คนเขียน: 리누
แนว: โลกไกด์-เอสเปอร์, ability, การเมือง, ละมุน, ตัวเอกซื่อ
ความสัมพันธ์: ไกด์ X เอสเปอร์
จำนวนตอน: 139 (ยังไม่จบ)
Kim Lee Kang เป็นเอสเปอร์ telekinesis ระดับสูงสุดในประเทศ และถูกกองทัพใช้เป็นเครื่องมือทำสงครามมาตลอดตั้งแต่ความสามารถปรากฎ เพื่อไม่ให้ใช้พลังจน runaway ก็ต้องมีการหาไกด์ที่เข้ากันได้กับ Lee Kang มา ดังนั้น Jung Lee Hyun นักธุรกิจและลูกชายกลุ่มบริษัทใหญ่ก็ถูกรัฐบาลบังคับมาอยู่ที่ค่ายทหารด้วย
เปิดเรื่องมาจะเป็นตอนที่ Lee Kang ออกไปรบและใช้พลังตัวเองอย่างจริงจังเสมอ เพราะรู้สึกว่าเพราะตัวเองทำให้ Lee Hyun ซึ่งควรจะอยู่อย่างสงบสุข และสะดวกสบายในสังคมปกติต้องมาลำบากกับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นการทำสงครามใหญ่เต็มรูปแบบ ไกด์ที่เข้าคู่ดูแลเอสเปอร์ได้ถูกรัฐบาลและกองทัพจับมาดูแลเอสเปอร์โดยที่ไม่ได้เต็มใจ โดยที่รัฐบาลให้ยานอนหลับ/สลบเหล่าไกด์ให้หลับตลอดเวลา จะได้ไม่ก่อปัญหา และเป็นเครื่องมือดูแลเอสเปอร์อย่างเดียว
และ Lee Kang ก็หวังทุกครั้งว่าจะให้สงครามจบ และ Lee Hyun กลับไปมีชีวิตปกติได้สักวัน
เมื่อสงครามจบ แน่นอนว่าเหล่าไกด์ที่ถูกบังคับมาทั้งโกรธและเกลียดคู่เอสเปอร์ของตัวทั้งสิ้น แต่ยกเว้น Lee Hyun และหลังแยกย้ายกันกลับไปสู่สังคมเดิม ตัว Lee Kang ที่เชื่อว่าตัวเองเป็นสัตว์ประหลาดและเป็นเครื่องมือทำสงครามก็พร้อมจะตายเงียบๆ คนเดียว เมื่อถึงวันที่ควบคุมพลังไม่ได้
แต่ว่า Lee Hyun ไม่ยอมให้เกิดเช่นนั้นแน่ และกระบวนการหลอกล่อเอสเปอร์ใสซื่อ/ซื่อบื้อก็เริ่มขึ้น
.
.
ต้องขอเรียกว่าเอสเปอร์ซื่อบื้อจริงๆ เพราะตั้งแต่เริ่มโตและถูกสั่งให้ไปรบ ตัว Lee Kang ก็ทำทุกอย่างที่ถูกสั่งโดยที่ไม่มีเงื่อนไข และไม่เคยเรียนรู้สภาพสังคมพลเรือน (หรือประชาชน /คนปกติ) เลย ดังนั้น สามัญสำนึกที่ควรจะมีก็ตกหล่นไปอย่างน่าสงสาร และเมื่อ Lee Hyun ให้มาอยู่ด้วยกัน ก็เกรงใจไปทุกอย่าง เด๋อด๋า และเงอะงะ เพราะไม่เข้าใจว่าทั้งที่ตัวเองก่อปัญหาให้ Lee Hyun ขนาดนั้น ทำไมตัว Lee Hyun ถึงยังใจดี และทำดีกับตัวเอง โดยที่ไม่รู้ว่าตัว Lee Hyun ก็ชอบ Lee Kang และมีความรู้สึกเกินกว่าไกด์กับเอสเปอร์ไปมากโข
เพราะหลังจากแยกจากไป เมื่อ Lee Hyun กลับมามีชีวิตของตัวเองเหมือนเดิม ก็เตรียมข้าวของเพื่อให้ Lee Kang มาอยู่ด้วยกันอย่างจริงจัง ถึงขั้นที่ซื้อเก้าอี้นวดสำหรับเอสเปอร์ราคาแพงจับใจมารอไว้ในห้องนั่งเล่นที่บ้านแล้วด้วยซ้ำ น่ารักที่ Lee Hyun อยากให้ชีวิตปกติกับ Lee Kang ซึ่งไม่อาจจะอยู่เอาตัวรอดเองในสังคมได้เลย ทุกเช้าก็ทำอาหารเช้าให้ Lee Kang ที่จะมานั่งลุ้นตาแป๋ว ทั้งรู้สึกปลื้มที่อีกฝ่ายเก่งขนาดทำกับข้าวได้ และก็ทั้งรู้สึกสลดที่ตัวเองทำอะไรไม่เป็นเลย
หลังจากนั้น สิ่งที่ Lee Hyun ทำหลังจาก Lee Kang เข้าที่กับสภาพแวดล้อมใหม่แล้วก็คือจับเอสเปอร์ที่เป็นวีรบุรุษสงครามของประเทศมาเรียนหนังสือ ... เพราะว่าต้องไปเข้ากองทัพตั้งแต่ยังไม่จบ ม. ต้น เมื่อต้องกลับมาเรียน ตัว Lee Kang ก็ไม่อยากเรียน แต่เพราะขัดหน้ายิ้มใจดีของไกด์ตัวเองไม่ได้ Lee Kang ก็อ้างโน่นอ้างนี่ไป จนถึงขั้นอ้างว่าอยากได้โต๊ะหนังสือแบบเดียวกับ Lee Hyun ด้วยซ้ำ เพราะรู้ว่าเป็นโต๊ะสั่งทำ ต้องใช้ไม้นำเข้า คิดว่าจะถ่วงเวลาเรียนไปได้สักครึ่งปี แต่เอาเข้าจริง Lee Hyun สั่งโต๊ะให้ แต่ก็บังคับ Lee Kang ให้เรียนหนังสือด้วยโต๊ะที่บ้านไปก่อนอยู่ดี
อยู่กันไปเรื่อยๆ ตัว Lee Kang ก็ติด Lee Hyun ไปเหมือนกัน เพราะเป็นทั้งไกด์ของตัวเอง และก็เป็นคนที่สองในโลกที่ Lee Kang สนิทด้วยนอกเหนือไปจากหัวหน้าศูนย์วิจัยเอสเปอร์อีกคน เวลา Lee Hyun ไปทำงาน ก็จะนั่งเรียนหนังสือทำแบบฝึกหัดไป และหลายครั้งก็เป็นออกแนวลูกหมานั่งรอเจ้าของกลับบ้าน ที่จะนั่งเหงารอให้อีกคนกลับบ้านมาตอนเย็นเสียที
เรื่องมาจากมุมมอง Lee Kang ที่เล่าเรื่องเป็นหลัก แต่ด้วยความที่เจ้าตัวมีพลังอ่านใจด้วย หลายครั้งถ้าความรู้สึกของ Lee Hyun รุนแรงมาก ก็จะได้ยินเสียงความคิดของ Lee Hyun มาเป็นครั้งคราว ซึ่งก็มีตั้งแต่เอ็นดู ขบขัน ระอาใจ รวมไปถึงแอบแกล้งหน้านิ่งในช่วงหลังด้วยกัน และถึงแม้ว่าตัว Lee Kang จะไม่เข้าใจนัยที่สั่งผ่านมา แต่สำหรับคนอ่านก็คือชัดมากว่ารู้สึกอย่างไร
ไม่นับการที่พี่ Lee Hyun หว่านเงินบริจาคจำนวนมากและซื้อเครื่องมือทดสอบพลังเอสเปอร์รุ่นล่าสุดแพงสุดให้กับศูนย์วิจัยเอสเปอร์เพื่อเอสเปอร์สุดที่รักตัวเองอีกต่างหาก — โดยที่ทั้งหมด Lee Kang ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย แค่คิดไปว่า “เขา” (อย่างที่ Lee Kang เรียกผ่านมุมมองตัวเอง) แสนดีและใจกว้างเหลือเกิน
แต่ที่น่ารักก็คือ มุมมองที่ทุกคนมีต่อ Lee Kang ดีมาก จากที่รัฐบาลพยายามดันเอสเปอร์แถวหน้าให้กลายเป็นภาพลักษณ์ของกองทัพในฐานะวีรบุรุษสงครามที่ช่วยเหลือ/ กอบกู้ประเทศ และระหว่างสัมภาษณ์ Lee Kang ก็ย่องไปช่วยเหลือเด็กที่กำลังจะถูกรถชนอีก ที่สำคัญก็คือเจ้าตัวคิดว่าไปเงียบๆ ไม่มีใครรู้เห็น แต่จริงๆ คืออยู่ในช่วงถ่ายทอด รับรู้กันไปทั้งประเทศ ถึงขั้นที่มีเพจและแฟนคลับคนรัก Lee Kang ขึ้นมา (ซึ่งก็แน่นอนว่าเจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวใดๆ เลย) และหลังจากนั้น Lee Kang ที่อยู่บ้านเฉยๆ ก็แอบออกไปช่วยทั้งคนและทั้งเอสเปอร์ที่กำลังจะ runaway จนกลายเป็นที่รักของชาวบ้านร้านตลาด โดยที่เจ้าตัวคิดว่าปลอมตัวไปแนบเนียนแล้ว (ซึ่งก็คือทุกคนรู้กันหมด แต่พยายามทำเป็นไม่รู้)
แต่เพราะความเป็นวีรบุรุษสงคราม กองทัพก็พยายามใช้ประโยชน์จากภาพลักษณ์ที่ดีของเจ้าตัว ทั้งสร้างภาพให้กองทัพ และสร้างความชอบธรรมหน่วยงานเอสเปอร์ที่กำลังจะจัดตั้งใหม่ ฉวยโอกาสเอาเรื่องที่ Lee Kang ไปช่วยคนอื่นมาเป็นว่าเป็นคำสั่งของกองทัพ ซึ่งขณะเดียวกัน Lee Hyun ที่สนใจผลประโยชน์และความต้องการของ Lee Kang ที่สุดก็พยายามหาทางยื่นเรื่องให้เอสเปอร์ตัวเองเกษียณจากกองทัพมาเป็นพลเรือนเต็มร้อยให้ได้ แทนที่จะเป็นกึ่งปลดประจำการ แต่ยังมีหน้าที่ผูกมัดอยู่กับกองทัพอย่างที่เป็น
และเมื่อดำเนินเรื่องสำเร็จ ก็จัดการให้ Lee Kang มาอยู่ในทีมเลขา/ทำงานตัวเอง
ชอบที่อีกครั้งที่เลขาอีกคนกำลังสอนงาน ระหว่างนั่งอยู่ในร้านกาแฟ พลังจิตอ่านใจได้ก็ทำให้รู้ว่าคู่รักตรงหน้ามีปัญหา เพราะผู้ชายแต่งงานแล้ว แต่พยายามหลอกเอาเงินจากแฟนอีกคนอยู่ และที่ไม่รับผิดชอบก็คือลูกตัวเองกำลังป่วยหนัก .... Lee Kang ที่ทนไม่ได้ ก็ออกมาพูดความจริง และพอฝ่ายชายออกอาการอาละวาดและคุกคามทั้งตัว Lee Kang และแฟน (ที่เลิกกันทันทีหลังรู้เรื่อง) เจ้าตัวก็ใช้พลังจนผู้ชายผลุนผลันหายออกจากร้านไป และเพราะรู้ว่าตัวผู้ชายยังดักรออยู่ ก็รอเป็นเพื่อนผู้หญิงที่ไม่กล้าอยู่คนเดียวจนกว่าพ่อผู้หญิงจะมารับด้วย — และเหตุการณ์ที่เหมือนจะธรรมดาก็ไม่ธรรมดา เพราะคุณพ่อที่มารับพร้อมกองทัพบอดี้การ์ดเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่เกลียดเอสเปอร์มาก และพอจะให้เงินตอบแทน Lee Kang ก็บอกว่าได้รับของตอบแทนมาแล้ว นั่นก็คือเหล่าเค้กที่ลูกสาวซื้อมาให้ระหว่างนั่งรอด้วยกัน ท่านวุฒิสภานิ่งไปเพราะจานเค้กเต้มโต๊ะ หากกลายเป็นว่าทัศคติที่มีต่อเอสเปอร์กลายเป็นบวกไปหลังจากนั้น
ตอนต่อมา Lee Hyun ไปหาพ่อตัวเองที่โรงพยาบาลและพา Lee Kang ไปด้วย ซึ่งตัว Lee Kang ก็กลัวและกังวลมากว่าทัศนคติของคนเป็นพ่อที่มีต่อเอสเปอร์ที่ทำให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนตัวเองต้องไปทรมานอยู่ในกองทัพจะเป็นลบ และก็เป็นลบอย่างมากจริงๆ ทั้งกับพ่อและเหล่าคนทำงานของพ่อหลังจาก Lee Hyun แนะนำว่านี่คือเอสเปอร์ของตัวเอง บรรยากาศตึงเครียดกดดัน จนกระทั่ง Lee Kang เผลอใช้พลังเข้า และพ่อที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดก็เริ่มเห็นข้อดีของการมีเอสเปอร์อยู่ใกล้ตัว กับพอเห็นปฎิสัมพันธ์ของสองคนและท่าทีที่ Lee Kang เป็น ก็เริ่มเลิกมองลบกับ Lee Kang ไป
แต่เรื่องนี้ต่างจากเรื่องเอสเปอร์ไกด์อื่นๆ ที่เน้นการสู้กับสัตว์ประหลาดทั้งจากเกท หรือดันเจี้ยนใดๆ เพราะเน้นที่การสู้รบกับคนด้วยกันเอง หลังจากที่จบสงครามก็เป็นแนวสู้ทางการเมืองและสังคมด้วยเหมือนกัน ตามชื่อเรื่อง ตามความรู้สึกของ Lee Kang ที่ว่า “สงครามจบแล้ว” แต่จริงๆ ก็ยังไม่จบ หลังประเด็นเอสเปอร์และการจัดการเอสเปอร์กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคม มีทั้งคนที่มองว่าเอสเปอร์เป็นสัตว์ประหลาดอันตรายที่ควรจะถูกควบคุม แล้วก็มีทั้งคนที่มองเห็นพลังของเอสเปอร์แล้วอยากเอามาใช้งาน และที่สำคัญ รัฐบาลและกองทัพเองก็ไม่ได้คิดที่จะปล่อยเหล่าเอสเปอร์ไปด้วย โดยที่ไม่มีใครคิดเลยว่าเอสเปอร์ก็เป็นเหยื่อถูกกระทำในช่วงสงครามเหมือนกัน การที่ถูกลากเข้ามามีส่วนร่วมในสงครามก็ทำให้เอสเปอร์จำนวนมากมีอาการ “combat fatigue” ที่สภาพจิตใจเสียหายจากการทำสงคราม และก็ไม่มีคนสนใจที่จะเยียวยาเอสเปอร์เหล่านี้เลย
และมุมมองของบ้าน Lee Kang ก็คือจะทำอย่างไรให้เอสเปอร์ไม่ต้องขึ้นอยู่กับกองทัพ แต่มีอิสระเลือกทางเดินของตัวเอง ขณะที่เป็นที่ยอมรับของสังคมด้วยได้
ชอบที่ Lee Kang ใสซื่อเหมือนผ้าขาว ที่ดีใจ เสียใจก็แสดงออกมาชัดเจนเหลือเกิน การที่ใครมาเห็นแล้วจะมองว่านี่คือเอสเปอร์ตัวร้ายก็มีความเป็นไปได้ที่ศูนย์ ไปอยู่กับทีมเลขา อยากทำตัวให้มีประโยชน์จนกระตือรือล้น ขนาดที่ใครถามอะไรก็ลุกขึ้นมาตอบคำถามจริงจัง พอเป็นน้องเล็กในทีม ดูเด็กและดูซื่อ ใครก็อดเอ็นดูไม่ได้ และอดให้ขนมลูกอมไม่ได้เหมือนกัน ขำที่พอได้ขนมมาก็จะคิดในใจว่าทำไมได้ลูกอมอีกแล้ว แต่ก็ฉีกกินตลอดเลยทุกครั้ง ได้หนังสือคู่มือเวิร์ดกลับที่บ้าน มีช็อตโกแลตติดมาก็แกะห่อกินเลยเหมือนกัน (และไม่รู้เลยว่าตัว Lee Hyun หวงตัวเองที่ไปเอาหนังสือคนอื่นมาดูขนาดไหน โพสต์อิทที่แนบมาด้วยถูกโยนทิ้งไปแล้ว แต่เพราะแกะห่อกินเลยช็อตโกแลตก็เลยรอด และเพราะบอกว่าเปิดหนังสือดูแค่ครั้งเดียวก็จำได้แล้ว ไม่จำเป็นที่ Lee Hyun ต้องเสียเงินซื้อหนังสือใหม่อีก หนังสือคู่มือก็เลยรอดถูกโยนลงถังขยะด้วย) หรือพอทีมเลขาของพ่อทดลองว่าใช้โปรแกรมคอมได้ไหม พอเวิร์ดไม่รู้เรื่อง เอ็กเซลใช้ไม่เป็น เจ้าตัวก็สลดโซเซกลับไปหา Lee Hyun เหมือนกัน ทำท่าหดหู่จน Lee Hyun ทั้งขำทั้งเอ็นดู
เรื่องนี้อ่านได้เรื่อยๆ เหมือน Lee Kang เล่าเรื่องชีวิตประจำวันของตัวเองให้ฟัง และหลายครั้งก็ขัดใจมากเพราะอยากเห็นมุมมองอีกฝ่ายเหลือเกิน โดยเฉพาะเมื่อ Lee Kang คิดทุกอย่างตามมุมมองของตัวเอง โดยที่ไม่ได้สงสัยหรือเข้าถึงใจ Lee Hyun เลย และที่สำคัญก็คือ Lee Hyun มีแนวโน้มเป็น black belly แอบแกล้ง Lee Kang ด้วยความเอ็นดูเป็นระยะๆ ด้วย
กับแปลกจากเรื่องอื่น เพราะส่วนใหญ่แนวตัวเอกที่มีความสามารถในนิยายเกาหลี (อย่างน้อยก็ที่อ่านเจอ) จะเป็นแนวรู้มาก เข้าใจโลก คิดเยอะเหมือนแมวเจ้าเล่ห์เป็นหลัก ขณะที่พระเอกจะเป็นหมาตัวใหญ่เอาใจตัวเอก (แม้ว่าจะเป็นต่อหน้า แต่จริงๆ อาจจะเป็นหมาจิ้งจอกร้ายลึกก็ได้ โดยเฉพาะพวกสายซึน ยัน ดาร์ก) แต่เห็นตัวเอกกับพระเอกสลับบทกันก็สนุกดี (:
ก็หวังให้สงครามจบ และ Lee Kang กับ Lee Hyun ได้ใช้ชีวิตสุขและสงบอย่างเต็มที่ หมดสงครามทุกรูปแบบไปนะคะ!!
ปล. หน้าปกคือสองคนแบบนี้มาก ถ้า Lee Kang เพ่งดีๆ ก็จะพบว่าคุณพี่ไกด์ใจดี (ในสายตาตัวเอง) อย่าง Lee Hyun หน้าตาร้ายเจ้าเล่ห์ขนาดไหน แต่เสียดายที่เจ้าตัวไม่เลยรู้เลย
--------------
เพิ่ม
290821
ตอน 96
Lee Kangg!! เด๋ออีกแล้วว เลิกครึ่งวัน เลยมาอยู่ที่คาเฟ่หมา แล้วพอ Lee Hyun ถามว่าอยู่ไหน ก็เลย ถ่ายรูปหมาส่งไปให้ดูด้วยความภูมิใจว่าถ้าทางนั้นเห็นรูปหมาน่ารักจะหายเหนื่อยยย แต่ความจริงคือว่า ถ่ายรูปเบลอมากก ตกขอบมากก กลายเป็นก้อนๆ ขาวๆ อะไรไปก็ไม่รู้ คือเจ้าของหมามาเห็นรูปก็อึ้งไป
.
.
ที่น่ารักคือ Lee Hyun ไม่ปล่อยให้เอสเปอร์ตัวเองรออยู่คนเดียวแน่ ในฐานะเจ้าของบริษัท ยังไม่เลิกก็กลับมาทำกับข้าวให้ Lee Kang ที่บ้านแล้ว (กลับมาถึงก่อน Lee Kang ที่ไปคาเฟ่หมามาแล้วด้วยเถอะ!)
No comments:
Post a Comment