Tuesday, 20 July 2010

Darkness Calls by Marjorie M. Liu

ซื้อเล่มสองมาเพราะชอบเล่มหนึ่ง


ชนิด : Urban Fantasy/ Huntress/ Demon
ชุด : Hunter Kiss, Book /
สำนักพิมพ์ : Ace (Jun 30, 2009)
จำนวนหน้า : 320หน้า

จากความวุ่นวายเล่มที่แล้ว เล่มนี้เปิดฉากมาเหมือนจะปกติ ยกเว้นแต่ว่า มีคนจากโบสถ์มาตามหาตัว Grant คนรักของ Maxine และขอให้เขาเดินทางไปด้วยเพื่อช่วยเหลือคนที่เคยเป็นเพื่อนของ Grant ซึ่งแม้สถานการณ์จะอันตราย แต่ Grant ก็ไม่มีทางเลือก และตัว Maxine เองก็ต้องปล่อยให้ Grant ไป ในระหว่างนั้นเอง ปู่ของ Maxine ก็เตือนเธอถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับ Grant และเปิดมิติให้เธอเดินทางไปหา Grant ในอีกทวีป

หากแต่ Mr. King ก็ยังตามล่าตัว Maxine อยู่ และอันตรายที่ตามมาก็มีมากกว่าที่ทั้งคู่คาดคิดไว้มากนัก ทั้งหมดจึงต้องหนีการไล่ล่าไปเรื่อย ๆ

ย่อเรื่องได้แค่นี้ เพราะจำไม่ได้ และเพราะไม่รู้เรื่อง ในบรรดาหนังสือแนวนี้ที่อ่าน เล่มนี้เป็นความผิดหวังที่สุดเล่มหนึ่ง จากเล่มที่แล้ว ปมปัญหาที่เปิดไว้มหาศาลในเล่มที่แล้ว ไม่ได้ถูกตอบแม้แต่ข้อเดียว และที่สำคัญ ยังเพิ่มความสับสนใหม่ในเล่มนี้เข้าไปเสียด้วย ทุกคนในเล่มมีความเป็นมาที่ยิ่งใหญ่ และมีความสำคัญยิ่งใหญ่ แต่ไม่มีการพูดถึงว่าเป็นอะไร และเป็นมาอย่างไร ทำให้คนอ่านสงสัยและสับสนต่อไป ดังเช่น เราได้รู้อดีตเกี่ยวกับครอบครัวของ Maxine และความเกี่ยวข้องของเธอกับปู่แล้ว เล่มนี้ หนังสือยังพูดถึงต่อไปอีก ถึงความสำคัญของปู่ของเธอ ในฐานะที่ “เกือบจะ” เป็นเทพเจ้าในอดีต และเปิดประเด็นใหม่ ถึง Mary หญิงชราจรจัดที่ Grant ดูแลในเล่มที่แล้ว ว่าเป็นคนเลี้ยงดู Grant มาตั้งแต่เด็ก และเป็นคนซ่อนเขาไว้ในโลกมนุษย์ เพื่อจะหลีกหนีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่คนของ Grant เจอ ซึ่งทำให้ เขากลายเป็น คนสุดท้ายในตระกูล หรือ The last of his line อย่างที่หนังสือพูดถึงไปมา แต่ไม่บอกความสำคัญหรือนัยใด ๆ จากสิ่งนี้เลย นอกจากนี้ ยังพูดถึงเด็กจรจัดที่ Maxine และ Grant ดูแลว่าเป็นอะไรสักอย่างที่หลงลืมอดีตและที่มาของตัวเอง และต้องคอยหวาดกลัวอยู่เสมอ ฯลฯ

ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้น่าผิดหวังยิ่งขึ้นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้นก็คือ เล่มนี้ไม่มีอะไรนอกจากการหลบหลีการไล่ล่า/ ไล่ฆ่าของ Maxine และพวก ซึ่งเป็นการหนีไปเรื่อย ๆ และหอบหิ้วคณะทั้งหลายที่ได้กล่าวมาด้วย กลายเป็น the endless tiring chase of the vague nothingness เพราะนอกจากจะวิ่งไป หนีไปโดยที่ไม่รู้อะไรแล้ว การที่ต้อง “หอบหิ้ว” คนทั้งหมดไปด้วยก็ทำให้วุ่นวายและน่าเหนื่อยหน่ายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อฉากวิ่งวุ่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อ่านไปเมื่อปีที่แล้วพอดี และที่รีวิววันนี้ก็เพราะเห็นว่าเล่มใหม่ใกล้จะออกแล้ว แต่คิดว่าคงไม่อ่านต่อ เล่มนี้ให้คะแนนที่ D+ (คิดยากมาก เพราะไม่เคยให้คะแนนหนังสือต่ำขนาดนี้มาก่อน นอกจาก Night's Rose)

No comments:

Post a Comment