Wednesday 26 August 2009

Stolen by Kelley Armstrong

หลังจากอ่านเล่มแรกจบ ก็ไม่แปลกอะไรที่จะอ่านเล่มสองต่อ .. แม้ว่าจะเนิ่นมาบ้าง เพราะระยะเวลาสำหรับการสั่งหนังสือ และระยะเวลาที่เริ่มอ่านก็ตาม

ขอบคุณ คุณเมย์แห่ง Mostly Romance ที่แนะนำหนังสือชุดนี้ให้อ่านอีกครั้งค่ะ!




ชนิด : Urban Fantasy/ Werewolves/ Magic/ Action Thriller
ชุด : Women of the Otherworld, Book 2


สืบเนื่องจากเล่มที่แล้ว เมื่อ Elena ปรับทัศนคติกับโลกรอบตัวเธอและยอมรับตัวเองในฐานะมนุษย์หมาป่าได้อย่างเต็มใจแล้ว เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่อยู่กับฝูง และ Clayton คนรักของเธออย่างมีความสุขมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ความสุขสงบไม่ได้มีอยู่ตลอดเสมอไป เมื่อเธอได้รับการแจ้งข่าวจากแม่มดอย่าง Paige ว่ามีการลักพาตัวเหล่า “ผู้ไม่ใช่มนุษย์” เกิดขึ้นอย่างลับ ๆ และแม้ว่าเธอจะมองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งไกลตัว ซึ่งเธอและฝูงสามารถจัดการได้เองโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเผ่าพันธุ์อื่น หากอันตรายกลับอยู่ใกล้ตัว Elena มากกว่าที่เธอคิด เพราะเป้าหมายต่อไปของการลักพาตัวก็คือตัวเธอในฐานะมนุษย์หมาป่าสาวเพียงคนเดียวไป

และดังนั้น เมื่อถูกจับตัวไป Elena จะต้องเดิมพันทุกอย่างในตัวที่มี – ทั้งไหวพริบ สติปัญญา กำลัง - เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดออกมาให้ได้

หนังสือเล่มที่สองในชุดมีการเริ่มต้นที่ดี แม้ว่าจะช้าไปบ้างในช่วงหนึ่งส่วนสามเล่มแรก แต่ว่าหลังจากนั้น การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างฉับไว รวดเร็ว และทันเกมมากขึ้น การที่ Elena เป็นคนเล่าเรื่องเหมือนเดิม หลังจากการอ่านเล่มหนึ่งก็ทำให้ผู้อ่านมีพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับตัวละคร และตามเรื่องต่อไปได้โดยที่ไม่ต้องทำความรู้จักกับตัวละครอีก และในทางกลับกัน สิ่งที่ได้อ่านต่อไปก็ทำให้เข้าใจตัวละครในเชิงลึกมากขึ้น โดยที่คาดหวังและคาดเดาสิ่งที่จะเกิดได้ และจุดเด่นของ Kelley ที่ศึกษาด้านจิตวิทยามาก็ยังคงเด่นชัดและเป็นประโยชน์อย่างสูง เพราะทำให้สร้างภาพตัวละคร ทัศนคติ ความคาดหวัง ตลอดไปจนถึงแรงจูงใจ และวิธีคิดมีน้ำหนัก และมีมิติอย่างมาก ซึ่งนอกเหนือไปจากตัวเอกแล้ว ตัวละครอื่นก็ถูกสร้างภาพมาอย่างลึกเช่นกัน และทำให้เรื่องนี้สนุก และสมจริง

ชอบภาษาที่ใช้ในเรื่องและอารมณ์ขันที่ใส่เข้าไป ภาษาที่บรรยายไม่ใช่แค่การบรรยาย แต่การเลือกใช้คำทำให้สื่อถึงตัวละครนั้น ๆ ในฐานะคนเล่าเรื่องและถ่ายทอดบุคลิกลักษณะและวิธีคิดของตัวละครแต่ละตัวขึ้นมาอย่างชัดเจน และขับเน้นให้ตัวละครเหล่านั้นโดดเด่นมากขึ้น ซึ่งสำหรับเล่มนี้จุดที่จำได้มากที่สุด (เมื่อพิมพ์ถึงตรงนี้ โดยที่ไม่เปิดหนังสือประกอบ) ก็คือ ฉากที่ตัวละครอื่นทำให้พาหนะของเหล่าคนร้ายใช้การไม่ได้ โดยที่เธอและ Clayton ได้แต่ยืนดูเฉย ๆ โดยที่ไม่เข้าใจและไม่อาจมีส่วนร่วมได้ และการใช้คำและการบรรยายความก็ทำให้เรารู้สึกถึงความไม่รู้และงุนงงของ Elena ได้จริง ๆ

พูดถึงตัวละครหลัก เล่มที่แล้ว ทัศนคติและมุมมองโลกของ Elena ค่อนข้างกราดเกรี้ยว โดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้า และเป็นเรื่องของ Clay แต่เล่มนี้หลังจากเข้าใจตัวเองและเข้าใจโลกรอบตัวแล้ว ความรู้สึกเหล่านี้หายไป เธอเปิดใจมากขึ้น (แม้ว่าจะไม่เปิดใจอย่างที่ควรเป็นที่จะรับรู้การมีอยู่ของเผ่าพันธุ์อื่น และการรับรู้สถานการณ์ตรงหน้าที่ทำให้เธอถูกจับตัวในที่สุดก็ตาม) และก็ซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเอง ในเรื่อง Clay มากขึ้น และดังนั้นก็ทำให้ชอบเธอได้มากขึ้น และคาดหวังกับเธอในเล่มนี้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในฐานะ damn-hard-ass-kicking touch bitch ที่พร้อมจะสู้รบฆ่าฟัน –โดยไม่มีขีดจำกัดหรือข้อกำหนดใด ๆ - กับใครก็ตามที่ดาหน้าเข้ามา (และก็ชอบเธอในฐานะ realist มากกว่า Paige ที่ไร้เดียงสาไปจนถึงขึ้นซื่อด้วย)

รู้สึก”ป่วยใจ”อยู่บ้างที่อ่านเจอการลักพาตัวสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่นมาเพื่อทดลอง และใช้ชีวิตคนอื่นเพื่อเล่นสนุกส่วนตัว แต่เมื่อ Elena ถูกจับตัวมา และถูกปฏิบัติไม่ดี การที่ได้อ่านและรู้สึกเธอมาจากเล่มหนึ่งทำให้อ่านต่อไปได้อย่างสนุก อย่างแรกเพราะรู้ว่าเธอมีไหวพริบ และกำลังพอที่จะหาทางออกให้กับเหตุการณ์ที่เธอต้องเผชิญหน้า โดยเฉพาะกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าทั้งหลายที่หากเธอแก้เกมด้วยสติปัญญาไม่ทันก็หมายถึงชีวิตของเธอเอง และอย่างที่สองที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ รู้ว่าในระดับหนึ่งเธอเป็นคนที่ไม่ยอมให้คนอื่นมาข่มเหงเธอฝ่ายเดียว หากแต่จะตอบกลับเป็นร้อยเท่า และดังนั้น เหตุการณ์หลายอย่างก็เสมือนความรู้สึกเป่าลมเพิ่มใส่ลูกโป่งเพื่อรอเวลาที่ลูกโป่งจะระเบิด – หรือรอเวลาที่ Elena จะโต้กลับ (จะว่าไปก็เป็นความรู้สึก slow build ในด้านความเจ้าคิดเจ้าแค้นแทนของคนอ่านก็ว่าได้) ซึ่งก็หมายถึงว่าอวสานกลุ่มคนร้ายที่คลุ้มคลั่งและเห็นแก่ตัวกำลังจะมา และมาถึงอย่างสาสม และรุนแรงเสียด้วย

อย่างไรก็ตาม ต้องสารภาพว่าเรื่องนี้ได้คะแนนเต็มในฐานะ Action Thriller มากกว่าจะเป็นไปในฐานะ Urban Fantasy เพราะอ่านไประแวงไป และลุ้นไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และตัว Elena เองจะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์นั้น ๆ อย่างไร และก็ทำให้ต้องอ่านไปหยุดไป เพราะเกิดความรู้สึกระแวงเหมือนเดินอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา (เรียกว่า Edgy น่าจะตรงที่สุด) จริง ๆ แล้วตัวหนังสือ(น่าจะ) ไม่ได้โฆษณาตัวเองในฐานะ Action Thriller แต่กลับทำได้ดีกว่าหนังสือหลาย ๆ เล่ม และถือเป็นหนังสือแนวดีที่ดีมากเล่มหนึ่ง เมื่ออ่านจบทำให้คิดถึงเรื่อง Black Magic Woman เพราะนี่เป็นสิ่งที่ BMW พยายามทำและสัญญาว่าจะทำ แต่กลับไปไม่ได้และไปไม่ถึง

ให้คะแนนที่ B+ ถูกหักคะแนนไปเพราะการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างช้าในตอนแรก (เป็นจุดร่วมของหนังสือในชุดที่พบทั้ง 4 เล่ม ณ ขณะนี้ – จริง ๆ แล้วการดำเนินเรื่องช้าเพื่อปูเรื่องเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้พื้นแน่น สมจริง และให้คนอ่านมีอารมณ์และความเข้าใจตามเนื้อเรื่องที่จะเกิดไปได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ แต่ปัญหาของคนอ่านเรื่องมากและใจร้อนก็คือ ทนรออ่านให้เกิดการเผชิญหน้าดุเดือด และฉากบู๊ล้างผลาญไม่ไหว ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นปัญหาส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับหนังสือแม้แต่น้อย) สรุปให้ว่า “She bites, and bites hard!”

น่าจะวิจารณ์ได้มากกว่านี้ แต่ได้แค่นี้ เพราะหาประเด็นจิตวิทยา และความสับสนทางจิต (ของคนวิจารณ์) ไม่เจอ

อย่างไรก็ตาม ได้เพลงที่เข้ากันกับ Elena อย่างยิ่ง นั่นก็คือ Bite You ของ Lene

Just cuz I push things fast
That don't mean you can tap that ass
Here comes the prechorus
This is how I do it

Just cuz I like don't mean I won't bite you

Just cuz I buy nice clothes
That don't mean you can wear me out
Just cuz u rub my back
Don't mean I wanna hit it right now
And just cuz I wear high heels
That don't mean this girl for sale
Here comes the prechorus
This is how I do it

8 comments:

  1. เห็นด้วยกับประเด็นที่ว่าหนังสือของ KA เปิดเรื่องช้า บางเล่มอ่านไปครึ่งเรื่องยังรู้สึกว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะตัวละคร (คนเล่าเรื่อง) มีความน่าสนใจ เมย์คงเลิกอ่านไปแล้วล่ะ แต่พอขึ้นครึ่งเล่มหลังหนังสือจะสนุกขึ้นมาก ๆ มันเหมือนพล็อตทุกอย่างที่ทิ้งไว้ตรงนู้นบ้างตรงนี้บ้างเริ่มมาประกอบกัน คลิกเข้าที่ แล้วก็บูม

    อยากชวนคุณมิ้งไปเป็น Guest Blogger ที่ Mostly Romance หน่อยค่ะ เขียนเรื่อง Urban Fantasy ว่ามันคืออะไร รวมทั้งแนะนำนักเขียน UF for beginner

    ReplyDelete
  2. จริงค่ะ ปูเรื่องช้ามาก แต่อ่านอยู่ได้เพราะตัวละครน่าสนใจ

    ตอนนี้อ่านไปสี่เล่ม ไม่รู้คิดไปเองไหมว่า ถ้าแบ่งเป็น สองชุด (ชุดเอเลน่ากับเพจ)
    เล่มแรกของชุด (เล่มแรกกับเล่มสาม) เหมือนพยายามปูพื้นที่มาที่ไปของตัวละคร
    เลยยิ่งช้าเป็นพิเศษ ยิ่งเล่มสามยิ่งแล้วใหญ่
    ไม่แน่ใจไปเองไหมว่าเล่มสี่ดีขึ้นมาก เพราะทำให้ติดหนึบได้ตั้งแต่ยังไม่ถึงหนึ่งส่วนสามเล่ม

    แต่ตอนนี้อยากอ่าน haunted จังค่ะ ดูจากบุคลิกตัวละครแล้ว ท่าทางเล่มนี้จะสนุก
    ส่วนตัวนอกจาก Men of the Otherworld คุณเมย์ชอบเล่มไหนมากที่สุดเหรอคะ

    เป็น Guest Blogger ได้ไม่มีปัญหาค่ะ ถือว่าเป็นเกียรติเสียด้วยซ้ำ
    แต่ว่าสารภาพตามจริง คิดว่าอ่านแนวนี้น้อยกว่าคุณเมย์อีกนะคะ
    กับเรื่องหลัก ๆ หลาย ๆ เรื่องอย่าง Anita Blake/ Vampire Huntress ก็ไม่ได้อ่าน

    ตอนนี้กำลังคิดว่าเรื่องที่ควรเป็น UF for beginner คืออะไรค่ะ!!!!!

    ReplyDelete
  3. หนังสือของ KA จะเขียนเป็นคู่ ๆ (ตัวคนเล่าเรื่อง) และเกือบทุกกรณีจะชอบเล่มหลังมากกว่าเล่มแรกเสมอ อย่างเรื่องของเพจเนี่ย ชอบ Industrial Magic มากกว่า Dime Store Magic มาก (มาก ๆ) จะมียกเว้นก็ตรงที่ชอบ Bitten มากกว่า Stolen แต่ก็เป็นเพราะเวลาในเรื่องส่วนใหญ่เอเลน่าไม่ได้อยู่กะเคลย์ (แต่ยอมรับว่า เนื้อเรื่องใน Stolen น่าติดตามกว่ามาก)

    ในชุดนี้นอกจาก Men of the otherworld แล้วลังเลระหว่างสองเรื่องค่ะ คือ Industrial Magic/Personal Demon เพราะชอบ interaction ระหว่างลูคัสและพ่อของเขา และทางเลือกของลูคัสต่ออนาคตของคาบาล กับเรื่อง No Human Involved เพราะตั้งต้นเรื่องไม่ชอบเจมี่เอามาก ๆ แต่พอได้อ่าน NHI แล้วเปลี่ยนใจเราได้ ที่สำคัญอยากอ่านเรื่องที่โฟกัสตรงเจรามี่ด้วยล่ะค่ะ

    เป็นคนที่แปลกตรงที่ชุดนี้คนเล่าเรื่องเป็นตัวละครผู้หญิงหมด แต่ชอบตัุวละครฝ่ายชายในเรื่องเอามาก ๆ คิดว่า KA เป็นนักเขียนเรื่องสะท้อนนิสัยผู้ชายได้ดีค่ะ (และเป็นเรื่องที่แนะนำให้เพื่อนผู้ชายอ่านแล้วได้ผลมากที่สุดด้วย)

    ขอบคุณสำหรับการเป็น GB จะรอคอยบทความค่ะ เขียนตามสบายเลยนะคะ อยากให้คุณมิ้งเป็นคนเขียน เพราะคุณเป็นคนที่ลึกมาก (ไม่ได้ชมกันเองนะคะ แต่ชอบการวิเคราะห์ของคุณมาก อ่านแล้วรู้สึกเป็นอะไรที่ยกระดับไปอีกขั้นนึง)

    ที่พูดว่า UF for beginner ไม่ได้มีอะไรมากหรอกค่ะ คือเมย์ได้คำถามมาเยอะว่า UF คืออะไร ซึ่งเราคิดว่า ตัวเองตอบคำถามได้ไม่ดีพอ รู้น่ะรู้นะคะ แต่ตอบไม่ได้ เชื่อมั่นคุณมิ้งมากว่าต้องมีคำถามดี ๆ และลึกซึ้งแน่นอน (ไม่ได้กดดันนะคะ)

    ReplyDelete
  4. ในบรรดาที่อ่านรู้สึกว่าชอบ Industrial Magic ที่สุด เพราะว่าเปิดเรื่องค่อนข้างไวและกระฉับกว่าเรื่องอื่น
    แต่โอยย กว่าจะได้อ่าน Personal Demon ต้องรอสั่งหนังสือ KA ล็อตใหม่อีก
    แต่ซื้อ Personal Demon ได้มาแล้ว ควรอดเปรี้ยวไว้กินหวาน รออ่านไปทีละเล่ม ๆ ตามลำดับดีกว่าไหมคะ

    ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงระดมสมอง/ ระดมความคิด คุณเมย์ไม่มีกำหนดเวลาใช่ไหมคะ
    จะได้ขอทำการบ้าน (ฟังดูดี ถึงเวลาจริง ๆ ไม่ได้ทำแน่ ๆ ) อีกสักพัก
    รออีกสักพักนะคะ :D D:

    ReplyDelete
  5. ใช้เวลาตามสบายค่ะ ไม่ได้รีบอะไร (แค่รออ่าน :?

    อ่านเรียงลำดับไปดีกว่าค่ะ คิดว่า อาจจะยกเว้นแค่ Haunted ที่ดูจะไม่เกี่ยวกับใครมากนัำก ดูตัวคนเล่าเรื่องก็น่าจะพอนึกออกนะคะ

    เมย์กำลังคิดจะเอาชุดนี้มาอ่านอีกรอบ เฉพาะเรื่องในมุมมองของเอเลน่า เพราะเรื่อง Frostbitten กำลังจะออกค่ะ

    นั่งอ่านเรื่อง Hunting Ground อยู่ ไม่รู้ว่าคุณมิ้งคิดยังไง พรุ่งนี้เมย์คงจะลงรีวิวค่ะ

    ReplyDelete
  6. จริง ๆ อ่าน Hunting Ground จบก่อน Stolen อีกนะคะ
    (ประมาณว่าวันที่เจอกันเอามาอ่านจนจบเลย ขณะที่เล่มหลังอ่านก็บไปเรื่อย ๆ วันละนิดละหน่อย)
    แต่ทำไมยัไงม่เขียนรีวิวก็ไม่รู้เหมือนกัน
    โอยย ต้องรีบเขียนแล้วสิคะ จะได้ไปอ่ารีวิวคุณเมย์ได้

    รออ่านเหมือนกันค่ะ
    ปล. หลัก ๆ ที่คิด คือรู้สึกว่าชุดนี้เริ่มไปทาง PR มากกว่า UF ชอบกลค่ะ
    กับรำคาญชาร์ลบ้างนิดหน่อย ...
    จะเริ่มเขียนเร็ววันนะคะ

    ReplyDelete
  7. เรื่องรีวิวนี่ไม่ใช่อะไรหรอกนะคะ แต่หลังจากหลายปีที่อ่นหนังสือมา ก็พบว่าตัวเอง ถ้าไม่เขียนรีวิวเอาไว้ ก็จะลืมเรื่องราวซะเป็นส่วนใหญ่ (ยกเว้นเรื่องที่รักมาก หรือเกลียดมาก) ตอนนี้ก็เลยอาศัยรีวิวของตัวเองเป็นเครื่องเตือนความทรงจำเวลานึกไม่ออกว่า อ่านเล่มนั้นเล่มนี้รึยัง

    ReplyDelete
  8. เหมือนกันเลยค่ะ ขนาดยังอ่านไนังสือมากไม่เท่าคุณเมย์นะคะเนี่ย
    เล่มที่ไม่เชื่อว่าจำไม่ได้สุด ๆ ได้แค่พล็อตหลักประโยคเดียวก็เยอะ

    ยังอยู่ในระหว่างรวบรวมความคิด/ ระดมสมอง - อีกสักพักแน่ ๆ เลยค่ะ

    ReplyDelete