Tuesday 12 February 2013

Rescue Me by Rachel Gibson (Thai)




เจอเล่มนี้ตอนเดินเล่นอยู่ที่คิโนะ เผอิญว่าเพิ่งอ่าน Bet me ซ้ำอีกรอบ ก็เลยอินกับพล็อต เพื่อนเจ้าสาวหาคู่ควงงานแต่ง จนต้องอ่าน ... แม้ว่าจริง ๆ แล้วพล็อตที่คิดว่าใช่มันจะไม่ใช่ก็ตามเถอะ เวรกรรม!

 

ชนิด : Contemporary/ Romance/ Cowboy 
ชุด : Lovett, Texas, Book 3
สำนักพิมพ์ : Avon 

หลังจากห่างหายไปหลายปี Sadi ก็มีอันต้องกลับมาที่ Lovett เมืองเล็ก ๆ ใน Texas อีกครั้ง เมื่อถูกญาติพี่น้องขอให้เป็นเพื่อนเจ้าสาวในงานแต่ง ระหว่างทางเข้าเมือง เธอเจอกับ Vince ที่กำลังรถเสียอยู่ ทำให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสรู้จักกัน และเพราะเธอกำลังสิ้นหวังที่จะไปเข้างานคนเดียว และถูกถามเรื่องคนรัก ก็ทำให้เธอขอให้ชายหนุ่มแสดงตัวเป็นคู่ควงให้เธอ ... เอ่อ เหมือนตรงนี้จะเป็นพล็อตได้ ตามที่เขียนไว้หลังปก แต่ความจริงก็คือ .. แทนที่จะหนีออกจากเมือง และโดยเฉพาะห่างจากพ่อที่เหมือนคนแปลกหน้าได้ เธอกลับต้องอยู่ที่ Lovett ต่อไป เมื่อพ่อบาดเจ็บระหว่างการผสมพันธุ์ม้า และ Sadi ก็ต้องอยู่ดูแลพ่อ โดยระหว่างนั้นก็ทำให้ Sadi และ Vince มีเวลาอยู่ด้วยกัน

สรุปย่อ ๆ ก็เป็นแบบนี้ และเหมือนว่าภาษาอังกฤษที่เขียนไปก่อน จะดีกว่าภาษาไทยเสียอีก แต่ก็รู้สึกว่าย่อมาไม่เป็นเรื่องรักเสียเลย ส่วนตัว รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าเบื่อและขาดเสน่ห์ ตั้งแต่หน้าแรก เรื่องก็เล่าบรรยายจนเกินงาม มีคนวิจารณ์ว่าข้อดีของคนเขียนก็คืออ่านแล้วเหมือนนั่งอยู่ในหัวตัวละคร แต่จริง  ๆ ก็เพราะเป็นเพราะบรรยายจัดจนเป็นวิทยานิพนธ์เนี่ยแหละ เยอะจัดจนคนอ่านคิดภาพตามในหัวไม่ได้เพราะขาดจินตนาการสมองตายไป แต่ก็ยังบ้าอ่านต่อ เพราะทนหวังว่าหลังช่วงเริ่มเรื่อง มันจะดีขึ้น (ซึ่งก็เปล่า)

สิ่งที่ชอบเกี่ยวกับหนังสือ ตัดคุณพระเอกออกไป ทหารไป เรียบไป ส่วนนางเอก ถ้าสวยและประสบความสำเร็จขนาดนั้น ทำไมถึงสิ่งท้ายแล้วทิ้งทุกอย่างนอกเมืองกลับมาอยู่ที่ Lovett ล่ะ? ก็อาจจะสุดโต่งไป ถ้ามองผ่านสายตาคนอ่านเรื่องมาก แต่เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ไม่ชอบที่สุดในหนังสือ เพราะถ้าคนเขียนจะสร้างให้นางเอกอยู่บ้านเกิดเพราะเจอตัวตนตัวเองสั้น ๆ แค่นั้นก็ทำให้ส่วนที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาดูอ่อนไป ทำไมไม่เขียนให้อยู่ตรงกลางที่ทำงานเป็นนายหน้าขายที่ดินต่อแล้วกลับมาที่บ้านเสาร์อาทิตย์ล่ะ? ถ้าเป็นอย่างนั้น อีฉันยังรับได้มากกว่า แต่ก็นั่นแหละ อาจจะยังอยู่ในช่วงหาตัวเอง ไม่ใช่หาหลักตัวเองอยู่ก็ได้ (หมายถึงฉัน) เลยรู้สึกว่าเธอถูกสถานการณ์ดูดกลืน ในฐานะเด็กที่หายไปจากบ้าน แล้วกลับมาเจอว่าตัวเองมีความรับผิดชอบที่ต้องดูแล จนไม่มีทางเลือกอื่นมากกว่า

ก็สารภาพกันไปว่า สิ่งที่ทำให้อ่านก็คือปมในใจที่มีกับพ่อ แล้วก็เลยอ่านด้วยความหวังว่าความสัมพันธ์พ่อลูกจะดีขึ้นได้ แล้วก็นะ ไม่มีอะไรเป็นอย่างที่เราคิด ก็เลยรู้สึกผิดหวังกับการจบ (สปอย์) [พ่อตาย] ในชีวิตก็ไม่มีอะไรเป็นอย่างที่เราหวังอยู่แล้ว  

อื่น ๆ เหมือนว่าคน 2 คนมาอยู่ด้วยกันในเมืองที่มีแต่คนแปลกหน้า แล้วก็รักกัน หลังจากเป็นเพื่อน และผ่านค่ำคืนมาด้วยกัน เพราะคืนเดียว กลายเป็น สองคืน สองอาทิตย์ และสองเดือนได้ ซึ่งในเรื่องรัก ก็ไม่แปลกอะไรที่ความใกล้ชิด จะกลายเป็นผูกพัน และความรัก แต่เพราะวิธีการเขียนที่จริงจัง ก็เลยทำให้รู้สึกเป็นเชิงบังคับ และหม่นไปหน่อย

แต่อย่างไร ก็ยังชอบ Sadi ที่คุณเธอเข้มแข็ง ตรงไปตรงมา และมีน้ำใจ โดยเฉพาะฉากที่เธอเสนอตัวช่วย Vince หลังจากรู้ว่าชายหนุ่มเผชิญกับฝันร้าย

“I’m sorry. It must be horrible. I wish there was something I could do.”


“Why?”


“Because you helped me when I needed you. Because I’m not lonely when you’re around. Because you rescue me even when I don’t ask you to.”

ความรู้สึกซับซ้อนสับสนหลายประการ ทั้งตอนอ่านและตอนวิจารณ์ แถมยังเกือบอ่านไม่จบด้วย ก็เลยให้ D/C- ไป พร้อมประโยคที่ว่า “A boring read.”


---

15/02/13
เนื่องจากเรื่องนี่เหมือนอ่านจดบันทึกชีวิตคนอื่น ก็เลยขอสรุปให้ใหม่ว่า "A boring diary of two people"
 ----

สุดท้าย ที่ไม่เคยเกี่ยวกับหนังสือ แล้วปมในใจฉันกับพ่อก็คงไม่เคยจบ นี่ก็คงทำให้อ่านแล้วอิน เฮ้ออออ...

  


No comments:

Post a Comment