หยิบมาดูเพราะชอบปก (โทนสีปกเขียวกับส้ม) พลิกดูเรื่องก็เหมือนจะใช้ได้ หน้าแรกที่อ่านไปก็เหมือนจะดู ก็เลยตัดสินใจเอากลับมาด้วย แล้วก็พบว่าสัญชาตญาณทำงานได้ดีมาก เป็น UF ที่ผูกเรื่องดีที่สุดที่เคยอ่าน และก็ดีใจที่เจอ
ชนิด : Urban Fantasy / Magic/ Folklore/ Suspense
ชุด : Evie Scelan Novels, Book 1
สำนักพิมพ์ : Eos (January 27, 2009)
จำนวนหน้า : 320 หน้า
Evie ถูกเรียกว่า Hound เพราะประสาทการรับรู้กลิ่นที่โดดเด่นของเธอช่วยให้เธอค้นหาสิ่งของ และคนที่ไกลออกไป หรือแม้แต่สูญหายจนเจอ และแม้มีอำนาจพิเศษที่ทำให้เธอเข้าใจถึงโลกอีกด้านของบอสตันที่การใช้อำนาจพิเศษและเวทย์มนต์เป็นเรื่องปกติ (โลกที่ในเรื่องเรียกว่า Undercurrent) เธอก็วางตัวเองในฐานะคนธรรมดา จนกระทั่ง Frank แฟนเก่าที่สาบสูญไปนานโทรหาเธอในกลางดึกคืนหนึ่งที่ความปกติของเธอจบสิ้นลง
เธอพบ Brendan ชายที่อ้างตัวว่าเป็นเพื่อนของ Frank ผู้ต้องการตามหาเขาให้เจอ และช่วยเขาหนีออกจากเมือง (โดยเฉพาะหมายถึงหนีออกจากกลุ่มคนที่กักขังตัว Frank มานาน) ระหว่างเดียวกัน Rena เพื่อนของ Evie ก็ขอให้เธอช่วยไขคดีการฆาตกรรมแปลกประหลาดที่ดูจะเกี่ยวข้องกับเวทย์มนต์ ซึ่งกลายเป็นว่าเชื่อมโยงกับ Frank อย่างไม่คาดฝัน
หากเมื่อสืบสาวลึกไปมีเงื่อนงำและปริศนาลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อย ๆ และอันตรายรอบตัวเธอก็ทวีขึ้นทุกขณะ โดยเมื่อกลุ่มคนที่เคยได้ตัว Frank ไป มุ่งมั่นที่จะได้ตัว Evie ไปอีกคน และเธอไม่อาจรู้ได้เลยว่าเธอจะไว้ใจใครได้!
จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ก็คือโครงเรื่องที่ผูกไว้ลึกซึ้งมาก แม้จะเป็นหนังสือแนว Urban Fantasy แต่ก็ถือว่าระดับการเป็น Suspense ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย ตั้งแต่เปิดเรื่องมาที่การรับโทรศัพท์เป็นการเริ่มต้นปริศนาที่ลึกซึ้งให้ต้องหาคำตอบ ตั้งแต่เมื่อคนรักเก่าของเธอบอกว่าจะหนีออกจากเมือง และมีอีกเสียงที่บอกให้เธอระวังตัวว่าการล่าจะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตัวเอก คือ Evie จะต้องหาคำตอบให้ได้ว่า Frank อยู่ที่ไหน และ ‘ใคร’อีกเจ้าของอีกเสียงขึ้น และการตามล่าคืออะไร
ระหว่างเดียวกัน เหตุการณ์รอบตัวที่เหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับเธอก็มีผลต่อเธอไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการที่ต้องออกไปช่วยเพื่อนตำรวจสืบสวนหาสาเหตุของการฆาตกรรม และการที่เพื่อนของเธออีกคนหนึ่งขอให้เธอช่วยตามหาของบางอย่างให้ แม้ว่าดูเหมือนเป็นคนละเรื่อง แต่เหตุการณ์ทั้งหมดก็ถูกเชื่อมโยงและถักทอไว้ด้วยกันอย่างชาญฉลาด ถือได้ว่าคนเขียนวางโครงเรื่องไว้ดี และก็ดำเนินเรื่องตามกรอบที่ตัวเองตั้งไว้ได้โดยที่ไม่หลุดออกไปแม้แต่น้อย
ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ Spiral Hunt เป็นหนังสือที่ต้องอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์ เพราะเมื่อวางโครงเรื่องใหญ่ไว้และดำเนินเรื่องตามนั้นไว้แล้วก็หมายความว่าเงื่อนงำต่าง ๆ ถูกซ่อนไว้ในเนื้อเรื่องอยู่เป็นระยะ การอ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนการต่อรูปปริศนาที่ตัวต่อแต่ละชิ้นจากเงื่อนงำที่คนอ่านได้รับระหว่างอ่านเรื่อง อันหมายถึงว่าเมื่อจบเล่มก็จะได้รูปปริศนาที่มีคำตอบสมบูรณ์
ทั้งนี้ นอกเหนือจากการวางโครงเรื่องที่แหลมคมแล้ว สิ่งที่ไม่ด้อยไปกว่ากันเลยก็คือ จินตนาการที่ใส่ไว้ในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นจินตนาการทางความคิดที่สร้างเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมา หรือแม้กระทั่งจินตนาการทางการเรียบเรียงใช้ถ้อยคำ อย่างที่การใช้ประสาทสัมผัสของเธอถูกบรรยายไว้ว่าอยู่ในรูปเส้นสายที่โยงใยอยู่ด้วยกัน ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพและรู้สึกตามไปได้ชัดเจนในใจ หรือจุดที่เด่นที่สุดอีกจุดหนึ่งก็คือการใช้ตำนานพื้นบ้านไอร์แลนด์มาสร้างเป็นสิ่งใหม่ในเรื่อง โดยเฉพาะในส่วนตัวของ Evie เอง ที่การถูกเรียกว่า Hound ไม่ใช่เหตุบังเอิญ และความสามารถในการดมกลิ่นของเธอก็มีที่มาที่ไปที่ชัดเจน ชอบที่การใช้ประโยชน์จากการเล่นเสียงนามสกุลของเธอ (Scelan) ซึ่งกลายเป็นคำอธิบายปริศนาที่ใหญ่มากที่สุดอันหนึ่งในเรื่อง
สิ่งที่ไม่คิดฝัน และจุดพลิกผันก็ถือเป็นความยอดเยี่ยมอีกเช่นกัน สิ่งที่ไม่คิดฝัน และจุดพลิกผันก็ถือเป็นความยอดเยี่ยมอีกเช่นกัน (สปอยล์) [โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าการตามหา Frank เป็นจุดประสงค์หลักของเรื่อง การตายของเขาเป็นจุดหักมุมที่ยอดเยี่ยมที่สุดจุดหนึ่ง เพราะกลายเป็นว่า Rena พบศพเขาอยู่ในสภาพแปลกประหลาด และจากที่ตามหาตัวคนรักเก่า ก็กลายเป็นตามหาคนที่ฆ่าเขา และสาเหตุ รวมไปถึงความจริงที่ว่าเธอเข้าไปใกล้เหล่าร้ายมากขึ้นอีก] ปกติแล้ว หากตัวละครถูกทรยศ หรือถูกช่วยจากตัวละครอื่นแล้ว สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในครั้งเดียว แต่ในเรื่องไม่ใช่เลย ตัว Evie เองได้รับการช่วยเหลือจากตัวละครบางตัวนับไม่ถ้วน ก่อนที่จะถูกหักหลังจากตัวละครตัวเดิม และได้รับความช่วยเหลืออีกครั้ง ขณะที่ตัวละครอีกตัว ได้รับความไว้วางใจจากเธอ ก่อนจะหักหลังเธอและช่วยเหลือเธอในที่สุด ทำให้การอ่านไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าตัวร้ายที่แท้จริง และมิตรแท้ของเธอคือใคร และแต่ละคนมีจุดประสงค์อะไรในใจ (สปอยล์) [อย่างตัว Brendan เองที่หักหลังเธอด้วยการสวมรอยมาช่วยเธอตั้งแต่เริ่มต้น และก็มีเป้าหมายของตัวเองในใจ จนทำให้เชื่อมากว่า แม้เขาจะทรยศ Evie แต่ก็มีเป้าประสงค์มากกว่านั้น และแม้จะเป็นศัตรูที่แฝงตัวมาเป็นมิตร แต่ก็ยังคงความเป็นมิตรอยู่ บทบาทไม่ชัดเจนหรือแน่นอนแต่อย่างใด จนกระทั่งตอนใกล้จบที่ช่วยเธอไว้อีกครั้ง แต่ในที่สุด ก็เป็นศัตรูจริง ๆ และลงเอยด้วยความตาย – นึกว่าจะมีโอกาสแก้ตัวแท้ ๆ] แม้ว่าเราจะเห็นตัวละครอื่น ๆ ทำสิ่งที่น่าสงสัย และไม่น่าเชื่อใจเป็นระยะ ๆ ก็ตาม (สปอยล์) [ยกเว้นแต่ตัว Connor ที่ปรากฏตัวออกมาก็รู้แน่ชัดว่าเป็นตัวร้ายแน่ ๆ และก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย]
Evie เป็นตัวละครที่ต่างจาก Urban Fantasy ทั้งหลายที่ความอ่อนโยน และการคิดถึงคนอื่น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการรับรู้อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากลิ่นของคนรอบตัวก็ได้ แต่ถึงกระนั้น ก็ทำให้เธอแกร่งแต่ไม่กร้าวกระด้าง อย่างที่เธอแสดงออกกับ Katie น้องสาวของเพื่อนที่ถูกลักพาตัวไปเพราะเหล่าคนร้ายต้องการล่อให้เธอออกมา และจับเธอให้ได้ เมื่อทั้งคู่หนีออกมาได้ เธอให้เด็กหญิงขี่หลัง และพยายามเล่าเรื่องให้ฟัง เพื่อให้ผ่อนคลายความกลัว ก็เป็นฉากที่ชัดเจนที่สุดฉากหนึ่ง
แต่ทั้งนี้ หากจะมองว่าเรื่องลักษณะ Urban Fantasy ต้องดำเนินเรื่องอย่างฉับไว ในลักษณะตาต่อตาฟันต่อฟันแล้ว ก็ถือว่า Spiral Hunt ก็สอบผ่านอีกเช่นกัน ฉากที่เธอสู้กับตัวร้าย และฆ่าตัวร้ายเป็นฉากที่สะใจมากที่สุดฉากหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงสิ่งที่ตัวละครนั้นทำมาตลอด แม้จะโหดไปบ้างก็ตาม
"With one hand I kept my grip on his windpipe, crushing it bit by bit. The other I drove up into his stomach, my fingers pointed together into a single claw, striking, pushing, rending –
The Morrigan’s power screamed through me, and Boru’s pupils dilated as I dug into his flash. What had been the doughly solidity of his stomach below the sternum gave way to something soft and warm, and I reached in, reached further - " (หน้า 283-4)
คำคมในเรื่องที่ชอบก็คือ “No geis is harder than the ones we lay upon ourselves.” (หน้า 295) เพราะในเรื่องเธอหวาดระแวงมาตลอดว่าจะมีมนต์บางอย่างเข้ามาครอบงำเธอ และทำให้เธอต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้ร้าย หรือแม้แต่เป็นเครื่องมือให้ใช้งาน แต่ในตอบจบ Morrigan เทพีไอริชได้พูดประโยคนี้กับเธอ และก็ทำให้เธอได้คิด (และทำให้ตัวคนอ่านอย่างอีฉันได้คิด) ในเรื่องก็พูดถึงตัวละครหลายตัวที่ตกอยู่ภายใต้ความเชื่อที่ตัวเองสร้างขึ้น และถูกครอบงำจากความเชื่อและความคิดจากบทบาทเช่นนั้นจนสูญเสียความเป็นอิสระหรือแม้กระทั่งตัวของตัวเองไปในระดับหนึ่ง (ซึ่งตอนที่พิมพ์ก็คิดต่อ .... ว่าบทบาทของเราเป็นตัวจำกัดอิสรภาพของเราจริงหรือ และถ้าเราไม่มีบทบาทหรือความเชื่อนั้น เราจะเป็นอย่างไร เพราะตัวเราไม่มีทางอยู่โดยปราศจากความเชื่อหรือบทบาทเช่นนั้นได้ ก็เป็นปัญหาที่ตอบยาก และมีเส้นแบ่งข้อจำกัดและโอกาสที่เกิดขึ้นจากบทบาทความเชื่อเหล่านั้นที่แสนจะไม่ชัดเจนอย่างยิ่ง)
สรุปว่าพระเอกตัวจริงในเรื่อง (สปอยล์) [Nate เพื่อนของ Evie ตั้งแต่สมัยเรียน และพี่ชายของ Katie] ก็เป็นพระเอกที่คนอ่านอย่างอีฉันกึ่งลุ้นมาตั้งแต่ตอนเริ่มต้น และก็จบลงอย่างชื่นมื่น ... อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง เพราะเห็นตัวจริง/ ความสามารถที่แท้จริงของตัวเอกแล้วไม่หวาดกลัวจนหนีหายไป (เปรียบเทียบ Hunter/ Clayton/ Daemon เป็นต้น) แต่กลับกลายเป็นว่าการรู้จักตัวจริงทำให้ตัดสินใจเดินหน้าต่อเพราะได้รู้จักกันมากขึ้น (หรืออย่างน้อยก็ผ่านอันตรายมาด้วยกันแล้ว) แต่ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ถ้าพระเอกอ่อนแอกว่าจะมีทางออกที่สมบูรณ์ให้กับทั้งคู่แน่หรือ .... ถ้าเขาจะกลายมาเป็นจุดอ่อนของเธอ ทั้งนี้ ก็ต้องติดตามกันต่อไป เพราะเหมือนว่าพระเอกอาจจะมีความสามารถบางอย่างอยู่ในตัวก็ได้
จากการตามล่าหาเกี่ยวกับ Margaret Ronald เธอมีเล่มที่สองในชุด คือ Wild Hunt ซึ่งไม่รู้ว่าจะออกเมื่อไหร่ หรือว่าจะเป็นเกี่ยวกับอะไรชัดเจน (นอกเหนือจากความสามารถที่ถูกปลุกให้ตื่นแล้วของ Evie ในเล่มแรก) ซึ่งตอนนี้อีฉันก็อยากอ่านมาก ... และก็ต้องขอบอกว่าเป็นหนังสือที่ลงตัวที่สุดเล่มหนึ่งตั้งแต่อ่าน UF มา ในฐานะนักเขียนหน้าใหม่ คิดว่าเธอทำได้ดีมาก ๆ (เพราะถึงจะเขียนมาก่อนแล้ว การวางโครงและตามโครงเรื่องอย่างนี้ก็ยากแล้ว) ถึงขั้นอ่านไปกลางเล่มก็คิดว่า A ได้ A แน่ ๆ (เพียงแต่กลัวพลิกผันตอนจบว่าจะทำให้คะแนนน้อยลง) และดังนั้น เมื่อดำเนินไปได้อย่างที่คาดหวังเอาไว้ ก็ให้คะแนนที่ A+ อย่างไม่ต้องสงสัย ชอบมาก มาก และมาก สรุปว่า A perfect combination of clever and imaginative enigma and everything … just right combination!
คิดว่าอาจจะต้องอ่านซ้ำอีกครั้ง เพื่อเก็บรายละเอียดในการตีความ คิดว่าอาจจะต้องอ่านซ้ำอีกครั้ง เพื่อเก็บรายละเอียดในการตีความ เหมือนเป็นหนังสือเกม Whodunit ที่คนอ่านต้องเก็บเบาะแสในระหว่งอ่าน และก็คิดว่าจะไปเขียนรีวิวใน Amazon ให้ด้วยซ้ำ!!!
อีกประการหนึ่งก็คือ คิดว่าเข้าใจ Celtic myth/ folklore แต่สงสัยจะน้อยเกินไป หลังจากนี้จะไปหาอ่านเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ความชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อเหล่านี้มากขึ้น
ปล. มีจุดที่ยังไม่เข้าใจอยู่อีกจุดคือ ความรู้สึกจริง ๆ ของ Brendan ที่มีต่อ Evie ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับจุดยืนของเขา หลายครั้งที่เขาดูจะมีความรู้สึกต่อเธอ สงสัยจะชัดขึ้นหลังอ่านซ้ำ
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
This comment has been removed by a blog administrator.
ReplyDelete