวสุขุม นิ่มๆ ก็สนุกดีนะ

10. ย้อนกาลสารทวสันต์
ย้อนยุคอีกเรื่อง แต่ว่าไม่ใช่แบบนางเอก OP แต่ว่าสู้ชีวิต ใช้ปัญญา และความสามารถเอาตัวรอดจากสถานะทาสขึ้นมา ชอบที่นางเอกเลือกเดินทางที่ลำบากมากกว่าจะเลือกความสบาย โดยเฉพาะการขอเป็นขุนนางแทนที่จะยอมเป็นสนม ดูทำร้ายหัวใจทั้งคู่แต่ก็เป็นการสู้เพื่อระยะยาว ชอบแต่ว่าก็ยังไม่ถึงกับที่สุด เพราะไม่ชอบการมีกรอบและขอบเขตสังคมมาปิดกั้น (อ่านหนังสือก็เพื่อหลีกหนีจากสิ่งเหล่านี้นี่นะ)

11. เงาเพลิงสะท้านปฐพี
ใช่ค่า แนวผู้ฝึกตน แต่เอาจริง ส่วนตัวไม่ได้สนุกที่ตัวพระเอกนางเอก แต่ว่าเป็นแกงงงค์ Party RPG ต่างหาก ทั้งในด้านการสู้ แล้วก็การอยู่ด้วยกัน เป็นศิษย์พี่น้องนรกไร้เทียมทาน 5 คน ส่วนตัวไม่ชอบนางเอกขนาดนั้น เพราะดูจืดแนวบัวขาวไปนิด แต่ว่าหลงรักความบ้าบอของศิษย์พี่ใหญ่ โถ เมื่อไหร่จะไซส์ผู้ใหญ่คะ? ไม่พูดมาก ก็เคยบล็อกไปแล้วเนอะ


อื่นๆ คงถูกตบ ถ้าบอกว่าไม่ชอบบุบฝาสีชาด หมอหญิง และชันสูตรรัก (เรื่องสุดท้าย so cliché และสองเรื่องแรกก็ดราม่าไปนะคะ โดยเฉพาะบุปผา เคยบล็อกกรีดไปแล้ว)

Happy Banana
เหมือนอ่านอยู่แต่ 2 เรื่อง คือ ลิขิตรักด้ายแดง กับอาจารย์...เป็นคนชั่วช่างยากเย็นเหลือเกิน (ซึ่งรอเล่ม 4 อยู่) บางครั้งก็อยากจะตะโกนกรีดว่าทำไมไม่ทำ e-bookkkk เพราะความอยากเริ่มอ่านจะมาดึกๆ แล้วก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากกรีดร้องอยู่คนเดียว ส่วนตัว อืมมม ดังนั้น สองเรื่องเป็นมาตรฐานวัดอะไรได้ไม่มาก แต่ถ้าจะต้องวัดจริงจะบอกว่า เนื้อหาพล็อตทั้งสองเรื่องค่อนข้างแหวกแนวกว่าเรื่องอื่นๆ ก็จะสนุกถ้าเน้นผจญภัยมากกว่าอ่านหาความรัก

1. ลิขิตรักด้ายแดง
แปลค่อนข้างแข็งและรู้สึกว่าใช้คำแปลกๆ  อย่างที่ติดใจมาก คือการที่เรียกพระเอกว่า ผู้กล้า เอ่อออ.. ทำไมนึกว่ากำลังเล่นเกม RPG อยู่ไปเลย? อยากให้แปลว่า ท่านจอมยุทธ์อะไรแบบนี้มากกว่า เรื่องนี้เป็นหลายเบลนมาก มีตั้งแต่ย้อนอดีต สืบสวน  ความรัก เหนือธรรมชาติ อืม ตอนอ่านอ่านเร่งๆ กับอ่านนานมากกก ก็เลยไม่แน่ใจว่าติดใจอะไรที่สุด แต่ถ้าคิดตอนนี้เลยก็ชอบความเรียบง่ายของพระเอก กับเคมีของคนสองคนที่ดูเหมือนไม่เข้ากันแต่กลับเข้ากันได้ดี พระเอกเสียสละเยอะมาก โดยเฉพาะฉากที่ถ้าต้องเลือกระหว่างนางเอกกับอาวุธสุดหวงแล้ว ฝ่ายนี้ยอมทิ้งอาวุธไปโดยไม่คิด ฉากที่อยู่โดยไม่รู้ว่าจะอยู่ด้วยกันได้ถึงเมื่อไหร่ก็ปวดใจมากเช่นกัน โดยเฉพาะที่พระเอกมีท่าทีเรียบเฉยไม่เสียใจ แต่รอให้วันนึงได้เจอกันอีก (คนอ่านตับพังหัวใจทะลุกระอักเลือดด!)  กับชอบที่กลับมาเจอกันในโลกปัจจุบัน แล้วตอนออกทีวีพระเอกบอกว่ารักนางเอกผ่านตัวอักษรที่นางเอกเรียบเรียงประวัติของพระเอกไว้ (ตอนที่พระเอกหลับโคม่าอยู่) พระเอกดูมีวิธีจีบนางเอกแพรวพราวขึ้นนะ 5555

2. อาจารย์...เป็นคนชั่วช่างยากเย็นเหลือเกิน 
เอาจริง ขัดใจนางเอกอยู่เนืองๆ เพราะกว่าจะถึงตอนสำคัญ นางก็มัวแต่พิรี้พิไรไม่กล้าพูดไม่กล้าทำอยู่เรื่อย แต่มีปัญหาที่ไม่เกี่ยวกับพล็อตก็คือสงสารพระรองมาก การเกิดโรค Second Male Lead Syndrome มาง่ายยยยยอีกแล้วววว แม้ว่าพี่แกจะมาแนว (ดูเหมือน) เย็นชาต่างกับ แต่แกก็ดูแลนางเอกดีจริง และเสียสละเงียบๆ เยอะมาก อืมม ก็รู้ว่าพระเอกตัวจริงก็ดี เสียสละเยอะอยู่ แต่ว่าไม่ชอบแนว sunshine / poster boy ค่า ชอบแบบดาร์กติดเย็นชาติดลึบลับนี่คะ! ดังนั้นก็อารมณ์เสียที่ตอนพิเศษไม่ได้พูดเรื่องพี่พระรองกับความน่าจะเป็นกับคนของอีกสำนัก

อรุณ
ตบดิฉันเถิดค่ะ อะไรก็ตามที่เป็นอรุณจะไม่อ่านอีกแล้ว แม้ว่าหลายคนจะบ่นว่าเป็นเพราะการแปล และสำนวนแปล เรื่องสำนวนแปลไม่ใช่ปัญหา เพราะว่าการอ่านแบบ MTL เพื่อให้ได้เนื้อเรื่องนี่ทำมาแล้วไม่ว่าจะจากจีน เกาหลี ญี่ปุ่น แต่มีความรู้สึกว่าพล็อตไม่ไหวจริงๆ จะมีความดราม่าอย่างที่ไม่ควรจะเป็นซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในเรื่อง อยากอ่านแล้วโรคสวยสบายใจ ไม่ใช่มานั่งขัดใจพล็อต ฉะนั้น เห็นชื่อสำนักพิมพ์ ก็ขอวิ่งไปตั้งหลักก่อนก็แล้วกัน ดีจริงค่อยมาว่ากันใหม่

อืม นึกออกสามเรื่องที่พีคจริงๆ โกรธมันนน!!!

โกรธ
1. จอมเวทย์แสนร้ายฯ 
แค่พิมพ์ชื่อก็อารมณ์เสีย พูดจริงๆ ตอนอ่านพล็อต มันดูมีศักยภาพมากก แต่พออ่านจริง อ่านเจอลูปดังนี้ นางเอกบอกว่าตัวเองไม่ใช่คนดี – พระเอกบอกว่าตัวเองก็เหมือนกัน (สองสเต็ปนี้อาจสลับกันไปมา) – โอ๋/กอดกันไป – อีกคนไปฆ่าคนชั่วสักคน (หรือฝูง) เพื่อปกป้องอีกคน – อืม แล้วไงต่อ ก็นิยายเป็นเรื่องแต่ง แต่การแสดงความรักแบบ obsessive ตอนอายุสิบกว่าขวบต้นๆ มันดูผิดปกติมากนะ ยิ่งเจอลูปข้างบนสปอยส์กันไปมายิ่งน่าเบื่อ ดังนั้น DFN ตั้งแต่เล่ม 1

2. ลำนำดอกท้อ 
เรื่องนี้ดีสุดในสามเรื่อง ตอนแรกๆ เปิดฉากมาดี แต่พอหลังๆ รำคาญความไร้สาระของนางเอกไม่พอ ยังมีดราม่าที่ต้องเลือกกับหน้าที่และความรักของพระเอกอีก ขออะไรง่ายๆ ได้ไหม ถ้าพระเอกต้องเลือกหน้าที่จริงก็ไม่เป็นไร แต่ช่วงที่นางเอกมีปัญหากลาง/ท้ายเล่มสอง ดูเป็นการเขียนปัญหาให้ดูหนักรุนแรงเพราะอยากให้เห็นว่าเจอมรสุม แต่รู้สึกว่านางเอกแก้ได้ แต่ไม่แก้ เพราะอยากให้ดูดราม่าชีวิตรันทนไป

3. ไฟผลาญจันทร์ 
เฮ้อ เปิดมาเหมือนจะดี พระเอกนางเอกก็ดีงาม แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้นมากขนาดนี้ มาบ่อยจนไม่ต้องเหลืออะไรเลยก็ได้ กับอีนางเอก ไหนบอกว่าจะฟื้นฟูสำนัก สุดท้ายแล้วไม่เห็นทำอะไร มีแต่ประเด็นผู้ชาย เฮ้อ

No comments:

Post a Comment