Wednesday, 19 September 2018

ตัวร้ายอย่างข้าจะหนีเอาตัวรอดยังไงดี

มีสปอยส์ตามประสา

เนื่องจากไปอ่านตัวอย่างที่ลงในเด็กดีแล้ว ก็ติดหนึบจนตามไปอ่านภาษาอังกฤษและจีน (MTL ผ่านการคลิ๊กขวาใน Chrome อีกแล้วค่า) ดังนั้นขอลงบันทึกความรู้สึกตัวเองหลังอ่านก็แล้วกัน

ตัวเอกอ่านนิยายจีนสายผู้ฝึกตนที่พระเอกสายเติมทรูและฮาเร็มแล้วเหวี่ยงหนังสือ ก็เลยถูกระบบจับเข้าไปในนิยายเองเลย กลายเป็น "เสิ่นชิงชิว" หนึ่งในเจ้ายอดเขาหลักของสำนักอันดับหนึ่งแห่งยุทธภพ อาจารย์ของพระเอก ที่โฉมหน้าหลอกคือยอดคนสุขุม เยือกเย็น มีน้ำใจ แต่ตัวตนข้างในช่างต่ำช้า ขี้อิจฉา และเลวทราม

ในหนังสือ อีอาจารย์นี่จะชั่วต่ำตม และทำร้ายพระเอกทุกอย่างที่ทำได้ แต่พอพระเอกถูกทำร้ายตกเหว ก็กลายเป็นได้เปิดระบบเทพ ได้ตัวช่วยและของเทพทุกอย่างแล้วกลับมาแก้แค้นอาจารย์เลว ซึ่งจุดจบก็กลายเป็นถูกตัดแขน ตัดขา ทิ้งไว้ในห้องขังไป

ซึ่งเมื่อรู้จุดจบแบบนี้  เสิ่นชิงชิว (ตัวใหม่) ก็ต้องพยายามแก้สถานการณ์ให้ตัวเองรอดชะตากรรมให้ได้ ซึ่งช่วงแรกๆ จะทำอะไรก็ลำบาก อีระบบมาขวางไว้ตลอดว่าหลุดนิสัยเสิ่นชิงชิวตัวชั่ว จนกระทั่งอัพเกรดระบบ ปลดล็อก OOC – Out of Character ได้เนี่ยแหละ ที่ตัวเอกเริ่มทำตามนิสัยตัวเองได้ ซึ่งพี่ตัวเอกของเราก็เป็นพวกจิตใจดี เรียบง่าย ปรับตัวตามสถานการณ์เก่ง และดังนั้นก็กลายเป็นเสิ่นชิงชิวเวอร์ชั่นดีออกสื่อขึ้นมา และก็ผูกมิตรกับเจ้ายอดเขาอื่นๆ ได้ (ต่างจากพล็อตเดิม) ไปด้วย

หนึ่งในสิ่งที่เปลี่ยนก็คือ ทำดีกับพระเอก "ลั่วปิงเหอ" หนุ่มน้อยกำพร้า ชาติกำเนิดน่าสงสาร ที่แท้จริงแล้วมีสายเลือดมารอยู่ครึ่งหนึ่งในตัว ซึ่งส่วนหนึ่งก็ทำเพราะพยายามเปลี่ยนพล็อต ลดระดับความตายอนาถของตัวเอง และส่วนหนึ่งก็เพราะตัวเองใจอ่อน สงสารเด็กไม่รู้ความด้วย แต่ไปๆ มาๆ ทุกอย่างที่ทำลงไปก็เป็นการไปปักธงหนุ่มน้อยเฉยย

ทั้งที่พระเอกจะกลายเป็นเจ้าฮาเร็มกวาดหญิงสาวโปร์ไฟล์ดีทั้งฝ่ายธรรมะและมารไปเป็นหลักพัน เจอใครก็ได้หัวใจสาวเจ้าไปหมด กลายเป็นสาวจะทอดสายตาชม้ายอย่างไรก็ไม่สนใจ เพราะมโนแล้วว่าอาจารย์ดีที่สุด

พี่พระเอกเป็นบัวขาว ใสซื่อ อ่อนโยน เปล่งออร่าเจิดจรัสออกมาน่ารักน่าเอ็นดูมาก รักอาจารย์ เทิดทูนอาจารย์ไว้เหนือหัว ขณะที่นายเอกก็คงบุคลิก เป็นยอดคนสูงส่งจับต้องไม่ได้ต่อไป  ชอบนิสัยของทั้งสองคนแล้วก็มีความสุขที่ได้อ่านช่วงนี้มาก

อย่างไรก็ตาม เข้ามาในหนังสือแล้ว พล็อตก็ต้องเป็นไปตามพล็อต เสิ่นชิงชิวก็ต้องผลักลั่วปิงเหอลงไปในหุบเหวมารที่ซึ่งความสิ้นหวังและการถูกทรยศหักหลังจะทำให้หนุ่มน้อยสดใสออร่าบัวขาวถลำลึกเข้าด้านมืด กลายเป็นดาร์กโหมดไป

ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น หนุ่มน้อยบัวขาวก็กลายเป็นดาร์กลอร์ด ...

ส่วนตัวขัดใจกับช่วงที่พระเอกกลับมาแล้วอีตัวเอกมัวแต่กลัวถูกแก้แค้น พยายามหนีไปไกลๆ มาก มีความรู้สึกว่าเพราะหนีกันไปกันมา กับโกรธกันไปกันมา ก็เลยทำให้ไม่ได้พูดให้เข้าใจกันไปเสียที เพราะจริงๆ อีตัวเอกก็ไม่ได้มีความสุขกับการผลักพระเอกลงไป .... ว่ากันตามจริง นอกเหนือจากการถูกกลัวตามแก้แค้นแล้ว สภาพหลังจากนั้นถูกศิษย์คนอื่นกับเจ้ายอดเขาอื่นมองว่า สติหลุดเสียวิญญาณไปด้วยซ้ำ (เหมือนเพิ่งเลิกกับแฟน) แล้วแทนที่จะโผไปหาเขาตรงๆ มัวแต่เลี่ยงอ้อม ฝ่ายนั้นก็ยิ่งของขึ้น ทั้งโกรธแล้วก็น้อยใจ แล้วที่สำคัญ ตอนที่วางแผนการไว้ล่วงหน้าก็พยายามจะทำให้มันเบาก็จริง แต่ทำไมตอนเกิดเรื่องจริง ต้องไปทำร้ายน้องบัวขาวอย่างนั้นด้วยย ฮืออ...

อย่างไรก็ตาม เพราะตัวเอกมัวแต่หนีไปอ้อมมา พระเอกก็เลยต้องให้บีบให้ตัวเอกจนมุมด้วยการขู่ล้างบางสำนักให้ราบ จนตัวเอกต้องยอมไปด้วย  แล้วพออยู่ด้วยจริงๆ ก็รู้สึกว่านิสัยดาร์กลอร์ดนี่มันเป็นระบบเปิดปิดมาก เหมือนน้องเป็นมาร์ชมาลโลว์นุ่มนิ่มแต่พยายามเคลือบหลอกด้วยซุปเปอร์ดาร์กช็อก 120% เพราะตัวตนข้างในก็ยังเป็นหนุ่มน้อยติดอาจารย์คนเดิม มีการร้องไห้สะอื้นบอกให้อาจารย์ไม่ทอดทิ้งตัวเอง หรือแอบทำอาหารให้อาจารย์เหมือนเดิม สร้างบ้านที่เหมือนบนบ้านยอดเขาไว้ .... ยกเว้นที่เพิ่มมาคืออารมณ์รุนแรง อยากเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ หมกมุ่น-ลุ่มหลง-คลั่งไคล้ (แต่จริงๆ มีความรู้สึกว่าอีเด็กบัวขาวนี่ อะไรก็ดีหมดยกเว้นเรื่องอาจารย์ตัวเอง จริงๆ อาจมีความรู้สึกแบบนี้มาตลอดก็ได้  เปลี่ยนใจไม่ใช่ “อาจ” แต่ใช่ “แน่นอน” พอเริ่มโตมีการยิ้มล้อเลียนแกล้งเหมือนหนุ่มน้อยมาจีบสาวตลอดศก แอบหึงแอบหวง แต่ว่าตอนนั้นไม่กล้าแสดงออก แต่พอพลังมา อำนาจมาก็เลยออกมาเต็มที่) คราวนี้ก็เลยเปิดระบบเปิดปิดสวิงไปมาเป็นไบโพลาร์แทน

ส่วนตัวไม่แน่ใจว่านิยายวายเป็นยังไง เพราะไม่อินแนวนี้ แต่พอหลงมาอ่าน (และหลงเรื่องอย่างจริงจัง) ก็รู้สึกว่าเหมือนไม่ใช่นิยายวาย รู้สึกสงสารที่พระเอกถูกคนแต่ง (ที่หลุดเข้าไปในเรื่องด้วย) บ่นที่พระเอกสุดเทพสุดฮาเร็มกลายเป็นสายโฮโมไปแทน แต่จริงๆ ไม่รู้สึกเพราะพระเอกไม่ได้ชอบผู้ชายจริง ๆ พูดอย่างตรงไปตรงมาก็คือ ไม่ได้ชอบผู้ชาย ไม่ได้ชอบผู้หญิง ไม่ได้ชอบใครในโลก ยกเว้นอาจารย์ตัวเอง แน่วแน่จริงจังเข้าใจความรู้สึกตัวเองมาแต่ไหนแต่ไร จนถึงขั้นจะฆ่าคนอื่นให้หมดโลกเพื่อให้อาจารย์สนใจแต่ตัวเองด้วยซ้ำ กลุ่มคำว่า “หมกมุ่น-ลุ่มหลง-คลั่งไคล้” พวกนี้มาได้หมด อะไรก็ได้แค่ให้อาจารย์ลูบหัวกับชม มีความพีคที่พอตัวเอกพยายามฆ่าตัวตายเพื่อหนีไปอยู่ร่างอื่น พระเอกเก็บศพตัวเอกเอาไว้กับตัวเป็นปีๆ ด้วยซ้ำ (แม้ว่าส่วนหนึ่งจะทำเพื่อคืนวิญญาณ แต่ที่สุดแล้วก็คือทำตามใจตัวเอง) แล้วพอเจ้ายอดเขาอื่นมาเจอก็ด่าว่า ทำไมทำอย่างนี้กับอาจารย์ตัวเอง พระเอกยังพูดกลับไปหน้าตาเฉยว่า ก็เพราะเป็นอาจารย์

ตอนแรกคิดว่าตอนเทิร์นดาร์กจะไม่ชอบไม่อ่านแล้ว เพราะมันดูผิดโผไป กับมันหลุดไปนิดนึง แต่ไปๆ มาๆ ก็ชอบอยู่ดี ให้ B+ เพราะความเข้าใจผิดที่ไม่ลงตัวเสียที จนฉากคุยกันดีๆ มีน้อยกว่าฉากทะเลาะกันเสียอีก

แล้วก็ถึงรอโผไปสั่งพรีฯ วันมะรืนชัวร์ (อยากจะสั่งสามเล่มติดเสียจริง ขี้เกียจสั่งทีละเล่ม) เท่าที่อ่าน ชอบสำนวนคนแปลนะ ส่วนบรรยายสละสลวยได้สำนวนจีน แต่อ่านง่ายแล้วก็แปลส่วนภาษาพูดออกมาได้ทันสมัยด้วย

ความรู้สึก obsessed ของพระเอกคิดถึงเพลง i miss u แต่ต้องเป็นเวอร์ชั่น cover ของ gnash / ความมืดมนความหมกมุ่นมาเต็มที่มาก

I miss you, I miss you
I miss you, I miss you

Where are you and I'm so sorry
I cannot sleep I cannot dream tonight
I need somebody and always
This sick strange darkness
Comes creeping on so haunting every time
And as I stare I counted
The webs from all the spiders
Catching things and eating their insides
Like indecision to call you
And hear your voice of treason
Will you come home and stop this pain tonight
Stop this pain

จริงๆ มันมีท่อนนึงที่ว่า
Don't waste your time on me you're already
The voice inside my head (I miss you, I miss you)
แต่พระเอกก็คงไม่ยอมให้เลิกยุ่งกับตัวเองหรอก – ถึงแม้ว่าที่บอกว่าอยู่ในหัวตลอดจะตรงก็ตาม

แต่ถ้าเป็นเวอร์ชั่นก่อนตกเหว จะเป็น  Bloom ของ Troye Sivan // พูดตรงๆ คือพระเอกดูเป็นเด็กดีใสซื่อไม่มีพิษสง แต่จริงๆ แล้วมีความคิดกดอาจารย์มาแต่ไหนแต่ไหนในใจมาตลอด  // / เด็กมันร้ายยย อย่าให้บอกว่าทำอะไรเวลาอยู่ห้องคนเดียวว 555

Come on, baby, play me like a love song
Every time it comes on
I get this sweet desire
(Yeah, I bloom) I bloom just for you
(I bloom) just for you
Now it's the perfect season
Yeah, let's go for it this time
We're dancing with the trees and
I've waited my whole life
It's true, baby
I've been saving this for you, baby

แต่ยังนึกเพลงที่สื่อความรู้สึกตัวเอกไม่ได้ // ได้แล้ววว! Scientist ของ Coldplay สับสนไม่เข้าใจตัวเอง แต่ก็เสียใจอยู่ลึกๆ
Come up to meet you
Tell you I'm sorry
You don't know how lovely you are
I had to find you
Tell you I need you
Tell you I set you apart
Tell me your secrets
And ask me your questions
Oh let's go back to the start

Nobody said it was easy
It's such a shame for us to part
Nobody said it was easy
No one ever said it would be this hard
Oh take me back to the start
I was just guessing at numbers and figures
Pulling your puzzles apart
Questions of science, science and progress
Do not speak as loud as my heart

Tell me you love me
Come back and haunt me
Oh and I rush to the start
Running in circles, chasing our tails
Coming back as we are
Come up to meet you

I'm going back to the start

Saturday, 15 September 2018

ว่าด้วยพล็อตสามีเก่าตามง้อ

ช่วงนี้นั่งอ่านนิยายแนวจีนที่คนไทยแต่ง มีความรู้สึกว่ามันเปลี่ยนจาก นักฆ่ากลับชาติมาเกิดเป็นสวะ (ฟังดูก้าวร้าว แต่ตามนิยายก็คำนี้แหละเนอะ) กับ ทะลุมิติไปเกิดใหม่เป็นนางร้าย ไปเป็น สาวแปลก/ย้อนยุคถูกจับแต่งงานกับอ๋องเย็นชาหรือไม่ก็ฮ่องเต้นิสัยเสีย กับสามีเก่าตามง้อแล้ว

ซึ่งจริงๆ แนวอีสามีเก่าตามง้อนี่ เห็นบ่อยช่วงปีสองที่แล้ว แต่มันเปลี่ยนจาก เวอร์ชั่น 1.0 ที่เป็นโหมดอีสามีเข้าใจผิด เกลียดนางเอก รักอนุที่เป็นคนรักเก่า แต่เพิ่งมาตาสว่าง (หรือถ้าจะใจร้ายหน่อยก็คือ เพิ่งหายโง่) ตอนนางเอกหนีไปแล้ว ซึ่งหนีไปก็จะไม่ไปตัวคนเดียว แต่จะมีลูกในท้องไปด้วย (ซวยจริง ถูกเกลียดแท้ๆ แต่ก็ยังท้องจนได้ จะทำให้พล็อตมันรันทดไปไหนนนน) แล้วอีคุณพี่สามีก็จะมาง้อตอนท้องโตอยู่บ้าง ไม่ก็ให้นางเอกกระเตงลูกเลี้ยงเองจนถึงลูกโตวิ่งเล่นแล้วอีสามีมาเห็นเอ็นดูจนสาวไปเจอว่าเป็นลูกตัวเองขึ้นมา ไม่ว่าตอนไหนก็จะต้องเกิดสำนึกซาบซึ้งในความรักและความดีของนางเอกจนต้องวิ่งโร่ทิ้งศักดิ์ศรีและกลืนคำประนามหยามเหยียดนางเอกที่เคยมีลงท้องไป กลับมาง้ออย่างคุกเข่าติดดิน

ซึ่งความพีคมีอีกอย่าง ครอบครัวพระเอก ทั้งพ่อ แม่ พี่ชาย น้องชาย จะต้องเห็นความดีงามเพียบพร้อมของนางเอกหมด แต่ว่าอีพระเอกจะต้องไม่เคยเห็นไม่เคยรู้สึก ตามืดบอดงมงายมองว่านางเอกร้าย โดยเฉพาะกับการกลั่นแกล้งอนุที่น่าสงสาร

ซึ่งแนวดีมันก็ยังโอเคที่อีพระเอกโง่มาก่อน และตาสว่างขึ้นมาเหนือน้ำได้ซะที

แต่อีแบบ เวอร์ชั่น 2.0 ปีนี้นี่สิ ที่แอบเคืองงง

คือว่านะคะ ที่อ่านมา โหมดยุคสองนี่ พระเอกไม่ได้เข้าใจผิด ไม่เคยมองว่านางเอกร้าย ที่สำคัญ รักนางเอกเสียด้วยซ้ำ แต่แทนที่จะบอกกันไปตรงๆ แสดงความรู้สึกให้อีกฝ่ายรู้ชัด กลับจะเป็นแนวเย็นชาใส่นางเอกไป จนบางเรื่องถึงขั้นนางเอกคิดว่าพระเอกเกลียดเสียด้วยซ้ำ จนนางเอกทนไม่ไหวตัดใจสะบั้นรักแล้วนั่นแหละ อีคุณพี่พระเอกก็จะเพิ่งถึงตระหนักว่าสูญเสียนางเอกไปแล้ว แล้วก็จะทำทุกอย่างเพื่อตามล่าเอาความรักของนางเอกกลับมาให้ได้ โถ

คือแบบนี้ ส่วนตัวอ่านแล้วรู้สึกว่าแย่กว่าอีเวอร์ชั่นหนึ่งอีก ก็เข้าใจผิดกันไปกันมา มีอะไรไม่พูดไม่บอกตรงๆ เก็บไว้ในใจ แล้วชาตินี้นางเอกเขาจะรู้ไหมว่าพี่พระเอกรักน่ะ? ทั้งทำเย็นชา ห่างเหินจนเค้ารู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่คู่ควรกับพระเอกไปจนถึงขึ้นน้องนางนอนกระอักเลือดต้องลุกขึ้นมาปฎิวัติตัวเองว่า ฉันควรจะรักตัวเองบ้างขึ้นมา

ซ้ำร้าย พอตัดกลับไปที่ฝ่ายพระเอก ก็จะเห็นแฟลชแบ็คปูความท้าวความที่รำพึงรำพันถึงความรักล้นใจที่มีต่อนางเอกอีก แต่รักก็ส่วนรัก การแสดงออกต้องไม่ใช่ ถ้าคอยดูแลก็ต้องห่างไกลสามร้อยโยชน์ ให้นางเอกคิดว่าไม่แคร์ เหตุการณ์แบบเดียวกัน แต่ต่างมุมมองต้องมา

แบบนี้พระเอกไม่ได้ง้อมาก แต่นางเอกจะเป็นว่า โถ ฉันเข้าใจผิดไปเหรอ เค้าก็รักชั้นนะมาแทน

แต่ก็นะบอกรักไปไม่ได้หรือไง? ชีวิตมันสั้น แทนที่จะมาดราม่าใส่กันก่อนสองปี นางเอกหายไปแล้วไปง้ออีกเกือบปี สู้บอกความในในอินเลิฟกันไปตั้งแต่ต้นเลยไม่ได้หรือ ประหยัดเวลาไปเกือบสามปีเลยนะ

สามีข้า ไม่น่ารักขนาดนั้น

เริ่มอ่าน “สามีข้า ไม่น่ารักขนาดนั้น” มาตั้งแต่ช่วงกลางๆ ของภาคหนึ่ง ช่วงแรกที่อ่านรู้สึกถึงกลิ่นอายของเวยเวยและกลอรี่ที่ผสมผสานกัน รู้สึกว่านิยายอิงเรื่องแรกเพราะ “อี้ฟาน” ตัวเอกเป็นผู้หญิงชอบเล่นเกมและมีตัวละครในเกมเป็นผู้หญิงแกร่งที่ติดทำเนียบผู้เล่นเหมือนกัน และพระเอกก็เป็นตัวสำคัญในเกมที่เข้ามาหานางเอกก่อน โดยที่ตัวจริงของพระเอกก็เป็นเจ้าของเกมเหมือนอย่างในหนังสือด้วย กับรู้สึกว่าอิงเรื่องหลังตรงตัวเอกใช้ร่มที่พลิกแพลงได้เป็นอาวุธ

แต่นั่นก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นและจุดจบของความคล้ายคลึงและแรงบันดาลใจที่ได้มาด้วย เพราะยิ่งเขียนไป เรื่องนี้ก็มีเอกลักษณ์ของตัวเอง จุดเด่นในเรื่องอยู่ที่ความสมจริงในเกม ซึ่งในแง่หนึ่งการให้ความสำคัญกับเควสและการบรรยายประสบการณ์ความรู้สึกจากการผจญภัย ก็ทำให้เรื่องมีมิติ เพราะพอเข้าไปในเกม เหล่าผู้เล่นก็จะสวมบทบาทเป็นตัวละครในเกมเต็มที่ ทำให้ตัวละครทั้งหลายต่างก็มีชีวิตจิตใจและโลดเล่นไปตามโลกเกมอย่างจริงจังเป็นอีกบุคลิกหนึ่งจนไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ในเกมแต่เป็นโลกคู่ขนานอีกโลกที่ผู้เล่นให้ความสำคัญและเห็นค่าของโลกในเกม ซึ่งในฐานะเรื่องแนว MMORPG สิ่งนี้ก็ช่วยให้ “สามีข้า ไม่น่ารักขนาดนั้น” มีสีสันมากกว่าแค่การตีมอนสเตอร์เพื่อเก็บเลเวล และการทำเควสเพื่อให้จบไปอย่างผิวเผิน

สำหรับช่วงกลางและช่วงท้ายของภาคสองที่เกิดสงครามระหว่างกิลด์ขึ้น มุมมองและบทบาทของตัวละครเปลี่ยนจากการทำเพื่อตัวเองไปทำเพื่อกลุ่มและหมู่คณะ รวมถึงจุดเน้นก็เป็นที่ตัวกิลด์ด้วย และก็สนุกที่ดูการสู้ด้วยยุทธศาสตร์การวางแผนผ่านการสั่งการฉับไวเฉียบขาดของนางเอก เป็นการมองในมุมกว้างที่ทำให้เห็นภาครวม และจุดนี้ก็ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างของภาคสอง นอกเหนือไปจากการเติบโตของตัวละครที่รู้จักมองออกไปข้างหน้า แทนที่จะย้อนมาสนใจแค่ตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบนิสัยหาประโยชน์ให้ตัวเองของนางเอกในช่วงแรกแล้ว จะเห็นพัฒนาการก้าวกระโดดเชิงบวกที่น่าสนใจ

ความโดดเด่นงดงามของเรื่องอีกอย่าง อยู่ที่พระเอกในเกม ย้ำว่าพระเอกในเกมจริงๆ เพราะนางเอกไปเจอ “หลานหวาง” พระเอกที่เป็นบอสลับมังกรจากการรับเควส (จากภาคหนึ่งที่ตั้งชื่อว่า “พานพบสามีในดันเจี้ยน”) และเมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกและความผูกพันของทั้งคู่ก็เด่นชัดและแนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ ชอบความรู้สึกที่ทะนุถนอมคอยดูแลซึ่งกันและกัน อย่างเมื่อเวลาไปต่อสู้ อีกคนก็จะคอยเฝ้าระวังให้อีกฝ่าย และยอมที่จะเจ็บตัวแทนเพื่อให้คนที่รักปลอดภัย

ส่วนตัวเองมองว่า พระเอกของเรื่องเหมือนมีสามตัวก็คือ “หลานหวาง” บอสลับที่พระเอกเอาตัวเองมาเป็น AI  "เฟิงเสิน" พระเอกที่เป็นผู้เล่นในเกม และ "เทียนเหวินหลง" พระเอกที่เป็นคนจริงๆ แม้ว่าตัวละครสามตัวนี้จะเป็นตัวเดียวกัน แต่เพราะหลานหวางเริ่มมาอยู่กับนางเอกในฐานะสัตว์เลี้ยง และไม่ต้องห่วงศักดิ์ศรีและหน้าตาของตัวเอง ก็ทำให้เผยความรู้สึกของตัวเอง และแสดงออกมาอย่างเต็มที่ ผิดกับพระเอกในเวอร์ชั่นอื่นๆ ที่ยังต้องเข้ามาหานางเอกอย่างไว้ตัว (ทำอย่างไรก็ไม่รักเฟิงเสินนะ รู้สึกพี่แกโดดเด่นเกินไป หรือคุณพี่เทียนเหวินหลงก็ดูมาดเยอะ) แต่ตรงนี้ก็ยังหาจุดสรุปไม่ได้ เพราะระหว่างที่เขียนรีวิวเรื่องยังไม่จบ และไม่แน่ใจทิศทางที่จะเป็นทางออกสุดท้าย ... แต่อย่างไรก็ตาม อย่างที่เพื่อนของอี้ฟานมองเอาไว้ว่าหลานหวางเป็นแค่ตัวละครในเกม (ซึ่งในแง่หนึ่งก็ใช่ แม้จะเป็นอีกภาคของเฟิงเสิน/เทียนเหวินหลงก็ตาม) ถ้าเกิดหลานหวางหายไป ถูกลดบทบาท หรือกลายมาเป็นเฟิงเสิน/เทียนเหวินหลงก็อดเสียใจไม่ได้อยู่ดี ถึงตัวละครเดียวกันแต่บทบาทที่ต่างกันไปก็ทำให้เป็นอีกบุคลิกต่างตัวตนแล้วนะ

สรุป ชอบเรื่องนี้ในฐานะเกม MMORPG ที่ผสมปนกับความรักหวานชื่นจากอี้ฟานสาวใจแข็งที่ถูกหลอมละลายด้วยสามีแห่งชาติอย่างหลานหวางนี่แหละ ... ใจหายเหมือนกันที่เรื่องจะจบลงแล้ว



ปล. สุดท้ายนี้ อยากจะเถียงชื่อเรื่องสุดใจ “สามีข้า ไม่น่ารักขนาดนั้น” ตั้งมาแบบนี้ไม่ได้ สามีในเรื่องน่ารักจะตายไป ทั้งทุ่มทุน ทุ่มเทใส่ใจ จริงๆ ชอบชื่อ “พานพบสามีในดันเจี้ยน” ช่วงที่ทดลองเปลี่ยนชื่อเรื่องด้วยซ้ำไป รู้สึกว่าตรงนี้ชื่อตรง แม้ว่าจะกับภาคหนึ่ง ไม่ได้ลงมาถึงภาคสองที่เน้นการทำสงครามและการเติบโตของตัวละครก็ตาม



Sunday, 2 September 2018

นางร้ายฝึกหัด / Doomed to be Cannon Fodder

เรื่องนี้โทนแรกๆ จะขำกึ่งเสียดสีล้อเลียนหน่อย เพราะนางเอกเราอินกับนิยายที่อ่านจนทะลุมาเป็น "ไป๋เซียงซิ่ว" ตัวนางร้ายอยู่ในนิยายเองเลย และเพราะร้ายมากขี้อิจฉามาก ก็เลยถูก "หลงเฉิง หรือ ลี่อ๋อง" พระเอกโบยจนตาย ฉะนั้น เมื่อรู้เรื่องแบบนี้ สิ่งแรกที่นางจะทำก็คือ ทำตัวสงบเสงี่ยมเรียบร้อย พร้อมกับผูกใจแม่ของพระเอกไว้ด้วย เพื่อเป็นหลักประกันว่าชีวิตนี้จะไม่ตายก่อนกลับไปโลกจริงได้

ความขำเริ่มต้นที่ตัวเอกของเรา กลัวพระเอกมาก และพยายามมมมอย่างรุนแรงที่จะอ่อยยเพื่อนพระเอกที่คุณเธอมองว่าดีงามและตามสเป็คมาตั้งแต่อ่านหนังสือ แต่ก็ตามธีมผิดพล็อตพังพล็อต เพราะกลายเป็นว่าแทนที่จะเรียกร้องความสนใจคุณเพื่อนของคุณพระเอก คุณเธอก็ตกปลาใหญ่ที่เรียกว่าพระเอกได้ สิ่งขำขันคือ ความมโนของพระเอก เพราะว่าตัวเอกเลี่ยงหนีกลัวตายยังไง ตามฟิลเตอร์ของพี่แกก็มองว่าตัวเอกเราเรียบร้อยรู้สถานะตัวเอง พยายามทำตัวลีบเล็กเจียมเนื้อเจียมตัวเพราะกลัวตาย พระเอกและแม่พระเอกก็มองว่านางดีงามสวยนอกงามใน โถ.. ยิ่งประกอบกับความรู้สารพัดสารเพที่ติดตัวมาตั้งแต่โลกเดิม ก็ยิ่งดูสวยและฉลาดไปพร้อมกับอีก ดูเป็นแพ็คเกจพร้อมในตัว

ส่วนนางเอกน่ะเหรอ? สายมึนอย่างเดียว สถานะหลักคือหนีตาย ฉะนั้น ใครทำอะไรก็ไม่สนใจ สิ่งเดียวที่พร้อมยอมทำก็คือทำตัวมีประโยชน์เข้าไว้ พอมีคนเห็นประโยชน์ก็จะได้ฆ่าคุณเธอง่ายๆ ไม่ได้ แถมยังออกตัวเชียร์คุณนางเอกสุดใจอีก เพื่อให้พ้นพล็อตเดิม และเพื่อให้พระเอกนางเอกครองรักกันไกลๆ ตัวเองจะได้ปลอดภัย แต่กลายเป็นสิ่งที่ได้คือพระเอกปลื้มใจที่ตัวเอกเรามองในแง่ดี ประทับใจไปอีก และดังนั้น รู้ตัวอีกทีพระเอกก็อินทูน้องหนูเราไปแล้ว ส่วนคุณเธอเอง พระเอกมาจีบใหม่ๆ ยังไม่รู้เรื่องเลย เอาแต่กรีดร้องว่ามายุ่งกับฉันทำไมตลอดเวลา กว่าจะรู้ตัว เข้าใจความรู้สึกตัวเองก็นานโขข

ดังนั้น การพยายามเลี่ยงพล็อต 1. เอาพระเอกไปไกลๆ 2. ให้เขาได้รักกัน และ 3. ส่วนฉันจะหนีไปกับเพื่อนพระเอก ก็ไม่มีอะไรรุ่งสักอย่างเดียว กลายเป็น 1. พระเอกมาติดพัน 2. และเขาก็ไม่รักกัน เพราะพระเอกรักคุณเธอ และนางเอกก็ไปอยู่กับพระรองทั้งหลายแทน ส่วน 3. เพื่อนพระเอกมาหลงรักตัวเอกตอนหลังก็จริง แต่ก็ช้าไป ตัวเอกจริงจังไปกับพระเอกแล้วว

ช่วงแรกๆ รู้สึกว่ามีเอกลักษณ์นะ จุดเด่นคือขำขันกึ่งเสียดสี และความพล็อตเพี้ยน แต่พอมาถึง บทที่ 164 เริ่มจะดราม่า เพราะอีพระเอกรักตัวเอกก็จริง แต่ด้วยสังคมก็ตัดสัมพันธ์กับนางเอกที่เป็นคู่หมั้นไม่ได้ ก็เลยจะจัดงานแต่งงานกับนางเอกเพราะรู้ว่าพระรองฝั่งโน้นทนไม่ได้ออกมาพังงานแน่ แต่ที่เลวคือ ไม่ได้บอกตัวเอกด้วย ปล่อยให้คุณเธอสลดเศร้าจิตหลุดอยู่ตั้งแต่รู้เรื่อง แล้วก็มาพาลโกรธตัวเอกที่ไม่พอใจอีก ก็คุณมึงรู้เรื่องอยู่คนเดียว พูดเองเออเองแบบนี้ ใครจะไปรู้เรื่องด้วยล่ะ? ถึงขนาดงานแต่ง (บทที่ 182) ยังเชิญนางเอกไปนั่งดูงานเลย ไม่รู้จะด่ายังไง ฉากบรรยายความดราม่าที่นางเอกนั่งดูก็มาเป็นชุดอีก อีกนิดคงหัวใจสบายตายไปแล้ว

ช่วงอารมณ์ตรงนี้คิดไปถึง "เต้าหู้ไซซี" นะ เป็นอารมณ์ท่านอ๋องผู้ยิ่งใหญ่กับอนุต่ำต้อย ซึ่งเรื่องโน้น ถึงคนจะบอกไม่ชอบ แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่สะท้อนความเป็นจริงแบบไม่ดราม่านะ ท่านอ๋องได้กับหญิงสาวชาวบ้าน เอาเค้ามาเป็นเป็นอนุ แล้วเลี้ยงดูนี่ก็ถือว่าใจดีแล้ว แต่เรื่องนี้สิ มันมาตลก แต่ทำไมต้องไปออกโทนดราม่า ยิ่งอ่านยิ่งหงุดหงิด ยิ่งไปกว่านั้น หลังงานแต่งงานพังได้แล้ว ตัวเอกเราก็ท้องจริงอีก ยิ่งประกอบกับเรื่องก่อนแต่งงาน และความสับสนว่าจะอยู่หรือไปจากนิยาย ก็ยิ่งทำให้คุณเธอซึมเศร้า ... ซึ่งถึงตอนนี้ก็คงจะหยุดอ่านก่อน ยิ่งดูตอนใน Volare ต่อ เหมือนจะมีปัญหากระหน่ำซ้ำเติมเข้ามาอีก ทำไมคะ โทนล้าลามันหายไปไหนแล้ว? ดิฉันก็จะขอลา

ปล. ความขัดใจอีกอย่าง พระรองที่โผล่มารักตัวเอกและความดีงามของคุณเธอแต่ละคนช่างดี๊ดี และยิ่งพอดีแบบนี้ ยิ่งอยากจะสาบส่งอีพระเอกเข้าไปใหญ่ มีพระรองก็ได้ แต่เวลาดีกว่าพระเอกนี่มันช่างน่าขัดใจ เฮ้อออ ......



หนีไปเรื่องอื่นแล้วค่า