แปลกที่เรื่องไหนยิ่งชอบ จะยิ่งเครียดจริงจังเป็นทางการยิ่งกว่าเขียนวิทยานิพนธ์ ขุดมันทุกเรื่อง — ความสัมพันธ์ตัวละคร บุคลิกลักษณะและองค์ประกอบความคิดความเชื่อ นัยยะซ่อนเร้นและเชิงสัญลักษณ์ที่ตีความได้ พล็อตและกระบวนการดำเนินเรื่อง แม้กระทั่งอารมณ์ที่ถูกแทนที่ด้วยเพลงที่เข้ากัน ฯลฯ ความคิดไปเร็วจนรู้สึกว่าบางทีก็พิมพ์ไม่ทันใจตัวเอง
For me, to write is to cleanse. (จริงๆ อยากพูดว่า For me, to write is to purge. เพราะในแง่หนึ่ง มันแรง แต่ตรงตัวกว่า เขียนออกไปแล้วใจสงบ ตาหลับได้)
Still, I have a feeling that lately my choice of words is not that great when it comes to Thai — cannot really think of the proper words I want to convey my thoughts enough and thus have to resort to first picking that words in English before using a dictionary in order to find that Thai words or their synonym I want. What a twisted process!
08/11/18
ปล. ช่วงนี้ภาษาไทยเสื่อมมาก คิดคำได้แต่ไม่ได้เป๊ะๆ ต้องใช้วิธีเปิดดิคอังกฤษเพื่อหาคำเหมือนภาษาไทย วิบัติอัตคัดเกินหาใดเปรียบบ แล้วที่พีคก็คือ เล่มที่กำลังล้างหัวปัจจุบันเขียนรายงานวิเคราะห์ไปได้จะ 7 หน้าแล้วก็ยังไม่จบ ไม่นับ playlist เพลง // ฉันทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับนิยายเหรอคะ? #ความจริงจังที่ควรเอาไปใส่ในส่วนอื่นของชีวิตตตตตต
การอ่านเป็นเรื่องที่ดี การเขียนก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกันค่ะ :)
ReplyDeleteถ้าอ่านแล้วเขียนแต่พอดีด้วยค่ะ ตอนนี้ overdrive ไปแน่นอน :)
Deleteขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่าน +ตอบกันนะคะ //ดีใจจ/