Sunday, 20 October 2019

มยุรา ของ Rain-at-Rose

- สปอยล์นะคะ -

"เวทางค์" แม่ทัพปราบอสูร ได้รับแจ้งว่ามีแม่ลูกอสูรก่อกวนมนุษย์ หากแต่เดินทางไปปราบกลับพบว่าตนหลงรัก "กิริฏา" อสูรเผ่านกมยุราตั้งแต่แรกเห็น และเมื่อเห็นชีวิตที่แร้นแค้นยากลำบากของคู่แม่ลูกอสูร เจ้าตัวก็ไม่ลังเลที่จะออกปากให้สองแม่ลูกมาอยู่ในความคุ้มครองตัวเอง แม้จะรู้ว่ามยุราจะมีคนรักได้แค่เพียงคนเดียวชั่วทั้งชีวิต และการออกหน้าปกป้องอสูรอาจจะทำให้ชื่อเสียงตัวเองมัวหมองในภายหลังก็ตาม ....

เอาเถิด ถ้าเปิดมาก็จะได้แบบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องโดดเด่นก็คือบุคลิกตัวละครอย่าง “เวทางค์” ที่แม้จะมีตำแหน่งใหญ่โตเป็นที่เคารพบูชาเทียมเท่าเทพแต่กลับมีจิตใจกระจ่างใส ดำรงค์ศีลและอยู่ในธรรมจนถึงขั้นถือพรหมจรรย์ ขณะเดียวกันก็ให้เกียรติและใส่ใจคนรอบข้างมาก อย่างแม้จะเชิญ กิริฏา ให้มาอยู่ด้วยกัน แต่ถ้านับตามสิทธิและจากที่เห็น ด้วยฐานะเจ้าตัว ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องถึงขนาดนั้น และเมื่อเชิญมาอยู่ก็เคารพและให้เกียรติใส่ใจชื่อเสียงและความรู้สึกของอีกฝ่ายมาก ซึ่งความรู้สึกนี้ก็เผื่อแผ่ไปถึง ทยุ ผุ้เป็นลูกด้วย ซึ่งถึงแม้ทนุจะมีรูปลักษณ์เป็นครึ่งคนครึ่งอสูร เวทางค์ก็ไม่รังเกียจแต่อย่างใด กลับให้ความรักและใส่ใจอบรมสั่งสอนจนได้ความรักและนับถือจากทยุกลับมา

อีกฝ่ายก็คือ กิริฏา มยุราตกยากผลัดถิ่น เห็นบุคลิกตัวเองมาหลายเรื่อง แต่คนที่จิตใจบริสุทธิ์สดใส และเห็นแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าจนไม่สนใจแม้กระทั่งคำนินทาว่าร้ายจากคนอื่นหาได้ยากนักหนา เจ้าตัวเป็นคนที่เอื่อยเรื่อยกับทุกอย่างรอบตัว ไม่คิดจะทุกข์ใจ หรือเสียใจใดๆ จนอยู่เหมือนจะเอื่อยเฉื่อยเกินไปจนถึงขั้นขี้เกียจ ทั้งที่มีปัญญาและความคิดแหลมคม แต่เจ้าตัวก็พอใจจะอยู่อย่างเรียบเรื่อยไปวันต่อวัน

ชอบบุคลิกของทั้งสองคน และถูกใจความสัมพันธ์ของคนคู่นี้ และชอบที่ค่อยๆ ปูให้ตัวเวทางค์มีความรู้สึกผูกพันกับกิริฏาอย่างที่เห็นแค่เพียงครั้งแรกก็ตกหลุมรัก มีความรู้สึกอยากปกป้อง และอยากดูแลอีกฝ่าย ถึงขั้นได้ยินว่าที่ผ่านมาหลังจากสามีตาย กิริฏาต้องเลี้ยงดูลำบาก เจ้าตัวก็รู้สึกเจ็บปวดและเสียใจร้อนรน — เสียใจที่เพิ่งมาเจอกัน และเสียใจที่อีกฝ่ายต้องลำบาก

ซึ่งก็เปิดประเด็นต่อมา ว่า ในอดีต "ศาละ" เจ้าแห่งอสรพิษ  ครองคู่อยู่กับมเหสีต่างเผ่าพันธุ์ เป็นที่เดียจฉันท์ของคนของทั้งสองเผ่า โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายกิริฏาตั้งท้อง ก็ยิ่งเป็นที่เดียจฉันท์และชิงชังจากเหล่าอสรพิษและมยุรามากขึ้นจากคำทำนายที่ว่าลูกของทั้งคู่จะก่อให้เกิดอาเพศสร้างความสูญเสียสิ้นเมืองกับทั้งสองเผ่าพันธุ์ จนเกิดการกบฎล้างอำนาจของศาละ เจ้าตัวถูกวางยาพิษ และแม้จะพากิริฏาที่กำลังท้องหนีไปถึงเขตแดนมนุษย์ได้ ก็ต้องสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องกิริฏา โดยที่บอกกิริฏาก่อนจากว่าจะกลับมา และจะปกป้องทั้งแม่และลูกให้ได้

เมื่อปูทางมาเช่นนี้ การกลับชาติมาเกิดใหม่เป็นสิ่งที่คนอ่านคาดไว้ในใจ และก็เป็นเช่นนั้นจริง ชอบเงื่อนไขการมาเกิดใหม่ของ ศาละ ที่กลายมาเป็น เวทางค์ มาก ทั้งจากเงื่อนไขบุคลิกนิสัย และสถานะ เพราะอย่างแรก ในชาติที่แล้ว ศาละไม่ได้อยู่กับกิริฏาด้วยความพอใจตั้งแต่เริ่ม หากแต่เป็นเพราะตกกระไดพลอยโจนจากการเล่นสนุกอยากทำลายศักดิ์ศรีของเผ่ามยุรา แต่กลายเป็นต้องตั้งกิริฏาเป็นรานีตัวเองและทำสัญญาเลือดจับคู่จนไม่สามารถมีใครอื่นนอกจากกิริฏาได้ และดังนั้นความโกรธแค้นกับนิสัยเอาแต่ใจก็สร้างความเดือนร้อนและเสียใจกับกิริฏามาเสมอ จนกระทั่งกว่าสองคนจะปรับความเข้าใจกันได้ ก็เป็นเวลาที่ฝ่ายนาคาที่ทั้งหวาดกลัวและรังเกียจรานีต่างพันธุ์ปะทุถึงขึ้นที่คิดต่อต้านและก่อกบฎขึ้นมา ดังนั้น ความเสียใจที่ไม่ได้ดูแลอีกฝ่ายให้ดี ความย่ามใจที่คิดว่าการมีพิษร้ายแรงกว่าใครจะกดเผ่าพันธุ์ตัวเองในกำมือโดยไม่ต้องฟังใครก็ได้ ทำให้เกิดบุคลิกของ เวทางค์ ที่ทางหนึ่งก็คอยดูแลกิริฏาอย่างดี ทั้งทะนุถนอม ดูแล ให้เกียรติ ให้ความสำคัญ และคอยใส่ใจความรู้สึกและสภาพอารณ์อีกฝ่ายมาก และอีกทางหนึ่งก็เกิดบุคลิกเที่ยงธรรม จิตใจใสกระจ่างแน่นหนัก เป็นผู้ปราบอสูรที่ใช้ปัญญา และมีความเห็นใจเข้าใจแม้กระทั่งผู้ที่อยู่ต่างเผ่าพันธุ์ เชื่อกับการกระทำและผลของการกระทำมากกว่าจะยึดติดงมงายอยู่กับความเชื่อและความศรัทธาเลื่อนลอยใด ๆ

นอกจากนี้ สถานะการเป็นผู้ถือครองศรไวกูณฐุ์ปราบอสูรของเวทางค์ ก็เป็นเงื่อนไขที่ทำให้การดำเนินเรื่องน่าสนใจอีกเช่นกัน เพราะในอดีต การถูกไล่ล่าจากทางเผ่านาคาและมยุราทำให้ศาละและกิริฏาไม่สามารถอยู่ในแดนอสูรได้อีก จนไม่มีทางเลือกต้องตั้งความหวังไว้ว่าจะหนีไปขอพึ่งพาผู้ถือครองศรไวกูณฐุ์คนเก่า หากแต่ความปรารถนานั้นก็ไม่สำเร็จ เมื่อศาละต้องสิ้นใจขณะปกป้องกิริฏา และอีกฝ่ายก็หลับใหลไปเป็นเวลานาน และดังนั้น การให้ศาละกลับมาเกิดใหม่และเป็นถือครองศรไวกูณฐุ์ก็เป็นการเติมเต็มความปรารถนาของทั้งคู่ และทำให้เวทางค์ผู้ที่ได้รับเลือกมีหนทางในการปกป้องครอบครัวตัวเองขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายอสูรทั้งทางนาคาและมยุรายังคิดจะฆ่าแม่ลูกอยู่

ชอบภาษาสละสลวย เล่าเรื่องละเมียดละไม และชอบการดำเนินเรื่องที่ช่วงกลางตัดกลับไปให้เห็นอดีต และสร้างเงื่อนไขความรักที่ค่อยๆ เกิดของศาละกับกิริฏาที่ไม่ใช่แค่ความพึงใจจากหน้าตาของอีกฝ่ายจากที่ได้เห็นครั้งแรก แต่เป็นเพราะได้อยู่ร่วมกันและอยากเห็นอีกฝ่ายดีใจและสุขใจเมื่ออยู่ร่วมกันกับตน และชอบเงื่อนไขความรักของเวทางค์ที่ไม่คิดว่าจะต้องกลับไปให้รู้อดีต เพราะเห็นค่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และคิดอยากจดจำตัวเองที่เคารพและให้เกียรติกิริฏา

นอกจากนี้ การเอาตำนานความเชื่อทางปกรณัมอินเดียมาดำเนินเรื่องก็ทำให้เกิดความน่าสนใจ  เพราะแม้ความเชื่อเกี่ยวกับครุฑ และนาคจะเป็นความเชื่อที่อยู่ในสังคมไทยมานาน แต่ก็จางหายไปทุกทีเมื่อเทียบกับกระแสใหม่ที่เข้ามา พอได้อ่านก็เป็นความสนุกปนความคิดถึงด้วยเช่นกัน

ส่วนตัวให้คะแนนเรื่องนี้ A สรุปส่วนตัวว่า “the beautiful and affectionate tale of reincarnation and promise” 

แต่ติดใจว่าถ้าเวลาซื้อเล่มต้องซื้อทั้งชุดใหญ่เป็นเรื่องภาคลูกด้วย ซึ่งไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ไม่ชอบที่พออ่านด้วยกัน รู้สึกว่าความคาดเดาได้ของเรื่องหลังทำให้เรื่องแรกที่ดำเนินมาลงตัวรู้สึกด้อยไปอยู่เหมือนกัน

ปล. ตัวละครที่ชอบมากอีกตัวคือ องค์อนุรุทธ์ น้องชายต่างมารดาของเวทางค์ เพราะเจ้าตัวขึ้นมาเป็นกษัตริย์ได้เพราะเวทางค์ผู้เป็นยุพราชในตอนนั้นถูกรับเลือกให้เป็นผู้ถือครองศรไวกูณฐุ์ จนอนุรุทธ์ขึ้นมาเป็นยุพราชและกษัตริย์ครองเมืองแทน และแม้จะอยู่กับพี่ชายที่มีสถานะโดดเด่นเป็นผู้ปราบอสูร แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยรู้สึกว่าถูกคุกคามหรือหวงแหนอำนาจของตัวเองเลย กลับให้ความเคารพและยกย่องตัวเวทางค์จากใจจริง และมีจิตใจที่เปิดกว้างจนถึงขั้นคิดเล่นสนุกด้วยซ้ำ (อย่างที่ลุ้นว่าทยุจะถูกคลายสะกด ให้ตัวเองให้เห็นร่างอสูรที่ทำลายเมือง)

No comments:

Post a Comment