Saturday 30 October 2021

서바이벌 오디션 : 내 일은 아이돌 // Survival Audition : My Job Is An Idol



คนเขียน: 라비크
แนว: ไอดอล, reality show, large dog, fluff, healing, growth
ความสัมพันธ์: เพื่อนร่วมรายการ
จำนวนตอน: 64 ตอน (ยังไม่จบ)

สารภาพจากใจว่าไม่ใช่แนววงการบันเทิง/ ไอดอลเลย แต่ว่าอ่านตามอีเวนต์ แล้วรู้ตัวอีกทีก็เล็มกดซื้อตอนไปเรื่อยๆ จะครึ่งเรื่องแล้ว .... ความดีงามแทรกตัวอยู่ในจะทุกอณู กรี๊ดดด ช่วงแรกจะยังเนือยๆ ปูทางนิดนึง แต่พอสองคนลงตัวแล้วช่างดี!

เรื่องเริ่มที่ Lee Jooha ถูกคัดออกจากการ debut กับกลุ่ม หลังจากที่เป็นเด็กฝึกและซ้อมอย่างหนักมา 6 ปี ด้วยเหตุผลที่ว่าบุคลิกของเจ้าตัวเหมือนกับสมาชิกอีกคน และเมื่อครอบครัวโน้มน้าวให้เลิกความฝันจะเป็นศิลปิน Jooha ก็ตัดสินใจหาโอกาสสุดท้ายด้วยการไปคัดตัวรายการ ‘My Job Is An Idol’ และเข้าร่วมรายการด้วยอันดับที่ 24

ขณะเดียวกัน Choi Tae-ri ที่โด่งดังจากผู้ติดตามกว่า 500,000 คน ใน YouTube และเด็กฝึกของค่ายเพลงที่ดีที่สุดอย่าง Fandom ก็มาคัดตัวด้วยกันเหมือนกัน Tae-ri มีชื่อเสียงจากการเป็นอัจฉริยะการเต้น เป็นลูกหลานจากครอบครัวเจ้าของมูลนิธิการแพทย์ รวมไปถึงรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น และหลังคัดตัวก็ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่เมื่ออันดับหนึ่งที่ได้อภิสิทธิ์เป็นห้องนอนสวีทชั้นบนของโรงแรมและสามารถเลือกเพื่อนร่วมห้องตัวเองได้ Tae-ri ก็เลือก Jooha มาอยู่ด้วยกัน ด้วยเหตุผลตามที่ให้สัมภาษณ์ว่า อายุเท่ากัน น่าจะเข้ากันได้ง่าย

แต่ Jooha ก็ยังสงสัยอยู่ดี และเมื่อถามเจ้าตัวตอนอยู่ด้วยกันสองคน คำตอบของ Tae-ri ก็คือ อยาก debut ด้วยกัน ... ซึ่งแปลกที่คนที่สมบูรณ์แบบอย่าง และดูประสบความสำเร็จอย่าง Tae-ri สนใจคนที่เพิ่งถูกคัดตัวออก และหมดสัญญาเด็กฝึกกับค่ายเพลงอย่าง Jooha

และถึงแม้ Jooha จะระแวงสงสัยแรงจูงใจของ Tae-ri แต่พออยู่ด้วยกัน แรงดึงดูดระหว่างสองคนก็สูงมาก ... โดยรู้ว่าตัวเองถูกดึงดูดเข้าหาอีกฝ่าย และใจไม่อยู่กับตัวทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน

ซึ่งเอาจริงแล้ว Tae-ri ก็ชอบ Jooha มาก่อน แต่จะทำอย่างไร ถึงจะสื่อความรู้สึกให้ตรงกัน?
.
.
งานน่ารัก เพราะว่าชอบบุคลิกของตัวเองที่พยายาม ตั้งใจ และความมุ่งมั่นสูง ตอนที่เข้ามาคัดรายการ ตัวเองมาด้วยความรู้สึกพ่ายแพ้ เพราะผิดหวังที่ไม่ได้ถูกคัดเลือกให้ debut แต่พอมาอยู่ในการประกวด ช่วงเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้สูญเปล่าเลย เพราะว่าทักษะการเต้นก็ดี การร้องเพลงก็ดี ของ Jooha สูงมากจนอยู่ในระดับท๊อปได้ด้วยซ้ำ

และเพราะการแบ่งตามลำดับในกลุ่ม การจะจับตามท่าเต้น และฝึกฝนไปก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ Jooha เลย น่ารักที่ในกลุ่มมี Seo Eunwon เด็กที่อายุน้อยที่สุด คือ 15 ปีมา และพอเจ้าตัวจับแขนเสื้อขอให้ Jooha ช่วยสอนเต้น เจ้าตัวก็พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างไม่คิดมากเลย ถึงขั้นช่วยคนอื่นซ้อมในกลุ่มย่อยตัวเองต่อด้วย

ระหว่างวัน สองคนไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันมากนัก ด้วยความที่อยู่คนละกลุ่ม แต่ว่า Tae-ri ที่พูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มตัวเองก็ก็คอยสอดส่องจ้องมอง Jooha อยู่เสมอ และตอนกลางคืนที่นอนห้องเดียวกัน คืนแรก Tae-ri ก็เดินเปลือยอกออกมาจากห้องน้ำไม่ใส่เสื้อแล้ว ไม่นับว่าตัว Tae-ri เล่นแผลงๆ ด้วยการเอาชุดและผ้าเช็ดตัว Jooha ไปซ่อน และพอจะนอนที่โซฟาและถูกโน้มน้าวมานอนที่เตียง พอตื่นมาจากที่นอนอยู่ริมเตียงก็กลายเป็นอยู่กลางเตียง

วันต่อมา มีมิชชั่นแรกที่ทุกคนจะได้จับพร็อพที่จะต้องใช้ประกอบการถ่ายรูปโปรไฟล์ตัวเอง ซึ่งมีหลากหลายตั้งแต่นาฬิกาหรู หนังสือ ผลไม้ กุญแจรถ กิมจิ ฯลฯ ไปจนถึงกล่องปริศนา และ Jooha ที่คาดหวังว่าจะได้ปืน ก็จับได้กล่องปริศนาใบใหญ่สุด .... ที่เปิดออกมาเป็นชุดกษัตริย์ราชวงศ์โชซอนสีแดง

และตัว Tae-ri ก็แทบจะไม่ต่างกัน เพราะเจ้าตัวได้ด้ายดำเป็นพร็อพ

ระหว่างที่ต้องหาแนวคิดประกอบกับพร็อพที่ตัวเองได้มาส่งให้ทีมงาน Jooha ที่ยังคิดอะไรไม่ออกก็ได้ข้อความจาก Tae-ri ว่า Yeonsan-gun มาช่วยพอดี ....

ก็เลยได้แนวคิด prodigal king กษัตริย์ฟุ่มเฟือย เสเพลมา

และกลายเป็นว่า Tae-ri ที่นั่งอยู่ในห้องคุยกับทีมงามก็ส่งแนวคิดตัวเองไปนานแล้ว แต่ว่านั่งรออยู่เป็นเพื่อน Jooha และเมื่อขึ้นมาที่ห้องด้วยกัน และคุยกัน Tae-ri ก็ยังพูดเหมือนเดิมว่า อยากอยู่ด้วยกัน debut ด้วยกัน และพอถามว่าทำไม ก็บอกว่าเป็นคนเดียวที่อยากนอนอยู่ในห้องสวีทนี้ด้วยกัน

และเมื่อถ่ายรูปคอปเซ็ปต์วันต่อมา ด้วยนิสัย Jooha ที่แข็งทื่อ จริงจังก็ไม่สามารถทำตัวให้เป็นกษัตริย์เสเพลได้จนกระทั่งถูกช่างภาพดุ และเมื่อบอกให้ใช้จินตนาการคิดถึงสิ่งยั่วยวนทั้งหลายตั้งแต่ฝิ่น เหล้า และผู้หญิง สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวก็คือ Tae-ri ที่อยู่กับตัวเอง ด้วยประโยคที่ว่า คนเดียวที่อยากนอนด้วยก็คือตัว Jooha และเมื่อหลุดไปในจินตนาการ กลายเป็นว่ารู้ตัวเพราะได้ยินเสียงช่างภาพเอ่ยชมไปแล้ว

หลังจากนั้น เพราะ Tae-ri แกล้งกอด Jooha ตอนนอนอยู่บนเตียงด้วยกัน คืนต่อมาเจ้าตัวก็เลยหนีไปนอนที่โซฟา และก็ตัดไปที่มุมมองของ Tae-ri หลัง Jooha หลับ กลายเป็นว่า Tae-ri อยาก debut กับ Jooha จริงๆ เพราะตัวเองเจอ Jooha ตอนกำลังซ้อมเต้นเมื่อปีก่อน ความมุ่งมั่นและตั้งใจ และความสุขที่ได้อยู่บนเวทีส่งผ่านชัดจน Jooha ที่กำลังซ้อมเต้นโดดเด่นมากในสายตา Tae-ri จนอยากจะ debut ร่วมกับ Jooha ขึ้นมา

ครบหนึ่งอาทิตย์ ระหว่างที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน Tae-ri ที่เอานิ้วจิ้มแก้ม Jooha (?) ก็บอกว่าจะโทรหา

และเมื่อรายการออกอากาศคืนแรก Jooha ที่ไม่อยากดูรายการในบ้านที่ครอบครัวคัดค้านการมาประกวดก็ตัดสินใจไปดูบ้าน Tae-ri ตามที่อีกฝ่ายชวน

ท้ายรายการมีการอัพโหลดรูปโปรไฟล์ที่ถ่ายไปของแต่ละคน และคนแรกที่ Jooha เปิดดูก่อนรูปตัวเองก็คือรูป Tae-ri และขณะเดียวกัน รูปแรกที่ Tae-ri ดูก็คือรูป Jooha เหมือนกัน .... เอาจริง รูป Jooha โดดเด่นและเล่าเรื่องอย่างที่เจ้าตัวไม่คาดฝันเลย เพราะภาพราชาเสเพลที่ทั้งหมกมุ่นและยั่วยวนเกิดความคาดคิดของ Jooha ไปมาก และก็เกิดจินตนาการของ Tae-ri ไปมาก .... จบลงที่ Tae-ri อดใจไม่ไหว จูบ Jooha และเลยเถิดทั้งคืน

เมื่อตื่นมาตอนเช้า Jooha ที่รู้ตัวก็หนีกลับบ้านระหว่างที่อีกฝ่ายยังหลับตอนเช้ามืด และเพราะคิดว่า Tae-ri ไม่ได้จริงจังก็ไม่ยอมรับทั้งข้อความทั้งโทรศัพท์ใดๆ จากอีกฝ่ายจนกระทั่งกลับมาที่รายการต่อด้วยกัน

ชอบที่รูป Jooha เด่นมากจนเอาชนะอันดับหนึ่งได้ และเมื่ออันดับสองเป็น Tae-ri คราวนี้ทั้งสองคนต้องอยู่ห้องเดียวกันอีก แต่ว่า Jooha ก็ยังหลบหน้า Tae-ri ทุกรูปแบบที่ทำได้ต่อไป จนกระทั่งมีเกมให้จับกลุ่มกัน และ Tae-ri ที่โกรธว่าอีกฝ่ายหลบหน้าตัวเองก็วิ่งพุ่งมาจับคู่กับ Jooha ให้ได้

ตกกลางคืนสองคนที่ทะเลาะกันก็ขึ้น จนกระทั่ง Jooha พูดออกไปตรงๆ แล้วก็กลายเป็นว่าสองคนรู้ใจอีกฝ่ายว่าคิดเหมือนกันซะที

หลังจากนั้นแล้ว ความทุ่มเทและความจริงใจที่ Tae-ri มีให้กับ Jooha เปลี่ยนแปลงตัวเองกลับมาได้ เพราะว่านิสัยจริงจังและตั้งใจไม่ผ่อนปรนกับตัวเองทำให้ Jooha ดูจืดชืดน่าเบื่อ และยิ่งพอถูกคัดออกจากวงก็กลายเป็นปมในใจที่คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ แต่พออยู่ด้วยกัน มี Tae-ri ที่เชื่อมั่นในตัว Jooha จากความคิดที่ว่า อยาก debut ก็เปลี่ยนเป็นเพราะอยาก debut ด้วยกันกับ Tae-ri และอยากเก่งขึ้น แข็งแกร่งขึ้นเพื่อให้ตามความฝันที่กลายเป็นของทั้งคู่ให้ได้ และ Jooha ก็เริ่มเปลี่ยนตัวเองขึ้นมาทีละน้อยเหมือนกัน ชอบที่บอกว่าถ้าทำเต็มที่ได้แค่ 70% ถ้าอยากได้ 100% ก็ต้องทำ 130% ความมุ่งมั่นเต็มที่น่ารัก เป็นพัฒนาการและการเติบโตที่ชัดมาก

และผลก็ออกมาในรูปผลการแข่งที่ตัว Jooha เข้าใจตัวเอง และหาจุดเด่นตัวเองออกมาใช้ได้ดีมากขึ้น และก็กลายเป็นคนที่โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่ผู้เข้าประกวด น่ารักที่ตอนแรกความสัมพันธ์กับที่บ้านแย่มาก เพราะพ่อกับแม่พยายามคัดค้านการมาคัดตัว อยากให้ลูกชายตัวเองมองโลกตามจริง โดยเลิกความฝันและไปตั้งใจเรียนอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่พอเห็นลูกชายตัวเองในทีวี เห็นความตั้งใจมุ่งมั่นก็เริ่มกลับมาสนับสนุนลูกชายเพิ่มขึ้นเหมือนกัน จากที่อาทิตย์แรก Jooha ลากกระเป๋าขึ้นรถใต้ดินกลับบ้านเองก็กลายเป็นอาทิตย์ต่อมาแม่ขับรถมารับให้เหมือนเด็กคนอื่น และที่บ้านก็ดูการประกวดที่ออกอากาศอย่างตั้งใจลุ้นลูกชายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ .... ถึงขั้นที่สุดท้าย แม่ลากตัว Jooha ไปตัดผมในร้านที่แพงมาก เพราะอยากเสริมบุคลิกให้ลูกชายเพื่อช่วยอีกทางหนึ่งเหมือนกัน (ซึ่งที่ผ่านมา ตัว Jooha ไม่มีเงิน และไม่กล้าขอพ่อแม่ก็คิดว่าได้แต่ปล่อยไป)

ส่วนทางตัว Tae-ri ที่ทุกคนคิดว่าสมบูรณ์แบบ คาบช้อนทองมาเกิด ก็มีปัญหาของตัวเองเหมือนกัน การที่เกิดในตระกูลดีไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป เพราะทุกคนในครอบครัวเป็นหมอหรือไม่ก็ทนาย การที่มีการศึกษาสูงและเป็นการวิชาการจริงจังทำให้รังเกียจอาชีพอย่างศิลปิน และเมื่อตัว Tae-ri ที่เรียนเก่ง สอบได้คะแนนดีทิ้งการเรียนมาสู่การเป็นเด็กฝึกก็ทำให้ทั้งครอบครัวดูถูกตัว Tae-ri ไปด้วย เมื่อใดก็ตามที่อยู่พร้อมหน้ากับทั้งตระกูลตามเวลามื้ออาหารประจำอาทิตย์ก็จะถูกทุกคนเหยียดหยาม วิจารณ์กลายเป็นแกะดำของวงศ์ตระกูลเสมอ ยิ่งไปกว่านั้น เพราะการที่อยากเป็นศิลปินก็ทำให้พ่อไล่ Tae-ri ออกจากบ้านด้วย ถึงขั้นที่ต้องมาอยู่คนเดียว

แล้วเมื่อมองย้อนอดีตไป การที่ทั้งพ่อกับแม่เป็นหมอทั้งคู่ ก็ทำให้ไม่เคยมีเวลาให้ Tae-ri เลย เจ้าตัวโตมากับคนขับรถ แม่บ้าน และครูสอนพิเศษเท่านั้น เมื่อมีการพบผู้ปกครอง คนที่ไปพบครูที่โรงเรียนก็คือคนเหล่านี้แทนพ่อแม่มาตลอด และดังนั้น การที่ได้เจอกับ Jooha ที่เชื่อมั่นในความฝันแบบเดียวกัน และเมื่อ Jooha เปิดใจและทุ่มใจให้กับ Tae-ri กลับก็กลายเป็นหลักพิงของ Tae-ri ไปด้วยเหมือนกัน เวลาที่อยู่ด้วยกันของสองคนและฝึกซ้อม เตรียมตัวทุกอย่างด้วยกันสำหรับการประกวดก็คือก้าวทีละก้าวที่สำคัญสำหรับความฝันของทั้งคู่

เป็นการเล่าเรื่องขาดๆ เกินๆ ยังไงก็ไม่รู้ แต่ชอบที่อยู่ด้วยกัน แล้วสองคนมีที่พึ่งและเป็นแรงให้อีกฝ่ายมาก น่ารักที่ Tae-ri ติดและอ้อน Jooha ผิดกับท่าทีเป็นผู้ใหญ่เวลาอยู่ข้างนอกเสมอ อย่างพออยู่ด้วยกันก็นอนหนุนตัก กอดหนึบตลอดเวลา หรือขนาดประกวดอยู่ในรายการก็จะแอบหันมาขยับปากบอกว่า รักบ้าง คิดถึงบ้างเป็นระยะๆ ซึ่งตัว Jooha ก็แพ้ความอ้อนด้วยเหมือนกัน นอกจากจะต้องตามใจกลับ และขยับปากตอบว่า เช่นกัน เหมือนกัน แล้วก็มักจะชอบคิดว่า Tae-ri ที่ตัวสูง 185 เซน ว่าเป็นลูกหมาถูกทิ้งดูน่าสงสาร ลูกแมวท่ามกลางสายฝน และลูกสัตว์ตัวเล็กน่ารักทั้งหลายอีกมาก

และก็เพราะ Tae-ri ไม่เคยมีใครมาก่อน นอกเหนือจากจะอ้อนเอาแต่ใจแล้ว ก็ยังหึงเล็กหึงน้อยด้วยเหมือนกัน น่ารักที่พอกลับมาอยู่ที่บ้าน วันที่ Jooha รีบมาหา Tae-ri ที่บ้านตอนเช้า จนลืมเอาเสื้อผ้าที่จะต้องเปลี่ยนไปเจอคนในกลุ่มตัวเองเพื่อถ่าย Vlog กัน ก็ได้ของขวัญเป็นเสื้อผ้าจาก Tae-ri ที่มีตั้งแต่เสื้อยืดไปจนถึงสร้อยคอ และแหวน ราคาแพง (โดยที่ตัว Jooha ไม่รู้) ไม่เท่าไหร่ ที่สำคัญคือชุด limited edition นี้ มีคำว่า TRC ปักอยู่ทั้งเสื้อกับในสร้อยในแหวนด้วยนะคะ ... และก็เดากันได้ใช่ไหมว่า มันก็ย่อมาจากชื่อ Tae-ri Choi ถ้าอยากจะแสดงความเป็นเจ้าของกันแบบนี้ก็นะ

ขำที่ Tae-ri แอบถามว่ากลุ่มของ Jooha มีกำหนดการอะไรบ้าง แต่ว่าไม่ยอมบอกแผนการกลุ่มตัวเอง .... อย่างไรก็ตามค่ะ ตอนที่กลุ่ม Jooha กินข้าวเสร็จแล้วไปคาราโอเกะกัน พวก Tae-ri ก็ตามไป พีคที่ตอนกำลังเล่นกันอยู่ตามท่าเต้นเพลงที่คนในกลุ่มโอบเอว Jooha อยู่ Tae-ri ก็เปิดประตูผลัวะมาพอดี ทำเอา Jooha ตกใจเหมือนถูกจับได้ว่านอกใจขึ้นมา ก็แอบน่ารักตามประสาเนาะ ไม่นับว่าหลังจากนั้นที่ทั้งสองกลุ่มไปกินข้าวเย็นด้วยกัน ก็มีคนตั้งคำถามมาว่าทำไมสองคนใส่เสื้อผ้ายี่ห้อเดียวกันอีก

แต่หลังๆ พอรายการแพร่ภาพไปหลายตอนมากขึ้น ทุกคนก็เริ่มดังแล้ว Jooha ที่คิดว่าตัวเองจืดชืดและไม่มีคนสนใจก็มีฐานแฟนเพลงตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน ที่ขำมาก และบ้ามาก และเพี้ยนมากที่สุด ก็คือว่าด้วยความที่ Jooha ดังจากการถ่ายรูปโปรโฟว์เป็นราชาเสเพล กลุ่มแฟนก็เรียก Jooha ว่า Lord เป็นเจ้าเหนือหัวกันไป และก็เรียกตัวเองว่า พวกอพยพ ตามการเล่นคำชื่อ Jooha จูฮา เอาคำว่า อีจูฮาดา 이주하다 ที่แปลว่าอพยพ/ ย้ายถิ่นฐานมาใช้ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Move, Move แล้วก็มีสโลแกนกลุ่มว่า Migrate to the Lord. ซึ่งเรียกว่าท่านเจ้าแบบนี้ก็ฟังดูเป็นพวกคลั่งลัทธิแล้ว คิดภาพเอาคำที่พวกแฟนใช้มาเรียงกันว่า จงย้ายไปอยู่กับท่านเจ้า เป็นที่ที่ควรจะอยู่ อ้อมกอดอบอุ่นของท่านเจ้า คือ .... ฟังดูยังไงก็น่ากลัวมาก เหมือนพวกคลั่งศาสนาชักชวนเข้าร่วมลัทธิ ขำที่ล่าสุด พอจบช่วงประกวดแล้วแม่กับน้องสาวมารับ มีรถบัสวิ่งตัดหน้า แล้วรถเป็นสีชมพูกับรูปหน้า Jooha และสโลแกน จนเจ้าตัวชะงักแล้วค้างไปเลย

ที่สำคัญ (หรือพูดให้ฟังชัดๆ ว่าที่น่ากลัว) ก็คือ “บัญญัติ 10 ประการ” อันเป็นระเบียบและแผนการดัน Jooha ของหัวหน้ากลุ่มแฟน ที่ตั้งชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับว่า “ผู้อพยพ” ส่วนหัวหน้ากลุ่ม พวกสตาฟก็คือ “ผู้ตั้งรกราก”

1. เพื่อให้สอดคล้องกับคนธรรมดาที่ไม่คุ้นกับ Jooha (ที่ต่อไปจะเรียกว่า "ท่านเจ้า") และคนที่กลัวพวกแฟนสุดโต่ง เราจะต้องดำเนินการด้วยความอ่อนน้อม นุ่มนวล
2. ทั้งหน้าจอมือถือและหน้าล็อคของเหล่าผู้อพยพจะต้องตั้งเป็นท่านเจ้า แต่ถ้าไม่สะดวกที่จะใช้รูปทั้งตัว หรือทั้งหน้าของท่านเจ้าก็ให้ใช้แค่ส่วนหนึ่ง อย่างเช่น มือ คางและจอ เส้นผม ฯลฯ
3. อย่าทำการขายท่านเจ้าอย่างออกนอกหน้า ให้โชว์ได้แค่ ไม่เกิน 3 วินาที และห้ามทำการขายท่านเจ้าเกินเลย ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนธรรมดา
4. ถ้าแฟนกลุ่มอื่นสนใจ ให้โชว์รูปท่านเจ้า และพอแฟนกลุ่มอื่นโชว์รูปบ้างให้ชมไปเรื่อยๆ จนกว่าอีกฝ่ายจะชมท่านเจ้ากลับ เพื่อให้อย่างน้อยแฟนกลุ่มอื่นไม่โหวตกดท่านเจ้า
.
.
จนถึงข้อ 10

เอาจริง ไม่ใช่สายแฟนคลับจริงๆ แต่โลกความจริงมันเป็นแบบนี้ไหมคะ? สงสัยมากกกกก

ปล. ชอบมากอีกอย่างว่าคนเขียนเขียนยาวมาก ตอนแรกงงว่าทำไมอ่านช้า แต่พอไปดูความยาวแต่ละตอน สั้นสุดคือ 3,900 คำ แต่เฉลี่ยคือ 4,400-4,500 คำ ขอบคุณนะคะ

ปล. 2 ขำนิสัยนิ่งๆ ไม่สนใจโลกของ Jooha ด้วย แต่ว่าเพราะไม่ชอบความยุ่งยาก ยืดยาว มีปัญหาอะไรกับใครขึ้นมาที เจ้าตัวก็พร้อมพุ่งเข้าไปชน เพื่อปิดจบปัญหาไม่ให้ค้างคาเลย พูดตรงไม่เกรงใจน่ากลัวมาก ไม่นับนิสัยที่พอโกรธหน้ามืดแล้วขึ้นมาสบถอีก ... ถึงขั้นที่ Tae-ri บอกว่าจะดูแล Jooha อย่างดีเพื่อไม่ให้นิสัยเสีย (?) ของ Jooha หลุดไปให้โลกรู้นะ 


ปล. 3 แต่คือ ด้วยความที่งานเป็น all-age เวลาที่สองคนอยู่ด้วยกันก็จะบอกแนวๆ กอดกัน แล้วตัดมาเป็นตอนเช้า เอาจริง ไม่ได้อยากอ่านฉากบนเตียงนะ แต่ว่าด้วยความตัดฉากก็เลยงงมาก เป็นแบบอ้าว เค้าอยู่ด้วยกันแล้วเหรอ ทำไมไม่รู้ ยิ่งครั้งแรกคือยิ่งงง


ปล. 4 ตอนที่สองคนเต้นด้วยกันแล้วเคมีดีมาก ก็มีคนแต่งแฟนฟิค ABO ให้ Tae-ri เป็นอัลฟ่าชั่วร้ายที่ก่ออาชญากรรมแล้วถูกจับ กับให้ Jooha เป็นโอเมก้าโปรไฟเลอร์ แล้วไปสัมภาษณ์อัลฟ่าอาชญากรในคุกผ่านกรงขัง ซึ่งกรี๊ดดด เลวมากก (เลว as ดีงามม) ขำที่ Jooha มาเจอแล้วไม่เข้าใจว่า ABO คืออะไร ฮีทคืออะไร งงสงสัยไปทุกอย่าง แล้วพอไปถามน้องสาวก็ถูกน้องสาวดุ ว่าอย่าไปสนใจ (ใครเป็นพี่ใครเป็นน้องเนี่ย) หลังจากนั้น อีหน้าโพสต์นี้ก็ถูกรีพอร์ต ซึ่งสงสัยมากว่าเป็นคุณน้องสาวแจ้งหรือเปล่า


ปล. 5 จริงๆ แอบโอ๋น้อง Eun ที่เป็นลูกเป็ดเดินตามพี่ Jooha คือว่าแพ้ชื่อนี้ ตอนที่กำลังจะจับคู่กับพี่ Jooha แล้วถูกกระทิงบ้าเลือด Tae-ri พุ่งชนต้องกระเด็นไปจับคู่กับคนอื่นแบบงงๆ น่าสงสารมาก ขนาดมีคนมาโพสต์ว่าถูกพุ่งชนออกไปนอกชั้นบรรยากาศ โถ ลูก 

พวกรุ่นพี่ผลัดกันดูแลน้อง Eun จริง แต่ว่าน้องเค้าก็ติด Jooha ที่สุดอยู่ดี ถึงขั้นที่ถ้าอยู่กับรุ่นพี่คนอื่น เห็น Jooha มาก็จะรีบตะโกนเรียกแล้วพุ่งตัวมาหา ตอนที่บรรยายว่ารุ่นพี่ที่ดูอยู่ก่อนหน้า พอเห็น Jooha มาก็เดินไปอยู่กลุ่มอื่นได้เหมือนฝากเลี้ยงเด็กเดย์แคร์น่ารักดี

กับตอนที่พออยู่ด้วยกันสองกลุ่มวันคาราโอเกะแล้วถูกแฟนๆ ล้อม กอดสเก็ตบอร์ดตัวสั่นเป็นกระรอกน่ารักมาก 

ความใสซื่อ บวกสดใสน้อง Seo Eunwon ถูกคุณพี่ Jooha บรรยายว่า ยิ้มเหมือนลูกพีชสุกและทำให้คนดูยิ้ม เหมือนลูกหมาที่เกิดมาดี ได้รับความอบอุ่นใส่ใจจากเจ้าของ และก็โตขึ้่นมาเป็นลูกหมามีความสุขและร่าเริงมีชีวิตชีวาชั่วทั้งชีวิต .... ดูตรงแบบขำๆ ไหม?

แต่ว่าคุณพี่ Jooha ก็ชอบอยู่กับน้อง เพราะน้องเป็นพลังงานบวกด้วยนั่นแหละ ก็หวังให้น้องก้าวหน้าไปกับเหล่าพี่ๆ ทั้งหลายอีกคนนะคะ


ปล. 6 แพ้ large dog มากจริง ตอนนี้แซงหน้า regret อีกนะ .... รักที่สวีทหวานเข้าใจกัน เห็นใจกัน เอาใจกันตั้งแต่ต้นมาก ตอนนี้เห็นเมื่อไหร่ ก็พุ่งเข้าไปอ่านแล้วนะคะ


ปล. 7 ถูกจริตที่อายุเท่ากันด้วย ส่วนมากสาย large dog ชอบเป็นรุ่นน้อง แทบจะ 95% แทบจะ 100% แล้ว เจอแบบนี้ก็เปลี่ยนบรรยากาศดีนะ เปลี่ยนจากที่ต้องดูแลพระเอกที่เด็กกว่า เป็นพระเอกช่วยดูแลตัว Jooha ตั้งแต่ต้น ขณะที่ Jooha ก็ใส่ใจ Tae-ri กลับ เป็นความสัมพันธ์เท่าเทียมตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะตอนที่ความใส่ใจของ Tae-ri ส่งไปถึง Jooha แล้วตัว Jooha ตอบกลับมาคือดีมาก

ชอบตอนที่ Tae-ri บาดเจ็บจากการซ้อม แล้วแม่ที่ถูกทีมงานโทรแจ้งข่าวและมาหาที่โรงพยาบาลก็ถามว่าจะกินอะไร ซึ่งแน่ใจได้ทำด้วยความสัมพันธ์เป็นทางการ และทำตามหน้าที่ เพราะว่าก็แวะมาแวบเดียวแล้วก็จะกลับไปสนใจงานต่อมากกว่าอยู่ดี และ Tae-ri ก็ตอบไปว่า ไม่เป็นไร .... พอกลับมาที่บ้านคนเดียว Jooha ที่ยอมให้ Tae-ri ที่น่าสงสารและโดดเดี่ยวอยู่คนเดียวไม่ได้ ก็รีบมาหาเพื่ออยู่เป็นเพื่อนที่บ้าน แล้วก็ซื้อซูซิกับเค้กสตอร์เบอร์รี่ครีมมาให้เสร็จสรรพ (ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นซูซิเป็นอาหารสุขภาพ คุณค่าโภชนาการสูง ไม่เค็ม ไม่มัน แล้วก็ต้องมีของหวานเพื่อให้กินอร่อยล้างปากด้วย)

น่ารักที่พออีกฝ่ายมา Tae-ri ก็อารมณ์ดีขึ้นทันที ไม่นับว่าพองอแงไม่ยอมกินข้าว ก็เลยถูก Jooha จับป้อนให้กินด้วยประโยคที่ว่า Tae-ri ที่ตั้งใจกินข้าวดูดีที่สุด (ประโยคหลอกเด็กมาก) และพอกินหมด Tae-ri ก็อ้าปากให้ดูอีกว่าหมดจริง 

แล้ว Jooha ก็ป้อนเค้กต่อ กับพอ Jooha เริ่มรู้ตัวก็ถาม Tae-ri ว่าจริงๆ ที่เจ็บคือข้อเท้าไม่ใช่เหรอ ทำไม Jooha ต้องป้อน Tae-ri ล่ะ? แต่นั่นคือทุกอย่างหมดแล้ว

แล้วอย่างที่สามที่ Tae-ri กินต่อไปก็คือ Jooha กรี๊ดด (:

No comments:

Post a Comment