เห็นหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกน่าจะจากเวบอเมซอน แล้วก็ก้ำกึ่งว่าจะซื้อหรือไม่ เพราะว่าชอบอารมณ์ของปก แต่พล็อตก็ดูค่อนข้างธรรมดา อย่างไรก็ตาม ตอนที่จะสั่งหนังสือ ก็เห็นว่าคิโนะสั่งเข้ามาแล้ว และที่สำคัญก็คือ หนังสือออกตั้งแต่ปลายมิถุนา 09 แต่เก็บสต็อคแล้วหาไม่เจอ พอถอดใจเลยคิดจะอ่าน อยู่ ๆ ก็เจอที่สาขาเอ็มโพเรียมตอนปลายปี ก็เลยพลิกไปพลิกมา และซื้อมาอ่านในที่สุด (ซะที)
ได้ข่าวจากคุณเมย์แห่ง Mostly Romance ว่าสำนักพิมพ์บ้านเราซื้อลิขสิทธิ์มาแล้ว
ชนิด : Urban Fantasy / Suspense/ Serial Killer/ Summoner / Demon/
Cop
ชุด : Kara Gillian, Book 1
สำนักพิมพ์ : Bantam (June 23, 2009)
จำนวนหน้า : 384 หน้า
Kara นักสืบสาวท้องถิ่นอาจจะเหมือนตำรวจธรรมดา ๆ ที่เราพบเจอตามท้องถนน หากแต่เธอมีความลับที่ไม่อาจให้ใครอยู่ได้ซ่อนอยู่ นั่นก็คือ เธอมีความสามารถในฐานะผู้เรียกปีศาจ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตคนละมิติมาทำสัญญาและใช้งานโดยมีค่าตอบแทนระหว่างกัน
หนังสือเริ่มเรื่องที่ฆาตกรต่อเนื่องผู้ถูกเรียกว่า The Symbol Man กลับมาฆ่าคนอีกคน โดยที่คนที่ถูกฆ่าไม่มีความต่อเนื่องใด ๆ เลย นอกเหนือไปจากรอยแผลละเอียดอ่อนที่เป็นแบบแผนทั่วทั้งร่างเหยื่อ และ Kara ผู้เคยติดตามคดีนี้เมื่อหลายปีก่อน ก็ได้รับมอบหมายให้สะสางคดีนี้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนทั่วไปไม่รู้ ก็คือ ในฐานะผู้ใช้ปีศาจที่เห็นสิ่งลี้ลับ เธอเห็นความเกี่ยวเนื่องอีกอย่างที่เหยื่อแต่ละคนมี นั่นก็คือ essence หรือพลังชีวิตที่มากเหนือกว่าคนปกติ และเหยื่อแต่ละคนก็ถูกสูบพลังเช่นนี้ไปจนหมด
เรื่องราวซับซ้อนมากขึ้น เมื่อคดีนี้เป็นที่สนใจเพิ่มขึ้นในวงกว้าง และ FBI ก็ส่ง Ryan เจ้าหน้าที่พิเศษกับคู่หูมาร่วมสืบคดี และดูเหมือนว่า เขาก็รู้และเข้าใจสิ่งที่เธอรู้เสียด้วย นอกเหนือจากนี้ ในระหว่างที่ Kara เรียกปีศาจระดับต่ำมาใช้งาน เธอกลับเรียก Rhyzkahl เจ้าแห่งปีศาจทรงพลังมาแทนที่ ซึ่งเหตุผลที่เธอทำ “พลาด” และเหตุผลที่ Rhyzkahlและเหตุผลที่ Rhyzkahl ไว้ชีวิตเธอ ก็เป็นอีกเรื่องที่กวนใจ Kara ไปพร้อมกัน
หนังสือเล่มนี้ได้รับคำชมจาก Charlaine Harris ผู้เขียนชุด Southern Vampire (ที่กลายเป็น ซีรีย์ True Blood ทาง HBO) ว่า “A nifty combination of police procedural and urban fantasy.” และนั่นก็ถือเป็นคำอธิบายหนังสือที่ดีที่สุด เล่มแรกการเปิดตัวทั้งผู้เขียน Diana Rowland และชุดหนังสือ Kara Gillian ทำได้ดีและโดดเด่นมาก ในแง่ของการวางโครงเรื่องทั้งในส่วนที่เป็นการไขปริศนาคดี และการไขปริศนาเกี่ยวกับการเรียกใช้ปีศาจ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ Rhyzkahl)
ในส่วนของการไขคดี นอกเหนือจากการวางโครงเรื่องซับซ้อนและคิดหลายชั้นแล้ว การสืบสวนตามขั้นตอนตำรวจก็ทำได้ดีและสมจริง ช่วงตรวจค้นและหาหลักฐานในที่เกิดเหตุ และช่วงชันสูตรศพพิสูจน์หาหลักฐานไม่แตกต่างจากการดูซีรีย์สืบสวนดี ๆ อย่าง CSI หรือ Bones ผ่านทางการอ่าน โดยเฉพาะช่วงที่เป็นการหาระยะเวลาเวลาการตายจากหนอนและแมลงที่มาวางไข่ผ่านนักกีฎวิทยา ซึ่งก็เพราะตัวคนเขียนเคยเป็นอดีตตำรวจมาก่อน
แรงจูงใจของฆาตกรทำได้ดี สมเหตุสมผล และตัวผู้อ่านก็รู้สึกถึงสิ่งเหล่านี้ได้ โดยเฉพาะการวางโครงเรื่องให้ตัวละครหลายตัวถูกโยงใยไว้ด้วยกันจากเหตุการณ์ในอดีต และเวลาบ่มเพาะความแค้นของฆาตกร ซึ่งรวมไปถึงการแฝงตัวอย่างแนบเนียนของฆาตกรด้วย(สปอยล์) [ฆาตกรที่จริงก็คือหัวหน้าของเธอ ซึ่งเป็นผู้ใช้ปีศาจที่เรียก Rhyzkahl มาเพื่อที่จะให้รักษาภริยาของตัวที่กำลังป่วย แต่ปิดฉากด้วยการที่ Rhyzkahl กลับฆ่าทุกคนในห้อง แต่เขารอดมาได้ด้วยอาการปางตาย]
ส่วนของการใช้ปีศาจวางตรรกะได้ดีระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ที่มีต่อกันระหว่างผู้เรียกปีศาจและปีศาจที่ถูกเรียกมา มีจุดที่รู้สึกขัดใจก็คือเหตุดึงดูดใจที่ตัว Kara มีต่อ Rhyzkahl และความสัมพันธ์ที่ดูจะเกินเลยระหว่างกัน แต่ (สปอยล์) [หนังสือก็บอกให้เรารู้ภายหลังว่า Rhyzkahl หาประโยชน์จากใช้จุดอ่อนของ Kara ที่ต้องการใครสักคนมาเพื่อล่อให้เธอทำสัญญาเป็นผู้เรียกเขาได้แต่เพียงผู้เดียว]
และเมื่อเอาทั้งสองส่วนมารวมกันก็จะกลายเป็นเหตุผลพอดี หนังสืออธิบายการฆ่าของ The Symbol Man ไว้ว่า (สปอยล์) [ฆาตกรเห็นความผิดพลาดในการเรียก Rhyzkahl มาว่าเกิดจากที่พลังที่ใช้เรียกและผูกมัดเจ้าปีศาจมีไม่พอ และเพื่อจะทำให้สำเร็จ ก็ต้องสะสมพลัง หรือ essence จากเหยื่อให้เพียงพอ การฆ่าที่หลากหลาย กินเวลา และทรมานเป็นเพื่อการทดลองว่าอย่างใดจะให้พลังดีที่สุด และการเรียกมาโดยมีพลังเพียงพอก็จะสามารถผูกมัด Rhyzkahl มาใช้งานตามใจได้ ซึ่ง Rhyzkahl ซึ่งคำอธิบายนี้ก็อธิบายเหตุการณ์ในตอนแรกด้วยว่า เหตุใด Kara จึงเรียก Rhyzkahl มาได้ ทั้งที่เจ้าตัวเองเรียกปีศาจระดับต่ำมา] และกลายเป็นหนังสือสืบสวนที่มีแนวทางของแฟนตาซีในเมืองที่สนุกและชวนอ่านมากที่สุดเล่มหนึ่ง ยกเว้นตอนจบที่ไม่แน่ใจว่าจะชอบหรือไม่ชอบอย่างไร เพราะเป็นไปได้ในเชิงแฟนตาซีในเมือง แต่เกือบไม่มีตรรกะในทางสืบสวน (สปอยล์) [Kara กึ่งตายไปแล้วจากการทำร้ายของปีศาจที่ฆาตกรเรียกมา แต่ Rhyzkahl ชุบชีวิตให้เธอ โดยไปรักษาที่มิติของเขา และพาเธอกลับมาหลังจากนั้นอีกกว่าสองอาทิตย์] ให้คะแนนที่ B+ และสรุปว่า “One of the best detective suspense with urban fantasy cause.”
หนังสือมีเล่มสองที่วางแผงแล้วตอนต้นปี 10 คือ Blood of the Demon ซึ่งต้องบอกว่าเข้มข้นสู้เล่มแรกไม่ได้ (จะรีวิวต่อเร็ว ๆ นี้) และเล่มสามที่จะออกต้นปี 11 คือ Secrets of the Demon โดยที่ระยะเวลาที่ทิ้งนานก็เพราะเปลี่ยนสำนักพิมพ์ จาก Bantum เป็น Daw เพราะเจ้าเดิมไม่คิดจะต่อสัญญา แต่ทั้งนี้ นอกจาก Secrets of the Demon แล้วก็ยังได้สัญญาคือ สองเล่มมาด้วยคือ Sins of the Demon, and Touch of the Demon
ปล. และดังนั้นก็จะต้องเปลี่ยนปกด้วย กรี๊ด แล้วจะเป็นเซ็ทเหมือนเดิมไหมคะ กรี๊ด กรี๊ด
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
ดีใจที่เห็นคุณมิ้งกลับมาเขียนรีวิวอีกรอบ
ReplyDeleteเมย์ชอบเล่มนี้นะคะ แต่ชอบในแง่ของการสืบสวน และหลายครั้งเลยล่ะที่คิดว่า เล่มนี้จะเป็นยังไง (คือจะดีกว่านี้ไหม) ถ้าไม่มีองค์ประกอบของ UF เข้ามาเกี่ยว
มีหลายคนบอกเหมือนกันว่า เล่มสองสนุกสู้เล่มแรกไม่ได้ เลยไม่ได้หยิบมาอ่านสักที กลัวผิดหวังน่ะค่ะ เพราะค่อนข้างชอบเล่มแรกนี้มากเลยล่ะ
ที่ห่วงตอนนี้ก็คือ สนพ.ที่ได้ลิขสิทธิ์เรื่องนี้ไป เขาขึ้นชื่อเรื่องทำโรแมนซ์จ๋ามาก เราเลยห่วงตอนหนังสือออกว่า อาจจะถูกมองข้ามไปโดยกลุ่มแฟนหนังสือที่ควรจะชอบเรื่องแนวนี้ (แล้วโดนด่าจากแฟนหนังสือแนวโรแมนซ์ เพราะมันไม่ค่อยจะโรฯ เท่าไหร) สรุปว่า กลัวเขาทำออกมาผิดกลุ่มแฟนหนังสือนั่นเอง
โอ้ คุณเมย์มาตอบเร็วจังเลยค่ะ
ReplyDeleteนั่นสิคะ ถึงไม่มีมิติ UF หนังสือที่วางโครงสืบสวนไว้เข้มขนาดนี้ก็น่าจะอยู่ในฐานะสืบสวนเดี่ยว ๆ รอดนะคะ
เล่มสอง แรงจูงใจ และสาเหตุการฆ่าฆาตกรไม่ค่อยดีค่ะ จริง ๆ อาจจะอ่านได้ไม่รู้สึกผิดหวัง ถ้าไม่เจอเล่มแรกก่อนนะคะ พอเข้าใจเรื่องแล้วรู้สึกเป็นแอนตี้ไคลเม็กซ์มาก ตัวละครและสาเหตุการฆ่าสู้เล่มแรกไม่ได้ และก็วางโครงสืบสวนไม่ดีเท่าด้วย
ไม่รู้ว่าเล่มอื่น ๆ จะเพิ่มระดับความเป็นเรื่องรักมากกว่านี้ไหมนะคะ อ่านจากบล็อกคนเขียนแล้ว มีความเป็นไปได้ชอบกล แล้วทางเมืองไทยซื้อลิขสิทธิ์ทั้งชุด หรือแ่ค่สองเล่มเหรอคะ
ชุดดาร์คเดย์จะออกเล่มสี่กับห้าแล้ว คุณเมย์มาอ่านด้วยกันไหมคะ จะได้มีคนคุยกันได้ ท่าทางจะผสมเรื่องรัก ๆ เพิ่มมาแล้วด้วย
เท่าที่รู้ซื้อมาสองเล่มแรกค่ะ เรื่องรักคิดอยู่ว่า มันจะสามเส้าอีกไหมหนอ
ReplyDeleteส่วนดาร์คเดย์เนี่ย กำลังได้ฤกษ์คิดจะอ่านเลยค่ะ หลังจากได้ข่าวว่า เล่มที่จะออกล่าสุดเนี่ย พระเอกเป็นคนเล่าเรื่อง ซึ่งทำให้เมย์คิดว่า น่าสนใจมาก ๆ ตอนนี้เลยหยิบมากองไว้ที่หัวเตียงแล้ว
ตื่นเต้นค่ะ รออ่านรีวิวคุณเมย์ อยากรู้ว่าคุณเมย์คิดอย่างไรมาก ๆ
ReplyDeleteแนวโน้มออกไปทางโรแมนซ์เพิ่มขึ้นแล้วด้วย
จะพยายามรีวิวเล่มสองตามมาโดยไวนะคะ แต่ว่า อ่านแล้วจะสปอยล์หรือเปล่าคะ
ชุดดาร์คเดย์ จำได้ว่า เคยอ่านคนแต่งตอบคำถามเอาไว้เรื่อง "จุดไหนในหนังสือชุดนี้ที่คนอ่านบ่นมากที่สุด" ซึ่งทางคนแต่งก็ตอบว่า ตรงความสัมพันธ์ของพระเอกและนางเอกที่พัฒนาการช้ามาก แต่จะให้เร่งรีบได้ยังไง ในเมื่อเล่มแรกยังไล่ฆ่ากันอยู่เลย
ReplyDeleteเมย์อ่านตรงนี้แล้วทำให้รู้สึกว่า หนังสือชุดนี้น่าอ่านมากเลยค่ะ เพราะถึงเราจะชอบเรื่องแนวโรแมนซ์เป็นหลักใหญ่ แต่ตรรกะของคนแต่งถูกต้องมาก ทำให้รู้สึกว่า เขาน่าจะเขียนเรื่องได้เป็นเหตุเป็นผลกันดี
คุณมิ้ง อยากนัดเจอกันจังเลย หรือไม่ก็ขอที่อยู่คุณมิ้งก็ได้ พอดีว่าเมย์ได้เรื่อง Cheat the grave ซึ่งเป็นงานเล่มล่าสุดของวิกกี้ แพตเตอร์สันมาน่ะค่ะ (คุยต่อในอีเมลล์แล้วกันค่ะ)
ส่วนตัวเอง รู้สึกว่าสมจริงนะคะที่ความสัมพันธ์้เดินไปช้า เพราะอย่างที่บอกว่ายังฆ่ากันอยู่เลย แค่นี้ จากที่เปลี่ยนจากศัตรูเป็นคู่หู ถ้าจะดูจริง ๆ ก็เปลี่ยนความสัมพันธ์ไปมากจุดใหญ่แล้วนะคะ .. จากศัตรูเป็นคนที่ไว้ใจที่สุด และให้ระวังหลังให้ได้แบบนี้ (เล่มสองมีส่วนสปอยล์ที่พูดถึงเรื่องนี้ไว้ด้วยเหมือนกัน)
ReplyDeleteและขนาดอ่านว่าเล่มสี่สถานะเปลี่ยนแปลงไป ยังหงุดหงิดเลยค่ะ คิดว่าเร็วไปด้วยซ้ำ (เหมือนที่คุณเมย์บอกเองว่า ความสัมพันธ์ในแฟนตาซีในเมืองแค่หวานประแล่ม ๆ ให้ชื่นใจก็พอ) สงสัยว่าจะเป็นความผิดสำนักพิมพ์ด้วยส่วนหนึ่งที่ประกาศจุดขายเป็นโรแมนซ์ด้วยส่วนหนึ่งนะคะ เลยกลับมาเป็นแบบนี้
จริง ๆ คุณเมย์จะจะมาอ่านชุดนี้ก็ดีใจแล้ว อีกชุดที่อยากให้อ่านก็คือ unknown เพราะว่าอยากรู้ว่าคิดยังไง จะชอบไหม ทั้งในแง่โครงเรื่อง และตัวละคร แต่สงสัยว่าถ้าเขียนค้าง ๆ แบบนี้ คงต้องรอให้จบชุดมาก่อนมังคะ(ปีละเล่ม ก็อีกสองปีแน่ะ เฮ้อ..)
คุณเมย์อ่าน The Shadow Queen หรือยังคะ วันก่อนเห็นคำวิจารณ์หลายที่แล้่วเลยชะลอไว้่ก่อน พอให้บทเด่นเดม่อนมากไปกว่าตัวละครที่ควรจะเด่น ก็เลยยังไม่อยากอ่านเลย กลัวจะเเหมืิอน Tangled Webs อีก
เพิ่งไปดูเวบแอน บิชอปมา เห็นว่าจะออกเล่มใหม่ในชุด Ephemera ปี 2012 เลยอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมคุณเมย์ยังไม่ได้อ่านล่ะค่ะ ทั้งที่เป็นโรแมนซ์จ๋าที่สุดในบรรดาเรื่องทั้งหมด หรือว่าถึงจะมากก็ยังน้อยไปถ้าเทียบกับโรแมนซ์จริง ๆ คะ
เรื่องหนังสือ นัดเจอกันดีกว่าค่ะ จะได้ไม่ลำบากคุณเมย์ส่งมา เป็นตอนเย็นช่วงกลางอาทิตย์หน้าดีไหมคะ หรือว่าเป็นสุดสัปดาห์จะดีกว่าคะ จะได้ไปดูหนังสือที่คิโนะกันด้วย ดีไหมคะ