Monday, 21 June 2010

Princess at Sea by Dawn Cook

*รีโพสต์จากบล็อก หมาเลี้ยงแกะ (Sunday, September 03, 2006) เนื่องในโอกาสที่รู้ว่า Dawn Cook เป็นใคร

หลังจากอ่าน Decoy Princess ก็พาลให้อยากอ่าน Princess at Sea ต่อไปใจจะขาด และเพราะคิโนะไม่สั่งเข้ามาก็เลยต้องทำให้ต้องสั่งเข้ามาเองอีกต่างหาก ซึ่งก็ยังหวั่น ๆ ใจว่า เล่มนี้จะไปรอดไหม แต่ปรากฏ เล่มนี้เลิก “ง่าย ๆ โง่ ๆ แต่ดันสนุก” มาเป็น “สนุกเข้มข้นแบบไม่โง่” อีกต่างหาก นับว่า ช่วงนี้มีดวงซื้อหนังสือโหมดนี้ ถ้าไม่นับการซื้อ Weather Wardens มาติดกัน 4 เล่มนะเนี่ย




ชนิด : Light fantasy
สำนักพิมพ์ : Ace (August, 2006)

จำนวนหน้า : 344 หน้า


ใน Decoy Princess นั้น เจ้าหญิง Contessa หรือ Tess พบว่าตัวเองเป็นแค่เด็กที่ถูกซื้อมาเพื่อเป็นตัวแทน เพื่อให้เจ้าหญิงตัวจริงปลอดภัยจากการถูกลอบสังหาร และต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เจ้าหญิงตัวจริงกลับมาครองบัลลังค์ได้สำเร็จ

และ ใน Princess at Sea ทุกอย่างก็เหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี ยกเว้นความจริงที่ว่าเจ้าหญิงตัวจริงซึ่งถูกเลี้ยงมาในสำนักนางชีไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการปกครองบ้านเมืองหรือการเมืองใด ๆ เลย และ Tess ก็ต้องเป็นที่ปรึกษาควบคู่ไปกับการคุ้มครองเจ้าหญิง หากแต่ทุกอย่างไม่ง่ายดายสมใจเสมอไป เมื่อคราวนี้ เจ้าหญิงและคู่หมั้นซึ่งอยู่ระหว่างล่องเรือดูใจกันถูกโจรสลัดจับไปเรียกค่าไถ่ และ Tess ซึ่งต้องวุ่นวายกับการแก้ปัญหาทะเลาะเบาะแว้งของทั้งคู่มาตลอดก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยคนทั้งคู่ออกมาให้ได้อย่างปลอดภัย

จริง ๆ แล้วพล็อตคราวนี้ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าคราวที่แล้ว เพราะ Tess ก็ยังต้องระหกระเหินรอนแรมบุกป่าฝ่าดงเพื่อหน้าที่ที่เกิดจากความรับผิดชอบในใจเหมือนเดิม เริ่มแรกที่อ่าน ก็คิดไม่ต่างจากตอนอ่าน Decoy Princess อันเป็นเล่มแรกว่า ตัวเอกของเราก็ยังเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ทำได้ทุกอย่างทุกทาง แต่พออ่านไปเรื่อย ๆ พบว่าสนุกกว่าที่คิด และที่สำคัญ สนุกกว่าเล่มแรกมาก เพราะจะเห็นได้ชัดมากขึ้นว่า ที่คุณเธอสามารถทำโน่น นี่ นั่น ได้ไม่ได้เกิดจากเพราะการเป็น “ตัวเอกทำได้” เพียงอย่างเดียว หากแต่เกิดจากใจที่ไม่ยอมแพ้ และไม่ยอมจำนนปล่อยให้ทุกอย่างหลุดเหนือการควบคุมไปต่างหาก อย่างที่บอกว่า “ถ้ามีความพยายาม ก็มีความสำเร็จ” และ Tess ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนจริง ๆ และก็เหมือนว่าเมื่อเขียนเล่มที่สอง จากการปูพื้นเรื่องและตัวละครในเล่มแรกมาแล้วก็ทำให้ Princess at Sea มีน้ำหนักและสมเหตุสมผลกว่าเล่มที่แล้วมากขึ้น

และนั่น ส่วนหนึ่งก็เกิดจากตัวละครอย่าง Tess เติบโตขึ้นและรู้จักโลกมากขึ้นส่วนหนึ่ง และที่สำคัญจากการที่ประเด็น “ผู้เล่น” สามารถเปิดเผยได้อย่างชัดเจนในบทแรก (ต่างจากเล่มแรกซึ่งประเด็นนี้ เพิ่งเป็นรูปเป็นร่างขึ้นในบทกลาง ๆ และหลัง ๆ) จนสามารถเกิดสถานะและบทบาทที่ซับซ้อนขัดแย้งของตัวละครจากสถานะจริง ๆ ที่ตัวเองเป็น และสถานะผู้เล่นที่ต้องปิดงำไว้ดำเนินควบคู่กันไปจนทำให้รู้สึกสนุกและชวน ติดตามว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างไร และเกิดการตัดสินใจอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะเมื่อต้องให้น้ำหนักกับสถานะทั้งสองควบคู่กันไป และให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย

ถึงแม้ Tess จะเป็นเจ้าหญิงตัวปลอม ไม่ใช่เจ้าหญิงโดยสายเลือด แต่เป็นเจ้าหญิงจากการอบรมเลี้ยงดูก็ตาม แต่เธอก็ยังได้รับการยกย่องเป็นเจ้าหญิงจริง ๆ ได้อยู่ดี เพราะแม้ฐานะที่เป็นอยู่จะถูกเปิดเผย คุณสมบัติและที่สำคัญใจของเธอก็ทำให้เธอมีค่ามากกว่านั้นมาก อย่างที่เมื่อไฟไหม้เรือ เจ้าหญิงตัวจริงซึ่งไม่ได้เลี้ยงดูมาอย่างเจ้าหญิงกลับร้องไห้หวาดกลัว ขณะที่ Tess คิดหาทางดับไฟ และหาทางรอดให้ตัวเองและพวก ซึ่งถ้าดูตอนนี้ และดูจากการที่ Tess ต้องระหกระเหินเดินป่าจนถึงกลับมาที่วังได้สำเร็จเป็นต้นแล้ว จะพบว่าบริบทนี้สำคัญมาก เพราะการเป็นเจ้าหญิงในยุคยุโรปกลาง อาจจะหมายถึงแค่หญิงสาวสูงศักดิ์ผู้มีชีวิตอยู่บนหอคอยงาช้าง และไม่ต้องทำอะไรมากกว่าการเต้นรำให้ถูกจังหวะ และเย็บปักถักร้อยให้ดีอยู่ในห้องนอนก็ได้ อย่างที่คนในวังตกใจและตื่นตระหนกกับสภาพของ Tess เมื่อแรกกลับมาถึงวัง และต้องการให้เธอไปอาบน้ำแล้วแต่งตัววางท่าให้สมกับการเป็นเจ้าหญิง (...trying to get me to my rooms to be washed, combed, fed and princessified. หน้า 232) มากกว่าที่จะนั่งถกเจรจาปัญหาเร่งด่วนกับบรรดาที่ปรึกษาอย่างฉับพลัน

Dawn Cook คนเขียนบอกว่า ณ ขณะนี้ยังไม่มีแผนการจะเขียนเล่มต่อต่อไป แต่เมื่อดูจากตอนจบ ก็ถือว่า สะสางลงตัวและปิดฉากสวยงามได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งถ้าจะพูดตามความรู้สึกจริง ๆ ต้องบอกว่า ทำได้ถูกใจและลงตัวมากกว่าหนังสือหลาย ๆ เล่มเยอะเลย หรือถ้าจะพูดให้ถูก ก็ต้องบอกว่า เป็นฉากปิดที่พอใจที่สุดเท่าที่เคยอ่านหนังสือหมวดนี้มา สิ่งที่เป็นปัญหายุติได้อย่างลงตัวด้วยทางแก้ง่าย ๆ แต่สามารถรวมทางออกของปัญหาทุกอย่างไว้ด้วยกัน และอีกอย่าง ก็ต้องสารภาพด้วยว่า ถูกใจมากที่ชายหนุ่มที่เก็งไว้ได้เป็นพระเอกตอนจบสมใจจริง ๆ (ซึ่งไม่ได้เกิดจากอะไรมากกว่าไปการชอบบุคลิกลักษณะคนเช่นนั้นเป็นทุนเดิม และมากกว่าบุคลิกอีกแบบในเรื่องเท่านั้น)

สำหรับประโยคถูกใจจากเล่ม นี้

“You can’t partake of the future properly with only the memories of today.” หน้า 99 “... there’re ways to wreck revenge other than death, and some can serve a purpose.” หน้า 329

ปล.
... แต่ อืม คิดไปคิดมาก็ยังอยากอ่านเรื่องของ Tess ต่ออยู่ดีนั่นแหละ ทำอย่างไรดีหนอ? และอย่างไรก็ตาม สงสัยว่าจะต้องไปเริ่มหาเรื่องอื่น ๆ ของเจ๊ Dawn Cook มาอ่านด้วยแล้ว

2 comments:

  1. อ่านรีวิวแล้ว ให้ความรู้สึกหมือนหนังจีนเรื่องเจ้าหญิงกำมะลอเล็ก ๆ นะคะ

    ReplyDelete
  2. 555 ตอบไม่ได้ค่ะ เคยอ่านการ์ตูน แต่ไม่ได้ดูํหนัง

    แต่อย่างน้อยที่สุด เป็นเล่มที่กลับมาดูที่ครั้งก็ยังชอบนะคะ ในแง่ตัวละคร แง่การผจญภัย และที่สำคัญ ความหวานชื่นเล็ก ๆ น้อย ๆ

    ReplyDelete