Gu Huai คนเขียนสคริปต์ตายแล้วไปเกิดใหม่ ... โดยเกิดใหม่เป็นราชาของเหล่า Zerg — เอเลี่ยนต่างดาวที่ขึ้นชื่อในฐานะสิ่งมีชีวิตอำมหิต เลือดเย็นและสุดยอดนักรบอันดับต้นๆ ของจักรวาล
แต่นั่นก็เป็นเรื่องก่อนจะมี Zerg King เพราะสัญชาติญาณของเหล่า Zerg ทั้งหลายมีอยู่อย่างเดียว ก็คือรับใช้ราชา และทำให้ องค์ราชาพอใจ ฉะนั้น วินาทีแรกที่ Gu Huai รู้สึกตัว และลืมตาตื่นขึ้นมา ก็บังเอิญเชื่อมต่อทางโทรจิตกับเหล่า Zerg ทั้งเผ่าพันธุ์เสียแล้ว และก็ตามมาด้วยความจ้าละหวั่นของเหล่า Zerg ที่จะต้องตามหาองค์ราชาให้เจอ และตามไปรับใช้ให้ได้
โดยที่กลุ่มแรกที่เจอองค์ราชา ก็คือ Alves หัวหน้ากองทัพที่หนึ่ง Zerg ระดับสูงที่โมโหหงุดหงิดกับสิ่งรอบตัวถึงขั้นที่ต้องเอาผ้าผูกปิดตาเอาไว้เพื่อกันสิ่งเร้าต่างๆ ที่จะเห็น เพื่อไม่ใช่สภาพรอบตัวมีอิทธิพลกับสภาพอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง เมื่อ เหล่า Zerg ที่ยอมรับที่องค์ราชาถือกำเนิดมาในดวงดาวชายขอบห่างไกลความเจริญไม่ได้ ทุกคนก็ลงความเห็นกันว่าจะอัญเชิญราชาที่เคารพไปอยู่ที่ดาว Tuser อันเป็นที่ตั้งของกองทัพที่หนึ่ง
อันที่จริง เหล่า Zerg ไม่ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่แบ่งเป็น 4 เหล่าตามกองทัพที่ Zerg ระดับสูงต่างสายพันธุ์เป็นหัวหน้า แต่เมื่อราชาถือกำเนิดมาแล้ว สิ่งหล่อหลอมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของเผ่าพันธุ์ก็เกิดขึ้น!!
ซึ่งทั้งหมด ก็ตามมาด้วยการที่เหล่า Zerg เลือดเย็นโอ๋ โอ๋ และโอ๋องค์ราชาแบบกู่ไม่กลับ! ความน่ารักมากๆ อยู่ที่พอ Gu Huai มาอยู่ที่ดาวแล้ว มีการประกวดสิ่งมีชีวิตที่น่ารักที่สุดในจักรวาลประจำปีขึ้นมาพอดี และเมื่อเหล่า Zerg รักและเทิดทูนบูชาองค์ราชาเสียขนาด ความจำเป็นเร่งด่วนก็คือช่วยกันโหวตให้เป็นที่หนึ่ง กลายมาเป็นวาระแห่งชาติที่เหล่าผู้นำจะต้องมาประชุมกันอย่างเคร่งเครียดเพื่อแย่งที่หนึ่งมาจากแมวเก้าหางแชมป์เก่าหลายสมัยให้ได้ และที่น่ารักปนน่าอ่อนใจก็คือ Gu Huai กำลังติดต่อหัวหน้ากองทัพที่สามและสี่พอดี และเมื่อทิ้งรายละเอียดให้ Ellis เสนาธิการกองทัพสานงานต่อ สิ่งแรกที่ฝ่ายนี้ทำคือส่งลิงค์โหวตไป ฉะนั้น เมื่อ 4 กองทัพใหญ่เหล่า Zerg ช่วยกันโหวต อันดับหนึ่งก็ตกเป็นของ Gu Huai ไม่ต้องสงสัย
เพราะว่าพวก Zerg เพิ่มออปชั่นโหวตว่า Gu Huai โดยไม่มีคำอธิบายเพิ่ม เลยมีเหล่ากระทู้ที่ตั้งคำถามว่า Gu Huai คือตัวอะไร และน่ารักขนาดไหน อยากหามาเลี้ยงบ้าง โดยเฉพาะน่าจะมีโอกาสเป็นเจ้าของมากกว่าสัตว์อนุรักษ์/สงวนที่อยู่ในอันดับสาม ซึ่งมนุษย์โลกสองคนที่รู้ความจริงมาอ่านก็ได้แต่กรีดร้องในใจ ว่า อย่านะ! ไม่มีใครมีปัญญาเลี้ยงได้แน่! นี่คือสิ่งมีชีวิตสิ่งเดียวในจักรวาลที่ถูกปกป้องดูแลโดยเหล่า Zerg โหดทั้งเผ่าพันธุ์เลยนะ!
เท่านั้นไม่พอ อันดับหนึ่งจะกลายเป็นสินค้า ตอนแรกบริษัทที่เป็นกึ่งๆ สปอนเซอร์จัดงานก็เครียดว่าจะเอาราชา Zerg มาทำเป็นสินค้าขายได้ไหม จะถูกหมายหัวในฐานะที่ลบหลู่หรือเปล่า แต่เมื่อเหล่า Zerg อยากถ่ายทอดความชื่นชมองค์ราชาให้ทั้งจักรวาลได้รับรู้ และยิ่งเห็นความน่ารักน่าเอ็นดูของสินค้าตัวอย่างแล้ว .... วาระเร่งด่วนก็ตามมาที่จะให้สินค้าถูกผลิตโดยไว Zerg ทุกตัวต่างเคลิ้มที่จะได้องค์ราชามินิไว้กอด ไหนจะมีคนในจักรวาลที่ซื้อไปเพราะอยากรู้อีก กลายเป็นสินค้าสุดฮิตกันไป!
หลังจากนั้น Gu Huai พยายามเปลี่ยนภาพลักษณ์ของพวก Zerg ที่ดูโหดร้ายไม่มีความรู้สึกให้ดีขึ้น และอยากทำการทูตกับดาวรอบๆ ซึ่งก็มีโอกาสพอดี เพราะดาวเพื่อนบ้านถูกโจรสลัดอวกาศโจมตี และพอส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปที่พวกสัมพันธมิตรก็นานกว่าจะเดินทางมาช่วยดาวเคราะห์ร้ายนี่ได้ ดังนั้น Gu Huai ก็เลยมองเป็นโอกาสดีที่จะผูกสัมพันธ์โดยไปช่วยเลย และเพราะว่าองค์ราชาจะไปด้วยตัวเอง เหล่า Zerg ก็สติหลุดเร่งเพิ่มการอารักขาขึ้นมาอีก ไหนจะเมื่อ Gu Huai ไม่รู้ว่าเหล่า Zerg ของตัวเองโหดขนาดไหน กลัวว่าจะไปรบแล้วบาดเจ็บก็เลยกังวลขึ้นมา จน Zerg ทั้งหลายเพิ่มจำนวนพลรบไปอีก แถมยังตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเป็นคนไป เพราะทุกคนอยากอวดความสามารถให้ราชาเห็นทั้งนั้น สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ หัวหน้ากองทัพทั้งสี่ก็ไปด้วยกันหมด จนเมื่อเทียบกับเหล่าโจรสลัดก็เอาชนะได้ในเวลาชั่วอึดใจ ถึงขนาดที่ Gu Huai บอกว่ารู้แล้วว่าเอามดไปสู้กับทะเลเป็นอย่างไร
ดาวเพื่อนบ้านก็ซาบซึ้งกับความช่วยเหลือที่ไม่คิดไม่ฝันของเหล่า Zerg อย่างมาก จนทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญาเป็นพันธมิตรและแลกเปลี่ยนทางการค้ากัน สัญญาก็ดูปกติดี จนกระทั่งภาคผนวกพิเศษนั่นแหละ เพราะว่าคนในดาวจะต้องยอมตกลงที่จะโหวตให้ Gu Huai ในการประกวดสิ่งมีชีวิตที่น่ารักที่สุดในจักรวาลทุกปีตลอดไป — ซึ่งพอเจ้าตัวมาเห็นก็อึ้งไป แต่พอพยายามให้ชาว Zerg เปลี่ยนแปลงเอาเงื่อนไขนี้ออก ก็ไม่มีใครยอมฟัง ทุกคนทำหูทวนลมทั้งๆ ที่ถ้าเป็นเรื่องอื่น ถ้ามองเห็นว่าราชาชอบไม่ชอบ ไม่ต้องรอ Gu Huai ออกปากก็พร้อมทำให้แล้ว
ซึ่งเหล่า Zerg ก็ทำตามความต้องการของ Gu Huai เกือบทุกอย่าง ยกเว้นแต่เมื่อความคลั่งราชาทำงานจนเกิดฟิลเตอร์กู่ไม่กลับนั่นแหละ ที่มีความเพี้ยนเกิดขึ้น เพราะว่า baby Zerg จะต้องกินเปลือกไข่ที่ตัวเองฟักออกมาเป็นอาหารในช่วงแรก และเปลือกไข่จะยิ่งมีคุณค่าอาหารมากขึ้น เมื่อเอามาบดและชงกับต้นไม้อื่น ซึ่งเมื่อรวมกัน ก็กลายเป็นนมดีๆ นี่เอง Gu Huai ถูกบังคับให้ดื่ม “นม” ทั้งแก้ว ท่ามกลางสายตาตื่นเต้นและคาดหวังของ Zerg รอบๆ และเมื่อคิดว่าไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้ว ตัวเสนาธิการกองทัพก็ขออนุญาตถ่ายวีดีโอเก็บไว้เพื่อถ่ายทอดให้ Zerg อื่นๆ ที่อยู่รอบจักรวาลได้เห็นด้วย
เพราะว่าในอดีต Gu Huai เป็นเด็กกำพร้าไม่มีใครเอาใจใส่ดูแล พอมีชาว Zerg มาให้ความสำคัญ เจ้าตัวก็เห็นค่าและให้ความสำคัญกับความรักของเหล่า Zerg และตอบแทนกลับไปเหมือนกัน จนพวก Zerg ก็รู้ว่า Gu Huai ใจอ่อนและให้ความสำคัญกับพวกตนขนาดไหน กลายเป็นความรักและตอบแทนกันไป — แม้ว่าหลายครั้ง พวก Zerg ที่นำโดย Ellis เสนาธิการจะใช้ความใจอ่อนให้ Gu Huai ทำตามเงื่อนไขเพี้ยนๆ ก็มี
มีความพีคในเรื่องความคลั่งราชาอีกอย่าง เพราะว่ามีตัวร้ายในเรื่อง เอาคนมาดัดแปลงใส่ยีนต่างๆ ลงไปเพื่อสร้างกองทัพคุกคามความสงบสุขของจักรวาล แต่เพราะอยากสร้างความแข็งแกร่งก็เลยเอายีนพวก Zerg มาใส่ลงไป แล้วอย่างไรเหรอ? ฝ่ายตัวร้ายที่ควรจะคุกคามโลกและจักรวาลก็ถูกปราบได้อย่างง่ายดายด้วยการเป็นราชาที่อยู่เหนือ Zerg ของ Gu Huai ขนาดพวกที่ถูกจับได้ไม่ยอมบอกความจริง พอเอาสินค้าราชา Zerg มาหลอกล่อเท่านั้นแหละ รีบเล่าเรื่องเป็นฉากๆ ทันที และต่อมาเมื่อ Gu Huai แฝงตัวเข้าไปในองค์กรเหล่าร้าย พอถามหัวหน้าองค์กรว่าทำอะไร อานิสงค์ยีน Zerg ที่ไม่อยากทำให้องค์ราชาเสียใจ ก็ทำให้หลุดปากไปว่าเป็นหน่วยงานการกุศล และพอจะยิงเลเซอร์ทำลายโลก ก็อุตส่าห์ดัดแปลงเป็นดอกไม้ไฟให้ Gu Huai ดู ไม่ต้องพูดถึงอีกว่ารูปสุดท้ายคือ Gu Huai แบบจิบิที่อยู่บนสินค้า โถ โถ โถ
ประเด็นการประกวดสิ่งมีชีวิตที่น่ารักที่สุดในจักรวาลประจำปีเป็นเรื่องที่ขำมากและอาจจะขำต่อเนื่องที่สุดในเรื่องด้วยเหมือนกัน เพราะกลายเป็นประเด็นต่อเนื่องทุกปี และเมื่อชาว Zerg ผูกมิตรสร้างเพื่อนกับใครที่ไหน เมื่อเซ็นสัญญากับ ภาคผนวกโหวตให้ Gu Huai ก็แนบมาด้วยเสมอ พอมาปีที่สองประเด็นแมวหลายหางกับ Gu Huai ก็เป็นการทำสงครามแย่งที่หนึ่งกัน แล้วที่ขำมากก็คือเพราะฝ่ายคนบ้าแมวล๊อบบี้ออกเงื่อนไขเพิ่มเติมให้ต้องแนบคลิปวีดีโอประกอบไปด้วย เพราะนึกว่าฝ่าย Gu Huai ที่เป็นพวกแมลง Zerg จะแพ้ แต่ปรากฏว่าตอนเด็กๆ พวก Zerg จะอยู่ในรูปลักษณ์ลูกสัตว์ขนฟู และตอนก็มีช่วงตอนที่ Gu Huai พลังเพิ่ม แล้วกลับไปเป็นร่างเด็กด้วยเหมือนกัน ซึ่งเสนาธิการกองทัพก็ไม่พลาดที่จะอัดเทปให้อยู่แล้ว พวกบ้าแมวไม่บ้าแมวเห็นปุ๊บก็ใจละลายทันที ชนะเป็นที่หนึ่งขาดลอยค่า!
เอาจริง สาเหตุแรกที่อ่านก็เพราะคนแปลอังกฤษคือ Rainbow Turtle ที่เลือกงานสนุกและดีมาแปลเสมอ แต่เมื่ออ่านไปก็ติดใจกับความน่ารักของชาว Zerg ที่ดูโหดแต่ใจยวบยิ่งกว่าเยลลี่เมื่ออยู่รอบตัวองค์ราชาเหมือนกัน เป็นเรื่องที่ละมุนที่สุดที่เคยอ่านมาเลย เป็นความรักและให้ค่าอีกฝ่ายอย่างไม่มีเงื่อนไขจริงๆ อย่างพอ Gu Huai มาปั้นตุ๊กตาหิมะให้เป็นของขวัญ Zerg ระดับต่ำที่คอยดูแลตัวเองตั้งแต่เกิด เหล่า Zerg รอบตัวก็เลยปั้นตุ๊กตาหิมะตัวเล็กเป็น Gu Huai บ้าง และพอ Zerg ที่เหลือรู้ ก็รีบมาปั้นตัวเองรอบๆ ตัวตุ๊กตาหิมะจิ๋ว เพื่อจะได้มีตุ๊กตาแทนตัวเองอยู่รอบองค์ราชาด้วยกัน หรือเพราะช่วงแรกที่ Gu Huai เกิดต้องกลับมานอนในเปลือกไข่ และเพื่อให้ราชาหลับสบาย ตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดก็เลยตัดสินใจจะมาเขย่าเปลือกไข่เป็นจังหวะกล่อมเหมือนแบบเดียวกับการไกวเปล และก็กลายเป็นพวก Zerg มาต่อแถวเพื่อทำหน้าที่ไกวเปลอย่างมุ่งมั่นและสุขใจ จนเมื่อ Gu Huai ตื่นและตัวที่กำลังไกวเปลทำหน้าสลดขึ้นมา Gu Huai ก็ทำเป็นง่วงแล้วนอนในเปลต่อเพื่อให้ตัวที่เพิ่งได้ไกวเปลได้ไกวต่อไป
พออ่านไปครึ่งแรก เฉลียวใจกับรูปแบบความสัมพันธ์และการดำเนินเรื่องที่คุ้นเคยก็เลยเจอว่าเป็นคนเขียน The People Who’re Supposed To Kill Me Fell For Me Instead หรือ เมื่อตัวร้ายตกหลุมรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ตัวเอกกับคนรัก silent pursuit / burning passion + obsession ของคนวิ่งไล่ กับ indulgent concession ของคนรับมาแบบเดียวกันเลย เรื่องนี้เหมือนจะเป็นวายเพราะมีความรักระหว่าง Gu Huai กับ Alves เข้ามา แต่เมื่อเทียบอีกเรื่อง I’m Not Human มีความรักระหว่างคู่รักน้อย เพราะแบ่งน้ำหนักไปกับการโอ๋กันไปรักกันมาของเหล่า Zerg และองค์ราชามากกว่า แต่ถึงกระนั่น ความโอ๋ที่ Gu Huai มีให้ Alves ก็มากที่สุดเหมือนกัน ในแง่ที่เป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดและสนิทสนมรู้ใจ Gu Huai ที่สุด และในแง่หนึ่ง Alves เป็นคนเดียวที่ไม่ติดฟิลเตอร์ตัวเองว่าราชายังเด็ก เพราะว่าแม้จะเพิ่งกำเนิดออกมาจากไข่ แต่นอกเหลือจากสภาพร่างกาย วุฒิภาวะที่ติดตัวมาก็ทำให้ Gu Huai เป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว แต่ทว่าเหล่า Zerg ที่เหลือก็ยังติดว่า Gu Huai เป็นเด็กเล็ก และต้องโอ๋เอาใจให้สุดเหมือนกัน
จริงๆ อยากให้ A++ มาก เพราะว่าเป็นเรื่องบวกอย่างรุนแรง อ่านแล้วสุขใจอารมณ์ดีมาก แต่ว่ามีเงื่อนไขช่วงใกล้จบที่ทำให้กระอักเลือดไปหน่อย กับช่วงแก้/จบปัญหาแล้วส่วนตัวก็ยังรู้สึกว่ายังไม่พอที่จะถมความรู้สึกเศร้าเงียบอึ้งงันในตอนก่อนหน้า แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ให้ 酒矣 เป็นหนึ่งในบรรดาคนเขียนที่ชอบมากที่สุดคนหนึ่งแล้วว เอาจริง เจ้าตัวก็เขียน Cub Raising Association ด้วย ก็ได้แต่หวังว่าจะมีงานแปลเป็นไทยได้ลิขสิทธิ์จริงจังมาอีก สาธุ! คือฉันรักเรื่องนี้! ฉันรักคนเขียนน!
กับเหลือ The King’s Game ที่คงต้องไปลุยอ่านต่อ เพราะว่าอยากรู้ว่าการเป็นที่มา/ ต้นฉบับของ I’m Not Human เป็นอย่างไร
สปอยล์อย่างหนักกกก ปมจบบบไม่ควรอ่านนนน แต่เขียนไว้จำเองงงงงง
ปล. การแก้ปัญหาตอนจบ แบบ time-travelling คืออดีตชนปัจจจุบันนำไปสู่อนาคตนี่มันลูปเดียวกับ The People Who’re Supposed To Kill Me Fell For Me Instead เลยยยย พอมาแบบเดียวกัน ก็ได้แต่กรี๊ดว่า แบบเดียวกันอีกแล้วเหรอคะ กรี๊ดกรี๊ด (กรีดร้องจริงๆ )
ปล. คุณพระ นี่คือรีวิวที่คิดว่าจะเขียนนิดๆ หน่อยๆ แต่พอเขียนไป ความอินเรื่องก็มาเพิ่มขึ้น จนเติมเนื้อหาเข้าไปเรื่อยๆ เหมือนกัน เมื่อไหร่จะจบได้เนี่ย คิดประเด็นไปได้ไม่รู้จบจริงๆ
Monday, 10 February 2020
Wednesday, 5 February 2020
กาลี โดย Rain – at – Rose
-ก็อาจจะสปอยล์??-
อวัสดา ผู้พี่หลงรักน้องสาวฝาแฝดของตัวเองจนเลือกเส้นทางนองเลือดเพื่อให้ได้น้องที่ตัวเองรักมาครอบครอง และดังนั้น เพื่อหยุดยั้งทุกอย่าง น้องสาวจึงตัดสินใจจบชีวิตตนเองเพื่อผนึกพี่ชายที่บ้าคลั่งไว้ชั่วกาล
ตัดมาที่ยุคปัจจุบันในเรื่อง ศตายุ สายตระกูลกำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะเจ้าตัวกำลังจะถูกทหารองครักษ์ที่ทรยศฆ่าในสุสานราชวงศ์ และเลือดที่ไหลออกมาก็ปลุกอวัสดาให้ฟื้นชีวิตขึ้นมา
และดังนั้น เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ก็เกิดขึ้น
เอาจริง เรื่องนี้ต่างจากที่คิด และต่างจากที่อ่านโปรยปกไว้มาก เพราะตอนแรกคิดว่าเมื่ออวัสดาฟื้นมาแล้ว จะคลุ้มคลั่งและหมกมุ่นอยู่กับผู้เป็นหลานชายอย่างที่โปรยปกไว้ว่า “สำหรับเขา บางครั้งเจ้ากรรมนายเวรก็มาในรูปแบบของบรรพบุรุษ” แต่พอผ่านไปกลับเป็นแนวทางตรงกันข้าม เพราะอวัสดายังปักใจและจริงจังกับน้องฝาแฝดผู้ที่ทรยศตัวเองอยู่ดี ความชัดเจนนี้แสดงออกผ่านความดีใจและปลื้มใจเมื่อได้เห็นรูปน้องสาวในล็อกเกตห้อยคอที่ศตายุสร้างผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งในทางกลับกัน ศตายุ ต่างหากที่หลงรักท่านเทียดอย่างรวดเร็ว และรุนแรงจนเรื่องดำเนินไปในรูปแบบที่เจ้าตัวเอาใจเทียดของตัวเองและเกี้ยวพาราสีอ้อมๆ ผ่านทั้งการกระทำและวาจา
ชอบโลกที่สร้างขึ้นที่ให้ประเทศที่ศตายุปกครองสืบมากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ระหว่างจะคงประเพณีแบบเดิมที่กษัตริย์เป็นผู้ปกครอง หรือก้าวสู่ระบบประชาธิปไตยที่ริดรอนสิทธิราชวงศ์ลง เรื่องแตะประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองโดยเฉพาะฝ่ายราชวงศ์เก่า และทหารที่ก้าวมามีอำนาจเพิ่มขึ้น ชอบการพยายามรักษาดุลอำนาจของอวัสดาในช่วงแรก แต่ก็รู้สึกว่าเจ้าตัวนิ่งและเนือยเกินไป อยากให้เจ้าตัวออกมามีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะในเชิงสังคมและการเมือง สร้างภาพอีกแบบให้เป็นคนที่จริงจังและมุ่งมั่นมากกว่าจะลอยชาย และให้มีการปะทะ แก้เกมกันอาจจะทำให้เรื่องมีความเข้มข้นมากขึ้น เพราะเรื่องถูกจำกัดด้วยความเป็นเรื่องสั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถลงรายละเอียดลึกและสร้างน้ำหนักตัวละครได้อย่างที่ควรจะเป็น — ซึ่งก็ลุ้นมากว่าจะมีโอกาสเปลี่ยนสถานะจากเรื่องสั้น novella ไปเป็นเรื่องยาวได้ไหม เพราะส่วนตัวชอบเงื่อนไขและรายละเอียดในเรื่องมากพอตัว ในแง่ที่วว่าถ้าเอามาต่อยอดและเพิ่มเนื้อหาอาจจะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นที่หนึ่งแทนมยุราได้
อย่างเงื่อนไขหนึ่งที่พยายามให้เห็นการพยายามจะเปลี่ยนทีละน้อยของศตายุ ก็คือการที่ไปอุปถัมภ์โรงเรียนยากจนบนภูเขา โดยการเอาสิ่งของไปให้ แต่ส่วนตัวเอง มองว่าการที่ไปเรียนนอกประเทศมา น่าจะหัวก้าวหน้าได้มากกว่านี้ และทำในสิ่งที่จำต้องได้ในแง่ให้ความรู้และพัฒนาทักษะมากกว่าวัตถุ ถ้าเปลี่ยนวิธีคิด และเน้นการพัฒนาคน ไม่ว่าจะเป็นสร้างบุคลากร สร้างความคิดเกี่ยวกับการปกครองรูปแบบใหม่ ฯลฯ น่าจะทำให้ภาพของศตายุจับต้องได้มากขึ้น
ชอบความทันสมัยมาผสมกับความเชื่อทางไสยศาสตร์เหมือนกัน อย่างเช่น มานสา พราหมณ์ที่ทำหน้าที่ช่วยสะกดอวัสดาในตอนแรกที่ฟื้นคืนชีพ เพราะภาพที่เกิดคือพราหมณ์ที่ใส่แบรนด์เนมทั้งตัวจนเหมือนเดินแฟชั่นโชว์อยู่ และมาทำหน้าที่ของตระกูลเป็นครั้งเป็นคราว ก่อนที่จะเผยให้เห็นว่าอาชีพจริงก็คือศัลยแพทย์
นอกจากนี้ตัวละครรองอย่าง พรต ก็น่ารัก ชอบความจริงจังและเข้มงวดกับหน้าที่ ความรับผิดชอบที่ตัวเองมี ดูเหมือนจะทื่อ และตรงเกินไป แต่ในแง่หนึ่ง ก็เชื่อถือ และพึ่งพาได้
ติดใจที่ให้อวัสดากลับมาใหม่ด้วยร่างของเด็ก 8 ขวบ อยากเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขตรงนี้ และก็อยากรู้ความสัมพันธ์ทั้งคู่ต่อไปเหมือนกัน ส่วนตัวชอบอวัสดามากที่สุด เพราะพออ่านเจอช่วงวัยเด็ก เห็นเงื่อนไขที่ทำให้เจ้าตัวเกิดการผูกพันและหมกมุ่นกับน้องสาว ซึ่งจับต้องและเชื่อตามได้ ในแง่หนึ่งมองว่าเจ้าตัวถูกทรยศมากกว่าด้วยซ้ำ
ให้อยู่ที่ B- ชอบโลกที่สร้าง ชอบองค์ประกอบที่มี แต่อยากเปลี่ยนเงื่อนไขหลายอย่างให้เข้มข้นและลงลึกมากขึ้น ถือเป็น unexpected yet pleasant read พอตัว — แม้ว่าสงสัยอีกว่าถ้าห่างรุ่นกันขนาดนี้ จะถือเป็น incest ได้ไหม
อวัสดา ผู้พี่หลงรักน้องสาวฝาแฝดของตัวเองจนเลือกเส้นทางนองเลือดเพื่อให้ได้น้องที่ตัวเองรักมาครอบครอง และดังนั้น เพื่อหยุดยั้งทุกอย่าง น้องสาวจึงตัดสินใจจบชีวิตตนเองเพื่อผนึกพี่ชายที่บ้าคลั่งไว้ชั่วกาล
ตัดมาที่ยุคปัจจุบันในเรื่อง ศตายุ สายตระกูลกำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะเจ้าตัวกำลังจะถูกทหารองครักษ์ที่ทรยศฆ่าในสุสานราชวงศ์ และเลือดที่ไหลออกมาก็ปลุกอวัสดาให้ฟื้นชีวิตขึ้นมา
และดังนั้น เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ก็เกิดขึ้น
เอาจริง เรื่องนี้ต่างจากที่คิด และต่างจากที่อ่านโปรยปกไว้มาก เพราะตอนแรกคิดว่าเมื่ออวัสดาฟื้นมาแล้ว จะคลุ้มคลั่งและหมกมุ่นอยู่กับผู้เป็นหลานชายอย่างที่โปรยปกไว้ว่า “สำหรับเขา บางครั้งเจ้ากรรมนายเวรก็มาในรูปแบบของบรรพบุรุษ” แต่พอผ่านไปกลับเป็นแนวทางตรงกันข้าม เพราะอวัสดายังปักใจและจริงจังกับน้องฝาแฝดผู้ที่ทรยศตัวเองอยู่ดี ความชัดเจนนี้แสดงออกผ่านความดีใจและปลื้มใจเมื่อได้เห็นรูปน้องสาวในล็อกเกตห้อยคอที่ศตายุสร้างผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งในทางกลับกัน ศตายุ ต่างหากที่หลงรักท่านเทียดอย่างรวดเร็ว และรุนแรงจนเรื่องดำเนินไปในรูปแบบที่เจ้าตัวเอาใจเทียดของตัวเองและเกี้ยวพาราสีอ้อมๆ ผ่านทั้งการกระทำและวาจา
ชอบโลกที่สร้างขึ้นที่ให้ประเทศที่ศตายุปกครองสืบมากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ระหว่างจะคงประเพณีแบบเดิมที่กษัตริย์เป็นผู้ปกครอง หรือก้าวสู่ระบบประชาธิปไตยที่ริดรอนสิทธิราชวงศ์ลง เรื่องแตะประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองโดยเฉพาะฝ่ายราชวงศ์เก่า และทหารที่ก้าวมามีอำนาจเพิ่มขึ้น ชอบการพยายามรักษาดุลอำนาจของอวัสดาในช่วงแรก แต่ก็รู้สึกว่าเจ้าตัวนิ่งและเนือยเกินไป อยากให้เจ้าตัวออกมามีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะในเชิงสังคมและการเมือง สร้างภาพอีกแบบให้เป็นคนที่จริงจังและมุ่งมั่นมากกว่าจะลอยชาย และให้มีการปะทะ แก้เกมกันอาจจะทำให้เรื่องมีความเข้มข้นมากขึ้น เพราะเรื่องถูกจำกัดด้วยความเป็นเรื่องสั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถลงรายละเอียดลึกและสร้างน้ำหนักตัวละครได้อย่างที่ควรจะเป็น — ซึ่งก็ลุ้นมากว่าจะมีโอกาสเปลี่ยนสถานะจากเรื่องสั้น novella ไปเป็นเรื่องยาวได้ไหม เพราะส่วนตัวชอบเงื่อนไขและรายละเอียดในเรื่องมากพอตัว ในแง่ที่วว่าถ้าเอามาต่อยอดและเพิ่มเนื้อหาอาจจะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นที่หนึ่งแทนมยุราได้
อย่างเงื่อนไขหนึ่งที่พยายามให้เห็นการพยายามจะเปลี่ยนทีละน้อยของศตายุ ก็คือการที่ไปอุปถัมภ์โรงเรียนยากจนบนภูเขา โดยการเอาสิ่งของไปให้ แต่ส่วนตัวเอง มองว่าการที่ไปเรียนนอกประเทศมา น่าจะหัวก้าวหน้าได้มากกว่านี้ และทำในสิ่งที่จำต้องได้ในแง่ให้ความรู้และพัฒนาทักษะมากกว่าวัตถุ ถ้าเปลี่ยนวิธีคิด และเน้นการพัฒนาคน ไม่ว่าจะเป็นสร้างบุคลากร สร้างความคิดเกี่ยวกับการปกครองรูปแบบใหม่ ฯลฯ น่าจะทำให้ภาพของศตายุจับต้องได้มากขึ้น
ชอบความทันสมัยมาผสมกับความเชื่อทางไสยศาสตร์เหมือนกัน อย่างเช่น มานสา พราหมณ์ที่ทำหน้าที่ช่วยสะกดอวัสดาในตอนแรกที่ฟื้นคืนชีพ เพราะภาพที่เกิดคือพราหมณ์ที่ใส่แบรนด์เนมทั้งตัวจนเหมือนเดินแฟชั่นโชว์อยู่ และมาทำหน้าที่ของตระกูลเป็นครั้งเป็นคราว ก่อนที่จะเผยให้เห็นว่าอาชีพจริงก็คือศัลยแพทย์
นอกจากนี้ตัวละครรองอย่าง พรต ก็น่ารัก ชอบความจริงจังและเข้มงวดกับหน้าที่ ความรับผิดชอบที่ตัวเองมี ดูเหมือนจะทื่อ และตรงเกินไป แต่ในแง่หนึ่ง ก็เชื่อถือ และพึ่งพาได้
ติดใจที่ให้อวัสดากลับมาใหม่ด้วยร่างของเด็ก 8 ขวบ อยากเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขตรงนี้ และก็อยากรู้ความสัมพันธ์ทั้งคู่ต่อไปเหมือนกัน ส่วนตัวชอบอวัสดามากที่สุด เพราะพออ่านเจอช่วงวัยเด็ก เห็นเงื่อนไขที่ทำให้เจ้าตัวเกิดการผูกพันและหมกมุ่นกับน้องสาว ซึ่งจับต้องและเชื่อตามได้ ในแง่หนึ่งมองว่าเจ้าตัวถูกทรยศมากกว่าด้วยซ้ำ
ให้อยู่ที่ B- ชอบโลกที่สร้าง ชอบองค์ประกอบที่มี แต่อยากเปลี่ยนเงื่อนไขหลายอย่างให้เข้มข้นและลงลึกมากขึ้น ถือเป็น unexpected yet pleasant read พอตัว — แม้ว่าสงสัยอีกว่าถ้าห่างรุ่นกันขนาดนี้ จะถือเป็น incest ได้ไหม
Subscribe to:
Posts (Atom)